Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
4 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ลูก“เถียง”พ่อแม่...แก้อย่างไร



พ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร หากวันหนึ่งลูกที่เราคอยเลี้ยงดูมาขึ้นเสียงเถียงเรา โดยที่ไม่ฟังเสียงใคร?!!

ปัญหาหนึ่งเมื่อลูกเริ่มที่จะมีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มโตพอที่จะรู้จักตัดสินใจในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
พ่อแม่หลายคนจึงอาจเจอปัญหาที่คล้ายๆกันในเรื่องของพฤติกรรมของลูก
โดยเฉพาะคำพูดของลูกที่อาจดูก้าวร้าว และดูเหมือนว่า ความเข้าใจระหว่างพ่อแม่และลูกจะหายากกว่าที่ผ่านมา
แต่ทว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าในขณะที่ ลูกกำลังเสียงดังใส่พ่อแม่นั้น พ่อแม่ได้โต้ตอบกลับมาในน้ำเสียงที่ดังไม่แพ้กัน

ในเรื่องนี้ พญ.สุธิรา ริ้วเหลือง จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์กล่าวว่า "เมื่อ ลูกเริ่มโตพอที่จะมีความคิดเป็นของตัวเอง
อาจมีบางครั้งที่เขาเริ่มไม่ยอมทำตามที่พ่อแม่บอก และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องเสมอไป
ดังนั้นความเข้าใจระหว่างพ่อแม่และลูกอาจถูกบั่นทอนลงไปได้
ซึ่งไม่มีครอบครัวไหนอยากให้ลูกโตมาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นหลักโดยที่ไม่ฟังเสียงใคร
แต่การที่ลูกเริ่มที่จะเถียงพ่อแม่นั้นได้เป็นสัญญาณ ที่บอกว่าเขามีความคิด มีเหตุผล ดังนั้นพ่อแม่ควรจะคำนึงไว้ว่า
ลูกเริ่มมีความคิดที่เป็นของตัวเองแล้ว ลูกไม่ใช่เด็กๆที่เราจะบอกอะไรแล้วเขาจะทำตามทุกอย่าง เหมือนเมื่อก่อน
เมื่อเด็กมีเหตุผลร่วมกับอารมณ์”


“สิ่งที่พ่อแม่ควรทำอย่างแรกคือ ต้องเข้าใจเขาก่อนว่า
สิ่งที่ลูกเป็นนั้นคือพัฒนาการของเขาที่เริ่มมองตัวเองเป็นหลัก เด็กวัยนี้จะคิดว่าเขาถูกต้องเสมอ
เราต้องรับฟังเขาก่อน โดยที่ให้เขาชี้แจงว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น พ่อแม่และลูกต้องแชร์กันเช่น
หากลูกเถียงว่า ของเล่นชิ้นนี้เป็นของเขา เขาซื้อมาเอง เราต้องถามว่า เอาเงินทีไหนไปซื้อ
เราต้องถามถึงสาเหตุและให้เขาพูดอย่างมีเหตุผล หรือถ้าหากเขาไม่ทำการบ้าน แต่บอกว่าทำแล้ว
เราต้องบอกลูกว่าอย่าเถียงพ่อแม่ เพราะมันไม่ดี ถ้าทำการบ้านแล้วให้เอามาให้พ่อแม่ดูด้วย
เราต้องเชื่อก่อนแล้วหลักฐานค่อยตามมา เราไม่ต้องต่อว่า ถ้าทำการบ้านไม่เสร็จ ก็บอกว่าไม่เสร็จ
หาทางออกให้เขาใจเย็น ในขณะที่พ่อแม่ก็ต้องอดทนและเข้าใจพฤติกรรมของลูกด้วย
ซึ่งหากผู้ใหญ่เริ่มต้นด้วยความเข้าใจ รับฟัง มีเหตุผล เด็กก็จะเถียงน้อยลง
แต่ถ้าเราบังคับ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เด็กก็จะไม่ยอม
ถ้าพ่อแม่เสียงดัง เมื่อลูกโตขึ้น มีอิสระ เขาก็จะทำกับพ่อแม่เช่นนั้นเหมือนกัน” พญ.สุธิราแนะ

อย่างไรก็ดี เมื่อการถกเถียงมักมีอารมณ์เข้ามาด้วยเสมอ ถ้าลูกเสียงดังพ่อแม่ต้องมีสัญญาณเตือน
ไม่ว่าจะเป็นคำพูด น้ำเสียง เพราะพ่อแม่ต้องจัดการอารมณ์ของลูกให้ได้ก่อน
มิเช่นนั้นเขาก็จะไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
แต่หากในทางธรรมแล้ว ปัญหาการถกเถียงของลูกนั้นแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน
ได้ให้คำแนะนำว่า “เวลาที่เราถกเถียงกันคุณแม่ขุ่นมัวหรือเปล่าคะ
ถ้าคุณแม่ไม่ขุ่นมัวการถกเถียงนั้นก็เป็นโอกาสให้เด็ก ๆ กับเราได้มีโอกาสเรียนรู้ร่วมกัน
แต่ถ้าเผื่อว่าคุณแม่ขุ่นมัวคราวนี้มันเป็นการขัดแย้งแล้ว ลูกจะเอาอย่าง แม่จะเอาอย่าง
เวลาที่เราขุ่นมัวเพราะกิเลสเข้าครอบงำ การขัดแย้งจะไม่มีใครได้เรียนรู้เลย ขอ ให้เรารักษาใจในฐานะที่เป็นแม่
ที่จะสอนให้ลูกรู้โดยการปฏิบัติของเราว่า การแสดงความคิดเห็นด้วยการพูดนั้น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำได้
แต่ขอให้เคารพกันด้วยการทำหน้าที่ ที่จะรักษาใจของเราในขณะแสดงความคิดเห็นนั้น อย่าให้มีกิเลสเข้าครอบงำ
การฝึกให้มีโอกาสพูดคุยกันนั้นเด็ก ๆ จะกล้าหาญมากขึ้นและถ้าเผื่อจะให้จิตสำนึกที่เขาจะรู้ว่า
เขาควรจะพูดอะไรใน เวลาไหนและการใช้โอกาสแห่งการพูดนั้น จะทำให้คนไม่ทุกข์ยากได้อย่างไร
คราวนี้ลูกของเราจะเก่งขึ้นจากโอกาสที่คุณแม่ให้
ขอให้คุณแม่รักษาใจของคุณแม่อย่าให้มีกิเลสเข้าครอบงำ ในขณะที่เรากำลังแสดง ความคิดเห็นกับลูกเอาไว้
นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่ลูกจะได้เรียนรู้ว่า ความสงบเย็นของจิตนั้นการถกเถียง จะเป็นประโยชน์
ไม่ใช่การขัดแย้งเพราะมีกิเลสเข้าครอบงำ ขอให้มีความสุขกับการที่ได้แสดงความคิดเห็น”

สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนแนวทางปฏิบัติที่พ่อแม่ควรตระหนัก
ก่อนที่ ความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างพ่อแม่และลูก จะถูกบั่นทอนทุกวันๆเพียง เพราะคำพูดที่ไม่เข้าใจกัน

ดังนั้นหากเราหันหน้ามาคุยกันอยู่บนเหตุผล ก็คงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกคน ในขณะที่ลูกๆเองก็ไม่ควรลืมว่า
การ ที่ลูกขึ้นเสียงกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรนั้น หากเป็นการขึ้นเสียงอย่างไร้เหตุผล
โดยที่ไม่สนว่าคนตรงหน้าคือ พระในบ้านนั้น นับเป็นการสร้างบาปไปโดยไม่รู้ตัว


ที่มา //www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9520000011480


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ
 แม่และเด็ก,การให้นมลูก


Create Date : 04 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2552 19:23:37 น. 0 comments
Counter : 3221 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.