เช้ามืดวันที่ 9 ธันวาคม 2563  ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 02.45 สะดุ้งตื่นก่อนเวลา 2 รอบ ด้วยความกังวล กลัวเลท กลัวไม่ตื่น กลัวพลาด

เกรงใจพี่คนขับด้วย   นัดเวลาไว้ว่า ล้อหมุนจากโรงแรมที่พัก ตี 4

เรามาถึงจุดจ่ายค่าธรรมเนียม (รวม รถ+คน 180 บาท) เวลา 05.10 ถึงจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ประมาณ 05.30 ยังมีเวลา...หาอะไรรองท้องก่อนละกัน



ร้านซาลาเปาข้าง ๆ 



ตอนโน้น ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เราเคยมา คนเต็มแทบทุกร้าน บางครั้ง บางเวลา มีเงินก็ไม่มีปัญญาได้กิน



ฟ้ายังมืด ดูร้านค้าเก็บบรรยากาศฆ่าเวลาไปก่อนเนาะ



อยากสัมผัสอากาศหนาว ได้หนาวสมใจ



ราคาพอเหมาะพอควรค่ะ



พี่ซาลาเปา เห็นถือกล้อง เลยเปิด-ปิด ฝาให้ถ่ายรูป ... หลายกล้อง สนุกกันใหญ่



ปีนี้สตรอเบอรี่เยอะนะ อาจจะเป็นเพราะโควิด-19 ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว แต่ช่วงที่เราไป สตรอเบอรี่ยังออกไม่มากค่ะ



06.17 น. มาจับจองที่แถวหน้าก่อนค่ะ



06.23 น. 



06.33 น.



06.37 น. แสงเหลือง ๆ ส้ม ๆ มาแล้วค่ะ



06.40 น.



06.42 น.



06.43 น.









คุณตะวันมาตามนัด ตรงเวลาเป๊ะ 06.45 น. สวยงามสมกับที่รอคอย สมกับที่ตั้งใจมา 









06.48 น. แสงจ้าแล้วค่ะ



เดินไปลานจอดรถ



06.51 น. แม่คะนิ้ง ที่ยังพอมีให้เห็น





มารอบนี้ ไม่ได้แวะพระธาตุค่ะ







06.59 น.



ความตั้งใจมาเชียงใหม่รอบนี้ของแม่คือ อยากไปวัดที่ยังไม่เคยไป อยากมาเดินกิ่วแม่ปานอีกครั้ง...



07.11 น. 



เข้าคิว จองคิว เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดไกด์นำทางให้ 



วันนี้ไกด์นำทางเราเป็นเด็กชาย ชื่อพรชัย ราคา 200 บาทต่อกลุ่ม (แต่ละกลุ่มไม่เกิน 10 คน) เราเดิน 2 คนกับหมอก

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น มีเส้นทางเดินเป็นวงรอบระยะทาง 3.2 กิโลเมตร ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 31 พฤษภาคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น. เมื่อมาถึงแล้วจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่จะให้ไกด์ชาวบ้านในพื้นที่นำทาง มีค่าบริการ 200 บาทต่อนักท่องเที่ยว 1 กลุ่ม (ไม่เกิน 10 คน)
 

น้ำตกลานเสด็จ





07.48 น. สดชื่นดีค่ะ







เส้นทางกิ่วแม่ปานเป็นวงรอบทางเดินลาดชันขึ้นไป และสุดท้ายจะวกกลับมาบรรจบกับทางเดินที่เดินเข้ามาครั้งแรก

มีระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน









จะมาทุกปี ก็ไม่ไหว 2 - 3 ปี มาที คงดี







ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ (Sub-Alphine Meadow) ที่ในประเทศไทยพบได้เพียงไม่กี่แห่ง บริเวณนั้นเป็นชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน ทำให้มีเพียงหญ้า ไม้พุ่มและเฟินดินที่เติบโต กลายเป็นความสวยงามที่สามารถเข้าชมได้ตลอดปี และมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู อย่างช่วงหน้าฝนต้นหนาว ทุ่งหญ้าจะเขียวขจีสวยสดงดงาม แต่เมื่อเข้าช่วงใกล้ร้อนต้นฝน ผืนหญ้าจะกลายเป็นทุ่งหญ้าเหลืองทองตลอดทั้งทุ่ง ในทุ่งแห่งนี้ยังแฝงไปด้วยความหลากหลายของพืชพรรณต่างๆ เช่น สาบหมา กูดเกี๊ยะ มะแหลม บัวทอง และหนาดดอย
















 

