Group Blog
 
<<
มกราคม 2566
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มกราคม 2566
 
All Blogs
 

โบรโม่ - คาวาอีเจี้ยน ตอนที่ 6 น้ำตกมาดาคารีปุระ (จบ)

Bromo-Ijen-Madakaripura-Tumpuk Sewu

13 - 17 ตุลาคม 2565


8 โมงกว่า วันที่ 15 ตุลาคม 2565 ระหว่างทางกลับจาก คาวาอีเจี้ยน จะกลับโรงแรมที่พัก ผ่านไร่กาแฟ กำลังออกดอกเยอะเลย เพิ่งเคยเห็นดอกกาแฟครั้งแรกนี่ล่ะค่ะ อยู่บ้านเรา ไม่เคยจังหวะออกดอกสักที



สักพัก รถชลอ มีขบวนแห่งานอะไรสักอย่าง น้อง ๆ แต่งองค์ทรงเครื่องอลังการมาก ถ้ามีเวลามากกว่านี้ อยากจะลงไปถ่ายรูปเลยค่ะ ชอบงานวัฒนธรรมท้องถิ่นประมาณนี้



ถึงโรงแรมที่พัก สายมากแล้ว ทางโรงแรมยังเก็บอาหารไว้ให้กรุ๊ปเรา (เป็นบุฟเฟต์ บางอย่างมีเติม บางอย่างก็หมด) กินกันอย่างหิวโหย ไม่มีภาพประกอบค่ะ



เสร็จแล้ว รีบอาบน้ำเก็บของ ทำธุระส่วนตัว check out ประมาณเที่ยงกว่า



จากนั้นพวกเราเดินทางไปน้ำตกมาดาคารีปุระ ไปถึงก็บ่ายสามกว่าแล้วค่ะ จากที่จอดรถ ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไป



นั่งคันละคนค่ะ



ถึงแล้วก็เดินต่ออีกประมาณ 1 กิโล ถึงจะถึงน้ำตก


 
น้ำตกมาดาคารีปุระ เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝึกสมาธิแห่งสุดท้ายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด Gajah Mada แห่งอาณาจักร Java ที่ยิ่งใหญ่ของ Majapahit ในชวาตะวันออก น้ำตกมาดาคารีปุระอันสูงตระหง่านนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นน้ำตกนิรันดร์ อันเนื่องมาจากน้ำในน้ำตกแห่งนี้ไม่เคยหยุดไหล ยังคงไหลลงมาราวกับเป็นพรแห่งสายฝนที่ไม่รู้จบ ประทานพรแก่ผู้คนที่เดินผ่านภายใต้น้ำตกนี้

น้ำตกมาดาคารีปุระ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขา Bromo ใกล้กับหมู่บ้าน Sapih ในเขต Lombang ของประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาขับรถไปประมาณ 3 ชั่วโมงจากเมืองหลวงตะวันออกของชวา ในเขต Surabaya น้ำตกที่งดงามซ่อนตัวอยู่ที่ปลายหุบเขาลึกบริเวณเชิงเขา Tengger การเดินทางไปยังจุดนี้ จะต้องเดินข้ามแม่น้ำประมาณ 20 นาที และเส้นทางป่าที่เป็นหิน ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง



จุดขายตั๋ว





ใส่เสื้อกันฝนกัน ก็เปียกกันถ้วนหน้าค่ะ 



ก่อนถึงทางเข้า รูปปั้นของผู้บัญชาการที่ยิ่งใหญ่แห่ง Majapahit Gajah Mada ในท่านั่งสมาธิรอทักทายผู้มาเยี่ยมก่อนที่จะเดินทางต่อไป



เรามาได้กันถึงแค่นี้ค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปถึงตัวน้ำตกใหญ่ ช่วงนี้ฝนตก อาจจะมีเศษหินจากภูเขาเซมารูหล่นมาด้วย ไกด์ท้องถิ่นเลยไม่อยากให้เดินเข้าไป อันตราย...



แค่นี้ก็สวยอลังแล้วเนอะ ตัวน้ำตกใหญ่จะขนาดไหน


ออกจากน้ำตก แวะกินข้าว ..เดินทางเข้าที่พักคืนนี้ที่สุราบายา 3 ทุ่มกว่า





สะอาดสะอ้านดีค่ะ



พักห้องละ 2 คน



แรกเลยเก็บของแล้ว ว่าจะไปเดินถนนคนเดินกัน แต่พวกเรามาถึงก็ดึกมากแล้ว อยากพักกันมากกว่า 




ห้องไม่ได้กว้างมาก แต่เป็นสัดส่วน ไม่อึดอัดค่ะ



 วันที่ 16 ตุลาคม 2565 เช้าวันนี้ สบาย ๆ ค่ะ รร. เอาอาหารมาเสิร์ฟให้ที่ห้องพัก 7 โมงตรง เป็นข้าวกล่อง ข้าวผัด (ข้าวผัดกับไก่ที่อินโดอร่อยค่ะ เหมือนเป็น local food หากินง่าย มีทุกร้าน อร่อยหมด) ผัดไข่กับหอมใหญ่ ไก่ทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน อาจาดเป็นแตงกวา มีข้าวเกรียบให้ด้วย (เค้ากินข้าวเกรียบทอดกับอาหารคาว) ผลไม้เป็นสละ 1 ลูก น้ำผลไม้ฝรั่งขี้นก



ระหว่างรอสมาชิกในกรุ๊ป นัดกัน 8 โมงเช้าค่ะ

อเมริกาโน่ ไม่ใส่น้ำตาล รสชาติจาง ๆ พอกินได้ค่ะ



ไปเดินเล่น ไม่ถึงกับ city tour แต่พอได้บรรยากาศ วันอาทิตย์เป็นวันหยุด เค้าจะออกมาเที่ยวเดินเล่น ถนนปิดช่วงเช้า มีขายของ ประมาณ walking street 09.30 หรือไงนี่ค่ะ เปิดถนนให้รถวิ่งผ่านได้



น่ารักดี



รถสามล้อรับจ้าง



คันนี้ น่าจะเหมือนกับรถสี่ล้อเล็กบ้านเราน่ะค่ะ



บริเวณหน้าสวนสัตว์



อนุสาวรีย์ฉลาม จระเข้ สัญลักษณ์ของเมืองสุราบายา - สุระ (ฉลาม) บายา (จระเข้)



ไม่ได้เข้าสวนสัตว์กันนะคะ 



ขึ้นสะพานลอยค่ะ



















มาแวะร้านนี้ก่อนเลย ร้านแรก ลองกันหลายแก้วเลยค่ะ หอมเหมือนน้ำตาลโตนด มีวุ้น ในกระป๋องเขียวเป็นข้าวเหนียวดำเหมือนข้าวหมากเพราะรสชาติหวานเปรี้ยวนิด ๆ






แวะกันเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ส่วนมากเราไม่ได้ชิม ไม่สะดวก ถือกล้องอยู่





คล้ายทาโกยากิ แต่เป็นตัวมะกะโรนี



เต้าหู้ทอด





ของกินเค้าเหมือนบ้านเราก็เยอะ ผลไม้บ้านเราอร่อยกว่านะคะ มีน้องซื้อมาชิม มะม่วงเหมือนมะม่วงมัน แตงโม เมล่อน จืด ๆ สละกรอบ หวานน้อย เม็ดร่อน





Nasi Pecel - นาซิ เปอเจล อาหารพื้นเมืองของอินโดนีเซีย 





เหมือนน้ำแข็งไสบ้านเราค่ะ



คล้ายเครปแต่เค้าทำในกระทะทำขนมถังแตกบ้านเราค่ะ





รถตำรวจ 









สะเต๊ะไก่ น้อง ๆ ลงความเห็นกันว่า อร่อยค่ะ



ปอเปี๊ยะทอด







เพ้นท์เฮนน่า





ดูสีสันแล้ว ของบ้านเราน่าจะอร่อยกว่าเนาะ



 check out จาก รร. ที่พัก มาแวะซื้อของที่ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก









ออกจากร้านเกือบบ่ายสามแล้ว กรุ๊ปแรกต้องบินกลับ 17.55 น. เราไม่ค่อยไว้ใจขั้นตอนเช็คอิน กลัวเสี่ยงตกเครื่องเหมือนขามา คุณเป้เลยให้รถมาส่งกรุ๊ปเราก่อน ที่เหลือบินไฟลท์ทุ่มกว่า กินข้าวมื้อกลางวันรอที่ร้านค่ะ



เช็คอินแล้วสบายใจ กินข้าวที่สนามบิน รอเวลา ข้าวไก่ทอด ขวามือ เป็นเทมเป้ กับเต้าหู้ทอดค่ะ  35,000 + tax 10% เป็น 38,500 rp




ขากลับเราใช้บริการ Nok Scoot TR267 ถึงสนามบินชางฮี-สิงคโปร์ 09.10 pm (เวลาที่สิงคโปร์ บวกจากเวลาที่บ้านเรา 1 ชม.) รอต่อเครื่อง TR624 08.20 am เฮ้ย มีเวลานี่นา...คุยกันในกลุ่มว่า งั้นเราออกไปสวัสดีสิงโตพ่นน้ำกันดีกว่า พากันลงมาเพื่อกรอกเอกสารผ่าน ตม ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ฯ เดินมาถามพวกเราว่าทำอะไร จะไปไหน...เค้าบอกว่า เราบินเช้าต่อเลย และตอนนี้ดึกมากแล้ว รถไฟฟ้าหมด 5 ทุ่ม ถ้านั่ง taxi ก็แพงมาก Jewel ร้านค้าปิด 4 ทุ่มหรือไงนี่ค่ะ แล้วเราต้องกลับมา terminal 1 นี้อีก จะเหนื่อยมาก ถ้าอยู่ต่ออีกวัน โอเคดีเลย ไว้คราวหน้าค่อยมาเที่ยวสิงคโปร์ใหม่ แล้วอาสาถ่ายรูปให้พวกเรา...ถึงแล้วนะ สนามบินชางฮี สิงคโปร์ 😂😂😂





แก้วนี้ 6.20 SGD ทีแรกกะว่าจะใช้ตังค์ให้หมด ไหน ๆ ก็แลกมาแล้ว...ไม่ไหวค่ะ แพงไปหมด 
😅



เงิน 3,012 บาท แลกเงินอินโดได้ 1,200,000 Indonesia Rupiah
เหลือ 760,000 rp แลกดอลลาร์สิงคโปร์ได้  69.15 SGD ซื้อกาแฟไปเหลือแค่นี้ค่ะ 



ระหว่างรอบิน ขึ้นมาหาที่นอน 😁  ตรงนี้มีที่ชาร์จแบต ทำเลดี ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมา ห้องน้ำเดินลงบันไดมาเจอเลย มีตู้กดน้ำร้อน น้ำเย็นด้วย 



06.00 น. เดินไปเกทค่ะ



07.18 น. เครื่องเรามาแล้ว...กลับถึงบ้านเกือบเที่ยง เอาผ้าเข้าเครื่อง กลับสู่โหมดแม่บ้านหัวฟูเช่นเคย




ตอนที่ 1  ดอนเมือง - สุราบายา
ตอนที่ 2  ปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่
ตอนที่ 3 ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Bromo Seruni
ตอนที่ 4  น้ำตกทัมปัค เซวู (Tumpak Sewu Waterfalls)
ตอนที่ 5 ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน




 

Create Date : 05 มกราคม 2566
0 comments
Last Update : 5 มกราคม 2566 14:23:47 น.
Counter : 1025 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnonnoiGiwGiw, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณปัญญา Dh, คุณThe Kop Civil, คุณปรศุราม, คุณหอมกร, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณดอยสะเก็ด, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณmariabamboo, คุณMDG, คุณชีริว, คุณSweet_pills, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณอุ้มสี, คุณกิ่งฟ้า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณร่มไม้เย็น, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณวลีลักษณา, คุณMeanangtatalim


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.