Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
8 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

กำจัดกลิ่นตุๆ ด้วยวิธีง่ายๆ



เมื่อร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนที่แสดงความเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่
อย่างหนึ่งที่เริ่มปฏิบัติการก็คือ เรื่องของกลิ่นกายนั่นเองค่ะ

ส่วนใหญ่เด็กผู้ชายจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นกายมากกว่าเด็กผู้หญิง
แต่ทว่าเด็กหญิงกลับกังวลกับเรื่องนี้มากกว่าเด็กชาย เด็กบางคนถึงขนาดขาดความมั่นใจในตัวเอง
เพราะปัญหานี้ ทั้งนี้เพราะเค้ายังไม่รู้ ที่มาที่ไป และวิธีกำจัดกลิ่น

ฉะนั้นมาทำความรู้จักกับต้นตอของกลิ่นเจ้าปัญหาดีกว่า จะได้เรียกความมั่นใจกลับมาให้ลูกของคุณแม่ค่ะ

กลิ่นไม่พึงประสงค์ มาจากไหน?
ธรรมชาติ ของทุกคน จะมีต่อมเหงื่อที่ทำหน้าที่ในการระบายของเสีย ออกมาทางรุขุมขนอยู่แล้วค่ะ
ตัวนี้ก็ทำให้เกิดกลิ่น ต่อมเหงื่อที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนังมี 2 ชนิด คือชนิดผลิตเหงื่อน้ำใส
ซึ่งมีต่อมกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ประมาณ 3 ล้านต่อม พบมากบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า

ส่วนอีกชนิดหนึ่ง ผลิตเหงื่อน้ำข้น มีจำนวนน้อยและมีเฉพาะแห่ง ได้แก่ บริเวณรักแร้ หัวนมและอวัยวะเพศ
ต่อมชนิดนี้จะเริ่มทำงานเมื่อย่างเข้าสู่วัยหนุ่มสาว เพราะถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมน
เหงื่อที่ขับออกมาจะสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง เกิดการบูดและทำให้เกิดกลิ่น
โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความอับชื่น และเหงื่อชนิดข้นมีโปรตีนและไขมันสูงเป็นอาหารที่แบคทีเรียชอบค่ะ

เสื้อผ้าที่ลูกๆ สวมใส่ค่ะ
หากเสื้อผ้าที่ใส่ซักไม่สะอาดเท่าที่ควร หรือ เสื้อที่ใส่มีกลิ่นอับเนื่องจากตากในที่ลมไม่โกรก
เวลาสวมใส่กลิ่นเหล่านั้นก็จะทำหน้าที่ปล่อยกลิ่นฉุนๆ มาทันที
หรือบางครั้งการสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหนาก็ไม่จำเป็นนะคะ เพราะบ้านเราอากาศร้อน ควรใส่เสื้อผ้าโปร่งบางเบา
ให้ร่างกายได้ระบายเหงื่อออกข้างนอกจะได้ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

รองเท้า ถุงเท้า
ปัญหานี้ เด็กผู้ชายส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องกลิ่นที่เท้ามาก
เพราะไม่ค่อยใส่ใจที่จะดูแลรักษาความสะอาดเท่าที่ควร
ประกอบกับบ้านเราอากาศร้อนๆ โอกาสเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์มีมากขึ้นด้วยค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นรองเท้าหนังยิ่งเกิดได้ง่าย
คุณแม่ควรหาแผ่นรองรองเท้าที่สามารถดับกลิ่นเหม็นๆ ให้รองเท้าของเด็กก็ได้ค่ะ เพื่อช่วยลดกลิ่นอีกทางหนึ่ง

หนังศีรษะและ เส้นผม
เป็นส่วนที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังเจริญได้ดี พวกแบคทีเรียต่างๆ มักจะเกาะอยู่บนไขมันที่ผิวหนังขับหลั่งออกมา
จนเกิดเป็น กลิ่นผม หรือ กลิ่นขี้หัวค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ผม ยังมีคุณสมบัติในการเก็บและกระจายกลิ่นอีกด้วย
ฉะนั้นคุณแม่ควรให้เค้าสระผมบ่อยๆ เพื่อความสะอาดค่ะ

อาหารและยาบางชนิด
อาหารที่มีกลิ่นแรง อย่างกระเทียม หอม เครื่องเทศต่างๆ ทุเรียน เนื้อสัตว์บางอย่าง
หรือยาบางชนิดก็ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ เพราะจะระเหยออกมาทางลมหายใจ

สถานที่
สถานที่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้เช่นกัน การเข้าไปอยู่ในสถานที่ๆ ร้อนอบอ้าว อากาศไม่ถ่ายเท
จะทำให้เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวก็จะมากตามไปด้วยค่ะ ฉะนั้นหลีกเลี่ยงได้เป็นดีที่สุด


กำจัดกลิ่นให้สิ้นไป

- พยายามให้ลูกน้อยรักษาความสะอาดของร่างกายให้สะอาด ตั้งแต่หัว จรดเท้า
จะเป็นปราการด่านแรกที่ป้องกันกลิ่นตัวให้เค้าได้ และให้เค้าฝึกเป็นนิสัยค่ะ

- หากเลี่ยงได้ ให้เด็กอยู่ในสถานที่ๆ มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับ
หรือเลี่ยงสถานที่ๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ค่ะ

- เน้นอาหารที่เป็นพวกผัก ผลไม้ให้ลูกทานเยอะๆ
เลี่ยงอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ค่ะ เครื่องเทศ พวกที่มีกลิ่นรุนแรง

- เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัวของเค้า
ควรให้เค้าดูแลรักษาด้วยตัวเค้าเองให้สะอาด ตากให้แห้ง รีดด้วยความร้อน

- เด็กบางคนอาจมีกลิ่นที่รุนแรงปฏิบัติตัวหายอย่างก็ยังไม่หาย
ทางที่ดีคุณแม่อาจจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะค่ะ


ล้อมกรอบ
Tips
เมื่อ คุณแม่รู้สึกได้ว่าลูกน้อยเริ่มมีกลิ่นตัว คุณแม่ควรบอกให้เค้าทราบ
และพยายาม แนะนำให้เค้ารู้จักวิธีดูแลรักษาร่างกายให้สะอาด ถูกต้อง เพื่อให้ติดเป็นนิสัย
เพราะเด็กบางคนเค้าอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นมีกลิ่นตัว
เพราะบางทีจมูกเค้าก็ชาชินกับกลิ่นตัวที่เค้าสัมผัสอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นว่ามันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยเสียแล้ว
ทางที่ดีคุณแม่คือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเค้า จึงควรหมั่นสังเกตและเอาใจใส่ลูกน้อย ให้มากๆ ค่ะ


แสดงแบบโดย ด.ญ. จิรประภา โททอง
ขอขอบคุณ แม่และเด็ก
ที่มา : //women.sanook.com


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
1 comments
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 21:35:27 น.
Counter : 883 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 8 กุมภาพันธ์ 2553 21:54:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.