|
 |
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
 |
13 ตุลาคม 2568
|
|
|
|
จุดผิดพลาดของพรรคเพื่อไทย: จากเสือสู่แมวเชื่องทางการเมือง
พรรคเพื่อไทย ถือเป็นพรรคการเมืองที่เคยแข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทยในยุคหลังรัฐประหาร 2549 ด้วยฐานเสียงภาคเหนือ-อีสานที่แน่นหนา และความเป็น ตัวแทนทักษิณ ที่ชัดเจน แต่จากการเคลื่อนไหวหลายครั้งในรอบสิบปีที่ผ่านมา พรรคกลับค่อยๆ สูญเสียพลังทางการเมือง เสื่อมศรัทธาจากประชาชน และถอยจากการเป็น "พรรคแกนนำ" ไปสู่พรรคที่ต้องต่อรองแบบเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ
จุดเปลี่ยนที่ 1: แตกพรรค - การเดินเกมพลาดในปี 2562
ปี 2562 เพื่อไทยตัดสินใจแตกพรรค ตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เพื่อแก้เกมรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ออกแบบให้พรรคใหญ่เสียเปรียบในการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ทว่าความเสี่ยงกลายเป็นหายนะ เมื่อ ทษช. ถูกยุบจากกรณีเสนอชื่อ "ทูลกระหม่อมฯ" เป็นนายกรัฐมนตรี
การยุบ ทษช. ไม่เพียงทำให้เสียงในระบบบัญชีรายชื่อกระจายไปเท่านั้น แต่ยัง เปิดพื้นที่ใหม่ให้พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งอาศัยโมเมนตัมการต่อต้าน คสช. เข้าไปกอบโกยฐานเสียงคนรุ่นใหม่ที่เคยอยู่กับเพื่อไทย และได้เก้าอี้เกิน 80 ที่นั่ง ทั้งที่ในสถานการณ์ปกติอาจได้ไม่ถึง 20 ที่นั่ง
จุดเปลี่ยนที่ 2: การตระบัดสัตย์ในปี 2566
หลังเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลได้อันดับหนึ่ง และจับมือกับเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยยึดแนวทาง "ไม่เอาพรรคในเครือ คสช." เป็นหลักใหญ่ใจความ ทว่าเมื่อแคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกลถูกตีตก พรรคเพื่อไทยก็ กลับลำเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลกับพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมอย่าง พปชร., รทสช. และภูมิใจไทย
ข้อตกลงที่เคยมีกับประชาชนถูกมองว่า "ตระบัดสัตย์" ทำลายความน่าเชื่อถือในหมู่ประชาชนกลุ่มหัวก้าวหน้า และสายประชาธิปไตยจำนวนมาก คนที่เคยโหวตเพื่อไทยเพื่อกันก้าวไกลจากการถูกสกัด กลับรู้สึก "โดนหักหลัง"
จุดพลาดซ้อนพลาด: หลังจัดตั้งรัฐบาล กรณี "คลิปหุน เซน" และเกม "คิดแทนคนอื่น"
หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำลายภาพลักษณ์เพื่อไทยอย่างหนัก คือกรณี คลิปของฮุน เซน นายกฯ กัมพูชาที่พูดถึงการเจรจาให้ "ทักษิณกลับไทย" ซึ่งออกมาในช่วงเจรจาจัดตั้งรัฐบาล หลังพรรคเพื่อไทยข้ามขั้ว
เกมวางตัวแคนดิเดตนายกฯ: รอจนเสียโอกาส
ขณะที่พรรคก้าวไกลถูกขัดขวางอย่างหนักจากวุฒิสภา คนจำนวนมากเริ่มหันมาจับตามองว่า เพื่อไทยจะกล้ายื่น "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร เป็นนายกฯ หรือไม่? แต่เพื่อไทยกลับ ไม่เดินหน้าเสนอชื่อ ทั้งที่มีเสียงสนับสนุนพอจะลองต่อรอง
การยืดเยื้อเช่นนี้ ทำให้ภาพของแพทองธารดูไร้น้ำหนักในฐานะผู้นำ บ่งชี้ว่า พรรคยังติดอยู่ในวังวนการเล่นเกมแบบไม่กล้าเสียสละเพื่อหลักการ
ทักษิณกลับไทย (หรือไม่กลับ): กลายเป็นบูมเมอแรง
การกลับมาของทักษิณในปี 2566 เคยถูกใช้เป็นไพ่สำคัญของเพื่อไทย แต่กลับกลายเป็นบูมเมอแรง การกลับมาแบบมีข้อแม้ทางกฎหมายและการลดโทษแบบรวดเร็ว ทำให้พรรคเสียความน่าเชื่อถือ ประชาชนที่เชื่อว่า "เพื่อไทยจะกลับมาทวงคืนประชาธิปไตย" กลับรู้สึกว่า "แค่ต้องการเอาคนของตัวเองกลับมาอย่างปลอดภัย"
พอเวลาผ่านไปถึงปี 25672568 ทักษิณเองก็ ยังไม่กล้ากลับมาเล่นการเมืองแบบเต็มตัว และฐานเสียงที่เคยแน่นกลับกลายเป็นเปราะบาง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
จุดเปลี่ยนสำคัญหลัง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายก
1. คลิปหุน เซน / คลิป อังเคิล ของนายกฯ
คลิปที่หลุดออกมาซึ่งเกี่ยวโยงกับผู้นำต่างชาติ กลายเป็นดราม่าที่ทำให้ภาพลักษณ์นายกฯ เสนอตัวถูกตั้งคำถามด้านความน่าเชื่อถือ พรรคไม่สามารถควบคุม narrative ได้ทัน สื่อกระแสหลักและออนไลน์ตีความหลากหลาย
การสื่อสารไม่ชัดเจน ทำให้ประชาชนบางส่วนเริ่มคลางแคลงใจในความพร้อมของแคนดิเดตนายก จุดนี้อาจไม่ใช่จุดพังแต่เป็น "รอยร้าวแรก" ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มหาช่องโจมตีได้ง่ายขึ้น
2. ดึงดันอุ๊งอิ๊ง แม้มีโอกาสรีเซ็ตด้วยการยุบสภา
การพยายามผลักดันแคนดิเดตเดิม ทั้งที่คะแนนนิยมเริ่มลดลง และสามารถยุบสภาเพื่อตั้งหลักใหม่ได้ พรรคเลือกอดทน กับความปั่นป่วน ทั้งที่การยุบสภาอาจสร้าง momentum ใหม่ได้ ความพลาดคือการ "ปักธงผิดคน ผิดเวลา" และไม่กล้ายอมรับความเสื่อมถอยของตัวเลือกเดิม
3. พรรคประชาชน (พรรคใหม่) ยื่นข้อเสนอจับมือ แต่ไม่คว้าไว้
พรรคประชาชน (หรือพรรคใหม่ที่มีฐานเสียงใหม่จากคนรุ่นใหม่/กลางเมือง) ยื่นไมตรี ขอแค่ยอมรับแนวทางหลักของเขา เพื่อไทยไม่คว้าไว้ทันที แต่แสดงท่าที "ถือตัว" และ "เล่นการเมืองแบบเก่า" ทำให้โอกาสทองหลุดมือ
จุดเปลี่ยนนี้เป็น ประตูแห่งการหักหลังตัวเอง ที่ชัดที่สุด เพราะพรรคประชาชนพร้อมรับเพื่อไทยในฐานะพันธมิตรหลัก เข้ามาเป็นนายกฯ ชั่วคราว 4 เดือน แต่โลภและถือตัวเกินไป จนยังผลข้อที่ 4
4. ทำเก๋าเกม ใส่เงื่อนไขเพิ่ม / ภูมิใจไทยฉวยโอกาส
แทนที่จะตอบรับโดยไม่มีเงื่อนไข กลับตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติม เหมือนจะบังคับพรรคประชาชนต้องเดินตามเกมของเพื่อไทย ภูมิใจไทยฉวยโอกาสที่เพื่อไทยยังไม่ขยับ ชิงจับมือกับพรรคประชาชน จนเกิด MOA (Memorandum of Agreement) และตั้งรัฐบาลได้ก่อน
จุดนี้คือ "ความมั่นใจผิดที่" ของเพื่อไทย คิดว่าตัวเองยังเป็นศูนย์กลางอำนาจ ทั้งที่บริบทเปลี่ยนไปแล้ว
5. นางแบก นายแบก ที่เชียร์กันแบบมืดบอด
การมีแฟนคลับของแคนดิเดตบางคนที่ไม่ฟังเหตุผล ไม่ยอมรับเสียงวิจารณ์ สร้างภาวะ echo chamber ในพรรค ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดความจริง ว่าเกมนี้กำลังพัง ทุกคนเอาแต่เชียร์โดยไม่ดูผลกระทบจริง
จุดพลาดที่ลึกที่สุด เพราะสะท้อนวัฒนธรรมพรรคที่ไม่เปิดรับเสียงต่าง ไม่กล้าวิเคราะห์ตนเอง
📉 บทสรุป: ตัดสินใจพลาดทีเดียว พังทั้งกระดาน การพลาดของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องจุดเดียว แต่คือ ความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง ที่มาจาก:
- การขาดวิสัยทัศน์ร่วม - การบริหารภายในที่ใช้คนใกล้ชิดมากกว่าผู้เชี่ยวชาญ - การไม่กล้ายอมรับการเปลี่ยนแปลงของการเมืองไทยยุคใหม่ - และที่สำคัญที่สุดคือ "ความหลงตัวเอง" คิดว่าตนยังเป็นพรรคที่ทุกคนต้องเดินตาม
จริงๆ แล้วในแต่ละจุดถ้าเพื่อไทยตัดสินใจไปอีกทาง มันยังพอกลับลำได้ น่าเสียดายที่ในทางการเมืองไม่มีคำว่า "สมมติว่า" หรือ "ถ้าหากว่า" ผลเลยเป็นอย่างที่เราเห็น
To voter
บล็อกนี้เป็นบล็อก Political Blog วันนี้ยาวสักหน่อย โปรดเลือก Political Blog เพื่อเป้าหมาย Skyfall Political Blog
Create Date : 13 ตุลาคม 2568 |
|
7 comments |
Last Update : 13 ตุลาคม 2568 20:53:01 น. |
Counter : 239 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 13 ตุลาคม 2568 21:32:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 14 ตุลาคม 2568 5:20:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 14 ตุลาคม 2568 21:49:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 15 ตุลาคม 2568 21:57:31 น. |
|
|
|
| |
|
|
การเอาลูกมาเป็นนายกฯ
ในฐานะที่ผมมีลูก
สงสารลูกครับ
เป็นพ่อที่ใจร้ายมาก
พรรคเก่าๆ
ผมคงไม่เลือกสักพรรคเลยครับ
สส.หน้าเก่า บริหารประเทศมานาน
ประเทศมีแต่แย่ลงๆ