นักสืบพราน - เรื่องที่ 5 ตายซ้อน (ตอนที่ 6)
โดย 4411
พราน เจนเชิง พิจารณาดูท่วงทีของหญิงสาวใหญ่ ซึ่งกำลังหยิบก้อนน้ำตาลใส่ลงในถ้วยกาแฟซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขามีความเห็นว่า ผกามาศ เป็นผู้หญิงที่ทรงเสน่ห์คนหนึ่ง แม้อายุจะล่วงเข้าวัย ๓๐ ปีแล้ว และเขากำลังแปลกใจว่า คนที่มีเมียสวย และมีเสน่ห์พราวไปทั้งตัวอย่างนี้ ทำไมจึงจะต้องไปมีเมียอีกเป็นคนที่สอง
ผกามาศ ส่งถ้วยกาแฟที่ปรุงแล้วให้กับ ร.ต.อ. พจน์ พิทักษ์พล ซึ่งรับไว้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ หล่อนหันมาทาง พราน พร้อมทั้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม พราน สั่นหน้าเล็กน้อย เขาพูดว่า ผมไม่ชอบกาแฟหลังอาหาร - ขอบคุณครับ - ขอ บรั่นดี ผมสักเป๊ก จะดีกว่า ทำไมคะ นักสืบเขาไม่ดื่มกาแฟกันหรอกหรือ
ผกามาศ พูดด้วยเสียงอันกังวาล และเดินไปที่ตู้ซึ่งทำไว้ติดฝาผนัง เปิดตู้ออก หยิบขวดบรั่นดีและถ้วยแก้วเล็ก ๆ ออกมาสองใบ เดินกลับมาที่โต๊ะ วางสิ่งที่ พราน ต้องการลงบนโต๊ะ หล่อนหันไปทางสารวัตร พจน์
สารวัตรไม่ต้องการอะไรบ้างหรือคะ บรั่นดี หรือ ตำรวจกับนักสืบ ไม่เหมือนกัน
ขอบคุณ ผกามาศ สารวัตรพจน์ตอบ พราน เขาติด บรั่นดี ส่วนผม ต้องกาแฟเสียก่อน
ผกามาศ นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับ พราน หล่อนลงมือผสมกาแฟสำหรับตัวเอง ขณะที่ พรานกำลังทำธุระอยู่กับบรั่นดีที่หล่อนยกมาให้ หล่อนยกกาแฟขึ้นจิบ แล้วพูดขึ้นว่า ดิฉันคิดว่า คุณพรานคงจะเห็นใจดิฉันบ้าง ในเรื่องที่เราได้พูดกันที่โต๊ะอาหาร คุณยังยืนยันหรือคะว่า ทางโน้นเขาควรจะมีสิทธิ์ในเงินค่าประกันมากกว่าดิฉัน พราน วางถ้วยบรั่นดีลงบนโต๊ะ ผมได้เรียนคุณแล้วว่า - มันเป็นเรื่องของบริษัทไทยพันธะ ที่จะชี้ขาดเรื่องนี้ ถ้าคุณไม่มีอะไรไปพิสูจน์ว่า การตายของคุณวินัย มีคุณพิมพ์พร เกี่ยวข้องอยู่ด้วย เขาก็คงจะต้องจ่ายเงินให้กับคุณพิมพ์พรอย่างไม่มีปัญหา ดิฉันอยากจะเรียนความจริงอย่างหนึ่งให้คุณทราบ ผกามาศ พูดต่อไป วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ
ดิฉันได้รับจดหมายจากพี่วินัยหนึ่งฉบับ ก่อนที่จะได้รับข่าวตายสักเจ็ดวัน ให้ดิฉันรีบขึ้นไปเมืองเหนือ ไปพบกับแก ณ จุด ๆ หนึ่งซึ่งเรารู้กันเฉพาะสองคน ดิฉันก็รีบขึ้นไป เพราะในจดหมายนั้นบอกว่า เป็นเรื่องสำคัญ แต่ดิฉันไม่ได้พบพี่วินัย ณ ที่จุดนั้น ถามคนที่นั่นเขาก็บอกว่า พี่วินัยเพิ่งจะออกไปก่อนที่ดิฉันจะมาเพียงวันเดียว และแกมีกิริยาร้อนรนมากขณะออกไป