กาญจนบุรี...ครั้งนี้ถึงซะที สังขละบุรี >>> ทองผาภูมิ จบแล้วจ้า....
กาญจนบุรี...ครั้งนี้ถึงซะที สังขละบุรี >>> ทองผาภูมิ จบแล้วจ้า....
สวัสดีวันพุธค่ะ ลุยเลยเนอะ...เลือกๆ ดูรูปจะทำต่อ เพิ่งนึกออกว่า แบตกล้องหมดเพราะชาร์จครั้งสุดท้ายตั้งแต่ที่หน่วยพิทักษ์ป้อมปี่ ตอนมาถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิไม่มีที่ชาร์จ มิน่ารูปเลยด้วนๆ ขาดตอนไป เหอะ เหอะ ไม่งั้นอาจจะยังเป็นมหากาพย์กันต่ออีกหลายตอน...ฝันร้ายแน่
ขากลับ...เีรามาแวะวัดถ้ำเขาน้อย วัดถ้ำเสือกัน ตั้งใจมาค่ะ ไม่ได้มานานแล้ว วัดถ้ำเสือเคยมาหลายครั้งแล้ว แต่วัดถ้ำเขาน้อย เพิ่งเคยแวะครั้งแรกค่ะ
ลานจอดรถกว้างขวางค่ะ มองไปเห็นเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท วัดถ้ำเสือด้วย
ตรงนี้ยังทำไม่เสร็จ เหลืออีกเยอะเหมือนกัน คาดว่าน่าจะต้องใช้งบเยอะ เพราะที่ทางกว้างขวาง สร้างอะไรก็ใหญ่โตไปหมด
บริเวณที่ไหว้พระค่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่อง...ทฤษฎีว่าด้วยองค์ประกอบของภาพ...เรามักจะไม่ได้เรื่องเสมอ...
ทางขึ้น...ดูทรุดโทรมนะคะ
วัดถ้ำเขาน้อย ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง เป็นวัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะแบบจีนที่สวยงามและโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา
วัดถ้ำเขาน้อยแห่งนี้ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๖ โดยมีหลวงปู่แห้ง(กั๊กเง้ง) เป็นพระจีนมาพำนักเป็นรูปแรก ต่อมามีพระจีนอีก ๒ รูปมาปกครองดูแล ต่อจากนั้นก็มีพระญวน คือพระอาจารย์เตี๊ยบถ่อมาพำนักปกครองดูแลเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๗
นับแต่นั้นมาก็มีพระสงฆ์ญวนอีกหลายรูปมาปกครองดูแลตามลำดับมาจนถึงพระอาจารย์กิจ ตัยเฟือง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในปัจจุบัน กรมศาสนาได้มาสำรวจสภาพวัดและได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัดถ้ำเขาน้อยเป็นวัดฝ่ายอนัมนิกายโบราณอายุประมาณ ๑๐๐ ปีเศษ
เก๋งจีน
ยังอยู่ที่วัดถ้ำเขาน้อยค่ะ มองไปด้านวัดถ้ำเสือ...
ที่นี่ไม่มีรถรางช่วยชีวิตค่ะ ค่อยๆ ไต่บันไดขึ้นไป คนแข้งขาไม่ดีก็แวะพักเป็นระยะได้ค่ะ
ยืนกินลมชมวิวค่ะ แต่ก่อนตอนทำบล็อกใหม่ๆ เห็นแบบนี้คนนึกว่าหมอกเป็นแม่ซะเยอะ ฮา...ค่ะ
หันไปด้านนี้ฟ้าสวยค่ะ
วิวที่มองเห็นจากบนนี้...ที่ลานจอดรถมีรถจอดไม่กี่คันเองค่ะ แต่ที่ของวัดถ้ำเสือ จอดรถล้นกันออกมาที่ถนน...
บ่ายโมงกว่าเกือบบ่ายสองค่ะ แดดร้อนเป็นปกติ...
ด้านล่าง...เงียบเหงา
เมฆชอบตีระฆัง...ไม่มีความหมายอะไรแค่ชอบตี...หาไม้ตีไม่เห็นค่ะ
มองขึ้นไปด้านบนอีกรอบ...
พอหมดหน้านา...เผากันซะ ยิ่งดูแห้งแล้งไปเลยเนาะ
ลงไปกันค่ะ เดี๋ยวไปวัดถ้ำเสือกันต่อ
วนหาที่จอดรถอยู่ ๒-๓ รอบค่ะ เหมือนกับเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว
ตอนเดินขึ้นบันไดมา ๑๕๙ ขั้น สารภาพตามตรงไม่มีแรงแม้แต่จะยกกล้อง ขาล้าไปหมด ทางขึ้นแคบด้วย จะหยุดพักก็มีคนข้างหลังตามมาติดๆ
เค้ามีรถไฟฟ้าบริการ แต่เราไ่ม่ขึ้น ภาพนี้...เราถ่ายมุมซ้าย ก็ไม่เหมือนที่ใจคิด มุมขวาก็ยัง...ด้านตรงๆ ก็ยังไม่ใช่ ยอมค่ะ...
