กาญจนบุรี...ครั้งนี้ถึงซะที สังขละบุรี >>> ทองผาภูมิ ตอนที่ ๒
กาญจนบุรี...ครั้งนี้ถึงซะที สังขละบุรี >>> ทองผาภูมิ ตอนที่ ๒
สวัสดีเช้าวันครูค่ะ วันนี้เด็กๆ ไม่ได้ไปโรงเรียนกันเนอะ...ต่อจากตอนที่แล้วเลยนะคะ ขับรถออกจากสามประสบรีสอร์ท วิ่งมาเจอสะพาน...มองตรงไปด้านซ้ายมือ เห็นสะพานมอญเลยให้ปะป๊าจอดรถ ลงไปยืนถ่ายรูปอีก...ความเดิมตอนแรก...
กาญจนบุรี...ครั้งนี้ถึงซะที สังขละบุรี >>> ทองผาภูมิ ตอนที่ ๑
เห็นนกกำลังเหินฟ้า...อยากได้ กดๆ ไปมือสั่นตื่นเต้นๆ ได้มาแบบสั่นๆ แต่ชอบนะ สุดปลายเลนส์แล้วค่ะ ที่ 270 mm.
ทั้งแบคกราวด์ ทั้งสะพานมอญ...
ขับมาอีกหน่อย...มีจุดชมวิว มองเห็นสะพานมอญอย่างชัดเจน เฟอะฟะอีกแล้ว ก็ไม่เคยมาเนาะ ใครจะรู้ว่าถ่ายจากตรงนี้ก็ได้...
เค้ากางเต็นท์กันแบบนี้เลยค่ะ ใต้อาคาร บนอาคาร...
ด้านหน้าสุดที่สามารถมองเห็นสะพานมอญแบบไม่มีอะไรขวางกั้น...มีเต็นท์จับจองเรียบร้อยแล้ว
อีกชุดใหญ่นะคะ อุตส่าห์เดินเบียดๆ เต็นท์เค้าขึ้นมา...เจ้าของเต็นท์ไม่อยู่ค่ะ
สีเหลืองทองกับสีฟ้า...
มุมนี้บ้าง...
ลาสะพานมอญ...ด้วยภาพลีลาวดีสีชมพู...
๑๕.๕๑ น. มาถึงเจดีย์พุทธคยาค่ะ
เจดีย์พุทธคยา เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ บนยอดเจดีย์ประดับด้วยฉัตรทองคำหนัก ๔๐๐ บาท เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา หลวงพ่ออุตตมะให้้สร้างจำลองขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้า มีขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร ไว้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชน เจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เดินหามุมไปมา...ก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่
ขึ้นไปด้านบนกันค่ะ
กราบพระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่ออุตตมะตรงนี้ค่ะ
ขึ้นเดินวนรอบเจดีย์กันค่ะ
เดินลงมาแล้ว...
มุมนี้สว่างหน่อย...แต่หลบป้ายทางไปสุขาไม่พ้นค่ะ เยอะเกิน...
บริเวณใกล้กับเจดีย์พุทธคยาจำลอง มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวกเครื่องประดับ ผ้าแป้งพม่า เครื่องไม้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีการจัดงานคล้ายวันเกิดหลวงพ่ออุตตมะ ในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การแข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงของชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นเช่น การรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และในงานประชาชนจะพร้อมใจกันแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญ และจัดเตรียมสำรับอาหารทูนบนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด
ได้ที่ใส่มีดมาอัน เค้าบอก ๑๐๐ ต่อเหลือ ๙๐ บาท มาเจอที่ตลาดบ้านอีต่อง ๑๙๙ บาท
ลาเจดีย์พุทธคยา ด้วยภาพนี้ค่ะ เหมือนหอระฆัง
๑๖.๒๕ น. ถึงวัดวังก์วิเวการามค่ะ
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ ๒๒๐ กิโลเมตร
ในระยะแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ ๓ สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คืออำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนที่จะยกฐานะเป็น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. ๒๕๐๘
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งบริเวณหมู่บ้านชาวมอญทั้งหมด ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน หลวงพ่ออุตตมะได้จัดสรรที่ดินของวัดวังก์วิเวการามให้ชาวบ้านครอบครัวละ ๓๐ ตร.ว. ปัจจุบันหมู่บ้านชาวมอญมีพื้นที่ราว ๑,๐๐๐ ไร่เศษ มีผู้อาศัยราว ๑,๐๐๐ หลังคาเรือน ชาวบ้านเกือบทั้งหมดจัดเป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าซึ่งไม่มีบัตรประชาชน หาเลี้ยงชีพโดยการปลูกพืชผักสวนครัวตามชายน้ำ ทำประมงชายฝั่ง คนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งนิยมเป็นลูกจ้างในโรงงานเย็บเสื้อที่อยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน
ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันพระอุโบสถหลังเก่าจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี
พระอุโบสถ เสาเป็นสแตนเลส
ระเบียงเป็นหินอ่อน
สรีระศพของหลวงพ่ออุตตมะในปราสาทเก้ายอด
ภาพสุดท้ายของบล็อกนี้ค่ะ
บล็อกหน้า...พระอาทิตย์ตกดินที่ป้อมปี่ จะไ้ด้ภาพสวยเหมือนเค้าว่ามั้ย...
Create Date : 16 มกราคม 2555 |
Last Update : 27 มีนาคม 2557 21:49:03 น. |
|
63 comments
|
Counter : 3238 Pageviews. |
|
|
|
ชอบตั้งแต่ภาพแรกเลยค่ะ
ภาพในมุมกว้างๆ ดูแล้วสบายตา สบายใจ