ระหว่างที่ดิฉันอยู่ที่นั่น มีคนแปลกหน้ามาถามหาพี่วินัยหลายคนและบ่อย ๆ คนเหล่านั้นไม่ได้มาซ้ำหน้ากัน ดิฉันพักอยู่ที่นั่น รอข่าวจากพี่วินัยอยู่ ก็เงียบหายไป จนสุดท้าย มีคนมาส่งข่าวว่า พี่วินัยขึ้นไปถึงแม่สาย ดิฉันจึงติดตามไป พอไปถึงก็พอดีพบแต่ศพ ดังที่ได้เล่ามาให้ฟังแล้ว แต่ มีผู้พบแม่พิมพ์พร เขาขึ้นไปอยู่ที่แม่สายก่อนที่ดิฉันจะขึ้นไปถึงสัก ๔ ๕ วัน จะไม่ให้ดิฉันสงสัยอย่างไรได้
ใครครับ ที่เป็นผู้พบ
คุณประกอบ น้องชายของพี่วินัยเองค่ะ คนเดียวกับที่มาอยู่เป็นเพื่อนดิฉันเดี๋ยวนี้
ผมอยากจะพบคุณประกอบสักหน่อย
แกรับประทานอาหารเย็นตั้งแต่ก่อน ๑๘.๐๐ น. แล้วก็เลยออกจากบ้านไป ว่าจะไปธุระที่ไหนก็ไม่ทราบ แล้วดึก ๆ จึงจะรับของว่างอีกทีหนึ่ง นี่กว่าจะกลับก็เห็นจะราว ๆ ห้าทุ่ม ถ้าคุณจะคอยอยู่จนถึงเวลานั้นก็คงจะพบ
พราน ยิ้มเล็กน้อย เขาเปิดหีบบุหรี่ หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ความจริงก็ไม่ค่อยสำคัญอะไรนักหรอกครับ แล้วผมจะหาโอกาสมาพบแกเอง ผมคงจะมาที่บ้านนี้ได้อีก ไม่ใช่หรือครับ คุณผกามาศ
ไม่เห็นจะมีอะไรขัดข้องนี่คะ- คุณพราน แม่หม้ายสาวพูด พร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย
พราน หันไปทางสารวัตร พจน์ ซึ่งนั่งฟังอยู่นิ่ง ๆ พลางพูดว่า ท่านสารวัตรครับ รู้รายละเอียดเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
สารวัตรพจน์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผมก็รู้เท่าที่คุณรู้ ตามที่ผกามาศเขาเล่าให้ฟัง ผมเห็นจะออกความเห็นเรื่องนี้ไม่ได้ เมื่อคุณได้พบกันอย่างนี้ ก็หมดหน้าที่ของผมแล้ว ใช่ไหม ผกามาศ
ประโยคสุดท้าย สารวัตรพจน์ หันไปพูดกับผกามาศ ซึ่งก้มศีรษะรับ และยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน ขอบคุณท่านสารวัตร ที่กรุณา ดิฉันคิดว่า แม้คุณพรานจะไม่เห็นใจดิฉัน เพียงแต่ดิฉันมีโอกาสได้เล่าความจริงให้ฟัง ก็เพียงพอแล้ว บางที การที่คนเราได้ทราบความจริงจากหลาย ๆ ด้าน คงจะทำให้พิจารณาเหตุการณ์ไปในทางที่ถูกที่ควรได้บ้าง จริงไหมคะ คุณพราน
พราน พ่นควันบุหรี่เป็นทางยาวขึ้นไปบนเพดาน เขาไม่ตอบคำถามซึ่งหม้ายสาวโยนมาทางเขาอันนั้น แต่กลับยิ้มละมัย พลางพูดว่า
คุณทราบไหมว่า คุณพิมพ์พรเขาได้รับจดหมายขู่จากมือลึกลับ ไม่ให้ยุ่งกับเงินประกันชีวิตรายนี้ จะโดยเพียงแต่ขู่ หรือจะจงใจก็ยังไม่ทราบ ได้มีผู้ใช้ปืนยิงเข้าไปทางหน้าต่างห้องนอนของคุณพิมพ์พรครั้งหนึ่ง เป็นการเน้นความหมายของจดหมายฉบับนั้น
