บ้านธนโสภณ
หน้าบ้านเขียนว่า บ้านสุธี ค่ะ
อยู่ใกล้กับบ้านนิวาศแสนสุขค่ะ
บ้านนิวาศแสนสุข
บ้านนิวาศแสนสุข
บ้านไม้สองชั้นอายุ 72 ปี หลังนี้มีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกันกับบ้านสุธี คือมีหลังคาทรงปั้นหยา มีมุขยื่นออกมาทางซ้าย
และที่น่าสังเกตคือ มีประตูไม้บานใหญ่และบานหน้าต่างเรียงติดต่อกันเป็นแนวยาว
เจ้าของคนปัจจุบัน ได้บูรณะ ดัดแปลงและทาสีใหม่หมดทั้งหลัง แต่ไม่ทำให้เสียสภาพเดิม
สิ่งที่ควรจะได้รับการบันทึกไว้ก็คือ บ้านหลังนี้เคยเป็นเรือนหอของ พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัชกาลที่ 7
ปัจจุบันตกเป็นของตระกูลมาโนช
เจ้าของ นายศิริชัย มาโนช
ปีที่สร้าง 2480
บ้านอำนวยโชค
บ้านอำนวยโชค
ถึงแม้ว่าจะถูกปล่อยทิ้งร้างจนอยู่ในสภาพที่เป็นซากปรักหักพังในปัจจุบัน อาคารตึกสองชั้นก่ออิฐถือปูนหลังนี้
ก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงอดีตอันรุ่งเรืองของมันผ่านสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือตกทอดมาจากสมัยรัชกาลที่ 5
คล้ายคลึงกับบ้านที่ตั้งอยู่ถัดไปสองหลัง คือบ้านนิวาศแสนสุขและบ้านสุธี ซึ่งอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน
บ้านอำนวยโชคมีกำแพงล้อมรอบและมีซุ้มประตูทางเข้าที่ดูเรียบง่ายอยู่ด้านหน้า
แต่สิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้ดูโดดเด่นสวยงามที่สุดน่าจะเป็นโค้งระหว่างเสาเหนือระเบียงทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
หลังคาแบนราบและระเบียงมีราวลูกกรงที่ดูเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
เจ้าของ นายสมจิตต์ เสตะพันธุ์
ปีที่สร้าง ประมาณ 2460
บ้านกุลสุวรรณ
บ้านกุลสุวรรณ์
บ้านกุลสุวรรณ์ สร้างขึ้นประมาณปี 2421 ตอนปลายรัชกาลที่ 5 โดยได้รับอิทธิพลจากแบบบ้านที่พบเห็นในสิงคโปร์
มีลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในยุคกลางของรัตนโกสินทร์
หน้าจั่วเป็นบานเกล็ดระบายอากาศซึ่งสำคัญยิ่งสำหรับอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
มุขหลังมุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์ข้าวหลามตัดที่นิยมใช้ในการสร้างบ้านเรือนไทยในอดีต
บริเวณระเบียงและเหนือประตูโดดเด่นสะดุดตาด้วยการประดับกระจกสี
เจ้าของ นายสมจิตต์ เสตะพันธุ์
สวัสดียามเช้าครับพี่หนู
บ้านเก่า เรือนเก่า
แม้จะทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์มากจริงๆครับ
โหวต travel blog ครับพี่