อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

18 ไอเดียเจ๋ง ! เปลื่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋ว

18 ไอเดียเจ๋ง ! เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก

ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
18 ไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

กระถางต้นไม้ใบเก่าที่แตกจนใช้งานไม่ได้ อย่าเพิ่งทิ้งไปอย่างไร้ค่า ลองมาดูไอเดียสุดเจ๋ง เปลี่ยนกระถางแตกให้กลายเป็นสวนน่ารัก ๆ ให้อึ้งกันก่อนจ้า

          ในการทำสวนบ่อยครั้งเราต้องเจอกับปัญหากระถางต้นไม้แตกหัก จนทำให้ต้นไม้ไม่มีที่อาศัยไปซะอย่างนั้น ซึ่งถ้าคุณกำลังเจอกับปัญหากระถางต้นไม้แตก อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ ! ลองได้เห็นไอเดียเจ๋ง ๆ ในการครีเอทกระถางต้นไม้แตก ๆ ให้กลายเป็นสวนน่ารัก ๆ ขนาดย่อม รับรองถ้าเอาไปประดับสวน กระถางที่เคยพังจะดูมีคุณค่าขึ้นมาทันตาเลยล่ะ

   โดยลักษณะการจัดสวนก็สามารถใส่ความครีเอทได้ตามใจต้องการ แต่ควรใช้ทุกชิ้นส่วนของกระถางที่แตกหักให้คุ้มค่า เช่น นำเอาชิ้นที่แตกหักมาทำเป็นขั้นบันได ต่อเติมเป็นบ้านเล็กในป่าใหญ่ หรือการจัดเรียงให้คล้ายกับรูปแบบของมุมนั่งเล่น เอาล่ะสิ..ไอเดียเจ๋งขนาดนี้ เราลองไปเก็บแรงบันดาลใจ แล้วรีบไปจัดการกับกระถางในสวนบ้างดีกว่า ลุย !


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Badlay

ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Daily Colours


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Rebecca Snyder


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก The Garden Love


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Boredpanda


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก  Boredpanda


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Genevieve Gail


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Boredpanda

ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Lynette


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Chigiy


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Infojardin


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก  HM-decor


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Sarah Wynne


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Kelli Voss


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Wohl & Toll


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Naturework


ไอเดียจัดสวน  เปลี่ยนกระถางแตกเป็นสวนจิ๋วสุดน่ารัก
ภาพจาก Boredpanda




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2557    
Last Update : 29 สิงหาคม 2557 4:34:13 น.
Counter : 3315 Pageviews.  

การบริโภคถั่วมากขึ้นสามารถเพี่มความอิ่มและอาจช่วยควบคุมนํ้าหนัก

การบริโภคถั่วมากขึ้นสามารถเพิ่มความอิ่มและอาจช่วยควบคุมน้ำหนัก

WRITTEN BY PIYAWANEE ON . POSTED IN ชีววิทยา, ทั่วไป, วิทยาศาสตร์, สุขภาพ, อาหารการกิน

การศึกษาใหม่พบว่าการบริโภคถั่วเมล็ด ถั่วฝัก ถั่วลูกไก่หรือถั่วเลนทิลในทุกๆวันสามารถเพิ่มความอิ่มซึ่งอาจจะนำไปสู่การควบคุมและการลดน้ำหนักที่ดีขึ้น

ตามที่ข้อมูลของ ดร. John Sievenpiper จากศูนย์โภชนาวิทยา (Clinical Nutrition and Risk Factor Modification Centre) ประจำโรงพยาบาล St. Michael's Hospital ซึ่งเป็นผู้เขียนงานวิจัยชิ้นนี้ได้ระบุว่า จากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์งานวิจัยทางคลินิกทั้งหมด พวกเขาพบว่าผู้ที่รับประทานถั่วโดยเฉลี่ย 160 กรัม จะรู้สึกอิ่มมากขึ้นคิดเป็นร้อยละ 31 เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มศึกษาที่ควบคุม โดยการค้นพบครั้งนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Obesity ฉบับเดือนสิงหาคม

ดร. Sievenpiper ได้กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะรู้ถึงประโยชน์ของถั่วกันดี แต่มีเพียงร้อยละ 13 ของชาวแคนาดาที่บริโภคถั่วตามปริมาณที่กำหนดในทุกวัน และคนส่วนใหญ่ก็บริโภคถั่วในปริมาณที่ไม่ถึงตามกำหนด ซึ่งก็คือ 130 กรัมหรือ 3 ใน 4 ถ้วย”

ถั่วมีดัชนีน้ำตาลต่ำ (Glycemic Index) ซึ่งหมายความว่าถั่วเป็นอาหารที่ถูกย่อยได้อย่างช้าๆ และสามารถลดหรือทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์และไขมันไม่ดี เช่นไขมันทรานส์ในมื้ออาหารได้

ดร. Sievenpiper ตั้งข้อสังเกตว่าร้อยละ 90 ของคนที่ประสพความล้มเหลวในการลดน้ำหนักและส่งผลให้น้ำหนักกลับมา ซึ่งอาจจะมีส่วนมาจากความหิวและความอยากอาหาร การรู้ซึ่งว่ามีอาหารที่สามารถทำให้คนรู้สึกอิ่มนานขึ้นอาจช่วยให้พวกเขาลดน้ำหนักและไม่กลับไปอ้วนอีกก็ได้

เขายังกล่าวอีกว่า “การค้นพบว่าถั่วได้ทำให้คนรู้สึกอิ่มมากขึ้นนั้น มันสามารถใช้ได้จริงในทุกช่วงอายุและดัชนีมวลกาย”

ถึงแม้ว่าการวิเคราะห์จะบอกว่าการบริโภคถั่วแทบจะไม่มีผลกระทบต่อการรับประทานอาหารมื้อที่สองหรือ ปริมาณอาหารที่คนบริโภคในมื้อต่อไป ซึ่งการค้นพบนี้ได้สนับสนุนการทดลองทางคลินิกในระยะยาวที่แสดงถึงประโยชน์ในการลดน้ำหนักโดยการบริโภคถั่ว

ดร. Sievenpiper ได้กล่าวอีกว่า “สิทธิประโยชน์พิเศษที่ได้รับจากการบริโภคถั่วแล้ว การบริโภคธัญพืชในเขตแคนาดาก็ยังได้ผลที่ดีเยี่ยมเหมือนกันได้ด้วย นั่นหมายถึงการบริโภคอาหารที่มีในท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการทำให้ชุมชนยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก"

การรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์วารสารทางวิชาการในอดีตของ ดร. Sievenpiper ได้รวบรวมการศึกษาทางคลินิกทั้งหมด 9 การทดลอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วม 126 คน จากการคัดกรองวารสารกว่า 2,000 ฉบับ

การศึกษานี้ได้รับทุนสนับสนุนจาก Pulse Canada and the Canadian Institutes for Health Research

และเมื่อเร็วๆนี้ ดร. Sievenpiper ได้ตีพิมพ์ผลงานที่ได้จากการรวบรวมและวิเคราะห์วารสารที่ถูกตีพิมพ์มาแล้ว ซึ่งพวกเขาพบว่าการบริโภคถั่วเมล็ด ถั่วฝัก ถั่วลูกไก่หรือถั่วเลนทิลยังสามารถลด "คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี" ได้ร้อยละ 5 และส่งผลให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงอีกด้วย

ที่มา //www.sciencedaily.com/releases/2014/08/140805132146.htm

เอกสารอ้างอิง   Siying S. Li, Cyril W.C. Kendall, Russell J. de Souza, Viranda H. Jayalath, Adrian I. Cozma, Vanessa Ha, Arash Mirrahimi, Laura Chiavaroli, Livia S.A. Augustin, Sonia Blanco Mejia, Lawrence A. Leiter, Joseph Beyene, David J.A. Jenkins, John L. Sievenpiper. Dietary pulses, satiety and food intake: A systematic review and meta-analysis of acute feeding trials. Obesity, 2014; 22 (8): 1773 DOI: 10.1002/oby.20782





 

Create Date : 29 สิงหาคม 2557    
Last Update : 29 สิงหาคม 2557 4:19:19 น.
Counter : 1048 Pageviews.  

การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

วิธีถนอมอาหาร ภูมิปัญญาพื้นบ้าน สืบสานมาหลายชั่วอายุคน บ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร กับ การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหารแบบคนสมัยเก่า

การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

ปัจจุบัน การถนอมอาหารที่นิยมที่สุด น่าจะเป็นการแช่ตู้เย็นนะ แต่ย้อนไปสมัยโบราณ ตู้เย็นยังมีราคาแพง และยังไม่แพร่หลาย ชาวบ้านต้องอาศัยวัสดุจากธรรมชาติในการถนอมอาหาร

ที่้บ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ก็มีวิธีถนอมอาหารที่แปลก แบบที่เราคาดไม่ถึง และหาชมได้ยากยิ่ง

ชาวบ้าน อ.โพธิ์ไทร มีวิถีชีวิตอยู่กับสายน้ำโขง ส่วนใหญ่มีอาชีพประมง หรือจับปลาลุ่มน้ำโขง สมัยก่อนยังไม่มีตู้เย็น ปลาที่จับได้ พอมีคนมาซื้อ ชาวบ้านจะเอากาบกล้วยมาห่อให้ ความชุ่มชื้นของกาบกล้วย สามารถถนอมอาหารให้เย็นและสดได้หลายชั่วโมงทีเดียว

ภูมิปัญญาชาวบ้านน่าสนใจ หาชมได้ยาก แต่รู้ไว้ไม่เสียหาย หากในวันหนึ่งไฟฟ้าไม่มี ไปตกปลาในที่ไม่มีถังน้ำแข็ง ลองใช้วิธีของชาวบ้านดูได้

ข้อมูลจาก //guideubon.com

ขั้นตอน การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

การเก็บรักษาปลาสด วิธีถนอมอาหาร แบบคนสมัยเก่า

ThuFebruary201422927_nat45-




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2557    
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 3:06:07 น.
Counter : 1463 Pageviews.  

อลังการ ! นํ้าตกรูปหัวใจ สูงที่สุดในไทย

เชื่อว่าสมาชิกได้เคยเห็นน้ำตกสวยๆ มากมายในเมืองไทย แต่ที่เราจะพาไปรู้จักต่อไปนี้ ไม่ใช่น้ำตกธรรมดา นอกจากจะสวยงดงามในหน้าฝนแล้ว ยังเป็นน้ำลักษณะพิเศษและสูงที่ในไทยอีกด้วย นั่นคือ “น้ำตกปิตุ๊โกร“

อลังการ! น้ำตกรูปหัวใจ สูงที่สุดในไทย

ปิตุ๊โกร

“น้ำตกปิตุ๊โกร” น้ำตกที่อยู่บนดอยเทือกเขาสามหมื่น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นน้ำตกที่ได้ขึ้นชื่อว่าใหญ่และสูงที่สุดในเมืองไทย ด้วยความสูงกว่า 500 เมตร(วัดด้วยเครื่อง GPS) หรือเกือบสองเท่าของตึกใบหยก นับเป็นน้ำตกที่อลังการสุดๆ และนอกเหนือจะเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ในไทยแล้ว ที่น้ำตกแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความโรแมนติกด้วย ถ้านักท่องเที่ยวได้มองน้ำตกปิตุ๊โกรจากที่ไกลๆ จะเห็นน้ำตกแห่งนี้เป็นรูปหัวใจ บางคนจึงเรียกที่นี่ว่าน้ำตกรูปหัวใจ

น้ำตกปิตุ๊โกร (93)

การเดินทางไปยังน้ำตกแห่งนี้ เริ่มจากจากอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ใช้เส้นทางสายอุ้มผาง บ้านเบิ้งคลิ่ง ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง จะถึงหมู่บ้านกุยเลอตอ จากนั้นจะต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามเทือกเขาและลำธาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้ดื่มดำกับธรรมชาติอันสวยงามกันระหว่างทาง จนถึงน้ำตกปิตุ๊โกร

pitukoo-waterfall-014ภาพ : sadoodta.com

การมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้ จะต้องพักค้างคืนในป่า หลังจากได้ยลน้ำตกสวยกันไปแล้ว ก็จะมาตั้งแค้มป์พักแรมกันบริเวณเชิงเขาด้านล่างใกล้น้ำตก พอตอนเช้าก็พากันเดินเท้าสู่ดอยมะม่วงสามหมื่น ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีที่รายล้อมไปด้วยสายหมอก เพื่อจะไปชมทัศนียภาพในมุมสูงของน้ำตก สำหรับการเดินทางกลับก็ใช้เส้นทางเดียวกับตอนมาคือเดินกลับไปที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงกุยเลอตอ

น้ำตกปิตุ๊โกร

pi1

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : sadoodta.com / e-travelmart.com / tattak.myreadyweb.com/




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2557    
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 3:01:55 น.
Counter : 1651 Pageviews.  

10 วิธีลด หวาน ต้านชรา


เมื่อเข้าช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวหลายคนก็จะคิดถึงเครื่องดื่ม หวาน ๆ เย็นๆ ไม่ว่าจะน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ปั่น ไอศกรีม ผลไม้ลอยแก้ว น้ำแข็งใส ขนมหวาน ขนมเค้กและอื่นๆ เพื่อช่วยดับกระหายคลายร้อย อาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ช่วยทำให้ความรู้สึกร้อนดีขึ้น สดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในทันที และคนส่วนมากก็มักจะติดอยู่กับความรู้สึกนี้ เรียกว่า “ภาวะติดน้ำตาล”

466096777

คือกินหรือดื่มอาหารต้องมีน้ำตาลหรือความ หวาน เป็นส่วนประกอบ เมื่อติดแล้วหากไม่ได้กินน้ำตาลก็จะรู้สึกไม่สดใส ไม่มีแรง หรือบางครั้งก็หงุดหงิด อารมณ์เสีย กลไกเมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะถูกแปรรูปให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ให้เป็นพลังงาน การที่เราได้รับน้ำตาลในปริมาณสูงจะทำให้มีระดับของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และฮอร์โมนตัวหนึ่งที่สร้างมาจากตับอ่อนที่ชื่อว่าอินซูลินก็จะถูกสร้างมากขึ้นด้วยเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ แต่การที่ตับอ่อนต้องทำงานหนักเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้ตับอ่อนล้า หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ และผลที่ตามมาก็คือการเกิดโรคเบาหวาน และเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเกินความต้องการ น้ำตาลเหล่านั้นก็จะแปรรูปเป็นไขมันสะสมไปทั่วร่างกาย ผลที่ตามมาก็คือการเกิดโรคอ้วน จะส่งผลให้ร่างกายทำงานหนักมากเกินไปร่างกายก็จะเสื่อมโทรมและชราเร็วกว่าที่ควรเป็นอีกทั้งยังเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดอีกด้วย

1. เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำ หวาน

เน้นการดื่มน้ำเปล่า เครื่องดื่มชาหรือสมุนไพรที่ไม่เติมน้ำตาล ร่างกายต้องการน้ำวันละ 8 แก้วขึ้นไป น้ำช่วยขจัดของเสีย ขนส่งสารอาหารและออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์ การดื่มน้ำน้อยนอกจากจะทำให้ผิวไม่สดใสยังส่งผลให้อวัยวะภายในของร่างกายต้องทำงานหนักเป็นที่มาของความเสื่อมโทรม

2. รับประทานผลไม้สดแทนขนม หวาน

ทานผลไม้ที่ไม่ผ่านการแปรรูป เพราะผลไม้สดนั้นให้วิตามิน เกลือแร่และใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย แถมยังได้รส หวาน จากน้ำตาลฟรักโทส กลูโคสจากที่ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น อาจนำผลไม้มาปั่นทำเป็นไอศกรีมแท่ง หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แช่แข็งแล้วใส่ในน้ำดื่มแทนน้ำแข็งก็จะได้น้ำดื่มกลิ่นผลไม้ แต่ไม่ได้น้ำตาลส่วนเกิน

3. เลือกชนิดของขนม หวาน ที่จะรับประทาน

หากอยากจะกินขนม หวาน น้ำแข็งใสก็ควรกินกับธัญพืชที่ให้ใยอาหารสูง เช่น ลูกเดือย ถั่วแดง ถั่วเขียว ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด หรือผลไม้รสไม่ หวาน เช่นฝรั่ง มะม่วงมันดิบ ลูกพรุน เนื่องจากใยอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายและช่วยลดปริมาณความต้องการอินซูลินของร่างกาย ร่างกายก็จะไม่ทำงานหนักทำให้ร่างกายมีเวลาเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ใยอาหารยังช่วยให้อิ่มท้องได้นาน ลดความหิวของ หวาน ลดความอ้วนได้

4. หลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการเติมนํ้าตาลลงในอาหารและเครื่องดื่ม

ในที่นี้หมายถึงน้ำตาลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดง น้ำผึ้ง ไซรัป และไฮฟรักโทสคอร์นไซรัปหรือน้ำตาลที่สกัดจากข้าวโพด เป็นต้น เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายสุดท้ายจะเปลี่ยนไปเป็นกลูโคสดังนั้นจึงควรลดปริมาณการใช้น้ำตาลเหล่านี้ในอาหารและเครื่องดื่ม

5. ชิมรสชาติอาหารก่อนปรุงทุกครั้ง

ในบางครั้งเรามักจะติดการปรุงอาหารโดยการใส่น้ำตาลก่อนเสมอทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไปจนเกิดโทษ และหากสั่งอาหารก็ควรเน้นว่าไม่ หวาน เนื่องจากหากรสชาติไม่ หวาน เราสามารถเพิ่มเติมเองที่ละน้อยได้

