Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
21 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เรียนรู้ท่าทางสื่อสารจากลูกน้อย



"ใครหนอรักเราเท่าชีวัน ใครหนอใครกันให้เราขี่คอ" หลายคนคงคุ้นเคยกับเพลงนี้
และก็คงทายได้ว่า คนที่เอ่ยถึงในเพลงนี้เป็นใครกัน คุณพ่อ คุณแม่
ผู้ที่เฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูเราตั้งแต่เล็กจนโต คอยให้กำลังใจในยามที่ท้อแท้ สรรหาและ
มอบแต่สิ่งดีๆ ให้เราเสมอมา โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ

สถาบันพัฒนาการและการเรียนรู้จิมโบรี เพลย์ แอนด์ มิวสิค ร่วมกับนิตยสาร เรียล พาเรนต์ติ้ง
และโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จัดการเสวนา "การสื่อสารด้วยท่าทาง เบบี้ ไซน์"
กิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ที่เกิดประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่สูงสุด
ในการช่วยเสริมสร้างการใช้ภาษาท่าทางให้ลูกน้อยก่อนวัยพูดได้

ศ.ดร.ซูซาน กู๊ดวิน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาและพัฒนาการเด็ก จากมหาวิทยาลัย
แคลิฟอร์เนีย ผู้ริเริ่มแนวความคิดในการใช้ภาษาท่าทางกับเด็กเล็กที่อยู่ในช่วงวัยก่อนพูดได้
กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่เธอสนใจทำงานวิจัยในด้านพัฒนาการเด็กเล็ก
และร่วมกับ ดร.ลินดา เขียนหนังสือ บทความทางวิชาการที่เกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก เช่น
เบบี้ไซน์ เบบี้มายด์ และเบบี้ ฮาร์ท

"การฝึกใช้ภาษาท่าทางกับเด็ก สามารถทำได้ทุกวันทุกเวลาในชีวิตประจำวัน การใช้ภาษา
ท่าทางนี้ ยังทำให้เด็กพูดได้เร็วกว่าเดิม รู้จักคำศัพท์ และสร้างประโยคได้ยาวกว่าเมื่อเทียบกับ
เด็กในวัยเดียวกัน ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้เด็กได้ในหลายๆ ด้าน
ตั้งแต่ลดความตึงเครียดของผู้ปกครอง อันเกิดจากการสื่อสารกับลูกน้อยไม่รู้เรื่อง ช่วยให้เด็ก
สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ดูแล และส่งเสริมความผูกพันภายในครอบครัวได้อีกด้วย"
ศ.ดร.ซูซาน กล่าวถึงประโยชน์ของการสื่อสารด้วยท่าทาง

ศ.ดร.ซูซาน ยังกล่าวด้วยว่า การที่ผู้ปกครองเริ่มใช้ภาษาท่าทางกับเด็กก่อน
ทำให้เด็กอยากเริ่มที่จะมีพัฒนาการทางด้านอื่นๆ ต่อไป เช่น การคลานสืบเนื่องไปถึงการเดิน
เพราะเด็กที่เริ่มคลานได้จะทำให้เขาอยากเดินได้ในขั้นต่อไป

ด้าน อัญชลี สุขภัทราภิรมย์ คุณแม่น้องใบเตยวัย 1 ขวบ 4 เดือน เล่าว่า
เธอใช้ท่าทางในการสื่อสารกับลูกสาวก่อน โดยเริ่มจากการชี้สิ่งต่างๆ เพื่อให้เขารู้จักในสิ่งนั้น
แล้วพอกลับมาถามใหม่ ลูกตัวน้อยก็จะสามารถบอกได้ว่า สิ่งที่เธอชี้เมื่อกี๊อยู่ตำแหน่งไหน
โดยการใช้สายตามองไปที่สิ่งนั้น

