Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ท้องแล้ว...(ควร) ไปไหน



การตั้งครรภ์ หรือคุณแม่หลายคนอาจเรียกว่า "มีท้อง" เกิดจากการที่ไข่ของคุณแม่ได้ผสมกับเชื้ออสุจิของคุณพ่อ
แล้วมีการฝังตัวลงในเยื่อบุที่โพรงมดลูก เจริญเติบโตต่อไปจนครบระยะเวลาประมาณ 280 บวก/ลบ 7 วัน
(273 ถึง 287 วัน) จึงจะคลอดออกมาเป็นเจ้าตัวเล็ก

สำหรับกลไกของการเจริญเติบโตตั้งแต่ไข่ของคุณแม่ได้ผสมกับอสุจิของคุณพ่อ
จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กได้คลอดออกมา เป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน
คือตลอดระยะการตั้งครรภ์ของคุณแม่จะไม่มีประจำเดือนเลยเนื่องจากไม่มีการสุกของไข่
มีการลอกหลุดของเยื่อบุมดลูก มีแต่เยื่อบุมดลูกจะเจริญขึ้นเพื่อให้เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว
และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่จะนำไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ด้วยรกที่เกิดติดกับผนังมดลูกของคุณแม่

ท้องแล้วไปไหน มักเป็นคำถามสำคัญของคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังมีสมาชิกตัวน้อยๆอยู่ในกายด้วยอีกคน
เมื่อคุณแม่มือใหม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ให้ไปฝากครรภ์หรือฝากท้อง กับสถานพยาบาลใกล้บ้าน เช่น
คลิลิกโรงพยาบาลทั่วไป แล้วแต่ความสะดวกของคุณแม่ค่ะ
ในการฝากครรภ์คุณแม่จะได้รับการตรวจปัสสาวะตรวจเลือด และตรวจร่างกายทั่วไป รวมทั้งตรวจท้อง
ซึ่งจะทำให้ทราบถึงภาวะต่างๆ ของลูกน้อยที่อยู่ในโพรงมดลูก เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์แก่
คุณแม่และเจ้าตัวน้อยค่ะ และขั้นสุดท้ายจะกำหนดวันให้คุณแม่ตรวจตามนัด
ซึ่งคุณแม่ก็จะได้รับประโยชน์จากการบริการต่อไปนี้ค่ะ
1. การตรวจปัสสาวะ เพื่อดูโรคไตและเบาหวาน
2. การตรวจเลือด เพื่อดูเชื้อซิฟิลิส และดูความเข้มข้นของสีเลือด
3. การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันเลือด ตรวจเต้านม ฟังปอด ฟังหัวใจ
4. ตรววจหน้าท้อง เพื่อดูภาวะของเจ้าตัวเล็กในครรภ์
5. ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอาหาร การผักผ่อนการทำงานและความรู้อื่นๆที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์
6.ได้รับคำปรึกษาตามที่คุณแม่ต้องการ
7. ได้รับยาบำรุง
8. ได้รับการรักษาโรคประจำตัวในกรณีที่คุณแม่มีโรคประจำตัวและโรคที่ตรวจพบ

Tips
ช่วง ตั้งครรภ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ต้องระวังให้ดีนะคะ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ระบุว่า
การใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เตาไมโครเวฟ และเครื่องเป่าผม
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แผ่สนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมามีโอกาสทำให้ให้แท้งลูก หรือให้กำเนิดทารกก่อนกำหนดได้
ทั้งนี้ จากการวิจัยชิ้นใหม่พบว่า สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใน
บ้าน สามารถเพิ่มความเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะทำให้สตรีมีครรภ์แท้งลูก ทั้งนี้นักวิจัยได้สังเกตการณ์จากหญิง
ตั้งครรภ์เกือบ 1,000 คน แล้วพบว่าว่ามีประมาณ 159 คน แท้งลูก
และในจำนวนนี้ 132 คน ให้กำเนิดบุตรก่อนกำหนด เนื่องจากการได้รับคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก
ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีความเสี่ยงสูงเป็นสองเท่าที่จะแท้งลูก
และถ้าสตรีที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 1-10 สัปดาห์ ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 6 เท่าทีเดียว นักวิจัยเขาเลยแนะนำว่า
หญิงกลุ่มนี้ควรจะอยู่ห่างจากเตาไมโครเวฟ เครื่องเป่าผมและยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับ
เคลื่อนจะดีที่สุด พูดง่ายๆ คือช่วยตัวเองไปพลางๆก่อน อย่าพึ่งเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เลยนั่นเอง

ที่มา นิตยสารแม่และเด็ก


เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
การฝากครรภ์ ควรจะไปฝากครรภ์เมื่อใด ?



Create Date : 25 พฤษภาคม 2552
Last Update : 25 พฤษภาคม 2552 18:51:37 น. 0 comments
Counter : 1004 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.