Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
25 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
วิธีฝึกให้เด็กมีความสุข



ความสุขที่แท้จริงย่อมเกิดขึ้นที่ใจ การให้จึงเป็นวิธีที่ทำให้เกิดสุขที่ง่ายที่สุด
คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกเด็กรู้จัก การให้ตั้งแต่ที่บ้าน โดยทั้ง 2 ลองให้อาหาร หรือขนมแก่เด็กน้อยดู
แล้วเราลองให้คุณหันกลับ โดยที่คุณแสดงท่าดีอกดีใจอย่างมาก
ทำให้เขารู้สึกว่าการกระทำของเขาก่อนให้เกิดความสุขแก่ทั้งตัวคุณ และสามี

เมื่อนั้นเขาจะรู้สึกเป็นสุขเช่นกันที่เห็นคุณทั้งสอง ยิ้มแย้ม
ส่งเสริมให้คุณหยิบยื่นสิ่งของ อาหาร หรือขนมที่เขาชอบ ให้แก่พี่ ๆ น้อง ๆ หรือเครือญาติ
เด็กน้อยจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่าการให้นั้นทำให้ทั้งเขา และผู้รับเป็นสุขอย่างยิ่ง
ท้ายสุดเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขทางใจได้


★ เมื่อลูกแพ้อาหาร
ทุกครั้งที่ลูกรักมีตุ่มแดง ๆ ขึ้นข้างแก้ม หากมีการระคายเคืองในลำคอ ควรสงสัยว่ามีอาการแพ้อาหารเกิดขึ้น
อาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะคุณอาจให้อาหารเสริม หรืออาหารบางชนิดเร็วจนเกินไป
ระบบดูดซึมอาหารของเขา ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
เมื่อร่างกายดูดซึมโปรตีนบางชนิดเข้าไป ร่างกายจะสร้างระบบต่อต้านโปรตีนชนิดนั้น ๆ ขึ้น

อาหารประเภทนี้ ได้แก่ โปรตีนจากนมวัว หรือในไข่ขาว
เมื่อเด็กรับประทานอาหารซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะเกิดอาการดังกล่าว ยากที่จะหาย
หากระบุไม่ได้ว่าเป็นอาหารชนิดไหนในหมู่เมนูอาหารชั้นยอด
ให้ลอง ทานอาหารทีละอย่างติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์
และเมื่อรู้ว่าเป็นอาหารรับประทานอาหารประเภทใดก็ควร ให้หยุดทันที
หรือเริ่มให้หลังจากที่เขาโตราว ๆ อายุ 1 ปี ในกรณีที่มีอาการรุนแรงให้ปรึกษากุมารแพทย์โดยด่วน


★ หนูท้องผูกอีกแล้ว
วิธีง่าย ๆ เพื่อแก้อาการท้องผูกให้ลูกน้อย ก็คือควรฝึกให้เขาได้ทานผักผลไม้ เพื่อให้ได้ใยอาหารอยู่เป็นประจำ
ผลไม้ ปรเภท ฝรั่ง มังคุด ผักบุ้ง ผักคะน้า ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์ และช่วยระบบชับถ่ายด้วยกันทั้งสิ้น
หรือคุณแม่ต้องต้มน้ำมะขามให้เขาทานวันละ 2-3 ครั้ง หรือละลายน้ำผึ้งลงในน้ำต้มสุกวันละนิด
อาการท้องผูกก็จะถ่ายได้
ในส่วนผสมของการผมนมได้ให้สัดส่วนพอดี ไม่เจือจางเกินไป ก็สามารถบรรเทา อาการท้องผูกได้เช่นกัน


★ ผมอยากดื่มนมเปรี้ยวแทนนมสด
เด็กในวัยที่กำลังเจริญเติบโต ไม่ควรได้รับการสนับสนุนให้ดื่มนมรสเปรี้ยวแทนนมสด
เพราะในนมเปรี้ยวมี เปอร์เซ็นต์ของน้ำผลไม้มากกว่านมสด และมีปริมาณน้ำตาลสูง
สามารถทำให้ตัวเด็กมีน้ำหนักตัวที่มากเกินความพอดี และเกิดโรคอ้วนได้ง่าย


★ ดูแล ฟ.ฟัน ชุดแรกของลูกวัยซน
ฟ.ฟัน นั้นมีความสำคัญอย่างไร คุณแม่ทุกท่านคงทราบกันดี
แต่ปัญหาก็คือคุณแม่มักมองข้ามความสำคัญไป อย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในฟันของเด็ก ทั้งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ฟันที่จะดีได้ก็ต้องเริ่มจากกรวางรากฐาน ในช่องปาก
หากไม่มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง จะมีผลทำให้เด็กมีฟันที่ไม่สวยอย่างที่ควรจะเป็น
หรืออาจทำให้ถึงขั้นฟันผุ ฟันเสียก็เป็นได้

โดยปกติแล้วเราจะมีฟันขึ้นตั้งแต่ตอนที่อายุ 4 เดือนที่อยู่ในท้องแม่
แต่ตอนนี้ยังไม่มีฟันโผล่ออกมาให้เห็น อย่างชัดเจน ฟันน้ำนมจะขึ้นมาทีละซี่จนเต็มปาก
สำหรับประโยชน์ของฟันนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยงาม แล้ว
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการเจริญของกระดูกขากรรไกรและกล้ามเนื้อ
ช่วยให้เด็กพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ และฟันน้ำนมยังช่วยให้ฟันแท้ขึ้นมาใหม่ ขึ้นมาในแนวทาง ที่ถูกต้องอีกด้วยค่ะ


★ ควรพาลูกไปพบหมอฟันเมื่อไร
เมื่อ ฟันน้ำนมซี่แรกของลูกขึ้น หรือเมื่อมีคุณพ่อแม่ต้องการไปหาหมอฟันก็อาจจะพา ลูกไปด้วยก็ได้
เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับหมอฟัน และจะไม่กลัวหมอฟัน เวลาที่จะต้องไปพบกับหมอฟันจริง ๆ
และควรขอคำแนะนำในการดูแล รักษาฟัน การทำความสะอาดฟัน การแปรงฟันที่ถูกวิธี
หรืออาจจะเป็นคำขอปรึกษาว่าจำเป็นต้องรับประทาน ฟลูออไรด์เสริมหรือไม่


★ รู้จักอายุขัยของฟันแต่ละวัย
อายุ: 6-8 เดือน
ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันหน้าซี่กลางล่าง
ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 7 ปี

อายุ: 9-13 เดือน
ฟันขึ้นครั้งแรก: มีฟันหน้าซี่ข้าง
ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 8 ปี

อายุ: 12-15 เดือน
ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันกรามซี่ที่ 1
ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 10 ปี

อายุ: 16-18 เดือน
ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันเขี้ยว
ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 11 ปี

อายุ: 20-30 เดือน
ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันกล้ามซี่ที่ 2
ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 11 ปี


ข้อมูลจาก บันทึกคุณแม่
ที่มา : //women.sanook.com


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ



Create Date : 25 มกราคม 2553
Last Update : 25 มกราคม 2553 20:51:27 น. 0 comments
Counter : 680 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.