คุณคงคิดว่า เหตุการณ์เหล่านี้ ทางฝ่ายดิฉันเป็นผู้ก่อขึ้นกระมัง ผกามาศพูด สายตาจับอยู่ที่พราน และเลื่อนมาที่สารวัตรพจน์ ซึ่งมองดูหล่อนอยู่ก่อนแล้ว
ผมควรจะเข้าใจว่าอย่างไร พรานดพูดขึ้น ในเรื่องนี้ อาจจะมีมือที่สามได้อีก อย่างนั้นหรือครับ
ดิฉันพูดได้แต่เพียงว่า ดิฉันไม่มีส่วนรู้เห็นในจดหมายขู่ฉบับนั้น หรือฉบับไหน ทั้งไม่ได้คิดที่จะทำเช่นนั้น ดิฉันเพียงแต่ได้เคยแจ้งไปทางบริษัทประกันชีวิตไทยพันธะ ถึงข้อสงสัยของดิฉันในเรื่องนี้ เพื่อให้เขายับยั้งการจ่ายเงินประกันชีวิตไว้ก่อน ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้นได้ ในฐานะที่เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฏหมายของพี่วินัย ดิฉันกำลังมองหานักสืบที่มีความสามารถสักคนหนึ่ง เพื่อให้คลี่คลายปัญหาขอคดีนี้ ก็พอดีดิฉันได้ทราบมาว่า คุณได้ติดต่ออยู่กับแม่พิมพ์พรเขาเสียแล้ว
คุณทราบได้อย่างไรว่า ผมติดต่ออยู่กับคุณพิมพ์พร
ดิฉันได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นทำนองบัตรสนเท่ห์ แจ้งให้ดิฉันทราบถึงเรื่องนี้ และในจดหมายนั้นบอกไว้ด้วยว่า คุณเป็นนักสืบที่น่ากลัวคนหนึ่ง
คุณก็เลยพลอยกลัวผมไปด้วย พรานพูด พร้อมกับหัวเราะ คนที่จะกลัวผม มีแต่คนที่ทำผิดคิดร้ายไว้เท่านั้นแหละครับ คุณผกามาศ อย่าตกใจเลย - ผมจะทำงานของผมอย่างระมัดระวังที่สุด และผมจะไม่ช่วยคนที่มือสกปรกเลยเป็นอันขาด โปรดมั่นใจในข้อนี้ เขาหัวเราะอีกครั้งหนึ่งเบา ๆ เรื่องนี้ ดูจะเต็มไปด้วยบัตรสนเท่ห์ และผมอยากจะเห็นจดหมายฉบับนั้น ถ้าคุณขัดข้อง
คุณต้องการดูเดี๋ยวนี้หรือคะ
ถ้าคุณจะให้ผมไว้เลยก็จะดีมาก ผมคิดว่า มันคงจะทำประโยชน์ให้ได้บ้าง เขาหันไปทางสารวัตร พจน์ เรากลับกันเสียทีดีไหมครับ ท่านสารวัตร นี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ผมมีงานที่จะต้องทำเกี่ยวกับเรื่องนี่อยู่อีก เรื่องจดหมายเล่าครับ คุณผกามาศ
คุณจะไม่รอพบคุณประกอบก่อนหรือคะ ผกามาศกล่าว และขยับลุกจากเก้าอี้
ไม่รอละครับ เอาไว้วันหลัง พรานพูด พร้อมกับลุกขึ้นยืน ขอบคุณมากครับ สำหรับอาหารเย็นซึ่งอร่อยถูกใจผมมาก
ผกามาศยิ้มละมัยอย่างน่าเอ็นดู หล่อนขยับเดิน รอสักครู่นะคะ ดิฉันจะขึ้นไปหยิบจดหมายฉบับนั้นมาให้ พราน ก้มศีรษะนิด ๆ เขามองตามร่างของแม่หม้ายสาว ซึ่งกำลังเดินไปทางบรรไดทางขึ้นชั้นบนอย่างใช้ความคิด
Create Date : 20 กันยายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2555 2:31:12 น. |
Counter : 1292 Pageviews. |
|
|
|