เจ้าหญิงแห่งเวลส์
เจ้าชายอาเทอร์แห่งเวลส์ทรงสิ้นพระชนย์แต่เยาว์วัย 2 เมษายน พศ 2045 ทำให้เจ้าหญิงแคทเธอรีนต้องกลายเป็นหม้าย สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษเริ่มหนักใจเพราะสินสมรสเดิมต้องตกเป็นของพระบิดาของเจ้าหญิงแคทเทอรีน จึงให้พระนางเสกสมรสกับเจ้าชายเฮนรีซึ่งพระนางสูงวัยกว่าเจ้าชายถึง 5 ปี การเสกสมรสครั้งนี้พระสันตปาปาทรงยินยอม เพราะเนื่องจากความสัมพันธ์ของเจ้าหญิงแคทเทอรีนกับเจ้าชายอาเทอร์ไม่มีอะไรมากมาย การเสกสมรสครั้งนี้นับเป็นการแสดงอำนาจของพระสันตปาปาที่มีเหนือกษัตริย์ในสมัยนั้น
- สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ
การอภิเษกจัดขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายน พศ 2052 7สัปดาห์หลังจากพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ และได้เข้าพิธีสวมมงกุฎเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พระนางได้รับการชื่นชอบจากชาวอังกฤษอย่างมากในตอนที่พระนางดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเมื่อพระเจ้าเฮนรีได้ยกทัพบุกฝรั่งเศษ นปี พ.ศ. 2056 พระนางทรงอุปถัมภ์โครงการต่างๆแก่คนยากคนจนมากมาย การอภิเษกทำให้ประชาชนมีความสุข แต่พระเจ้าเฮนรีทรงวิตกจากการพยายามมีรัชทายาทชายที่จะครองบัลลังก์ต่อเมื่อพระองค์สวรรคต บุตรพระองค์แรกเป็นธิดาแต่ก็สิ้นพระชนม์แต่ทรงพระเยาว์ คนที่ 2 เป็นพระโอรสคือ เจ้าชายเฮนรีแห่งเวลส์ แต่ก็สิ้นพระชนม์หลังประสูติ 52 วัน ต่อมาก็ให้กำเนิดโอรสอีกพระนามว่า เฮนรี แต่ก็สิ้นพระชนม์ในไม่กี่ชั่วโมง จากนั้นก็ให้กำเนิดพระราชธิดาคือ เจ้าหญิงแมรีซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระชินีนาถแมรีที่1แห่งอังกฤษ เป็นบุตรพระองค์เดียวที่ยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่จนเจ้าหญิงได้ครองราชย์ และบุตรองค์สุดท้ายของพระนางคือพระธิดาและทรงสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ ได้ทรงพิจารณาแล้วว่าการมีพระโอรสเป็นทายาทสำคัญมากเนื่องจากราชวงค์ทิวดอร์เป็นราชวงใหม่และการมีโอรสเป็นลักษณะถูกต้องตามกฎหมาย และอังกฤษเคยมีกษัตริย์ที่เป็นสตรีมาแล้วคือ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาทิลดา และ พระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่1แห่งอังกฤษ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ซึ่งความพินาศของสงครามกลางเมืองก็มีให้เห็นแล้วในสงครามดอกกุหลาบ
ในปี พศ 2063 พระนัดดาของพระนางแคนเธอรีนคือพระเจ้าจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้เดินทางมาที่ลอนดอน และพระนางได้กระตุ้นให้พระเจ้าเฮนรีเจริญสัมพันธไมตรักับสมเด็จพระจักรพรรดิชาลส์ลที่ 5 ซึ่งดีกว่าการเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ภายในเวลา 2 ปีได้ประกาศสงครามกับฝรั่งเศสโดยพระจักรพรรดิได้หมั้นกับเจ้าหญิงแมรี่
- การอภิเษกสมรสเป็โมฆะของพระเฮนรี
ในปี 2068 พระเจ้าเฮนรีได้ตกหลุมรัก แอนน์ โบลีนนางสนองพระโอษฐ์ ในพระราชินีแคทเทอรีน แห่งอรากอนและพระเจ้าเฮนรีต้องการนาง โดยเวลานี้พระนางแคทเทอรีนประสบปัญหาจากการมีบุตร พระเจ้าเฮนรีเริ่มเชื่อว่าการสมรสครั้งนี้ต้องคำสาปและหาคำยืนยันจาก คัมภีร์ ไบเบิล และเอาสาเหตุที่ว่าพระนางแคทเทอรีนเคยอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอาเทอร์แล้วซึ่งเป็นการผิดบัญญัติแห่งพระเจ้า พระองค์ต้องการหย่ากับพระนางแคทเทอรีน แห่งอรากอนพระองค์ได้ส่งคำร้องไปยังพระสันตปาปา แต่พระสันตปาปาทรงไม่ยินยอม เนื่องจากพระนางแคทเทอรีนทรงเป็นพระปิตุจฉาของสมเด็จพระจักรพรรดิชาลส์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตอนนี้พระสันตปาปาได้ถูกครอบงำโดยพระจักรพรรดิชาลส์ลที่ 5 ถ้ายินยอมไปตัวพระสันตปาปาเองอาจไม่ปลอดภัย
