นักสิบพราน - เรื่องที่ 6 พินัยกรรมมรณะ (ตอนที่ 6)
โดย 4411
พราน เจนเชิง ใช้มือขวาข้ามมาจับไหล่ข้างซ้ายของเขาบีบและบิดเบา ๆ แสดงอาการเมื่อยขบ
เกริก ชุมพล ทนายความประจำสำนักงาน นั่งมองดูสหายนักสืบของเขา ทำท่าทางขยับไหล่ข้างที่ถูกกระสุน เพื่อทดลองอาการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนนั้นอยู่ พูดว่า เป็นยังไงบ้าง พราน ยังไม่หายขัดอีกหรือ
พราน ขยับไหล่ข้างซ้ายของเขาขึ้นลง พลางพูดว่า ยังมีอยู่นิดหน่อย แต่อั๊วคิดว่า มันคงจะหายไปในสองวันนี้ อั๊วอยากจะพบลื้อมากในระหว่างนั้น ให้คนไปตามก็ไม่พบ
อั๊วมีคดีอยู่ที่เชียงใหม่ ต้องเดินทางขึ้นไประหว่างที่ลื๊อเจ็บอยู่ ได้ข่าวทางหนังสือพิมพ์ ขณะที่อยู่ที่นั่นเหมือนกัน เป็นห่วง แต่ก็ทิ้งงานลงมาไม่ได้
เคราะห์ยังดีอยู่ ที่กระสุนเฉียดกระดูกไหปลาร้าเข้าไปนิดเดียว มิฉะนั้น แขนข้างซ้ายอั๊วอาจจะพิการ พรานพูด ยิ้มเล็กน้อย คดีของเราก็ยังคืบหน้าไปไม่ได้เท่าไร งันนี้อั๊วจึงผืนคำสั่งหมอ มานั่งทำงาน
นิพนธ์ เป็นคนเคราะห์ร้ายมาก เกริก พูดอย่างเศร้า ๆ อั๊วไม่นึกเลยว่า เขาจะอายุสั้นอย่างนั้น คืนที่พบกันที่บ้านลื๊อคืนสุดท้าย ไม่มีอะไรเป็นลางบอกเลยว่า เขาจะพรากจากเราไปอย่างทารุณเช่นนั้น เขาขับรถไปส่งอั๊วที่บ้านราว ๆ ห้าทุ่มเห็นจะได้ ยังแวะเข้าไปดื่มอะไรกันนิดหน่อยในบ้านอั๊ว ก่อนที่เขาจะขับรถกลับบ้าน อั๊วไม่นึกเลยว่า มันจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายในชีวิต
พราน ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอย่างช้า ๆ ไปที่หน้าต่าง เขามองออกไปทางหน้าต่างอย่างจะซ่อนความรู้สึก มือทั้งสองไขว้กันอยู่ข้างหลัง อั๊วจะต้องเอาตัวไอ้คนที่ฆ่า นิพนธ์ ให้ได้
บังตาประตูห้องของพราน ถูกเคาะ ผู้ที่เปิดเข้ามาคือ เกรียง ศักดา ฮัลโหล เกริก เขาร้องทักเมื่อมองไปเห็น เกริก นั่งอยู่ กลับมาจากเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไร
เมื่อเช้านี้เอง เกรียง ลงจากรถไฟก็ตรงดิ่งมาที่นี่ทีเดียว เกริกพูด พร้อมกับลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โซฟาร์ตรงมุมห้อง
เกรียง เดินมาที่โต๊ะทำงานของหัวหน้าของเขา ซึ่งขณะนั้น พรานได้หันตัวกลับมาแล้ว ผมมีข่าวดีที่จะรายงานหัวหน้า
ได้อะไรคืบหน้าไปอีกหรือ เกรียง พราน พูด เดินอย่างช้า ๆ มานั่งลงบนโซฟาร์ตัวเดียวกับ เกริก
เกรียง ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งตรงหน้า ครับ หัวหน้าจะให้ผมบันทึกเป้นรายงาน หรือจะให้เล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้
พราน หยุดคิดชั่วขณะ เล่ามาเดี๋ยวนี้ก็ได้
เกรียง หันไปมองดู เกริก และหันกลับมามองตาหัวหน้าของเขาชั่วแวบเดียว เมื่อไม่เห็นอะไรผิดปกติในสายตาของหัวหน้าของเขา เขาจึงพูดว่า
ผมไปได้เรื่องมาแล้ว ในวันที่ นายปรีชา ออกจากเรือนจำ รถที่ไปรับที่หน้าเรือนจำ ไม่ใช่รถคุณนิพนธ์ เป็นรถเฟี๊ยตสิบสี่สีเทา ไม่มีป้าย ทั้งหน้าและหลัง
พราน ผุดลุกขึ้นยืน เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องอย่างใช้ความคิด ว่าต่อไป เกรียง
รถคันนั้นมีคนนั่งไปสองคน คือ คนขับคนหนึ่ง และอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง มีผู้เห็นเป็นผู้ชายทั้งสองคน แต่เขาไม่อาจบรรยายลักษณะอะไรได้ ผมได้ติดตามเรื่องต่อไป ก็ได้ความว่า รถคันนั้นเป็นรถแท็กซี่ จอดประจำอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ ผมได้ไปคอยดักอยู่หลายวัน ยังไม่พบ แต่ได้ชื่อมาแล้ว ผมจดใส่เศษกระดาษนี้ไว้