"สมมติถ้าคุณแม่ชี้ไปที่ปลาแล้วบอกเขาว่านี่คือปลา พอกลับมาถามใหม่ว่าปลาอยู่ไหน
เขาก็จะมองไปที่ปลา เพื่อจะบอกเราว่าปลาอยู่ที่นี่ สิ่งนี้ที่ทำให้คุณแม่คิดว่า ถ้าน้องได้เริ่มเรียน
รู้อะไรเพิ่มในวัยนี้ เขาก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้เร็วกว่าพัฒนาการของเด็กที่ควรจะเป็นได้
เลยสนใจที่จะหาแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆ ให้เขา" คุณแม่น้องใบเตย เล่าถึงพฤติกรรมลูกสาว

หลังจากที่น้องใบเตยได้เข้าเรียนที่จิมโบรี อัญชลี บอกว่า ท่าทางที่ลูกสาวได้เรียนรู้เป็นท่าแรก
คือ การทำท่ากิน โดยการเอามือขึ้นมาที่ปากคุณแม่ ก็จะสื่อสารกับเขาเข้าใจว่านี่คือการกิน
จากนั้นเมื่อพาลูกสาวกลับมาบ้าน จะสามารถสอนทบทวนให้เขาได้ เพราะเธอมีโอกาสเข้าไปอยู่
ในระหว่างที่ลูกสาวเรียนรู้ด้วย ทำให้เธอทราบถึงเทคนิคในการสอนว่า
จะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน ซึ่งทุกวันนี้ลูกสาวของเธอก็ทำท่าทางได้ดีและชัดเจนยิ่งขึ้น

ด้าน เสาวณีย์ เอลลิสัน คุณแม่ลูกชายน้องเบนจี้วัย 1 ขวบ 1 เดือน เล่าว่า
ก่อนที่ลูกชายจะเริ่มเข้าเรียนที่จิมโบรี เธอจะใช้การสื่อสารท่าทางแรกกับลูกชาย คือ
การอ่านหนังสือ โดยการแบมือทั้งสองข้าง แล้วบอกว่านี่คือการอ่านหนังสือ
ซึ่งลูกชายของเธอก็จะเข้าใจและสามารถทำได้เมื่อเธอถามเขาในครั้งต่อไป

"ที่คุณแม่เลือกการอ่านหนังสือมาเป็นท่าแรก เพราะที่บ้านจะชอบอ่านหนังสือกันมาก
อ่านเป็นประจำทุกวัน และจะอ่านให้น้องฟังก่อนนอนทุกคืน เลยเป็นสิ่งที่เขาเห็นเป็นประจำ
และคุ้นตาจริงๆ แล้วน้องเบนจี้เริ่มเข้าใจในการแสดงท่าทางเหล่านี้ตั้งแต่อายุประมาณ 8 เดือน
แต่เริ่มทำท่าทางเอกได้ตอนประมาณ 10 เดือน" คุณแม่น้องเบนจี้ เล่าอย่างภาคภูมิใจ

เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่คุณแม่ทั้งสองต้องทำเป็นประจำ คือ หลังจากฝึกให้ลูกทำท่าทางต่างๆ คือ
การชมเชย ว่า "เก่งมาก" เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจ
และผู้เป็นแม่ก็รับรู้ได้ถึงความพยายามของลูกน้อยด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น การสื่อสารด้วยท่าทางยังมีอีกมากมาย ที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น
การสระผม คือการเอามือขึ้นมาทำท่าสระผม การแปรงฟัน คือ ยกนิ้วขึ้นมาทำท่าแปรงฟัน
การใส่หมวก คือ การเอามือขึ้นมาทำท่าใส่หมวก การถูสบู่ คือ การเอามือมาถูที่ตัว ฯลฯ

ทั้งนี้ เบบี้ไซน์ จึงเปรียบเสมือนหน้าต่าง ที่พ่อแม่สามารถมองเข้าไปในจิตใจของลูก
ว่าต้องการอะไร และตัวลูกก็สามารถบอกถึงความต้องการของเขาได้เช่นเดียวกัน
เพราะการสื่อสารสำคัญแบบนี้ เห็นทีคนในครอบครัวคงต้องหันมาสื่อสารกันบ่อยมากขึ้นซะแล้ว
เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวนะคะ

ที่มา คมชัดลึก

เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
4 ภาษารักลูกน้อย จ้อง-อ้อแอ้-คว้าแม่-ส่งยิ้ม



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2552 15:07:26 น. 0 comments
Counter : 855 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.