ฝึกลูกคิด.. อย่างวิศวกร
มุมมองและการคิดแบบ "วิศวกร" ตลอดจนการสอนให้เด็กคิดแบบวิศวกรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และน่าสนใจไม่ใช่น้อย ยิ่งในยุคที่การศึกษาไทยเกิดปัญหา มีความล้มเหลวมากมายได้รับการเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าเด็กไทย "คิดไม่เป็น" ด้วยแล้ว การฝึกลูกให้คิด และคิดอย่างไรจึงจะเรียกว่า "คิดเป็น" คงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองต่าง ๆ ล้วนให้ความสนใจใช่ไหมคะ
ทีมงาน Life & Family มีโอกาสพบกับ รองศาสตราจารย์ ประดนเดช นีละคุปต์ รองผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์ และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในผู้จัดค่ายเยาวชนสมองแก้ว ซึ่งอาจารย์ได้เผยถึงแนวทางในการสอน ให้ลูกคิดอย่างเป็นระบบสไตล์วิศวกรว่าประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การคิดเป็นระบบ สามารถวิเคราะห์เหตุผลได้ และสามารถกระตุ้นให้เด็กแสวงหาความรู้ต่อไป
"การสอนให้เด็กหัดคิด ต้องสอนผ่านกิจกรรม หาโจทย์ให้เด็ก ๆ คิดและลงมือทำร่วมกัน ซึ่งโจทย์หรือกิจกรรมเหล่านั้น จะเป็นตัวสร้างคุณสมบัติของวิศวกรให้เกิดขึ้นได้ในตัวเด็ก
นอกจากนี้ คุณสมบัติของผู้ที่เป็นวิศวกรที่ดีนั้นจะไม่คิดเฉย ๆ แต่ต้องมีผลิตผล คือต้องลงมือทำด้วย ข้อดีที่เด็กจะได้รับจากการฝึกคือ เด็กจะเป็นคนกล้าพูดกล้าทำ อีกทั้งคำพูดคำจาของเด็กเปลี่ยนไป เป็นการพูดเรื่องจริง พูดจากสิ่งที่ได้ทดลอง และมีผลการทดลองยืนยันด้วย"
"นอกจากนี้ ในการทดลองโครงงานต่าง ๆ ทางวิศวกรรม มักจะมีการกำหนดทรัพยากรให้เท่าเทียมกัน เช่น สมมติว่าถ้าให้ถั่วเขียวมาทดลองก็ให้มาเท่า ๆ กัน เด็กจะได้ฝึกการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะติดเป็นคุณสมบัติที่ดีของเขาต่อไปในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากร ไม่ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการรักษาสมดุลโลกในอนาคตด้วย"
นอกจากนั้น สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการฝึกคุณสมบัติวิศวกรก็คือ "การท่องจำ"
ร.ศ.ประดนเดชกล่าวว่า "การท่องจำไม่ใช่คุณสมบัติของวิศวกร หากแต่เป็นการเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจจากผลการทดลองหรือเข้าใจโดยสภาพของตนเอง" ร.ศ.ประดนเดชกล่าว พร้อมยกตัวอย่างกิจกรรมในค่ายเยาวชนสมองแก้วที่เคยจัดมาให้ฟังว่า
"เราจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมด้านวิชาการ เช่น มีการประกอบหุ่นยนต์ (Mobile Robot) ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรลแบบบลูทูธ เด็กจะได้รับกล่องหุ่นยนต์กันคนละ 1 ตัว ประกอบเอง เขียนโปรแกรมควบคุมเอง ซึ่งผู้ใหญ่อาจไม่เชื่อว่าเด็ก ๆ เขาทำได้ แต่เขาทำได้จริง ๆ แต่เราก็ทำกิจกรรมให้สนุกขึ้น ด้วยการจัดการแข่งขัน หาโจทย์มาให้เด็ก ๆ ได้แข่งกันหรือใครมีฝีมือด้านศิลปะ จะตกแต่งหุ่นยนต์ของเขาให้สวยงามด้วยก็ได้"
"กิจกรรมเหล่านี้ นอกจากจะสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ ทักษะในการทำงานอย่างเป็นระบบแล้ว ยังทำให้เยาวชนมีความชำนาญด้านเทคโนโลยี ตลอดจนมีความสนใจในการประกอบอาชีพ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคตมากขึ้น" รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณกล่าวเสริม
ที่มา //www.saranair.com/article.php?sid=17516
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2552 19:28:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1233 Pageviews. |
|
|
|
โดย: วิศวกรแม่ลูกอ่อน IP: 125.24.190.57 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:29:23 น. |
|
|
|
|
|