American War of Independence สงครามปฏิวัติอเมริกัน
สงครามปฏิวัติอเมริกัน American Revolutionary War หรือ American War of Independence; ค.ศ. 1775-1783) เปิดฉากเป็นสงครามระหว่างสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ฝ่ายหนึ่ง กับสิบสามอาณานิคมอังกฤษในทวีปอเมริกาเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง ก่อนจบลงด้วยสงครามทั่วโลก ระหว่างชาติมหาอำนาจทั้งหลายในทวีปยุโรป
สงครามดังกล่าวเป็นผลมาจากการปฏิวัติอเมริกาในทางการเมือง ซึ่งถูกกระตุ้นด้วยข้อพิพาทระหว่างรัฐสภาแห่งบริเตนใหญ่กับชาวอาณานิคมซึ่งคัดค้านพระราชบัญญัติแสตมป์ ค.ศ. 1765 ซึ่งชาวอเมริกันเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ รัฐสภายืนยันสิทธิ์ของตนในการเก็บภาษีชาวอาณานิคม แต่ชาวอเมริกันอ้างสิทธิ์ของตนว่าเป็นชาวอังกฤษในการไม่จ่ายภาษีหากไม่มีผู้แทน ชาวอเมริกันจัดตั้งสภาภาคพื้นทวีปที่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน และรัฐบาลเงาในแต่ละอาณานิคม การคว่ำบาตรชาอังกฤษของอเมริกานำไปสู่กรณีชาที่บอสตัน ใน ค.ศ. 1773 รัฐบาลอังกฤษตอบสนองโดยยุติการปกครองตนเองในแมตซาชูเซ็ตส์ และกำหนดให้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพโดยมีพลเอกโทมัส เกจเป็นผู้ว่าราชการ เดือนเมษายน ค.ศ. 1775 เกจส่งกองทัพไปยึดอาวุธของกบฏ ทหารอาสาสมัครท้องถิ่น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "minutemen" เผชิญหน้ากับทหารอังกฤษและทำลายกองทัพอังกฤษได้เกือบทั้งหมด ยุทธการเลซิงตันและคอนคอร์ดเป็นชนวนสงคราม โอกาสในการประนีประนอมหมดลงเมื่ออาณานิคมต่าง ๆ ประกาศอิสรภาพและจัดตั้งประเทศใหม่ขึ้น ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776
ฝรั่งเศส, สเปน และสาธารณรัฐดัตช์ล้วนจัดหาเสบียง เครื่องกระสุนและอาวุธอย่างลับ ๆ ให้แก่กองทัพปฏิวัติเริ่มตั้งแต่ต้น ค.ศ. 1776 หลังอังกฤษประสบความสำเร็จในตอนต้น สงครามเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่แน่นอน ฝ่ายอังกฤษใช้ความเหนือกว่าทางทะเลยึดและครอบครองนครชายฝั่งของอเมริกา ขณะที่ฝ่ายกบฏยังควบคุมแถบชนบทเป็นส่วนใหญ่ อันเป็นที่ซึ่งประชากรกว่า 90% อาศัยอยู่ ยุทธศาสตร์ของอังกฤษอาศัยการระดมทหารอาสาสมัครที่จงรักภักดี แต่อังกฤษไม่ได้ให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ การรุกรานของอังกฤษจากแคนาดาสิ้นสุดลงด้วยการจับกองทัพอังกฤษเป็นเชลยที่ยุทธการซาราโตกาใน ค.ศ. 1777 ชัยชนะของอเมริกาครั้งนั้นโน้มน้าวให้ฝรั่งเศสเข้าสู่สงครามอย่างเปิดเผยในต้น ค.ศ. 1778 ซึ่งทำให้กำลังทางทหารของทั้งสองฝ่ายสมดุล สเปนและสาธารณรัฐดัตช์ พันธมิตรของฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามกับอังกฤษภายในอีกสองปีถัดมา ซึ่งคุกคามจะรุกรานบริเตนใหญ่และทดสอบความเข้มแข็งทางทหารของอังกฤษอย่างรุนแรงด้วยการทัพในยุโรป การมีส่วนร่วมของสเปนส่งผลให้กองทัพอังกฤษในเวสต์ฟลอริดาถอนตัวออก ซึ่งเป็นการทำให้ปีกด้านใต้ของอเมริกาปลอดภัย
การมีส่วนร่วมของฝรั่งเศสพิสูจน์แล้วว่ามีผลชี้ขาด แต่ก็ทำลายเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเช่นกัน ชัยชนะทางทะเลของฝรั่งเศสในเชซาพีคบีบให้กองทัพอังกฤษที่สองยอมจำนนที่การล้อมยอร์กทาวน์ใน ค.ศ. 1781 ใน ค.ศ. 1783 สนธิสัญญาปารีสยุติสงครามและยอมรับอธิปไตยของสหรัฐอเมริกาเหนือดินแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับแคนาดาทางเหนือ ฟลอริดาทางใต้ และแม่น้ำมิสซิสซิปปีทางตะวันตก สงครามปฏิวัติอเมริกัน วันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1775 – 3 กันยายน ค.ศ. 1783 (8 ปี 137 วัน) สถานที่ อเมริกาเหนือตะวันออก, ยิบรอลตาร์, หมู่เกาะแบลีแอริก, อเมริกากลาง; อาณานิคมในครอบครองฝรั่งเศส ดัตช์และอังกฤษในอนุทวีปอินเดียและที่อื่น;
น่านน้ำชายฝั่งยุโรป, ทะเลแคริบเบียน, มหาสมุทรแอตแลนติกและอินเดีย ผลลัพธ์ สนธิสัญญาปารีส (ค.ศ. 1783) | ชัยชนะของอเมริกา ได้รับเอกราช