6. บ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานของ หวาน

บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าธรรมดาหลังจากกินขนม หวาน หรือน้ำหวาน เนื่องจากความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงความหวานจากต่อมรับรสชาติภายในช่องปากจะส่งผลให้เกิดความอยากอาหาร และยังเป็นสาเหตุหลักที่ทําให้ฟันผุ เพราะแบคทีเรียที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังจากรับประทานอาหารจะมีโอกาสทำลายฟัน หรือหาโอกาสแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารหรือของว่างทุกครั้ง

7. อ่านฉลากโภชนาการข้างบรรจุภัณฑ์

ควรอ่านฉลากโภชนาการที่บอกถึงปริมาณน้ำตาลที่ข้างกล่องว่า มีน้ำตาลซูโครส แล็กโทส ฟรักโทส กลูโคส มอลโทส น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง ไฮฟรักโทสคอร์นซีรัป คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์หรือเป็นกี่กรัมหากมีมากกว่า 15 กรัมหรือประมาณ 3 ช้อนชาก็ควรจะหลีกเลี่ยง

8. ให้เวลาร่างกายในการปรับตัว

ร่างกายเราจะใช้เวลาประมาณ 10 วันในการปรับสภาพลิ้นที่ติดรสชาติอาหาร หวาน ในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกว่าอาหารหรือเครื่องดื่มขาดรสหวานและรสชาติไม่เหมือนเดิม แต่หากให้เวลาสักพักร่างกายจะสามารถปรับและลิ้นจะมีความชินกับชาติอาหารที่ไม่ หวาน และต่อไปก็จะต้องการน้ำตาลลดลง

9. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กโดย ไม่ให้ขนมหวาน ทอฟฟี่ ช็อคโกแลต และไม่ควรแสดงความรักให้รางวัลปลอบใจเด็กหรือฉลองเทศกาลต่างๆ ด้วยอาหารที่มีน้ำตาลสูง

10. ใช้สารให้ความ หวาน บางตัวที่มีประโยชน์

ในช่วงที่ลดน้ำตาลอาจมีการใช้สารให้ความ หวาน บางตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น หญ้าหวานหรือ Stevia ใบของหญ้าหวานนี้จะให้ความ หวาน มากกว่าน้ำตาลทรายขาวปกติถึง 30 เท่าจึงใช้เพียงปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าการศึกษาจะระบุถึงความปลอดภัยของหญ้าหวาน ไม่มีอันตรายในคน และไม่เกิดพิษสะสมได้ แต่กระนั้นก็ตามการใช้หญ้าหวานก็ควรที่จะระมัดระวัง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยเช่น ในบางรายอาจเกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารได้

ถึงแม้ว่าการได้รับน้ำตาลมากเกินไปจะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคเรื้อรังและเร่งความชรา การได้รับน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสมคือไม่เกินกว่า 5 ช้อนชาในหนึ่งวันก็ไม่ถือว่าอันตรายเนื่องมาจากน้ำตาลมีหน้าที่คือให้พลังงาน เพื่อใช้ในการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น การหายใจ การย่อยอาหาร การทำงานของต่อมมีท่อและไร้ท่อต่างๆ และที่สำคัญคือน้ำตาลเป็นอาหารของสมอง ร่างกายจะใช้พลังงานจากน้ำตาลก่อนสารอาหารประเภทไขมันหรือโปรตีน ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานก็ควรพกน้ำตาลติดไว้หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำก็ควรดื่มน้ำหวานหรือลูกอมน้ำตาล และในผู้ที่สูญเสียเหงื่อหรือมีอาการท้องเสียการได้รับน้ำตาลก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้น ไม่อ่อนแรง เพราะฉะนั้นหากเราเลือกรับประทานนํ้าตาลในปริมาณที่เหมาะสมให้ถูกต้องตามปัจจัย แวดล้อมของแต่ละบุคคลอันประกอบไปด้วยอายุ เพศ นํ้าหนัก ส่วนสูง และกิจกรรมระหว่างวันก็จะทําให้ร่างกายไม่ขาดสมดุลและไม่ก่อให้เกิดความชราก่อนวัยอันควร

ขอบคุณที่มาจาก : //www.womanplusmagazine.com




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2557    
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 2:57:07 น.
Counter : 1368 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.