เที่ยวเมืองจันท์ - อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล, ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ยังไม่เข้าที่พักนะคะ หมุดหมายต่อไป...อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธิ
ครั้งนี้ ตั้งใจมาก ต้องมาให้ได้ มาจันทบุรีหลายรอบไม่ถึงซักที
14.35 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2560
แผนที่
ประวัติอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี
ชุมชนคาทอลิกจันทบุรี ถือกำเนิดจากกลุ่มคาทอลิกชาวญวน 130 คน อพยพหนีภัยจากการเบียดเบียนศาสนาในประเทศเวียดนามมาตั้งภูมิลำเนาที่จันทบุรี ก่อนปี พ.ศ. 2254 ปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ สมัยกรุงศรีอยุธยา
วัดหลังที่ 1 พ.ศ. 2254 - 2295 (ค.ศ. 1711 - 1752) ระยะเวลา 41 ปี
ในปี พ.ศ. 2255 บาทหลวงเฮิ้ตได้สร้างวัดหลังที่ 1 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี สมัยบาทหลวงกาเบรียลเป็นเจ้าอาวาส ได้เกิดเหตุความไม่สงบในหมู่บ้านคอทอลิก ทางการไม่ไว้วางใจ ทำให้คาทอลิกบางส่วนถูกส่งไปอยู่กรุงศรีอยุธยา บางส่วนหลบหนีการจับกุมไปอยู่ในป่า ส่วนคุณพ่อกาเบรียล ตกลงใจอยู่ดูแลคาทอลิกที่ส่งไปอยู่กรุงศรีอยุธยา วัดหลังที่ 1 จึงถูกทิ้งให้ว่างเปล่า 20 ปี (พ.ศ. 2275 - 2295) แต่มีหลักฐานว่า คุณพ่อกาเบรียลได้กลับมาจันทบุรี มรณภาพและฝังไว้ที่สุสานของวัด เมื่อปี พ.ศ. 2285
อนุสาวรีย์แม่พระ ตั้งอยู่บริเวณหน้าอาสนวิหาร อนุสาวรีย์น้ำพุประดิษฐานแม่พระองค์อุปถัมภ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในโอกาส สมโภชอาสนวิหาร ครบ 100 ปี (พ.ศ. 2552) และฉลอง 300 ปี ชุมชนคริสตชนอาสนวิหารฯ จันทบุรี
วัดหลังที่ 2 พ.ศ. 2295 - 2377 (ค.ศ. 1752 - 1834) ระยะเวลา 82 ปี
ในปี พ.ศ. 2295 บาทหลวงเดอกัวนา เจ้าอาวาสได้รวบรวมคริสตชนที่กระจัดกระจายมารวมอยู่ที่เดิมและได้สร้างวัดหลังที่ 2 ขึ้นโดยใช้ไม้กระดานกับไม้ไผ่และมุงหลังคาด้วยใบตาล มีคริสตชนในช่วงนี้ประมาณ 200 คน ปี พ.ศ. 2299 - 2343 บาทหลวงจาง (ชาวจีน) เป็นเจ้าอาวาส เป็นช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาต่อด้วยกรุงธนบุรีจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
วัดหลังที่ 3 พ.ศ. 2377 - 2398 (ค.ศ. 1834 - 1855) ระยะเวลา 21 ปี
ปี พ.ศ. 2377 บาทหลวงมัทธีอัน โด เจ้าอาวาส กับบาทหลวงเคลมังโช๋ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ร่วมกันสร้างวัดหลังที่ 3 ขึ้น โดยย้ายข้ามมาอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี อันเป็นสถานที่ตั้งวัดหลังปัจจุบันสร้างด้วยไม้กระดานอันเก่า ๆ และไม้ไผ่ มีคริสตชนประมาณ 1,000 คน
วัดหลังที่ 4 พ.ศ. 2398 - 2448 (ค.ศ. 1855 - 1925) ระยะเวลา 48 ปี
ปี พ.ศ. 2381 บาทหลวงรังแฟง เป็นเจ้าอาวาส เป็นช่วงเวลาที่ชุมชนคาทอลิกเติบโตขึ้นมาก มีสัตบุรุษมากกว่า 1,000 คน วัดหลังที่ 3 นี้ทรุดโทรมและคับแคบ พระสังฆราชปัลเลอกัวช์ จึงได้ให้ก่อสร้างวัดหลังที่ 4 ขึ้นในปี พ.ศ. 2398 วัดหลังนี้มีลักษณะเป็นอาคารถาวร ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 21 ปี ในตอนนั้นมีคริสตชนประมาณ 1,500 คน
วัดหลังที่ 5 พ.ศ. 2448 - ปัจจุบัน (ค.ศ. 1905 - ปัจจุบัน) มากกว่า 110 ปี
วัดหลังที่ 5 นี้ มีความกว้าง 20 เมตร ยาว 60 เมตร เริ่มใช้ประกอบพิธีมิสซาในปี พ.ศ. 2450 ซึ่งวัดยังไม่เรียบร้อยดีต้องจัดหาส่วนประกอบต่าง ๆ ตั้งแต่ระฆังวัด นาฬิกา พระประธาน องค์รูปปั้นนักบุญ กระจกสี มาประดับ ปี พ.ศ. 2452 ได้ทำการติดตั้งนาฬิกาเรือนใหญ่ เส้นรอบหน้าปัด 4.70 เมตร
ในปี พ.ศ. 2483 ประเทศไทยเกิดกรณีพิพาทอินโดจีนจำเป็นต้องเอายอดโดมของหอทั้งสองออก เพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายในการโจมตีทางอากาศ
ปี พ.ศ. 2548 บาทหลวงยอด เสนารักษ์ เป็นเจ้าอาวาส มีสัตบุรุษ 8,376 คน ได้เตรียมงานฉลอง 300 ปี ชุมชนแห่งความเชื่อในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ได้ทำพิธียกยอดโดมทั้งสองข้างติดตั้งบนอาคารอาสนวิหารฯ ทำให้อาสนวิหารณ จันทบุรี มีความสมบูรณ์เหมือนเดิมเมื่อ 100 ปีที่แล้ว และเพื่อเป็นการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบโกธิคอีกด้วย
ที่ใต้โดมฝั่งขวาจะมีนาฬิกาเรือนใหญ่ มีเส้นรอบหน้าปัด 4.70 เมตร ติดตั้งในปี พ.ศ. 2452
วัดไทย วัดฝรั่ง ก็มีข้อห้ามเหมือน ๆ กันเนาะ
ส่วนที่สวยที่สุดของโบสถ์ด้านในจะเป็นบริเวณเวทีด้านหน้า ประดับด้วยรูปปั้นพระนางมารีอา นักบุญ และไม้กางเขน อันเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์
ปี พ.ศ. 2455 ใส่กระจกสีเหนือหน้าต่างตอนสัตบุรุษนั่ง
ปี พ.ศ. 2457 ใส่กระจกสีภาพนักบุญต่าง ๆ บริเวณเหนือพระแท่นและตั้งรูปนักบุญยออากิม และนักบุญอันนา
แม่พระประดับพลอย องค์นี้สร้างขึ้นจากสิ่งบริสุทธิ์ 2 ส่วนคือ
1. วัตถุบริสุทธิ์ ได้แก่ วัตถุดิบที่นำมาสร้างขึ้นเป็นองค์แม่พระ ประกอบด้วย ทองคำบริสุทธิ์ เงินบริสุทธิ์ และพลอยบริสุทธิ์ นำมาประกอบเข้าด้วยกัน ทุกชิ้นส่วนมีความสำคัญและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
2. ใจบริสุทธิ์ ได้แก่ การส่วนร่วมของทุกคนในชุมชนบริจาควัตถุดิบที่จะสร้าง "แม่พระประดับพลอย" เพื่อเทิดพระเกียรติให้เหมาะสมกับแม่พระ
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552 พิธีเสกแม่พระประดับพลอย
ภาพนี้ก็ประดับพลอยค่ะ
อาสนวิหารฯ ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี 2542 ด้วยค่ะ
เดี๋ยวเดินข้ามสะพานนิรมลไปชุมชนริมน้ำจันทบูรค่ะ
มองย้อนกลับไป โบสถ์อยู่ด้านหลัง
แม่น้ำจันทบุรี
เดินเล่นเรื่อย ๆ นะคะ
ณ จุดนี้ ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูป
โปสการ์ด...ลืมซื้อได้ไงเนี่ย
ถ้าคนชอบของกิน ที่นี่ไม่ได้มีของกินมากมาย ถ้าชอบถ่ายรูป ก็แล้วแต่อีกล่ะค่ะ มุมใครมุมมัน ชอบไม่เหมือนกันเนาะ
อีกหน่อย อาจจะมีภาพ street art ตรงนี้
บ้านขุนอนุสรสมบัติ บ้านเรียนรู้ชุมชน
มุมถ่ายรูป
บ่อน้ำโบราณ
บันไดขึ้น-ลง
อีกมุม
อีกมุมถ่ายรูป
คนไม่ค่อยเยอะค่ะ
บ้านโภคบาล
โรงเจเทียงเช็งตึ๊ง
บ้านกลุ่มอนุรักษ์ จะมีป้ายติดไว้หน้าบ้านค่ะ
ทุเรียนพวงมณี ไม่ได้ถามราคามา เราเคยกินที่ระยอง อร่อยดีนะ
15.58 น. สมควรแก่เวลา...เดินข้ามสะพานกลับค่ะ รถจอดไว้ใกล้โบสถ์
ขออภัยค่ะ รูปเยอะทุกตอนเลย
Create Date : 31 มกราคม 2561 |
Last Update : 31 มกราคม 2561 15:10:58 น. |
|
39 comments
|
Counter : 3973 Pageviews. |
|
|
อาสนวิหารฯแห่งนี้
รินยังไม่เคยไปเลย สวยมากต้องไปตอนวันฟ้าใสๆ นะคะจะได้ตัดฉากด้านหน้าด้วย
ภายในก็งามมาก เคยมีเพื่อนเขาไปจองรร. เพื่อถ่ายมุมกว้างของที่นี่โดยเฉพาะ
แสงเย็นมาก็งามเหมือนกันค่า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog