HR Management and Self Leadership
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
22 ตุลาคม 2553

ต้นปีหน้า (2011) จะขึ้นเงินเดือนกันเท่าไรดี

ช่วงนี้มีข้อมูลผลการสำรวจค่าจ้างเงินเดือนของหลายค่ายเริ่มทยอยออกมาให้ได้ทราบข้อมูลกันบ้างแล้วนะครับ ผมคิดว่าผู้อ่านหลายท่านก็คงจะได้ยินได้ฟังตัวเลขกันมาพอสมควร ว่าการขึ้นเงินเดือนในปีหน้านี้จะขึ้นกันเท่าไรดี ฝ่ายบุคคลเองก็จะต้องนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการนำเสนอให้กับผู้บริหารเพื่อพิจารณาอัตราการขึ้นเงินเดือนตามผลงานประจำปี

ผมเองก็ช่วยทางสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทยทำการสำรวจค่าจ้างเงินเดือนและสวัสดิการอยู่เช่นกัน และก็เห็นตัวเลขออกมาแล้วเช่นกัน ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้น ก็แทบจะไม่แตกต่างกับสำนักอื่นๆ ที่เขาสำรวจกันเท่าไรนัก อยู่ที่ประมาณ 5.5.-6%

แต่อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือ ตัวเลขเหล่านี้เชื่อถือได้มากน้อยสักเพียงใด หรือจะนำไปใช้ได้เลยหรือเปล่า อันนี้ท่านที่ทำงานฝ่ายบุคคลจะต้องนำไปพิจารณาให้ดีนะครับ ผมคิดว่าไม่ควรจะ copy ตัวเลขไปใช้เลยนะครับ เพราะมันยังมีอีกหลายปัจจัยมากทีเดียวที่มีผลต่ออัตราการขึ้นเงินเดือนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาวะเงินเฟ้อ หรือเรื่องของค่าครองชีพ และที่สำคัญมากก็คือความสามารถในการจ่ายของบริษัทเองว่ามีสักเท่าไร และที่ลืมไม่ได้เลยอีกเรื่องก็คือ ระดับในการจ่ายเงินเดือนของเราเมื่อเทียบกับตลาดว่า อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า สูงกว่า หรือพอๆ กับตลาด ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยกำหนดตัวเลขอัตราเงินเดือนของบริษัทให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นไปอีกครับ

สาเหตุที่ผมย้ำว่าไม่ควรจะไปเชื่อตัวเลขที่หลายๆ สำนักเขาสำรวจมาก็เพราะว่า ตัวเลขที่ได้จากการสำรวจนั้นเป็นตัวเลขที่เกิดจากการประมาณการ การพยากรณ์ โดยอาศัยตัวเลขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำนายผล ผลจากการทำนายก็เลยไม่ค่อยตรงกันเท่าไรนักในแต่ละสำนักที่ทำการสำรวจค่าจ้างเงินเดือน สิ่งที่นักบริหารบุคคลจะต้องนำไปพิจารณาก็มีดังนี้ครับ


- แนวโน้มในการขึ้นเงินเดือนของตลาด โดยดูจากอัตราการขึ้นเงินเดือนที่ผ่านมาสัก 5 ปี ว่ามีลักษณะอย่างไร ตัวเลขนี้ใช้เป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้นเท่านั้น


- พิจารณาถึงอัตราค่าครองชีพว่าเพิ่มสูงขึ้นสักกี่เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขนี้จะเป็นตัวบอกว่าราคาสินค้าโดยเฉลี่ยนั้นขึ้นจากปีที่ผ่านมาเท่าไร จริงๆ แล้วตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคนี้ เป็นตัวเลขที่ใกล้ตัวพนักงานที่กินเงินเดือนมากที่สุด เพราะมีผลต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของตัวพนักงานเอง ดังนั้นตัวเลขนี้จึงเป็นตัวเลขที่สำคัญมาก บางแห่งใช้เป็นตัวเลขขั้นต่ำที่จะขึ้นเงินเดือนให้พนักงานก็มีนะครับ เพราะให้เหตุผลว่าขึ้นให้เท่ากับอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา บ้านเรามีอัตราค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากอันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจ ก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้าใช้สักเท่าไร เพราะมันสูงเกิน


- อัตราการจ่ายเงินเดือนของบริษัทเทียบกับตลาด ตัวเลขนี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ แต่บริษัทส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีการเปรียบเทียบการจ่ายเงินเดือนของบริษัทกับตลาดสักเท่าไร ก็เลยไม่รู้ว่า ขณะนี้เรากำลังนำหน้า หรือ เท่ากับ หรือล้าหลังตลาดทั่วไปอยู่ในการจ่ายเงินเดือน ถ้าเราสามารถหาตัวเลขนี้ได้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วบริษัทเราจ่ายเงินเดือนล้าหลังตลาดอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถทำให้เราพิจารณาอัตราการขึ้นเงินเดือนได้ชัดเจนขึ้น เช่น ถ้าเราจ่ายต่ำกว่าตลาดไปซัก 2% ถ้าตลาดทำนายว่าปีหน้าน่าจะขึ้นกันที่5% เราก็อาจจะพิจารณาขึ้นเงินเดือนที่เฉลี่ยที่ 7% เพื่อให้เงินเดือนของเราทัดเทียมกับตลาดได้มากขึ้น ถ้าเราไม่มีตัวเลขเปรียบเทียบการจ่ายของเรากับตลาดมาพิจารณา แม้ว่าเราจะขึ้นเงินเดือนเท่ากับที่เขาทำนายไว้ แต่ถ้าเราจ่ายต่ำกว่าตลาด เราก็จะยังคงต่ำกว่าตลาดอยู่วันยังค่ำ เพราะคนอื่นเขาก็ขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่เขาจ่ายสูงกว่าเรา พอขึ้นเงินเดือนแล้ว ก็ยังสูงกว่าเราอยู่ดี ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำไมบริษัทของเรายังไม่สามารถแข่งขันในการจ่ายค่าจ้างเงินเดือนได้สักที ก็เพราะเราไม่ได้มีการเทียบอัตราการจ่ายของเรากับตลาดไว้ก่อนนั่นเองครับ


- ตัวเลขสุดท้ายก็คือ ความสามารถในการจ่ายของบริษัทเองครับ ทุกตัวเลขที่พิจารณามาทั้งหมด จะมาตกม้าตายก็ตรงจุดนี้แหละครับ เพราะบางครั้งฝ่ายบุคคลนำเสนอตัวเลขอย่างดีมีเหตุผล มีที่มาที่ไป แต่บริษัทไม่มีเงินพอที่จะขึ้นให้ตามนั้น มันก็จบครับ แต่ก็อย่าให้จบแค่นั้นนะครับ อยากให้เก็บข้อมูลการขึ้นเงินเดือนของเราไว้ เพื่อที่ปีหน้าเรามีความสามารถในการจ่ายมากพอ จะได้พิจารณาตัวเลขที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้การจ่ายของเราทัดเทียมกับตลาดครับ


ไว้ผมได้ข้อสรุปกับตัวเลขเรื่องของการขึ้นเงินเดือนของทาง PMAT ที่ผมช่วยอยู่เมื่อไร ผมจะสรุปออกมาให้เป็นตัวเลขทางการครับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำตัวเลขไปใช้อ้างอิงได้ครับผม


Create Date : 22 ตุลาคม 2553
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 5:52:49 น. 0 comments
Counter : 1307 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]