Release my darkness to the world
<<
กรกฏาคม 2567
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
10 กรกฏาคม 2567

ใส่ชุดคอสเพลย์ไปเรียน?

เมื่อสัก 2 ปีก่อนมีข่าวอยู่หนึ่งข่าวที่เป็นที่ฮือฮาในสังคม โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ นั่นก็คือ ข่าววิทยาลัยพายัพฯ เชียงใหม่ อนุญาตให้นักศึกษาใส่ชุดคอสเพลย์มาเรียนได้ ภาพที่หลายๆ คนเห็นเป็นที่ตื่นตาตื่นใจมาก โดยทางวิทยาลัยอนุญาตให้ใส่ชุดอะไรก็ได้ (ไพรเวท) มาโรงเรียนในวันอังคาร แน่นอนว่าข่าวดังกล่าวนำพามาซึ่งกระแสสังคมที่แบ่งออกเป็นสองด้าน


ความน่าสนใจของข่าวดังกล่าวคือ ข้อมูลสถิติที่ทาง ผอ.วิทยาลัยฯ ได้นำมาเปิดเผย โดยสถิติขาดเรียนในวันดังกล่าวมีน้อย รวมไปถึงแนวคิด "เสรีภาพสร้างวินัย" ของท่านผอ. สิ่งที่ท่านผอ. ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนั้นน่าสนใจ โดยแนวคิดของผอ. คือ เน้นความสุขของผู้เรียน และความกล้าที่จะใส่ชุดคอสเพลย์มาเรียน


"การให้อิสระผ่านการแต่งตัวพบว่ามีผลตอบรับดีมาก ทำให้นักศึกษามีความสุขในการเรียน โดยเฉพาะในวันอังคารที่เปิดโอกาสให้ใส่ชุดไปรเวท ซึ่งจากการเก็บสถิติการเข้าเรียนพบว่า นักศึกษาขาดเรียนน้อยมาก ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นวันที่ทุกคนรอคอยที่จะได้ใส่ชุดที่ชอบมาเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดคอสเพลย์, ชุดการ์ตูน หรือชุดยอดมนุษย์ ก็ทำให้มีความสุขในการเรียน เพราะการที่คนคนหนึ่งใส่ชุดคอสเพลย์ออกจากบ้านมาเรียน จะต้องรวบรวมความกล้ากว่าจะมาถึงวิทยาลัยได้ ฉะนั้นถ้าช่วยส่งเสริมให้กล้าแสดงออกได้ ก็เชื่อว่าประสบความสำเร็จในการสร้างความแตกต่างอย่างสวยงามแน่นอน" -----ธนภัทร มั่นคง ผู้อำนวยการวิทยาลัย


เราเข้าใจคำพูดของผอ. หากใส่ชุดคอสเพลย์แบบอลังการณ์เกินไปก็จะเป็นปัญหากับนักศึกษาเอง เรียกได้ว่าต้องคิดอย่าถี่ถ้วนในการจะแต่งชุดคอสเพลย์







แต่ก็มีคนที่มีแนวคิดอีกแบบซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะอ้างเรื่อง

1. ความเหลื่อมล้ำ เด็กที่ไม่ได้แต่งจะรู้สึกอย่างไร
2. เด็กจะไม่สนใจเรียน มัวแต่แต่งชุดคอสเพลย์


เราขอพูดตรงนี้เลยว่า เรื่องความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องปกติของสังคม ต่อให้คุณใส่ชุดนักเรียนก็มีเหลื่อมล้ำได้ แค่ยี่ห้อ หรือเนื้อผ้าก็เห็นถึงความเหลื่อมล้ำแล้ว ถ้าเจาะลึกไปที่อุปกรณ์การเรียนก็ยิ่งเห็นภาพได้ชัด สังคมมันมีเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะพยายามยัดใต้พรมอย่างไร มันก็ปูดขึ้นมาให้เห็นว่ามันมีขยะอยู่ดี ยิ่งยุคนี้ที่อ้างเรื่องระเบียบวินัยความสงบของบ้านเมืองความเหลื่อมล้ำยิ่งเห็นชัด ตอนนี้เป็นอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว

เรื่องเด็กจะไม่สนใจเรียนเราแต่แต่งตัว ข้อนี้ ผอ.ได้อธิบายชัดเจนแล้ว สถิติมันฟ้องว่านักเรียนหยุดวันที่ทางวิทยาลัยอนุญาตให้แต่งคอสเพลย์มาเรียนน้อยกว่าวันอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าเด็กอยากมาเรียน นี่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ได้จากการทำการทดลองมาแล้ว ไม่ใช่ความเชื่อที่มโนขึ้นมาเอง





ในส่วนนี้เราขอให้ความเห็นในแบบของเราหน่อย เรื่องใส่ชุดไพรเวท (ซึ่งรวมถึงชุดคอสเพลย์) มาเรียน ลองจินตนาการถึงการไปเรียนพิเศษตามสถานกวดวิชาดู หรือเรียนซัมเมอร์ที่หลายๆ โรงเรียนชอบจัดโดยอ้างเรื่องของการปรับพื้นฐาน ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ต่างคนก็ต่างใส่อยากแต่งอะไรก็แต่ง ถ้าเด็กมันอยากจะแต่งอวดกัน ก็ให้มันอวดกันไปเดี๋ยวมันก็เบื่อ ของแบบนี้ต้องให้เด็กมันเรียนรู้จากประสบการณ์และอยู่ร่วมกับมันให้ได้

คำว่าประสบการณ์นี้ก็น่าสนใจ เช่น กรณีเด็กต้องเรียนวิชาที่เกี่ยวกับงานช่าง เด็กจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์เองว่า แต่งตัวแบบไหนจะสะดวกในการทำงานช่าง อย่างมากครูก็อาจจะเตือนให้ระวังหน่อยก็แค่นั้น




นับเป็นทิศทางที่ดีในเรื่องการเปิดกว้างทางความคิด ก็หวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้จะค่อยๆ เรียนรู้เรื่องพวกนี้ โดยไม่ยึดติดกับความคิดเก่าๆ และการมโนที่ไม่เป็นที่ยอมรับ รวมไปถึงไม่มีหลักฐานในเชิงประจักษ์




To voter

บล็อกนี้เป็นบล็อก Political Blog โปรดเลือก Political Blog เพื่อเป้าหมาย Skyfall Political Blog




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2567
12 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2567 21:32:02 น.
Counter : 241 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณดอยสะเก็ด

 

เอาจริงๆ
ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ยากจะทำเลยครับ
เพียงแต่ชุดความคิดเดิมที่เราไม่กล้าเปลี่ยน
ทำให้โรงเรียนเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับเด็กนักเรียนไปแล้ว

แค่ชุดแต่งกายก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โต
เวลาโรงเรียนไหนให้นักเรียนแต่งตัวตามสบาย
มันเป็นเรื่องแปลกมากครับ
ทั้งๆที่มันควรจะเป็นแบบนี้มาตั้งนาแนล้ว

 

โดย: กะว่าก๋า 10 กรกฎาคม 2567 22:09:12 น.  

 

ผมมีมุมมองที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมในหลายๆ เรื่อง แต่กลับเห็นด้วยกับโครงการของ ผอ. ท่านนี้มาก พูดกันตามตรงว่านักเรียนถ้ามันจะอวดกัน แค่ปากกา เครื่องเขียน หรือแม้แต่ชุดนักเรียน มันก็อวดกันได้ การใส่ชุดแบบเดียวกันหมดไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ คำถามคือครูและผู้ปกครองจะสอนให้นักเรียนรับมือกับเรื่องพวกนี้อย่างไรต่างหาก อันนี้สิสำคัญ


ผมอาจจะมีแนวคิดที่อาจจะแปลกกว่าใครคือ โรงเรียนควรมีชุดนักเรียน แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ คล้ายกับพวกบริษัทหลายๆ แห่งที่มีชุดฟอร์มพนักงาน แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ (ไม่บังคับแต่ต้องมี) และการไม่บังคับนี่แหละทำให้ผมอยากใส่ทุกครั้งที่จะใส่ได้ พูดก็พูดนะเด็กๆ อยากแสดงออกอะไรก็ให้มันทำไปเถอะตราบเท่าที่มันไม่ผิดกฎหมาย และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับชาวบ้าน เดี๋ยวมันเข้าวัยทำงานมันก็ไม่อยากทำแล้ว ตอนนี้มันยังมีพลังงานมันยังตื่นเช้าไหว เดี๋ยวเข้าสู่วัยทำงานแค่ลุกจากที่นอนก็เหนื่อยแล้วแล้ว เหมือนน้องในออฟฟิศที่ผมรู้จักคนหนึ่ง ชุดนอน ชุดอยู่บ้าน ชุดเที่ยว ชุดทำงาน ชุดเดียวกัน ซื้อเสื้อโหลเพราะเบื่อก็เลือกชุด เด็กมันยังมีพลังสร้างสรรค์อีกเยอะก็ให้มันทำไปถ้ามันอยากทำ