กิ่วแม่ปานเป็น 1 ใน 3 ของป่าเมฆในประเทศไทย ที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีอากาศที่หนาวเย็นและมีเมฆปกคลุมเกือบทั้งปี  ทำให้มีสภาพอากาศที่มีลมแรงและมีความชื้นสูง จนเกิดเป็นวิถีของการอิงอาศัยกันในป่าที่พืชอิงอาศัยหลายพรรณมาเกาะอยู่บนไม้ยืนต้นของป่า เช่น มอสส์ เฟิน ไลเคน และกล้วยไม้ป่า เป็นต้น 

ขณะเดียวกันด้วยสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่มีหน้าดินที่เป็นโคลนหรือมีหน้าดินที่บาง ทำให้ไม้ยืนต้นของที่นี้ล้มได้ง่าย ทั้งจากสภาพหน้าดิน และลมที่แรงตลอดเกือบทั้งปี เกิดเป็นวัฎจักรชีวิตที่เปิดทางให้พืชข้างล่างได้มีโอกาสเติบโตเป็นไม้ใหญ่วนเวียนไป

นอกจากนี้กิ่วแม่ปานไม่ได้เป็นแค่ป่าเมฆเพียงอย่างเดียว ยังเป็นหนึ่งในป่าต้นน้ำของแม่น้ำปิงที่สำคัญ หล่อเลี้ยงชาวบ้านในพื้นที่ 4 อำเภอในเชียงใหม่ ทั้งอำเภอจอมทอง แม่แจ่ม แม่วาง และดอยรอก ในป่าต้นน้ำกิ่วแม่ปานมีสายน้ำที่ไหลอยู่ตลอดปี ด้วยความชื้นของป่าที่มีตลอดเวลาและผืนดินที่มาจากซากใบไม้ที่ทับถมจนมีลักษณะเป็นฟองน้ำที่ดูดซับและกักเก็บน้ำไว้ กลายเป็นต้นกำเนิดของทุกชีวิตในป่าที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์  ‘น้ำตกลานเสด็จ’ เป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดสายน้ำที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในกิ่วแม่ปาน โดยชื่อน้ำตกลานเสด็จมาจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังอุทยานฯ หลายครั้ง และเสด็จพระราชดำเนินมาน้ำตกแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2542 การมาของพระองค์ทำให้พื้นที่ป่าได้รับการพัฒนาและอนุรักษ์ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาและสร้างจิตสำนึกในการรักษาทรัพยากรป่าที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ

มีนักท่องเที่ยวบ้าง แต่ไม่หนาแน่น เหมือนที่เราเคยมาช่วงเทศกาล















ผาแง่มน้อย - หินรูปหัวใจ





กุหลาบพันปี จะออกดอกเยอะช่วงเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ 





ในช่วงระยะกิโลเมตรแรก จะเป็นทางเดินขึ้นเพียงอย่างเดียว มีบันไดทางขึ้นเป็นช่วง ๆ สลับกับทางเดินธรรมชาติ ส่วนกิโลเมตรที่ 2 จะเป็นทางเดินลงบนสันเขา 1 กิโลเมตร และทางเดินกิโลเมตรที่ 3 จะเป็นทางเดินในป่า มีทางเดินขึ้นสลับทางเดินลงจนจบ 5 เขาเล็ก โดยจุดที่ชันที่สุดจะอยู่ที่เขาลูกแรกและลูกที่ 4 เพราะมีบันไดเดินขึ้นเรื่อย ๆ



08.33 น. ยังเห็นจันทร์เสี้ยวไกล ๆ 



ดอกบัวทอง



ดอกสารภีดอย



กุหลาบพันปี ช่วงต้นเดือนธันวา



คนทำทางเดินก็เก่งเนาะ 









ต้นนี้มีดอก 1 ดอก









08.49 น. 



ย้อนแสงเต็ม ๆ 









08.56 น.

















ขึ้นอีกรอบ 



ต้นที่ใหญ่ที่สุดในป่านี้





สะพานสุดท้าย บันไดช่วงสุดท้ายแล้วค่ะ



09.32 น. เราใช้เวลาเดิน ประมาณ 2.10 ชม.



ขาออกมา แวะน้ำตกวชิรธาร...เพิ่งเคยมาครั้งแรกค่ะ





น้ำตกวชิรธารอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ น้ำตกวชิรธารเกิดจากลำห้วยแม่กลาง ที่มีต้นกำเนิดอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมีหน้าผาสูง ตัวน้ำตกมี 1 ชั้น น้ำเบื้องบนไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ด้วยความสูงของน้ำตกถึง 70 เมตร



มีสายรุ้งพาดผ่านด้วย สวย ๆ 





 ความเดิม 

ผู้หญิงกับดอกไม้
ชมคาเฟ่ วัดพระธาตุดอยคำ
ประตูท่าแพ วัดป่าดาราภิรมย์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน