Bloggang.com : สายหมอกและก้อนเมฆ :

หลวงพระบาง - ใส่บาตร, เดินตลาดเช้า, กลับบ้าน

เช้าวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ใส่บาตรเช้า ที่หลวงพระบาง จากสายน้ำคานริเวอร์วิว ที่พักเราเดินมาสี่แยกนิดเดียวค่ะ 05.30 โดยประมาณ พระทยอยเดินบิณฑบาตรมาเรื่อย ๆ แต่ไวมากค่ะ มีนักท่องเที่ยวพักที่พักเราลงมา 6 โมง คือไม่ทันแล้ว

05.49 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2566

05.57 น. ฝนตกแล้วค่ะ

ระหว่างทาง จะมีเด็กน้อยรอขอของพระบิณฑบาตรมา

นี่ค่ะ เค้าจะกั้น ปิดป้ายห้ามผ่าน ช่วง 05.00 - 07.00 น.

กลับมาที่พักนั่งพักรอให้ฝนซา

07.07 น. ฝนซาแล้ว... ออกไปเดินตลาดเช้าค่ะ กล้องเป็นฝ้า

พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง

วัดใหม่สุวรรณภูมาราม ถ้าเป็นตอนกลางคืน บริเวณนี้คือตลาดมืดค่ะ

ระหว่างทางเห็นข้าวเกรียบปากหม้อ ร้านอยู่ด้านหน้าห้องสมุด ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ ขออนุญาตพี่เค้าถ่ายรูป ถ่ายคลิป... ที่นี่เรียก ข้าวเกรียบปากหม้อว่า แหนมขาว หรือข้าวเกรียบอ่อน ไส้เป็นเห็ดหูหนูเอาไปผัดกับหมูสับใ่ส่ต้นหอมซอย ขายกล่อง (จาน) ละ 20,000 กีบ แบบใส่ไข่ 25,000 กีบ แบบไข่ดาวก็มีค่ะ

ไส้เห็ดหอม หมูสับ

พี่บอกไม่ใช้แป้งนะ ใช้ข้าวจ้าวเอามาโม่เอง ใช้เตาถ่าน

เครื่องปรุงค่ะ ที่นี่ไม่ใช้น้ำส้มสายชู ชอบเปรี้ยวอยากใส่มะนาวเท่าไหร่ ใส่โลดค่ะ หอมเจียว หอมอร่อย ไม่มีกลิ่นหืน ถั่วลิสงคั่วและตำเอง

แบบไข่ดาว

พี่ตักมาแถมให้ค่ะ

ร้านข้าวเกรียบปากหม้ออยู่หน้าห้องสมุดค่ะ

ตลาดเช้าวันนี้ คนซื้อน้อยกว่าคนขายมาก คงเพราะฝนตกแต่เช้าเลย ตกตั้งแต่เมื่อวานล่ะค่ะ โชคดีว่าวันก่อนได้ขึ้นพระธาตพูสีแล้ว ไปวัดเชียงทองแล้ว กะว่ากลับจากน้ำตกอาจจะไปวัดอีกรอบ เจอฝนตก ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจ

อย่างที่เคยพูดบ่อย ๆ เนาะ แดดออกไม่เป็นไร ฝนตกนี่จบข่าวเลยค่ะ

ขนมครกหน้าตาดี เค้าร่ำลือกันว่าหวานมาก เราไม่ได้ซื้อค่ะ ไปกี่รอบก็ไม่ได้ลองชิม

07.58 น.

วัดใกล้ที่พักค่ะ

8 โมงแล้ว แต่ไม่มีคนเลย ดูเงียบ ๆ ไม่ได้เดินเข้าไปค่ะ

08.10 น.

ถ้าได้มาหลวงพระบางอีก คงมาพักที่เดิมค่ะ

วันนี้ต้องนั่งรถไฟกลับเวียงจันทน์ (หลวงพระบาง - เวียงจันทน์ รอบ 15.05-17.00 น.) เราจองรถมารับที่โรงแรมไปส่งที่สถานีรถไฟเลย คนละ 40,000 กีบ เช็คเอาท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ เดินมาหาร้านกาแฟนั่งฆ่าเวลา

เมื่อวานร้าน Saffron Cafe เพิ่งเห็นว่ามีที่นั่งริมโขงด้วย (รถตู้นักท่องเที่ยวจอดบัง) วันนี้เลยเดินมาร้านนี้อีก นั่งยาว ๆ ไปค่ะ เป็นเวลารื่นรมย์...รถจะมารับที่สายน้ำคานริเวอร์วิว ประมาณบ่ายโมง

ของหมอกเป็นลาเต้เย็นเหมือนเมื่อวาน ของแม่เป็นลาเต้ลาว (น้องบอกใส่นมข้น แต่ไม่หวานมาก อ่ะ ลองจ้ะ) แครอทเค้ก 32,000 กีบ ชอบรสชาติของร้านนี้มากกว่าร้านโจมาค่ะ (แครอทเค้ก ร้านโจมา 36,000 กีบ)

มองไปฝั่งตรงข้าม "วัดจอมเพชร" สร้างโดยคนไทย เคยดูรายการของ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ว่าจะไปตามรอย มาหลวงพระบาง 2 รอบแล้ว ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ

น้ำคานจะเป็นสีเขียวอ่อน น้ำโขงจะเป็นสีปูน

เรือโดยสารข้ามฟาก

รถตู้มารับที่โรงแรมบ่ายโมงกว่าถึงสถานีรถไฟหลวงพระบางบ่ายสองกว่า โชว์ตั๋วพร้อมพาสปอร์ตเข้าด้านในสถานีได้เลย มีร้านค้าภายในสถานีแล้วค่ะ แต่ห้องน้ำยังไม่มีทิชชูเหมือนเดิม ตู้กดน้ำดื่มมีแต่น้ำร้อน ไม่มีน้ำเย็น รถไฟออกตรงเวลา เต็มทุกที่นั่ง มีคนลงที่สถานีวังเวียง แต่ก็มีคนขึ้นมาแทนที่ ปลายทางสถานีเวียงจันทน์

วิวระหว่างทาง

นั่งบัสออกจากสถานีเวียงจันทน์ไปหน้าด่าน คนละ 20,000 กีบ ถึงหน้าด่านแลกเงินกีบเป็นเงินไทย ขามาแลก 4,000 บาท เรท 540 / ขากลับ แลกคืนได้เรท 555 ผ่าน ตม. ลาว เสียอีก 20 บาท เหมือนขามา

ซื้อตั๋วข้ามมาฝั่งไทย คนละ 30 บาท ถึงฝั่งไทย (หนองคาย) นั่งรถสามล้อมาสถานีรถไฟหนองคาย คนละ 50 บาท ที่สถานีหนองคาย เข้าห้องน้ำ เสียคนละ 3 บาท (สถานีหัวลำโพง และสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เข้าฟรี)

ด่านฝั่งไทย - หนองคาย

สถานีหนองคาย

จองตั๋วรถไฟขบวนพิเศษ "อีสานมรรคา" หนองคาย - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เตียงล่าง 994 บาท เตียงบน 894 บาท ไว้ ตามเวลา 19.40 - 05.50 น. แต่เจ้าหน้าที่ประกาศว่า ทางรถไฟที่ขอนแก่นทางขาดเนื่องจากน้ำท่วม รถไฟออกจากสถานีไม่ได้...

หนึ่งทุ่มกว่าขึ้นมาบนตู้แล้วค่ะ จนท. ปูเตียงให้ ได้เหยียดขาละ เห็นว่า จะวิ่งได้ตอนตี 4 เอนหลังพักผ่อนกันไปก่อน ตู้เสบียงเปิดถึง 4-5 ทุ่มว่างั้น ดีนะไม่ได้ทำงานทำการ ลูกก็โทร.ไปลางานละ

ของแม่ เป็น Set G 190 บาท ข้าวไก่กระเทียม แกงจืด ขนมจีบ แตงโม

ของหมอก จำไม่ได้ค่ะ ดูตามรูปเมนู ไม่ตรงซักภาพ

จากเดิมต้องออกจากสถานีหนองคาย 19.40 น. เมื่อคืน ได้ออกจริง เช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2566 เวลา 05.30 น. น่าจะถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ช่วงเย็นประมาณ 4 โมงกว่า