สมัยผมเรียนภาษาที่จีนจะแต่งอะไรมาเรียนก็แต่งมาเลยครับ คนที่อยู่หอพักมหาวิทยาลัย บางคนมันตื่นสายก็มาทั้งชุดนอนเลย แต่ใส่เสื้อกันลมตัวนึงเท่านั้นเองซึ่งก็สร้างบรรยากาศที่เฮฮาให้ทุกคนในห้องเป็นอย่างมาก คือรู้แหละว่ามันตื่นสาย ครูยังแซวเลยว่า "กินเข้าวรึยังล่ะ" ซึ่งก็เป็นการกระชับความสัมพันธ์กันได้เป็นอย่างดี

โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นนโยบายที่ดี และหากย้อนกลับไปในยุคของตัวเอง ถ้าโรงเรียนที่เราเรียนมีแบบนี้บ้างผมคงรู้สึกอยากไปโรงเรียนมากกว่านี้ แต่ถ้าถามว่าจะแต่งคอสเพลย์ทุกครั้งมั้ย? คงตอบเลยว่า "ไม่" เหตุผลไม่ใช่เรื่องอะไรขี้เกียจหาชุดก็แค่นั้นเอง


ในภาพถ้าผมเป็นครูผมจะแซวนักเรียนให้หนักเลยโดยเฉพาะตัวละครที่ผมรู้จักเช่น "เซ็นนิตสึ อย่าหลับนะ" หรือ "โคมิซัง ลองตอบข้อนี้" ยังไม่ทันจะตอบจะแกล้งให้นั่งทันที น่าจะสร้างความเฮฮาในห้องได้เป็นอย่างดี


อ้อ!! ผมเสริมข้อมูลให้อีกนิด หลายๆ โรงเรียนไม่ได้มีนโยบายลักษณะนี้ ผมไม่ได้เรียกร้องให้คุณต้องมีนโยบาลลักษณะนี้นะ แค่คุณไม่พยายามละเมิดกฎที่คุณมีอยู่แค่นั้นก็ช่วยประเทศนี้ได้มากแล้ว เราจะเห็นได้จากกรณีเสื้อคลุมดาบพิฆาตอสูรซึ่งฮิตกันมากในหมู่เด็กๆ คุณก็ดันจะไปห้ามไม่ให้ใช้ มันเสื้อกันลม ก็ปล่อยๆ ไปเถอะไม่ได้ระบุห้ามในกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการซะหน่อย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 10 กรกฎาคม 2567 22:28:06 น.  

 

555 อาจารย์เต๊ะก็ชอบนะครับ ที่มหาลัยที่อาจารย์เต๊ะสอนนี่
นศ จะมีฐานะ พ่อแม่รวยหน่อย
จัดหนักกันตั้งแต่สีผมมาเลย มีทั้งแดง เขียว ชมพู ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย
อาจารย์อยากจะทำมั้งแต่ผมไม่ค่อยจะมีให้ทำคร้าบ 555

ชุดอาจจะไม่ถึงคอสเพย์ ก็ไม่ใช่สไตล์บ้านๆแน่นอน
ชุดไม่มีผลต่อการเรียน แต่มีผลกับความมั่นใจ
ถ้าชุดไม่เจ็บ นี่ อาจถึงขั้นเรียนไม่รู้เรื่องกันทีเดียวเชียวนะครับ555

 

โดย: multiple 11 กรกฎาคม 2567 5:55:20 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 11 กรกฎาคม 2567 5:59:07 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

เรื่องการแต่งตัว มันก็มีหลายมุมมองนะคะ
ถามเรา เราก็ยังมีความเห็นแบบเดิมๆบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด

เด็กเดี๊ยวนี้บางที่มันก็สุดโต่งจนเกินไปนั่นแหละค่ะ

การอบรมจากครอบครัวนี่คือพื้นฐานของจิตใจเด็กเลยนะคะ
เด็กจะเข้าใจโลกภายนอกแค่ไหน รับมือโลกภายนอกได้แค่ไหน
ครอบครัวสมัยก่อนมีเวลาให้เด็กมากกว่าครอบครัวสมัยนี้นะคะ



 

โดย: tanjira 11 กรกฎาคม 2567 6:38:56 น.  

 

มันก็มีทั้งดีทั้งเสียจ้า
เด็กที่บ้านไม่มีตังค์ก็จะ
รู้สึกเป็นปมด้อยหละที่นี้

 

โดย: หอมกร 11 กรกฎาคม 2567 7:37:03 น.  

 

ผมว่าน่าจะเน้นเรื่องคุณภาพการเรียน การสอนดีกว่า ส่วนเรื่องแต่งกายเห็นด้วยว่าใส่ชุดไรก็ได้ครับ ให้เรียบร้อยก็พอ

 

โดย: The Kop Civil 11 กรกฎาคม 2567 15:34:20 น.  

 

สำหรับเราจากใจเลยนะคะ เรายังอยากให้มีเครื่องแบบค่ะ
แต่ไม่ใช่ไปจำกัดว่าต้องเป๊ะๆ สมัยก่อนนี่ครูวัดกระโปรงวัดกางเกงกันทีเดียว
นี่ก็เกินไปค่ะ ผมนี่ก็ต้องสั้นเสมอติ่งหู อันนี้มันก็เกินไปอีกค่ะ
น่าจะสายกลางๆ ดีที่สุด ...
เครื่องแบบเดี๊ยวนี้ก็มีหลากหลายนะคะ อย่างเอกชน รัฐก็ทำได้
ให้ดูความต้องการของเด็กให้เป็นส่วนใหญ่ นั่นคือดีล่ะค่ะ นะยุคนี้

สมัยนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร มันด้อยไปหมด วิชาความรู้ไม่แน่นเหมือนก่อน
แต่เด็กเดี๊ยวนี้มันก็ห้วแข็งมากขึ้น พอดีมีลูกค้าเป็นอาจารย์มักเล่าให้ฟังค่ะ
แล้วครูที่สอนสมัยนี้(บางคน)ก็ไม่ค่อยรับผิดชอบการเรียนการสอนมากนัก
ไม่ว่ายังไง ทั้งเด็กและครู ก้ต้องมีพื้นฐานคุณภาพที่ดี และมีจิตใจที่ดีเหมือนๆกันนะคะ

เดี๊ยวนี้เด็กอนุบาลยังมีห้องเรียน ep แยกจากปกติเลยค่ะ
นี่ลูกของหลานชายจะเข้าอนุบาลปีหน้า มารอดูกันค่ะ ว่าจะยังไง



ปล. สมัยนี้อะไรๆรอบตัวทำเอาเราเหนื่อยใจนะคะ

 

โดย: tanjira 14 กรกฎาคม 2567 6:37:45 น.  

 

ใช่ครับ

รอบนี้ผมไปแบบไม่มีความรู้อะไรเลยครับ
คนอื่นที่เขาเคยเดินมาแล้ว
เตรียมตัวกันพร้อมมากครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 14 กรกฎาคม 2567 20:30:27 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 15 กรกฎาคม 2567 5:08:56 น.  

 

อันนี้ผมเห็นด้วยเลยครับ
ผมว่ามันกระตุ้นให้อยากไปเรียน ส่วนจะบอกว่าสิ้นเปลืองไหม จริง ๆ เค้าก็ไม่ได้บังคับมาให้ใส่ ใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ถึงไม่ใส่ผมก็เชื่อว่าเด็กมันอยากไปดูเพื่อนๆ แหละครับ

อย่างโรงเรียนหลานผม ทุกวันศุกร์จะใส่ชุดอะไรก็ได้ไป จะเจ้าหญิง จะอะไรสวยงามตามใจ
และจะมีธีม สนุก ๆ ให้ร่วมสนุกบ่อยๆ
มันทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นอยากไปเรียนมากครับ ตื่นแต่เช้าตั้งใจแต่งตัวไปเรียนไม่เรื่องเยอะ
ถามว่ามันเปลืองไหม....เปลืองครับ 5555 แต่เปลืองแบบสมัครใจ ก็ไม่ผิดอะไรครับ


 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 15 กรกฎาคม 2567 13:16:58 น.  

 

จากบล๊อก

เรียกว่าเกือบหลับแต่กลับมาได้ละครับ
ด้วยความฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาแล้ว ติดไวรัสจากหลานเมื่อเดือนก่อนหนักกว่านี้ 10 เท่าครับ 555555
แค่มันเพลียๆ แล้วหลานป่วยพร้อมกันก็ดูแลกันวุ่นวายซักหน่อย

ลาก็ไม่ได้ป่วยได้ ลาตายก็ไม่มีครับ 55555555555

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 15 กรกฎาคม 2567 13:41:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


สมาชิกหมายเลข 7115969
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




การเมือง - สังคม เป็นเรื่องของทุกคน เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ถ้าคุณหันหน้าหนีการเมือง การเมืองจะตามไปเล่นงานคุณอย่างไม่ต้องสงสัย

active citizen!! สิ่งรอบตัวเราแท้จริงแล้วเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น แม้คุณจะไม่อยากยุ่งกับการเมืองแต่การเมืองยังไงก็จะมีผลกระทบกับคุณ


โลกคู่ขนาน เรียกเราแบบนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อระบบสมาชิกแบบเฟสบุ๊คไม่สามารถตั้งชื่อได้ เรามีตัวตนในโลกนี้ที่เป็น "light" งั้นเราก็จะเป็น "darkness" เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกที่มีอยู่

[Add สมาชิกหมายเลข 7115969's blog to your web]