Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
ความสำคัญและวิธีการสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองให้แก่เด็ก



ท่านที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ควรทราบว่า เด็กที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองวันนี้
เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า
แล้ววันนี้ท่านได้สร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง ให้แก่ลูกน้อยของคุณหรือยังครับ
ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองนี้ จะมีผลต่อความนึกคิด
ความกล้าแสดงออก ความสุข ความทุกข์ของบุคคลอย่างไม่น่าเชื่อ
และความภาคภูมิใจในตนเองนี้จะอยู่กับบุคคลไปจนตลอดชีวิต
ขอนำเสนอถึงความสำคัญและวิธีการสร้างความภาคภูมิใจให้เด็กครับ

ตัวอย่างง่ายเช่น ถ้าเด็กคนหนึ่งถูกคุณพ่อคุณแม่ว่าให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่าเขาโง่ ไม่ได้เรื่อง
สู้พี่น้องก็ไม่ได้ เด็กชายก็จะเติบโตด้วยความรู้สึกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำ
แม้ใครๆ จะบอกว่าเขาเก่ง เขาดี หรือไม่โง่ก็ตาม
แต่ความเชื่อดั้งเดิมที่ถูกฝังอยู่ในหัววันแล้ววันเล่า ค่อยๆ กลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีกับตนเอง
เขาจะเติบโตเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่นเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่ เขาก็จะเป็นคนไม่กล้า กลัวหงอ
ทำอะไรก็ไม่มีความเด็ดเดี่ยว มีแต่ความกลัว และไม่มีวัน ที่จะเป็นผู้นำใครได้

ในทางกลับกัน ถ้าเด็กคนใดก็ตามที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง
เขาจะเป็นผู้ที่กล้าแสดงออก ไม่กลัวความผิดพลาด มีความเชื่อมั่น และกล้าคิด กล้าทำ
และเนื่องจากเขาไม่กลัว เขาจึงมักถูกเลือกให้เป็นผู้นำอยู่เสมอ นอกจากนี้
เขาจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความรู้สึกที่ดีกับตนเองและผู้อื่น
ถ้าทำงานก็จะมีผลงาน ที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นคนกล้าเสี่ยง
มีพลังที่จะกล้าริเริ่มทำสิ่งใหม่ให้กับองค์การ

ในส่วนความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้อื่นก็เช่นกัน เขาจะเป็นคนที่รักได้ทั้งตนเองและผู้อื่น
ใส่ใจในความสุขทุกข์ของคนอื่น พูดง่ายๆ ก็คือ ดูแลคนอื่นเป็น และเนื่องจากภายในเขา
มีความมั่นคงในตนเอง เขาจึงไม่ต้องแสดงอำนาจ
หรือบีบบังคับให้ผู้อื่นต้องมาอยู่ใต้อำนาจของเขา แต่ยินยอมให้ผู้อื่นได้มีการพัฒนาตนเอง
งอกงามเติบโตโดยไม่อิจฉาตาร้อนไปกับโชควาสนาของผู้อื่น คือยินดีกับผู้อื่นเป็นนั่นเอง

เมื่อความภาคภูมิใจสำคัญต่อบุคคลแล้ว พ่อแม่จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจ
ให้เกิดกับตัวเด็กได้ 2 ทางดังต่อไปนี้ครับ

ให้คำชื่นชมในสิ่งที่เด็กทำไม่ว่าเด็กจะทำอะไรให้เล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เช่น
เมื่อเด็กต่อรูปได้เองเสร็จ คุณแม่อาจจะชมว่า ลูกทำได้เก่ง หรือเมื่อเด็กช่วยคุณพ่อล้างรถ
คุณพ่ออาจชมว่าล้างได้สะอาด หรือชมว่าเขามีความพยายามที่ดี
เมื่อลูกขี่จักรยานได้หลังจาก ล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้งเป็นต้น

