HR Management and Self Leadership
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
16 ธันวาคม 2552

ขึ้นเงินเดือน เขาทำกันอย่างไรบ้าง ตอนจบ


หลังจากที่ได้ เขียนเรื่องของการขึ้นเงินเดือนมาให้อ่านถึง 3 ตอนแล้ว ก็มาถึงตอนจบกันแล้วครับ นอกจากวิธีการขึ้นเงินเดือนหลักๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีวิธีการขึ้นเงินเดือนที่ดัดแปลงไปโดยใช้วิธีการแปลกๆ ใหม่ๆ มากมาย แต่ทั้งนี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันก็คือ เพื่อตอบแทนผลงานของพนักงานที่ผ่านมานั่นเอง


วิธีการขึ้นเงินเดือนทั้งในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ และ ขึ้นเป็นตัวเงินคงที่ หรือจะเป็นแบบ Merit Grid นั้น ที่ผมได้เล่าให้ฟังจะเป็นตัวอย่างของการขึ้นเงินเดือนแบบตัวเลขอัตราเดียว เท่านั้น (ถ้าลองกลับไปดูตารางการขึ้นเงินเดือน) แต่ในทางปฏิบัติ บริษัทส่วนใหญ่จะทำออกมาเป็นช่วงไว้ สำหรับให้เกิดความยืดหยุ่นในการพิจารณาขึ้นเงินเดือนพนักงานแต่ละคนมากขึ้น ไปอีก เช่น


ถ้าขึ้นเงินเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์ พนักงานคนใดที่ได้ผลงานในระดับ A จะได้ขึ้นในช่วง 9-11% หรือถ้าขึ้นเป็นตัวเงินคงที่ ก็เช่น พนักงานที่ได้ A จะได้เงินขึ้นในช่วง 1,500 – 2,000 บาท เป็นต้น และทุกระดับผลงานก็จะกำหนดขึ้นเป็นช่วงของการขึ้นเงินเดือน


วิธีนี้จะช่วยให้ผู้จัดการที่ทำหน้าที่ตัดสินใจขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน แต่ละคนมีช่องในการพิจารณาให้รางวัลพนักงานได้มากขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ในช่วงที่กำหนดไว้นะครับ ดังนั้นวิธีนี้ถ้าพนักงานสองคนได้ผลงาน C เหมือนกัน ก็อาจจะได้รับพิจารณาขึ้นเงินเดือนในอัตราที่แตกต่างกันได้ แต่ก็อยู่ในช่วงที่กำหนดไว้


นอกจากวิธีการเพิ่มเป็นช่วงดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีบางแห่งใช้เวลาเข้ามาเป็นเครื่องมือในการขึ้นเงินเดือนอีกด้วย กล่าวคือ พนักงานคนใดที่ได้ผลงานในระดับ A นอกจากขึ้นเงินเดือนในอัตราสูงที่สุดแล้ว ยังขึ้นถี่กว่าคนที่ได้ผลงานด้อยกว่า เช่น อาจจะขึ้นเงินเดือนทุก 6 เดือน (ไม่ต้องรอครบปี) แล้วก็ค่อยๆ ยืดเวลาออกไปตามระดับผลงานที่ได้ จนถึงพนักงานที่ได้ผลงานระดับแย่ที่สุด ก็ขึ้นน้อยที่สุดและแถมยังขึ้น 18 เดือนครั้งอีกด้วย เป็นไงครับวิธีนี้ เน้นการให้รางวัลด้านผลงานอย่างเต็มที่เลย


การที่จะเลือกใช้วิธีการขึ้นเงินเดือนแบบใดนั้น โดยปกติถ้าเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งไปแล้ว ก็อาจจะเปลี่ยนยากสักหน่อย เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของพนักงาน ถ้ามีอะไรไปกระทบนิดเดียวก็อาจจะเป็นเรื่องขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือ พิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพนักงานของเราเอง และอย่าลืมเรื่องการสื่อความเรื่องนี้โดยเฉพาะในเรื่องของหลักการ ให้พนักงานเข้าใจว่าบริษัทของเรามีวิธีการในการขึ้นเงินเดือนอย่างไร ยุติธรรมอย่างไร เอาให้ชัดเจน ให้พนักงานเข้าใจถึงที่มาที่ไปมากที่สุด ปัญหาก็จะเกิดน้อยลงครับ


สิ่งสำคัญนอกจากวิธีการขึ้นเงินเดือนในรูปแบบต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ก็คือ งบประมาณที่จะใช้ในการขึ้นเงินเดือนในแต่ละปี ก็ต้องถูกพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยดูจากอัตราในตลาดว่าเขาขึ้นกันประมาณเท่าไร และสภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร อาทิ ค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งความสามารถในการจ่ายของบริษัทเองด้วย


เมื่อได้งบประมาณมาแล้ว ทางฝ่ายบุคคลเองก็ต้องมานั่งคำนวณและสร้างตารางการขึ้นเงินเดือน (ตามตัวอย่างที่ผมได้เสนอไป) เพื่อใช้ตารางนี้กับทุกฝ่ายงานในบริษัท จะได้เกิดความเป็นธรรมกับทุกหน่วยงาน และเป็นการบริหารงบประมาณการขึ้นเงินเดือนให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล สูงสุด แม้ว่าบางปีจะได้งบประมาณมาน้อยนิดก็ตาม




Create Date : 16 ธันวาคม 2552
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 7:56:52 น. 0 comments
Counter : 1403 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]