เที่ยวอุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี (3)
ออกจากวัดถ้ำเขาวง เรามุ่งหน้าเข้าที่พักเลย
facebook บ้านอิงน้ำรีสอร์ท : https://www.facebook.com/ingnum
เราจองแพ 100 ปี 1,500 บาท และห้องพักวิวแม่น้ำ 1,200 บาท โอนเงินค่ามัดจำมาก่อน 1,400 บาท
วันเข้าพักจ่ายส่วนที่เหลือ 1,300 บาท มีค่ามัดจำกุญแจอีก 500 บาท (คืนเงินค่ามัดจำตอนเช็คเอาท์ค่ะ)
แม่ขอเก็บภาพห้องพักปะป๊า + เมฆก่อน / หมอกหิ้วกระเป๋าเดินต๊อก ๆ ไปห้องพักเรือนแพค่ะ
เปิดประตูเข้ามา ห้องน้ำอยู่ซ้ายมือ (ห้องหมายเลข 1)
ไปห้องพักเราบ้าง - เรือนแพ 100 ปี ห้องซ้ายมือ ห้องแอร์ค่ะ - ขวามือ เรือนแพ 50 ปี เป็นห้องพัดลม (ถ้าจำไม่ผิด 1,000 บาท)
เค้าเสนอจะให้เราเหมา 2 ห้องเลย จะได้ครอบครองเรือนแพทั้งหมด
แต่เนื่องจากเราไปเดือนเมษายน ร้อนมากมาย เกรงจะไม่รอด เลยให้ปะป๊ากับเมฆนอนห้องพักด้านบน
มาดูห้องพักเราบ้าง
เปิดประตูเข้ามา...
ห้องน้ำกว้างขวางดีค่ะ
มีไฟดวงเดียว ตรงกลางห้องเลย เราว่าแสงสว่างน้อยไปหน่อย
ดูมุมนี้ เค้าเก็บเตียงไม่ค่อยเรียบร้อยเนาะ
ประตูซ้ายมือนี้เปิดออกไปไม่ได้ค่ะ
ประตูกระจกสี ๆ นั่นห้องน้ำค่ะ มีโต๊ะเครื่องแป้ง และที่แขวนให้แบบนี้ ...
หน้าห้อง เปิดประตูเข้ามาซ้ายมือเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง , ห้องน้ำ
17.16 น. วันที่ 15 เมษายน 2560
ที่นั่งพักผ่อน นั่งเล่น ส่วนกลางเรือนแพ ใช้ร่วมกันกับเรือนแพอีกหลัง
ด้านหลังเรือนแพที่พักเรา
เดินออกมาห้องพักปะป๊ากับเมฆ ... ได้กลิ่นแปลก ๆ เหมือนกลิ่นอ้วก เราช่วยกันตามล่าหากลิ่นกัน น่าจะอยู่ตรงหัวเตียง
อาจจะเป็นคนพักก่อนหน้าเราฝากไว้... แล้วคงไม่ได้เปลี่ยนผ้ารองที่นอน เลยไปคุยกับน้องเค้าขอย้ายห้อง
ย้ายมาห้อง 3 ค่ะ โชคดีที่มีลูกค้าโทร. มาขอยกเลิกเข้าพัก เราเลยได้ห้องนี้แทน
ซุ้มที่นั่งเล่น ใกล้ทางเดินลงแพ ใครจะกินอาหารเช้าตรงนี้ก็ได้ค่ะ
ที่ริมน้ำสะแกกรังนี้ เค้ายังอาศัยอยู่ในเรือนแพกันอยู่ค่ะ
ห้องพักปะป๊าอยู่ขวามือสุด ห้องที่ 3
มุมนี้ ถ่ายจากสะพานเดินไปเรือนแพ
ซูม ซูม
17.57 น. นักท่องเที่ยวที่พักเรือนแพ 50 ปี พายเรือเล่น เรือของบ้านอิงน้ำรีสอร์ทนี่ล่ะค่ะ
กระชังเลี้ยงปลา
18.03 น.
ที่จอดรถจำกัด
จากหน้าที่พัก ขับรถตรงขึ้นไป เราจะไปวัดอุโปสถารามกันค่ะ
วัดอุโปสถาราม
เดิมชื่อวัดโบสถ์มโนรมย์ ชาวบ้านเรียกว่า วัดโบสถ์ เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมน้ำสะแกกรังในเขตเทศบาลเมือง
จากตลาดสดเทศบาล มีสะพานข้ามแม่น้ำไปยังวัดอุโปสถาราม ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ
สิ่งที่น่าสนใจในวัดได้แก่ จิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ และวิหาร เป็นภาพเขียนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
เนื่องจากปี 2558 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา
โดยเฉพาะในเดือนเมษามหามงคล ชาวจังหวัดอุทัยธานีได้ร่วมมือกันทาสีบ้านเรือน (ส่วนใหญ่) ในตัวเมือง
เป็นสีม่วงแลดูสวยงาม พร้อมเพรียง และเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี
แพโบสถ์น้ำ สร้างขึ้นเพื่อใช้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้นเมืองอุทัยธานีในปี พ.ศ. 2499
ปัจจุบัน ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและงานบุญต่าง ๆ
เดี๋ยวเดินข้ามสะพานนี้ไปตลาดกันค่ะ
มณฑปแปดเหลี่ยม สถาปัตยกรรมแบบยุโรปสูงสองชั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง จากประวัติที่เล่าต่อกันมาเล่าว่า
มณฑปนี้สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2442 โดย หลวงพิทักษ์ภาษา เพื่อถวายแก่ พระครูอุไททิศธรรม เจ้าอาวาสวัดอุโบสถารามในขณะนั้น
เพื่อให้ท่านจำพรรษา แต่ทว่าพระครูอุไททิศธรรมได้มรณภาพลงเสียก่อน
มณฑปแห่งนี้จึงถูกใช้เป็นที่ทำศพและเป็นที่ประดิษฐานอัฐิธาตุพร้อมข้าวของเครื่องใช้ของท่านแทน
ถ่ายดอกหญ้าอย่างตั้งใจ
เจดีย์สามสมัย ที่บริเวณด้านหลังพระวิหาร เจดีย์ทั้งสามองค์ มีรูปแบบที่แตกต่างกัน เริ่มจากเจดีย์ทรงระฆังเป็นศิลปะแบบอยุธยา
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองซึ่งเป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ และเจดีย์ทรงระฆังเหลี่ยมศิลปะแบบผสมผสานระหว่างอยุธยาและรัตนโกสินทร์
ตั้งเรียงรายอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน ถึงแม้ว่าเจดีย์สามองค์นี้จะมีชื่อเรียกว่าเจดีย์สามสมัย
แต่จากการสันนิษฐานพบว่า เจดีย์ทั้งสามองค์นี้ถูกสร้างขึ้นพร้อมกันในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ซ้ายมือ - วิหาร , ขวามือ - โบสถ์
Create Date : 26 กรกฎาคม 2560 |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2560 5:22:42 น. |
|
52 comments
|
Counter : 3760 Pageviews. |
|
|
ตามมาเที่ยว
ชมธรรมชาติด้วยคนค่ะ
จังหวัดอุทัยธานี แอนยังไม่เคยไป
ซักครั้งเลยค่ะ