Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

หลัง​จาก​ “​พระ​เจ้า​ติ​โลก​ราช​” ​เสด็จ​สวรรคต​ ​เมื่อ​ปี​ พ.ศ. ๒๐๓๐ '​ศิลปะ​เชียง​แสน​' (​ล้าน​นา​

“​พระ​พุทธ​รูป​ล้าน​นา​ระยะ​หลัง​” (​ตั้ง​แต่​ พ.ศ. ๒๐๖๗-๒๑๐๑) ​และ​ (​ตั้ง​แต่​ พ.ศ. ๒๑๐๑)

หลัง​จาก​ “​พระ​เจ้า​ติ​โลก​ราช​” ​เสด็จ​สวรรคต​ ​เมื่อ​ปี​ พ.ศ. ๒๐๓๐ “​พระ​เจ้า​ยอด​เชียง​ราย​” ​ซึ่ง​เป็น​พระ​ราช​นัดดา​ (​หลาน​) ​ก็​ได้​เสด็จ​ขึ้น​ครอง​ราชย์​สืบ​แทน​แต่​ก็​เป็น​การ​ครอง​ราชย์​เพียง​ระยะ​สั้น​ ๆ ​เท่า​นั้น​คือ​เมื่อ​ถึง​ พ.ศ. ๒๐๓๘ ​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​และ​ขุน​นาง​ได้​ทำ​การ​ “​ปลด​” ​ออก​จาก​การ​เป็น​กษัตริย์​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นาด​้วย​ข้อ​อ้าง​ที่​กล่าว​หาว​่า “​พระ​เจ้า​ยอด​เชียง​ราย​” ​มิ​ได้​สร้าง​ความ​เจริญ​ให้​กับ​อาณา​ ​จักร​ล้าน​นา​พร้อม​กับ​ทำ​การ​สถาปนา​ “​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​” ​พระ​โอรส​ขึ้น​ครอง​ราชย์​สืบ​แทน​ซึ่ง​ต่อม​า “​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​” ​ก็​ทรง​สร้าง​ความ​เจริญ​รุ่ง​เรือง​ให้​กับ​อาณา​จักร​ล้าน​นาถ​ึง​ขีด​สุด​ ​เนื่อง​จาก​พระ​องค์​ทรง​ครอง​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ตั้ง​แต่​ พ.ศ. ๒๐๓๘-๒๐๖๔ ​รวม​ระยะ​เวลา​แห่ง​การ​ครอง​ราชย์​ที่​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์ (​เชียง​ใหม่​) ​นาน​ถึง​ ๒๖ ​ปี​ ​โดย​ที่​ชาว​ล้าน​นา​เอง​ต่าง​ยอม​รับ​และ​ยก​ย่อง​ว่า​ใน​รัช​สมัย​ของ​ “​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​” ​นี้​ได้​สร้าง​ความ​เจริญ​ให้​กับ​อาณา​จักร​ ​ล้าน​นา​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​แต่​ก็​บาง​แห่ง​ยอม​รับ​และ​ยก​ย่อง​     “​พระ​เจ้า​ติ​โลก​ราช​” ​ว่า​เป็น​กษัตริย์​ที่​สร้าง​ความ​เจริญ​จน​ถือ​เป็น​ยุค​ทอง​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นาก​็​ตาม​ ​แต่​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​จะ​แย้ง​ว่า​พระ​เจ้า​ติ​โลก​ราช​อยู่​ใน​ยุค​แห่ง​การ​บุก​เบิก​ด้วย​การก​่​อร​่าง​สร้าง​ฐาน​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ให้​มั่น​คง​แข็ง​แรง​ ​จาก​นั้น​ใน​รัช​สมัย​ของ​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ก็​คือ​ยุค​แห่ง​การ​ต่อย​อด​ให้​เจริญ​ยิ่ง​ขึ้น​  ​เนื่อง​จาก​การ​สร้าง​สรรค์​งาน​ทาง​ด้าน​ศิลปกรรม​มี​ ​ความ​เจริญ​อย่าง​ถึง​ขีด​สุด​นั่น​เอง​


​และ​แม้ว​่า​ใน​รัช​สมัย​ของ​ ​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ ​จะ​มี​การ​ทำ​ศึก​สงคราม​กับ​ ​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​อยู่​หลาย​ครั้ง​หลาย​หน​และ​ต่าง​ก็​ผลัด​กัน​แพ้​ผลัด​กัน​ชนะ​โดย​ ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ ​ได้​ทำ​การ​ยก​ทัพ​ไป​ตี​เอา​ ​เมือง​สุ​โข​ทัย ​รวม​ทั้ง​ ​เมือง​เชลียง​ ​และ​ ​เมือง​กำแพง​เพชร​ ​ใน​ช่วง​ปี​ พ.ศ. ๒๐๕๐ ​แต่​ต่อม​า​อีก​    ๘ ​ปี​ (พ.ศ. ๒๐๕๘) ​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​ก็​ก่อ​เกิด​พระ​มหา​กษัตริย์​ที่​ทรง​เข้ม​แข็ง​และ​มี​พระ​นาม​ว่า​ “​สมเด็จ​พระราม​า​ธ​ิ​บดี​ที่​ ๒” ​ได้​ทรง​ยก​กอง​ทัพ​ไป​ตี​ ​เมือง​   ​เขลา​งค์​นคร​ (​ลำ​ปาง​) ​อัน​เป็น​หัว​เมือง​สำคัญ​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​แต่​ไม่​สามารถ​ยึด​ครอง​ได้​ ​เนื่อง​จาก​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ได้​ส่ง​กำลัง​จาก​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ ​มา​ช่วย​ประกอบ​กับ​ระยะ​ทาง​จาก​อาณา​ ​จักร​อยุธยา​ไป​ยัง​ ​เมือง​เขลา​งค์​นคร​ ​และ​ ​เมือง​สุ​โข​ทัย ​กำแพง​เพชร​ ​พิษณุโลก​ ​ซึ่ง​เป็น​หัว​เมือง​สำคัญ​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นาก​็​เป็น​ระยะ​ทาง​ที่​ห่าง​ไกล​กัน​มาก​ ​ย่อม​เสีย​เปรียบ​ต่อ​การ​ส่ง​กำลัง​หนุน​ ​ไป​ช่วย​สู้​รบ​ ​ใน​ที่​สุด​ทั้ง​สอง​อาณา​จักร​จึง​ทำ​สัญญา​มี​พระ​ราช​ ​ไมตรี​ต่อ​กัน​เฉก​เช่น​ใน​รัช​สมัย​ของ​ ​สมเด็จ​พระ​บรม​ไตร​โลกนาถ​ ​และ​ ​พระ​เจ้า​ติ​โลก​ราช​ ​ก็​ทรง​มี​การ​ทำ​สัญญา​มี​พระ​ราช​ไมตรี​ต่อ​กัน​มา​แล้ว​


​กระทั่ง​ต่อม​า​ใน​ปี​ พ.ศ. ๒๐๖๔ ​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ ​ได้​ยก​กอง​ทัพ​ไป​ตี​ ​อาณา​จักร​เชียง​ตุง​ ​แต่​ก็​พ่าย​แพ้​ยับ​เยิน​และ​สูญ​เสีย​ไพร่​พล​ไป​เป็น​จำนวน​มาก​ ​สร้าง​ผลก​ระ​ทบ​ให้​อาณา​จักร​ล้าน​นา​อ่อน​แอ​ลง​และ​ใน​ที่​สุด​ ​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ ​ก็​เสด็จ​สวรรคต​แล้ว​ ​พระ​มหา​อุปราช​เมือง​เก​ษ​เกล้า​ ​ซึ่ง​ก็​คือ​พระ​อนุชา​ของ​พระ​เจ้า​เมือง​แก้ว​ได้​เสด็จ​ขึ้น​ครอง​ราชย์​สืบ​แทน​ทรง​พระ​นาม​ว่า​ “​พระ​เจ้า​เมือง​เก​ษ​เกล้า​” ​แต่​พระ​องค์​ก็​ทรง​ครอง​ราชย์​ได้​เพียง​ ๑๓ ​ปี​ (พ.ศ. ๒๐๖๔-๒๐๗๗) ​เนื่อง​จาก​ ​ระหว่าง​นี้​อาณา​จักร​ล้าน​นา​เกิด​ความ​ระส่ำระสาย​ ​เพราะ​บรรดา​ข้า​ราช​สำนัก​เกิด​การ​แตก​แยก​ความ​สามัคคี​ ​มี​การ​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​แย่ง​กัน​เป็น​ใหญ่​ใน​ที่​สุด​ “​เจ้า​ซา​ย​คำ​” ​ซึ่ง​ขณะ​นั้น​ ​ดำรง​ตำแหน่ง​เป็น​ “​เจ้า​ราช​บุตร​” ​ได้​รวม​หัว​กับ​เหล่า​ ​ข้า​ราช​สำนัก​และ​บรรดา​เสนา​อำมาตย์​ทำ​การ​แย่ง​ชิง​ราช​สมบัติ​และ​เนรเทศ​ ​พระ​เจ้า​เมือง​เก​ษ​เกล้า​ ​ไป​ประทับ​  ณ ​เมือง​น้อย​ ​จาก​นั้น​ทำ​การ​สถาปนา​ “​เจ้า​ซา​ย​คำ​” ​ขึ้น​ครอง​ราชย์​เป็น​หุ่น​เชิด​ปก​ครอง​เมือง​แทน​


​ทว่า​พอ​ได้​เป็น​ใหญ่​ “​เจ้า​ซา​ย​คำ​” ​ก็​ปก​ครอง​เมือง​อย่าง​ผิด​ราช​ประเพณี​และ​ทำนอง​คลอง​ธรรม​ ​เป็น​ที่​เอือม​ระอา​ต่อ​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​และ​ข้า​ราช​สำนัก​เป็น​ยิ่ง​นัก​ ​จึง​ทำ​การ​ปลง​พระ​ชนม์​เจ้า​ซา​ย​คำ​สิ้น​พระ​ชนม์​ลง​จาก​นั้น​ไป​อัญเชิญ​ ​พระ​เจ้า​เมือง​เก​ษ​เกล้า​ ​กลับ​มา​ครอง​ราชย์​อีก​ครั้ง​แต่​พระ​องค์​ก็​ครอง​ราชย์​ได้​ไม่​นาน​ ​ก็​ถูก​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​อีก​ฝ่าย​ที่​ยัง​คิด​แย่ง​ชิง​อำนาจ​ต่อ​กัน​ ​ทำ​การ​ลอบ​ปลง​พระ​ชนม์​แต่​ไม่​สำเร็จ​เป็น​ผล​ให้​พระ​เจ้า​เมือง​   ​เก​ษ​เกล้า​ ​ทรง​สะเทือน​พระ​ทั​ยก​ระ​ทั่ง​พระ​สติ​วิปลาส​จึง​เป็น​เหตุ​ให้​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​ ​เกิด​การ​แก่งแย่ง​ชิง​อำนาจ​ ​กัน​อีก​ครั้ง​ทำ​ให้​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ใน​ช่วง​นั้น​เกิด​ความ​ ​ระส่ำระสาย​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​ใน​ที่​สุด​ “​พระ​นาง​จิ​ร​ประภา​” (​พระ​มเหสี​พระ​เจ้า​เมือง​เก​ษ​เกล้า​) ​จึง​ขึ้น​ครอง​ราชย์​เป็น​ ​พระ​นาง​กษัตริย์​พระ​องค์​แรก​ ​ของ​ ​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ ​และ​เป็น​ ​พระ​นาง​กษัตริย์​องค์​ที่​สอง​ ​ของ​ ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ (​พระ​นาง​กษัตริย์​พระ​องค์​แรก​     ​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นาก​็​คือ​พระ​นาง​จาม​เทวี​แห่ง​นคร​หริ​ภุญ​ไชย​) ​ระหว่าง​นี้​ข่าว​การ​แก่งแย่ง​ชิง​กัน​เป็น​ใหญ่​ของ​ ​บรรดา​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​ ​แห่ง​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ได้​ล่วง​รู้​ไป​ถึง​ ​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​พระ​มหา​กษัตริย์​อาณา​จักร​อยุธยา​จึง​ทรง​ยก​ทัพ​มุ่ง​สู่​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ ​หมาย​ตี​เอา​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​เป็น​เมือง​ขึ้น​


​ครั้น​กอง​ทัพ​อาณา​จักร​อยุธยา​ยก​มา​ล้อม​เมือง​เช่น​นั้น​ ​พระ​นาง​จิ​ร​ประภา​ ​ก็​ทรง​ทราบ​ดี​ว่า​กำลัง​ทหาร​ของ​พระ​นาง​และ​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ ​มิ​อาจ​ที่​จะ​ต่อ​กรก​ั​บก​อง​ทัพ​ของ​อาณา​จักร​อยุธยา​ได้​ ​เพราะ​บรรดา​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​น้อย​ใหญ่​ต่าง​อยู่​ระหว่าง​ ​แตก​แยก​ความ​สามัคคี​ ​เนื่อง​จาก​หลาย​ฝ่าย​ต่าง​คิด​แต่​จะ​แก่งแย่ง​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​เพื่อ​เป็น​ใหญ่​ ​หาก​นำ​ทหาร​ออก​ไป​ต่อ​ต้าน​กอง​ทัพ​ของ​ ​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​ก็​มี​แต่​จะ​พ่าย​แพ้​ประการ​เดียว​ใน​ที่​สุด​จึง​ทรง​แต่ง​ตั้ง​ราช​ทูต​ ​อัญเชิญ​เครื่อง​ราช​บรรณาการ​ไป​ถวาย​กษัตริย์​แห่ง​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​ที่​ยก​ทัพ​มา​ล้อม​เมือง​ไว้​โดย​ยอม​สวามิ​ภั​กด​ิ์​เป็น​ข้า​ขอบ​ขัณฑสีมา​ศิโรราบ​เป็น​เมือง​ประเทศราช​แต่​โดย​ดี​ ​เมื่อ​เห็น​กษัตริย์​อาณา​จักร​ล้าน​นาย​อม​ศิโรราบ​แต่​โดย​ดี​เช่น​นั้น​ ​กษัตริย์​แห่ง​อาณา​จักร​อยุธยา​ก็​ทรง​มี​พระ​เมตตา​ ​ไม่​ทำ​การ​หาญ​หัก​ตี​เอา​เมือง​เพราะ​มี​แต่​จะ​ทำ​ให้​เกิด​การ​สูญ​เสีย​ ​ทั้ง​บ้าน​เมือง​และ​ทรัพย์​สิน​ด้วย​การ​ยก​ทัพ​กลับ​อาณา​จักร​อยุธยา​ ​เป็น​ผล​ให้​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​รอด​พ้น​จาก​ภัย​สงคราม​ไป​ได้​ ​แต่​ก็​ต้อง​กลาย​เป็น​เมือง​ประเทศราช​ของ​อาณา​จักร​อยุธยา​ไป​โดย​ปริยาย​


​ต่อม​า​เมื่อ​รอด​พ้น​จาก​ภัย​สงคราม​ได้​ระยะ​ ​หนึ่ง​ “​พระ​นาง​จิ​ร​ประภา​” ​ก็​ทำ​การ​สละ​ราช​สมบัติ​โดย​พระ​ราช​ทาน​ให้​ “​พระ​เจ้า​ไชย​เชษฐา​” ​ราช​โอรส​ ​แห่ง​ ​อาณา​จักร​ล้าน​ช้าง​ ​ขึ้น​ครอง​ราชย์​สืบ​แทน​แต่​พระ​เจ้า​ไชย​เชษฐา​ทรง​ครอง​ ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ได้​เพียง​ ๒ ​ปี​ ​ก็​ต้อง​เสด็จ​กลับ​ไป​ปก​ครอง​อาณา​จักร​ล้าน​ช้าง​เนื่อง​จาก​ “​พระ​เจ้า​โพธ​ิ​สาร​” ​พระ​ราช​บิดา​เสด็จ​สวรรคต​ประกอบ​กับ​เหล่า​ ​เสนา​อำมาตย์​ ​ใน​อาณา​จักร​ล้าน​ช้าง​ก็​เกิด​การ​แตก​แยก​ความ​สามัคคี​ ​และ​แก่งแย่ง​ชิง​กัน​เป็น​ใหญ่​ ​เฉก​เช่น​เหตุ​การณ์​ใน​อาณา​จักร​ ​ล้าน​นา​ ​พระ​เจ้า​ไชย​เชษฐา​จึง​ต้อง​เสด็จ​กลับ​ไป​จัดการ​ให้​เกิด​ความ​สงบ​ ​อีก​ทั้ง​ความ​วุ่น​วาย​ใน​ราช​สำนัก​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ใน​ขณะ​นั้น​ ​ก็​ยัง​มิ​อาจ​สงบ​เนื่อง​จาก​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​ยัง​คง​แตก​แยก​เป็น​ก๊ก​เป็น​เหล่า​เพื่อ​แย่ง​ชิง​กัน​เป็น​ใหญ่​อยู่​เช่น​เดิม​ ​ยัง​ผล​ให้​พระ​เจ้า​ไชย​เชษฐา​ทรง​ท้อ​พระ​ทัย​จึง​เสด็จ​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​เพื่อ​จัดการ​ทุก​อย่าง​ที่​นั่น​ให้​เรียบ​ร้อย​โดย​เร็ว​ ​พร้อม​ละ​ทิ้ง​ปัญหา​การ​แตก​แยก​ชิง​ดี​ชิง​เด่น​ระหว่าง​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​ใน​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ไว้​เบื้อง​หลัง​


​หลัง​จาก​พระ​เจ้า​ไชย​เชษฐา​เสด็จ​กลับ​สู่​อาณา​จักร​ล้าน​ช้าง​แล้ว​ ​เหล่า​เสนา​อำมาตย์​ใน​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​จึง​ต้อง​ค้น​หาก​ษั​ตริ​ย์​พระ​องค์​ใหม่​ ​เพื่อ​ปก​ครอง​อาณา​จักร​ล้าน​นา​สืบ​ต่อ​ไป​เพราะ​แผ่น​ดิน​ช่วง​นั้น​ ​จะ​ขาด​กษัตริย์​มิ​ได้​โดย​พร้อม​ใจ​กัน​กราบ​อัญเชิญ​ “​พระ​เจ้า​เม​กุฏิ​” ​แห่ง​เมือง​นาย​ซึ่ง​มี​เชื้อ​สาย​ของ​ “​ขุน​เครือ​” ​พระ​ราช​โอรส​องค์​รอง​ของ​ “​พระ​เจ้า​มัง​ราย​มหาราช​” ​องค์​ปฐม​กษัตริย์​แห่ง​ “​ราช​วงศ์​มัง​ราย​” ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ทรง​สถาปนา​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ ​พร้อม​กับ​ทรง​ส่ง​พระ​โอรส​องค์​รอง​พระ​องค์​นี้​ไป​ปก​ครอง​เมือง​นาย​ ​อัน​เป็น​เมือง​รอง​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ (​มิ​ใช่​เมือง​ลูก​หลวง​) ​ซึ่ง​ปรากฏ​การณ์​เช่น​นี้​ย่อม​แสดง​ว่า​ ​เมือง​นพ​บุรี​ศรี​นคร​พิง​ค์​เชียง​ใหม่​ซึ่ง​เป็น​นครหลวง​ของ​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ ​เห็น​ที​คง​จะ​สิ้น​ผู้​สืบ​ราช​สันตติ​วงศ์​ดัง​นั้น​จึง​ต้อง​แสวง​หาร​ัช​ทายาท​ ​จาก​เมือง​รอง​มาปก​ครอง​ต่อ​ไป​


​แต่​หลัง​จาก​ ​พระ​เจ้า​เม​กุฏิ​ ​ทรง​ปก​ครอง​อาณา​จักร​ล้าน​นา​ได้​ไม่​นาน​ก็​กลาย​เป็น​ประวัติศาสตร์​ ​ให้​บันทึก​ได้​ว่า​พระ​เจ้า​เม​กุฏิ​ก็​คือ​พระ​มหา​กษัตริย์​รัช​กาล​ ​องค์​สุด​ท้าย​ของ​ราช​วงศ์​มัง​ราย​ ​ที่​ทรง​ปก​ครอง​อาณา​จักร​ล้าน​นา​เนื่อง​จาก​ใน​รัช​สมัย​ของ​พระ​เจ้า​เม​กุฏิ​นี้​เอง​ ​เพราะ​ต่อม​า​อาณา​จักร​ล้าน​นาก​็​ตก​ไป​อยู่​ภาย​ใต้​อิทธิ​พล​ของ​อาณา​จักร​พม่า​ ​ซึ่ง​ใน​ขณะ​นั้น​มี​พระ​มหา​กษัตริย์​ที่​ทรง​มี​ ​พระ​บุญ​ญา​ธ​ิ​การ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ ​เนื่อง​จาก​ทรง​มี​พระ​ปรีชา​สามารถ​ใน​การ​รบ​และ​มี​ความ​เชี่ยว​ชาญ​ใน​ ​ตำรา​พิชัย​สงคราม​ตำรับ​ฉบับ​พม่า​ ​และ​ทรง​มี​พระ​บรม​เดช​า​นุ​ภาพ​แผ่​ไพศาล​เนื่อง​จาก​สามารถ​ ​ขยาย​พระ​ราช​อาณา​เขต​ ​ออก​ไป​ได้​กว้าง​ไกล​นอก​จาก​นั้น​ยัง​ทรง​ดำเนิน​วิเทโศบาย​ (​นโยบาย​ด้าน​ต่าง​ประเทศ​) ​ได้​แยบ​ยล​และ​ลึก​ซึ้ง​อย่าง​เช่น​ก่อน​ยก​ทัพ​ไป​ตี​เมือง​ใด​หรือ​อาณา​จักร​ใด​ ​พระ​องค์​จะ​ทรง​ทำ​การ​เจรจา​ด้วย​พระ​ราช​ไมตรี​ก่อน​ ​หาก​กษัตริย์​เมือง​ใด​หรือ​อาณา​จักร​ใด​ยอม​สวามิ​ภั​กด​ิ์ ​เป็น​ข้า​ขอบ​ขัณฑสีมา​เป็น​เมือง​ประเทศราช​ด้วย​การ​ยอม​ส่ง​ ​เครื่อง​ราช​บรรณาการ​และ​ระดม​ไพร่​พล​ไป​ช่วย​พม่า​รบ​ทัพ​จับ​ศึก​ ​พระ​องค์​จะ​มิ​ทรง​ยก​ทัพ​ไป​ย่ำ​ยี​และ​ที่​สำคัญ​จะ​ทรง​ขอ​ ​พระ​ราช​โอรส​ ​ของ​กษัตริย์​แว่น​แคว้น​  ​ต่าง​ ๆ ​ที่​ยอม​สวามิ​ภั​กด​ิ์​ไป​เป็น​ ​พระ​โอรส​บุญ​ธรรม​ ​ของ​พระ​องค์​ยัง​กรุง​หง​สาว​ดี​แต่​ถ้า​เมือง​ใด​หรือ​อาณา​ ​จักร​ใด​ขัด​ขืน​ ​พระ​องค์​จะ​ยก​ทัพ​เพื่อ​ใช้​กำลัง​เข้า​ปราบ​ปราม​บังคับ​ทัน​ที​ ​แต่​จะ​มิ​ทรง​ทำ​การ​ประหัต​ประหาร​ชีวิต​หรือ​ถอด​ถอน​ยศ​ตำแหน่ง​ของ​กษัตริย์​แห่ง​เมือง​นั้น​หรือ​อาณา​จักร​นั้น​โดย​ปล่อย​ให้​ปก​ครอง​บ้าน​เมือง​สืบ​ต่อ​แต่​ต้อง​ขึ้น​ตรง​ต่อ​พม่า​ ​เพราะ​พระ​มหา​กษัตริย์​ ​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พม่า​ใน​ช่วง​ขณะ​นั้น​ก็​คือ​ “​พระ​เจ้า​ ​หง​สาว​ดี​บุ​เ​รง​นอง​” ​ที่​ทรง​มี​พระ​นาม​ที่​ได้​รับ​การ​ถวาย​โดย​ทั่ว​ไป​ว่า​ “​ผู้​ชนะ​สิบ​ทิศ​” ​นั่น​เอง​


(​อ่าน​ต่อ​ฉบับ​หน้า​)


"​อดิ​ศ​ศว​ร"

ขอบคุณ นสพ เดลินิวส์




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2555
0 comments
Last Update : 20 พฤษภาคม 2555 11:45:19 น.
Counter : 2302 Pageviews.


Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.