เคล็ดลับผู้หญิงตั้งท้องก็ทำงานได้
แม้ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ หน้าท้องที่เคยสะโอดสะองแฟบแบนราบ กลับกลายเป็นพุงกลมโต อาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานบ้าง แต่ถ้าคุณผู้หญิงทั้งหลาย เข้าใจวิธีการดูแลและมีวิธีจัดการที่ดี ก็สามารถทำให้การทำงานของคุณราบรื่น ไปพร้อมๆ กับรอยยิ้มของว่าที่คุณแม่และลูกในท้องเป็นแน่แท้ค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องดูลักษณะของงาน ของตัวเองก่อนว่าจะส่งผลกระทบต่อคุณและลูกในท้องหรือไม่ ลักษณะของงานที่อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่ได้ถ้าไม่ระมัดระวังมีดังนี้ค่ะ 1.งานที่ต้องยืนตลอดเวลา หรือยกของหนัก จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง และอาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ขา และรีดสีดวงทวาร 2.การทำงานในที่สูง ต้องปีนป่ายหรือต้องใช้บันไดพาด รวมถึงการทำงานกับเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 3.การทำงานในสถานที่ที่มีพื้นผิวลื่น เปียก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ 4.การทำงานเป็นช่วงเวลา หรือเป็นกะ เพราะจะส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย พยายามหลีกเลี่ยงการทำงานกะดึก เพราะคนท้องต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือถ้าเช้ามากๆ ก็อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนก็เป็นได้ ถ้าลักษณะงานของคุณเข้าข่ายดังกล่าวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจจะต้องคุยกับหัวหน้างานว่า ขอเป็นกรณีพิเศษให้ย้ายไปอยู่ในแผนกที่ไม่ต้องเสี่ยง หรือไม่ก็ต้องให้เพื่อนร่วมงานช่วยแบ่งเบาภารกิจเรื่องงานไปด้วย โดยเฉพาะว่าที่คุณแม่ที่สุ่มเสี่ยงหรือเคยมีประวัติต่ออาการแท้งในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งยังเป็นช่วงครรภ์อ่อนอยู่จำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษหรือไม่ก็อาจต้องขอลาหยุดพัก ในช่วงนั้นก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ..เป็นธรรมดาที่หัวหน้างานอาจไม่ยอม ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณแล้วล่ะค่ะ ในการอธิบายให้หัวหน้างานเข้าใจ เพราะใครบ้างล่ะที่ไม่รักลูก เพียงแต่มีข้อแม้ว่า คุณต้องเป็นพนักงานที่ดี เรียกว่าทำงานเต็มที่และเข้าตาหัวหน้างานอยู่แล้ว กรณีนี้ก็เป็นไปได้มากหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นพนักงานประเภท ลาหยุดบ่อย ทำงานตามคำสั่งอย่างเดียว ถึงเวลากลับบ้านทันที ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์หรือแบ่งปันน้ำใจกับเพื่อนร่วมงานล่ะก็ ในช่วงที่คุณต้องการความช่วยเหลือ คุณก็อย่าโทษใครเลยค่ะ ส่วนคุณผู้หญิงที่ทำงานเต็มที่ทั้งหลาย ก็คงมีเพื่อนร่วมงาน คอยเป็นห่วงเป็นใย แต่คุณก็ต้องระมัดระวังตัวเองเช่นกันค่ะ เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากค่ะ 1.ถ้าคุณคุ้นชินกับรองเท้าส้นสูง คุณก็ต้องเปลี่ยนมาใส่รองเท้าส้นเตี้ยหรือไม่มีส้นแทน เพื่อที่จะทำให้การทรงตัวที่ดีขณะเดิน อีกทั้งรองเท้าส้นเตี้ยยังช่วยป้องกันไม่ไห้คุณลื่นอีกด้วย และป้องกันอาการปวดหลังและเส้นเลือดขอด ทั้งยังช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อหลัง และน่อง ที่สำคัญต้องสำรวจด้วยว่าพื้นรองเท้าต้องสามารถยึดเกาะพื้นได้ดี 2.เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ต้องคำนึงถึงลูกในท้องด้วย ก่อนท้องคุณอาจชอบใส่กางเกงทำงาน แต่ช่วงท้องคุณควรจะสวมชุดคลุมท้อง ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกสรรมากมาย ก็ควรจะเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ให้เหมาะกับช่วงระยะเวลาของครรภ์ด้วย ไม่ใช่ท้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณใส่ไซส์เดิมที่อาจคับไปแล้ว ทางที่ดีเลือกหลวมๆ สบายๆ ดีกว่าค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมคำนึงถึงกระเป๋าสตางค์ด้วยนะคะ 3.สำหรับว่าที่คุณแม่ที่ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ก็จำเป็นต้องเลือกเก้าอี้ทำงานคู่กายให้สัมพันธ์ และเหมาะสมกับลักษณะงานด้วย เวลานั่งทำงานจะได้ไม่ปวดเมื่อย อย่าลืมว่าคุณมีพุงโตอยู่ด้วย ฉะนั้นพนักพิงควรมีความเอียงประมาณ 110–120 องศา และอาจจะเสริมหมอนหรือเบาะสำหรับพิงเพื่อจะได้นั่งให้ก้นชิดพนักพิง จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังและกระดูกสันหลังทำงานน้อยลง 4.ถ้าต้องยกของอย่าก้มโดยเด็ดขาด ให้งอเข่าลง หลังเหยียดตรง ให้น้ำหนักตกที่ต้นขา จะช่วยให้ไม่เกิดอาการเจ็บหลัง ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักด้วยค่ะ แม้คุณอาจจะเป็นผู้หญิงประเภทไม่ชอบขอความช่วยเหลือ แต่ก็ท่องเอาไว้ในใจก็ได้นะคะว่าเพื่อลูก แล้วขอให้เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะได้เห็นน้ำใจเพื่อนร่วมงานด้วยไงคะ ที่สำคัญอย่ารีบร้อนเมื่อต้องก้มๆเงยๆ เพราะอาจทำให้หน้ามืดได้ พยายามเคลื่อนไหวด้วยอาการเชื่องช้า แม้อาจจะรู้สึกไม่ทันใจบ้าง ท่องเอาไว้ค่ะเพื่อสุขภาพคุณแม่และลูกในท้อง 5.ต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อขึ้นลงบันไดหรือทางลาดให้มากที่สุด และควรจับราวบันไดทุกครั้งที่ขึ้นลง ผู้หญิงทำงานที่ตั้งครรภ์มักจะคิดว่าขณะตั้งท้องเป็นอุปสรรค แต่ถ้าเราดูแลและระมัดระวัง รวมถึงสรรหาข้อมูลและปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี รับรองไม่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคอย่างแน่นอนค่ะ
Create Date : 11 มกราคม 2552 |
Last Update : 11 มกราคม 2552 14:21:38 น. |
|
2 comments
|
Counter : 849 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณมากเลยนะค่ะ สำหรับคำแนะนำต่างต่าง
จะนำกลับไปใช้