ช่วงปลายปีนี้ ผมได้ยินคำว่า Employee Engagement บ่อยขึ้นมาก ไม่ว่าจะไปพบลูกค้าที่ไหน หรือบริษัทอะไร ก็มักจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ว่าการที่พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรจริงๆ แล้ว จะเกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง และเกิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ หรือเป็นเพียงแค่ความเชื่อ ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงในการบริหารทรัพยากรบุคคล

จริงๆ แล้วแค่คำว่า Employee Engagement คำเดียว ก็มีหลายๆ คนเข้าใจผิดกันไปเยอะมากนะครับ เพราะคิดแค่เพียงว่า การที่พนักงานรู้สึกผูกพันต่อองค์กรแปลง่ายๆ ว่า พนักงานอยู่ทำงานกับองค์กรนานๆ และการที่มีอัตราการลาออกน้อยๆ ก็แปลว่าพนักงานมี Engagement มากแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ เพราะการที่พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กรจริงๆ แล้วนั้น นอกจากจะอยู่ทำงานไม่ออกไหนแล้ว สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก็คือ ผลงานขององค์กรจะต้องดีขึ้นด้วย และมีความพยายามที่จะสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับองค์กรอย่างจริงจัง นี่แหละถึงเรียกกว่าพนักงานมี Engagement จริงๆ ลองมาดูกันว่าองค์กรที่พนักงานมี Engagement จริงๆ จะเกิดผลอย่างไรกันบ้างครับ

ผลที่จะกล่าวถึงนี้เป็นผลจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งของ Bruce Rayton University of Bath School of Management ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการวิจัยองค์กรต่างๆ ที่มีผลคะแนน Engagement สูงๆ ว่า ผลที่ตามมามีอะไรบ้าง

• ผลกำไรขององค์กรสูงขึ้น ผลการวิจัยอันแรกก็คือ องค์กรที่พนักงานมีความรู้สึกผูกพันสูงๆ จะมีผลกำไรที่สูงขึ้น 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับองค์กรที่พนักงานที่มีคะแนนความผูกพันในระดับต่ำ

• ยอดขายขององค์สูงขึ้น องค์กรที่พนักงานรู้สึกผูกพันจะมียอดขายที่สูงขึ้นกว่าองค์กรที่พนักงานไม่ผูกพันอยู่ 2.5 เท่า

• Productivity สูงขึ้น พนักงานที่รู้สึกผูกพัน จะสร้างผลงาน และสร้าง Productivity ให้กับองค์กรสูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับองค์กรที่มีคะแนนความผูกพันต่ำกว่า

• มี Innovation มากขึ้น พนักงานจะมีไอเดีย และความคิดใหม่ๆ มากขึ้นอีก 3 เท่าตัว เมื่อเทียบองค์กรที่มี engagement score ต่ำ

• มี Turnover ต่ำลง องค์กรที่พนักงานมี Engagement score สูงจะมีอัตราการลาออกของพนักงานต่ำกว่าถึง 40% เมื่อเทียบกับองค์กรที่มีคะแนน engagement score ต่ำกว่า

• ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น พนักงานจะสามารถทำงานโดยมีความผิดพลาดที่น้อยลงถึง 35%

• อุบัติเหตุน้อยลง องค์กรที่พนักงานมีความผูกพันสูงนั้น จะมีอัตราในการเกิดอุบัติเหตุน้อยว่าองค์กรที่มีความผูกพันต่ำ ถึง 62%

เห็นผลการวิจัยแบบนี้แล้ว ผมเชื่อว่าผู้บริหารและฝ่ายบุคคลขององค์กรต้องรู้สึกว่ามันเลิศมาก กับการที่สามารถสร้าง engagement ให้เกิดขึ้นกับพนักงานให้ได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้น การสร้าง Engagement นั้นยากพอสมควรเลยครับ ที่บอกว่ายากก็เพราะ งานนี้ไม่ใช่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งในองค์กร แต่เป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงาน และของผู้บริหารทุกคนทุกระดับที่ต้องร่วมกันในกันสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้น

หลายองค์กรที่ไม่สามารถดึงคะแนน Engagement ของตนเองขึ้นจากปีที่ผ่านมาได้เลย ก็เพราะว่า ผู้บริหารระดับสูงไม่เชื่อผลการทำ Engagement แล้วก็เลยไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่เปลี่ยนแปลงตามสิ่งที่ได้รับคำแนะนำมา ผลก็คือ พนักงานยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก เพราะเมื่อไหร่ที่ท่านลงมือสำรวจ Engagement ของพนักงาน พนักงานจะรู้สึกทันทีว่าองค์กรกำลังจะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคต แล้วผู้บริหารกลับไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย คะแนน Engagement มีปีถัดไปก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก

พอคะแนนน้อย สิ่งที่ผลการวิจัยบอกว่าจะดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ก็จะไม่เกิดขึ้นในองค์กรของเราเลยครับ