เอาใหม่...จะหลบคนด้วย คนเยอะมาก ดีว่าตรงนี้เป็นลานกว้างหน่อย
วัดถ้ำเสือ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย จากคำบอกเล่าต่อๆกันมา วัดถ้ำเสือแห่งนี้เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ อยู่ในถ้ำบนเขาซึ่งถือกำเนิดมากว่า ๑๐๐ ปี แต่เดิมภายในถ้ำมีพระพุทธรูปศิลาแลงซึ่งชำรุดหักพังมากมาย มีผู้บอกกล่าวกันต่อๆ มาว่าพระพุทธรูปเหล่านั้นเกิดการชำรุดเนื่องจากถูกทหารพม่าทำลายเมื่อครั้งที่ได้ยกทัพผ่านมา โดยใช้เส้นทางด่านพระเจดีย์ ๓ องค์เป็นเส้นทางเดินทัพ
ในปี พ.ศ.๒๕๑๖ ได้มีการวางแผ่นฤกษ์สร้างหลวงพ่อชินประทานพร หรือ พระพุทธชินราช ประทับปางประทานพร ขนาดใหญ่สีทองอร่ามโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา มีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายยาว ๑.๕๐ เมตร ลึก ๒.๕๐ เมตร มีน้ำซึมตลอดเวลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ และในปีเดียวกันก็ได้จัดสร้างพระอุโบสถอัฏมุข
หรือพระอุโบสถ ๘ มุข เป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตร
ภายในพระอุโบสถมีภาพเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ สำหรับพระอุโบสถ ๘ มุขนี้ไม่มีที่ใดสร้าง แต่ที่วัดถ้ำเสือสร้างขึ้นด้วยมโนภาพ
ด้วยจิตสำนึกที่พระอรหันต์มาประชุมและกราบทูลพระพุทธเจ้าออกเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้ง ๘ ทิศ
ถอยจนสุดขอบแล้ว ก็ยังเก็บภาพมาไม่หมด...ยังค่ะ ยังไม่อยากได้เลนส์ไวด์
ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ ได้สร้างพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท สูง ๗๕ เมตร ภายในโปร่งมี ๙ ชั้น มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุด้านบนยอดสุดของพระเจดีย์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในปราสาทจุฬามณีบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓
ลืมปรับ WB
เอาใหม่ค่ะ
ทางขึ้น ๙ ชั้น ถ่ายมาครบนะคะ แต่ลงภาพ...พอหอมปากหอมคอพอ...เกรงใจ
พอรวมภาพแล้วก็แทรกไม่ค่อยจะถูก ภาพด้านซ้ายมือคือ พระบรมสารีริกธาตุค่ะ
แต่ละชั้นก็คล้ายๆ กันค่ะ แตกต่างคงเป็นองค์พระพุทธรูป เราไม่ได้เดินดูแต่ละองค์โดยละเอียด
มุมตรงนี้ เป็นชั้น ๗ หรือ ๘ ไม่แ่น่ใจค่ะ คนอยู่ข้างล่างตัวเล็กนิดเดียว...
องค์พระประดับด้วยกระเบื้องโมเสคสีทองทั้งองค์ นับเป็นองค์พระที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๔.๓๙ น. ถ้าเป็นช่วงหน้านา ด้านหลังคงเขียวขจีไปหมด น่าจะสวยนะคะ
พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท
เดินลงมาแล้วค่ะ แวะเก็บภาพพระพุทธรูประหว่างชั้น บางส่วน
เมฆอยากไปถ้ำเสือ เลยมาลงมาทางนี้ มีป้ายบอกทางไปถ้ำ...
ทางไม่ชัน และยิ่งเป็นทางลงด้วย สบายเลย...ถึงแล้วค่ะ
มีแสงส่องเข้ามาตามช่อง
ด้านหน้าถ้ำ อ้าว...ลานจอดรถอยู่นี้เอง รู้งี้ขึ้นไปทางนี้ แล้วค่อยไปไหว้พระด้านบนเนาะ
ภาพทิ้งท้ายค่ะ จะไปแล้ว มุมเดียวกัน ทั้งกล้องแม่ กล้องปะป๊า...
สุดท้ายจริงๆค่ะ หมอกคอยาวมาก...
บล็อกหน้า...พาไปไหนดีน้อ...คิดอะไรไม่ออกยังมีวัดอีกเยอะ ดอกไม้อีกแยะ คุยซะ
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
62 comments |
Last Update : 27 มีนาคม 2557 21:53:03 น. |
Counter : 2730 Pageviews. |
|
|
|
แปะใจให้ด้วย
ไปแระ ...