พูดจบ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา
นายปรีชา นั่งรถคันนั้นไป ยังงั้นหรือ
ครับ นายปรีชานั่งรถคันนั้นไป คนที่เห็นนี้ เขาเป็นคนไปรับญาติของเขาที่พ้นโทษในวันเดียวกัน เขาบอกว่า นายปรีชาออกมาจากประตูเรือนจำ ก่อนคนที่เขาจะมารับ มีเสียงเรียกนายปรีชามาจากรถคันนั้น ปรีชา จึงเดินเข้าไปหา และเห็นหยุดคุยอะไรกัน ๒ ๓ คำ แล้วนายปรีชาก็เปิดประตูรถคันนั้นขึ้นนั่งในตอนหลัง รถเลี้ยวไปทางประตูผี
ทำไมเขาจึงรู้จักตาปรีชา
เขาเคยเห็นรูปในหนังสือพิมพ์ และเขารู้เหมือนกันว่า นายปรีชาจะพ้นโทษในวันนั้น ญาติของเขาเล่าให้ฟังในจดหมายที่เขียนถึงเขา บอกให้มารับในวันนั้น เขาบอกว่า เขาก็อยากจะเห็นตัวจริงนายปรีชาเหมือนกัน
เวลานั้น เป็นเวลาเท่าไร
๙.๓๐ น. เห็นจะได้ครับ เขาประมาณเอา
คุณจดชื่อและที่อยู่ของคน ๆ นั้นไว้แล้ว ไม่ใช่หรือ
อยู่ในสมุดพกผมเรียบร้อยแล้วครับ เกรียงพูด พร้อมกับตบที่กระเป๋าหลังของเขา
ดีมาก เกรียง พราน ตบไหล่สหายของเขาเบา ๆ เรื่องของเราง่ายขึ้นมากไม่มช่น้อยเลยทีเดียว หรือไง เกริก เขาหันไปทางเกริก เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
เกริก พยักหน้าช้า ๆ พลางพูดว่า ใครเล่า ที่ดอดไปรับ ตาปรีชา ก่อนหน้านิพนธ์
พราน หัวเราะเบา ๆ เราจะรู้ตัวในเร็ว ๆ วันนี้แน่นอน
พูดจบ เขาก็หันไปที่เครื่องพูด กดสวิชต์เรียกเลขานุการ ของเขาเข้ามา เมื่อกัลยาเข้ามาในห้อง ก็พบหัวหน้าของหล่อนกำลังเขียนข้อความอะไรบางอย่างลงในกระดาษบันทึก เขาเงยหน้ามองดูหล่อนชั่วขณะหนึ่ง พูดว่า รอสักครู่ กัลยา ผมมีงานจะให้คุณทำ
กัลยาจึงหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานนั้น หล่อนหันไปมองดู เกรียง ซึ่งเพิ่งจะทำธุระอยู่กับขวดบรั่นดีในมือของเขา เขาชูขึ้นตรงหน้ามาทางหล่อน
กัลยาถลึงตาให้ และสบัดหน้ากลับ เกรียง ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์เย็น
พราน เงยหน้าขึ้นมาพอดี เขาส่งกระดาษบันทึกที่เขียนข้อความเสร็จแล้วให้กัลยา พลางพุดว่า
กัลยา คืนนี้คุณไปพบ นัยนาที่บ้าน สอบถามข้อความตามที่ผมเขียนหัวข้อไว้ให้นี้ มาให้ผมในวันพรุ่งนี้ บอกแกด้วยว่า ผมไม่มีเวลาว่างที่จะไปพบได้ เพราะมีงานจะทำในคืนวันนี้
กัลยา รับกระดาษนั้นมาถือไว้ในมือ ใบหน้าของหล่อนมีแววกังวล ขยับริมฝีปากจะพูด แต่ครั้นแล้วกลับขบริมปากแน่น
พราน ยิ้มอย่างรู้ความหมาย เขาพูดว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ผมแข็งแรงพอที่จะทำงานได้แล้ว
แต่ ... หัวหน้าเพิ่งจะลุกขึ้นจากเตียงในวันนี้เอง หล่อน อดพูดออกมาไม่ได้ แม้จะรู้อยู่ว่า คำทัดทานของหล่อนจะต้องไร้ประโยชน์
ไม่เป็นไร พรานยังคงยิ้มอยู่ ผมจะไปกับ เกรียง ประโยคสุดท้าย เขาหันไปสบสายตากับ เกรียง
กัลยาหันไปมองเกรียง อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นเขาทำหน้ายิ้มอย่างทะเล้นกับหล่อน หล่อนก็หันหน้ากลับ และเปิดบังตา เดินออกไป
Create Date : 30 กันยายน 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 30 กันยายน 2555 22:32:54 น. |
Counter : 1320 Pageviews. |
|
|
|