ท่านที่เป็นคุณพ่อคุณแม่คงได้ทราบแล้วว่า เด็กที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองนั้น
จะเป็นคนที่มีความสำคัญต่อสังคมเพียงไร
สิ่งที่เราต้องการให้พ่อแม่ทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีลูกอายุ 3 เดือน
หรือ 20 ปี ได้รับรู้อยู่บ่อยๆ และสม่ำเสมอก็คือ " ลูกเป็นคนเก่ง ลูกมีความสามารถ "
พ่อแม่จะต้องหมั่นสื่อให้ลูกได้รับรู้อยู่เสมอว่า คุณเห็นว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ
การ "ใส่" ข้อมูลนี้ลงไปให้เด็กได้รับรู้อยู่เสมอ จะช่วยทำให้เด็ก มั่นใจในตัวเองมากขึ้น
ทั้งนี้ เพราะเด็กทุกคนจะติดตาม "ข้อมูล" ที่พ่อแม่ได้ส่งให้เขาเสมอ
และมันจะค่อยๆ กลายเป็นสิ่งที่เด็กเริ่มบอกกับตัวเองตามนั้นไปในที่สุด

ให้ชื่นชมในการเป็นอยู่ มีอยู่ของเด็ก ในข้อนี้หมายความว่า พ่อแม่จะต้องให้เด็กรู้ว่า
การเกิดมาของเด็ก การมีชีวิตของเขา และตัวตนของเขา เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม การชื่นชม
อาจทำในลักษณะของคำพูดประเภท "พ่อรักลูกมาก" "แม่ดีใจที่เห็นลูกมาคุยด้วย"
หรือ "แม่ภูมิใจในตัวลูก" เป็นต้น การพูดทำนองนี้ จะช่วยย้ำให้เด็กรู้สึกรักในตัวของเขาเอง
มองเห็นคุณค่าในการเป็นตัวเขา และเขามีความหมายกับคนอื่น

การชื่นชมของพ่อแม่ ถ้าสามารถทำพร้อมกับการสื่อภาษากายด้วยก็ยิ่งเป็นสิ่งดี เช่น
ดึงเขาเข้ามากอดและบอกว่ารักเขา อย่าทำเฉพาะเมื่อเขาเล็กๆ เด็กโตก็ต้องการการสัมผัส
จากพ่อแม่ของเขาเช่นกัน บ่อยครั้งที่พ่อแม่แม้จะรักลูก แต่ไม่เคยแสดงออกให้เด็กรู้เลย
ไม่ว่าจะทางคำพูดหรือการกระทำ หรืออาจทำเพราะเมื่อเด็กยังเล็ก และหยุดไป เมื่อเด็กโต
ถ้าพ่อแม่ไม่ทำสม่ำเสมอ เด็กจะไม่มีทางรู้ว่า พ่อแม่ยังรักเขาอยู่หรือไม่

เด็กๆต้องการการตอกย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าจากพ่อแม่ของเขาว่า
เขาคือบุคคลที่มีคุณค่า น่ารัก และเขาเป็นที่ต้องการของพ่อแม่
แต่บ่อยครั้งเราจะเห็นพ่อแม่ปฏิบัติในทางตรงข้าม เช่น
เมื่อเด็กทำผิด ก็อาจจะดุเด็กด้วยอารมณ์ว่า "โง่" และเมื่อโดนบ่อยๆ
เด็กก็จะมีความเชื่อและปฏิบัติตนตามคำสาปแช่งนั้น ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อจะชมเด็ก ก็ขอให้เป็นสิ่งที่จริงใจ อย่าแกล้งพูดหรือกระแนะกระแหน
เพราะจะยิ่งทำให้เด็กเจ็บปวด และสับสนหรืออย่าชมในลักษณะที่ทางภาษาจิตวิทยาเรียกว่า
" คำชมพลาสติก" คือฟังดูคล้ายชมแต่ไม่ได้ชม เช่น
"ไม่คิดว่าน้ำหน้าอย่างแกก็ทำเป็นกับเขาด้วย"
หรือ "คนไม่เอาไหนอย่างแก ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว"

คงได้ทราบถึงความสำคัญของการสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองของเด็ก
ซึ่งจะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าแล้ว
หวังว่าท่านคงได้นำไปปรับใช้กับบุตรหลานของท่านต่อไปครับ สวัสดีครับ

ผศ. ดนัย บวรเกียรติกุล
ที่มา : //www.elib-online.com/doctors3/child_psy13.html


Create Date : 04 มกราคม 2552
Last Update : 4 มกราคม 2552 19:29:02 น. 1 comments
Counter : 737 Pageviews.

 
D mak mak kha, thanks a lot.


โดย: pee IP: 75.159.7.186 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:38:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.