ดินแดน เปลื่ยน อังกฤษเสียดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี และทางใต้ของเกรตเลกส์และแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ให้แก่สหรัฐอเมริกาที่มีเอกราช และสเปน สเปนได้ฟลอริดาตะวันออก ฟลอริดาตะวันตก และไมนอร์กา; อังกฤษยกโตบาโกและเซเนกัลให้แก่ฝรั่งเศส สาธารณรัฐดัตช์เสียนาคปัตตินัมให้แก่อังฤษ | คู่ขัดแย้ง สหรัฐอเมริกา ราชอาณาจักรฝรั่งเศส ฝรั่งเศส สเปน สเปน ธงชาติของสาธารณรัฐดัตช์ สาธารณรัฐดัตช์
Oneida Tuscarora Flag of Vermont Republic.svg สาธารณรัฐเวอร์มอนต์ Watauga Association Catawba Lenape | ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ บริเตนใหญ่
Onondaga Mohawk Cayuga Seneca เชโรกี | ผู้บัญชาการหรือผู้นำ สหรัฐอเมริกา จอร์จ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Nathanael Greene สหรัฐอเมริกา Horatio Gates สหรัฐอเมริกา Richard Montgomery สหรัฐอเมริกา Daniel Morgan สหรัฐอเมริกา Henry Knox สหรัฐอเมริกา Ethan Allen สหรัฐอเมริกา Francis Nash สหรัฐอเมริกา Francis Marion สหรัฐอเมริกา Benedict Arnold (แปรพักตร์) สหรัฐอเมริกา Friedrich Wilhelm von Steuben สหรัฐอเมริกา Marquis de La Fayette ราชอาณาจักรฝรั่งเศส Comte de Rochambeau ราชอาณาจักรฝรั่งเศส Comte de Grasse ราชอาณาจักรฝรั่งเศส Bailli de Suffren สเปน Bernardo de Gálvez สเปน Luis de Córdova สเปน Juan de Lángara | ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่Lord North ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Sir William Howe ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Thomas Gage ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Sir Henry Clinton ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Lord Cornwallisแม่แบบ:POW ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Sir Guy Carleton Allan Maclean Alexander Stewart James Agnew James Grant ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ John Burgoyneแม่แบบ:POW ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Benedict Arnold ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ George Rodney ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Richard Howe ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ Wilhelm von Knyphausen Joseph Brant | กำลัง ณ จุดสูงสุด:
กองทัพภาคพื้นทวีป 35,000 นาย ทหารชาวบ้าน 44,500 คน กะลาสีกองทัพภาคพื้นทวีป 5,000 คน (สูงสุดใน ค.ศ. 1779) เรือกองทัพเรือภาคพื้นทวีป 34 ลำ (สูงสุดใน ค.ศ. 1779)[2]; 53 ลำ (ณ บางจุดระหว่างสงคราม) ฝรั่งเศส 10,000 นาย (ในอเมริกา) ฝรั่งเศสและสเปน ~60,000 นาย (ในยุโรป) | ณ จุดสูงสุด:
อังกฤษ 56,000 นาย เรือราชนาวี 78 ลำ ใน ค.ศ. 1775 กะลาสี 171,000 คน เยอรมัน 30,000 นาย ฝ่ายภักดีอังกฤษ 50,000 คน ชนพื้นเมือง 13,000 คน | กำลังพลสูญเสีย อเมริกัน 50,000± คน เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ | กองทัพอังกฤษ 20,000± คน เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
กะลาสี 19,740 คน เสียชีวิต กละาสี 42,000 คน เสียชีวิตด้วยความหิวโหย เยอรมันเสียชีวิต 7,554 นาย | วั น นี้ ก ลั บ มาอ่านและทบทวนวิชาที่ตัวท่านขุนฯเคยเรียนอีกครั้งเป็นวิชาประวัติศาสตร์ต่างประเทศ อาจารย์ที่สอน มักจะบอกให้ท่านขุนเข้ามาอ่านค้นคว้าเพิ่มเติมในไซโครพิเดีย(วิกิพีเดียอยู่เสมอ)วันนี้พอกลับมาอ่านรู้สึกว่าเหมือนตัวเองได้กลับไปอยู่ในชั้นเรียนกำลังฟังอาจารย์สอน...หรือบรรยายอีกครั้ง...
| จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ................. โหวต บล็อกหมวด "วิเคราะห์การเมืองและสังคม
Create Date : 22 มกราคม 2557 |
Last Update : 22 มกราคม 2557 7:15:29 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2314 Pageviews. |
|
|
|
ท่านขุนสบายดีนะคะ