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษได้ตั้งศาสนาคริสต์ นิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์ ซึ่งเป็นนิกาย โปรเตสแตนต์ นิกายหนึ่ง 1 ปีต่อมาพระนางแคทเทอรีนทรงถูกขับไล่ออกไปจากพระราชวัง ห้องของพระองค์ต้องตกเป็นของแอนน์ โบลีน
เมื่ออาร์คบิชอปแห่งแคนเตอเบอรี วิลเลียม วอร์แฮม เสด๊จธิวงคต อานุศาสนาจารย์ของตระกูลโบลีน โธมัส แครนเมอร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาร์คบิชอปต่อมา อาร์คบิชอปแห่งแคนเตอเบอรี่ โธมัส เครนเมอร์ได้ประกาศว่า การอภิเษกสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 กับพระนางแคทเทอรีน แห่งอรากอนถือเป็นโมฆะ
ปลายชีวิต
พระเจ้าเฮนรีที่ 8ได้อภิเษกสมรสกับแอนน์ โบลีนที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 25 มกราคม พศ 2076 อาร์คบิชอปแห่งแคนเตอเบอรี่ โธมัส เครนเมอร์ได้ประกาศว่า การอภิเษกสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 กับพระนางแคทเทอรีน แห่งอรากอนถือเป็นโมฆะ พระเจ้าเฮนรีมิทรงประทานตำแหน่งใดแก่พระนางแคทเทอรีนเลย ในพ.ศ. 2078 พระนางได้ถูกส่งไปที่ พระราชวังคิมบอลตัน โดยให้ห้องเล็กๆห้องหนึ่ง พระนางมิได้พบกับเจ้าหญิงแมรีอีกเลยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2078 ความตายเข้ามาใกล้พระนางยิ่งขึ้น พระนางได้เขียนจดหมายถึง สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ว่าช่วยคุ้มครองเจ้าหญิงแมรี และทรงเขียนจดหมายถึงพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เป็นภาษาอังกฤษว่า - My most dear lord, King and husband,
- The hour of my death now drawing on, the tender love I owe you forceth me, my case being such, to commend myself to you, and to put you in remembrance with a few words of the health and safeguard of your soul which you ought to prefer before all worldly matters, and before the care and pampering of your body, for the which you have cast me into many calamities and yourself into many troubles. For my part, I pardon you everything, and I wish to devoutly pray God that He will pardon you also. For the rest, I commend unto you our daughter Mary, beseeching you to be a good father unto her, as I have heretofore desired. I entreat you also, on behalf of my maids, to give them marriage portions, which is not much, they being but three. For all my other servants I solicit the wages due them, and a year more, lest they be unprovided for. Lastly, I make this vow, that mine eyes desire you above all things.
- Katharine the Queen.
พระนางเสด็จสวรรคตในพระราชวังคิมบอลตันในวันที่ 7 มกราคม พศ 2079 พระอิศริยยศของพระนางสุดท้ายคือเจ้าหญิงแห่งเวลส์ หลังจากพระนางสวรรคตพระเจ้าเฮนรีทรงเสียพระทัยมากแต่พระนางแอนน์ โบลีนกลับมีความปีติมากกว่าใครๆที่อริเก่าของพระนางได้สิ้นชีพลง แต่ในไม่กี่เดือนต่อมาแอนน์ โบลีนได้ถูกสั่งประหารชีวิตในข้อหามีเป็นทุรยศด้วยการคบชู้สู่ชายและข้อหาทรงดำรงเป็นแม่มดโดยทรงถูกใส่ร้ายโดยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เนื่องจากทรงผิดสัญญาในการให้กำเนิดพระโอรส
พระศพของพระนางถูกฝังที่ มหาวิหารปิเตอร์บะระห์ เมืองอัลกาลาเดเอนาเรส (Alcalá de Henares) ประเทศสเปน แดนมาตุภูมิของพระนางและสามารถเห็นดอกไม้ประดับบ่อยๆ ที่หลุมฝังพระศพจะเขียนไว้ว่าแคทเทอรีน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ(Catherine Queen of England)
ที่มา วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี