อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

kristina Pimenova ถูกยกให้เป็น นางแบบเด็ก ที่หน้าสวยที่สุดในโลก

Kristina Pimenova

Kristina Pimenova นางแบบเด็ก นางฟ้าตัวน้อยชาวรัสเซีย ยิ่งโตก็ยิ่งสวย จากเมื่อ 2 ปีก่อนที่ Women.MThai Team เคยนำ เสนอเรื่องราวของเธอไปแล้ว วันนี้ ออร่าของสาวน้อยยิ่งเปล่งประกาย และ หนูน้อยคนนี้มีดียิ่งกว่าความสวย เรามาอัพเดตกันหน่อยว่า บนถนนสายแฟชั่น  หนูน้อยชาวรัสเซียคนนี้ ตอนนี้ เธอเจิดจ้าเพียงไหน

Kristina Pimenova เป็นถึงนางแบบปกระดับแถวหน้าของ นิตยสาร Vogue Bambini (นิตยสารแฟชั่นเด็กชื่อดัง ที่ยกระดับการนำเสนอแฟชั่นสำหรับเด็กครบทุกด้าน มีงานอีเว้นท์ แฟชั่นวีค แฟชั่นโรดโชว์ ที่เด็กคนไหนได้ขึ้นปก นั่นคือ คัดแล้วว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการแฟชั่น) นอกจากนั้น เว็บไซต์ womendailymagazine.com ยังยกให้เธอเป็น นางแบบเด็ก ที่หน้าสวยที่สุดในโลก อีกด้วย

นอกจากนี้ หนูน้อยหน้าสวยวัย 6 ขวบคนนี้ ยังร่วมงานออกแบบกับทีมดีไซเนอร์ของแบรนด์ดังอย่าง Roberto Cavalli และ  Benetton เพื่อสร้างคอลเลคชั่นที่มีสไตล์ความเป็นเธอใส่ลงไปด้วย …. ว้าว สวยไม่ธรรมดาจริงๆ นะจ๊ะ สาวน้อย

Kristina Pimenova

นางแบบเด็กหน้าสวย

นางแบบเด็กหน้าสวย

.

นางแบบเด็ก
นางแบบเด็กหน้าสวย

Kristina Pimenova

Cr. Pic : FashionBank.ru

นางแบบเด็ก

นางแบบเด็ก

นางแบบเด็กหน้าสวย

อีกหนึ่งความสามารถของสาวน้อยคนนี้จ้า…
Cr. Pic : //www.kristinapimenova.com

นางแบบเด็ก
นางแบบเด็กหน้าสวย
นางแบบเด็กหน้าสวย

.

เรียบเรียงโดย Women.MThai.Team 

ขอบคุณภาพจาก : kristinapimenova.com, xinhuanet และ  //www.womendailymagazine.com/beautiful-girl-world-kristina-pimenova/

.




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 7:44:51 น.
Counter : 1679 Pageviews.  

เก๋งสุดทน! เร่งเครื่องพุ่งชนเด็กแว้น ล้มระนาวกลางแยก

เกิดเหตุรถเก๋งสีฟ้าเร่งเครื่องพุ่งชนแก๊งเด็กแว้นเมืองกบินทร์บุรี ขณะจอดรถติดไฟแดงอยู่เกือบ 100 คัน ล้มคว่ำระเนระนาด ก่อนขับหลบหนีไป  

รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นช่วงกลางดึกของวันเสาร์(15 พ.ย.)ที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกไฟแดงกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี  มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังเร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
unnamed
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบว่าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ต้องช่วยกันนำคนเจ็บส่ง รพ.กบินทร์บุรี จำนวน 5-6 ราย จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ขับขี่รถแข่งกันออกมาจากงานคาราวานรถคลาสสิค บริเวณถนนหลวง 304 กบินทร์บุรี มุ่งหน้าไป จ.ฉะเชิงเทรา จนถึงแยกไฟแดงและได้จอดรถติดไฟแดงรวมกว่า 100 คัน
พอไฟเขียวทุกคันต่างเร่งเครื่องยนต์ขับแข่งกันไปส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋ง สีฟ้า ไม่ทราบยี่ห้อรุ่น และหมายเลขทะเบียน ที่ขับตามหลังมาเร่งเครื่องพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ที่อยู่ข้างหน้าล้มระเนระนาดหลายคัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวอาจไม่พอใจที่เห็นกลุ่มเด็กแว้นหลายคันเร่งเครื่องต่อหน้า และมักจะปิดถนนแข่งรถกันเป็นประจำ




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 7:31:58 น.
Counter : 1363 Pageviews.  

10 อาการกลัวสุดแปลกประหลาดที่เชื่อเถอะว่ามันมีจริง

อาการกลัวสุดแปลก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

มาดู 10 อาการกลัวสุดแปลกแต่มีจริง ถ้าคิดว่าอาการกลัวที่เคยพบเห็นว่าแปลกแล้ว ขอบอกว่าอาการเหล่านี้ก็แปลกไม่แพ้กันเลยค่ะ

          อาการกลัวที่ร้ายแรงหรือที่เราเรียกว่าโฟเบีย (Phobia) มีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็แปลกจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครบนโลกเป็นด้วย แต่ก็มีจริง ๆ อย่างที่เราเห็นได้ชัด ๆ ก็คือโรคกลัวรู ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังกันอยู่พักหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีอาการกลัวอีกมากมายที่เราอาจจะยังไม่รู้จักกัน ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับอาการกลัวสุดแปลกที่ไม่คิดว่าจะมีบนโลกนี้ ที่เว็บไซต์ listverse.com นำมาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย !

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวการพากย์เสียงหุ่น (Automatonophobia)

          หลาย ๆ คนคงจะเคยได้เห็นการพากย์เสียงหุ่นโดยที่ผู้พากย์ไม่ต้องขยับปากเลยแม้แต่น้อย โดยเจ้าหุ่นพวกนี้มีต้นกำเนิดเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว บางคนเห็นการพากย์เสียงหุ่นแล้วทนไม่ได้ จะรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เพราะหุ่นที่นำมาพากย์นั้นมีลักษณะใกล้เคียงกับคนมาก เมื่อเห็นผู้พากย์ไม่ได้ขยับปากเลยจึงคิดว่าเสียงเหล่านี้มาจากอีกโลกหนึ่ง ดังนั้นจะรู้สึกกลัวหุ่นมาก และจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าคนที่ทำการแสดงพวกนี้เขาทำได้อย่างไร

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวการนั่ง (Cathisophobia)

          Cathisophobia โรคนี้ไม่ใช่แค่เพียงกลัวการนั่งเท่านั้นแต่กลัวการที่จะมีใครมานั่งข้าง ๆ อีกด้วย ซึ่งบางคนที่มีอาการรุนแรงจะรู้สึกว่าการที่ต้องนั่งบนเก้าอี้นั้นเหมือนการนั่งบนสิ่งของที่แหลมคมและสร้างความเจ็บปวดได้ ดังนั้นผู้ที่มีอาการเหล่านี้มักจะหลีกเลี่ยงการนั่งในทุก ๆที่ โดยเมื่อต้องนั่งคนเหล่านี้จะมีอาการวิตกกังวล เหงื่อออกและหายใจหอบ หรือหายใจถี่เลยทีเดียว ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะเกิดจากสมัยเด็ก ๆ เคยถูกทำโทษด้วยการให้นั่งอยู่กับอาจารย์ที่ดุ ๆ อยู่เป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความกลัวการนั่งแล้วอาจนำไปสู่ความกลัวอื่น ๆ ได้อีกด้วย

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวเนยถั่วติดเพดานปาก (Arachibutyrophobia)

          เนยถั่วคงเป็นอาหารโปรดของใครหลายคน แต่คงไม่ใช่กับคนที่เป็นโรค Arachibutyrophobia อย่างแน่นอน เพราะเมื่อคนที่มีอาการเหล่านี้เห็นเนยถั่วก็จะเกิดเหงื่อไหลออกมาเป็นก๊อก และร่างกายเริ่มกระตุก รู้สึกคันเพดานปากขึ้นมาในทันที ซึ่งอาการเหล่านี้ก็ไม่ค่อยจะเกิดกับผู้ใหญ่เท่าไร แต่มักจะเกิดกับเด็กที่มักจะมีเนยถั่วติดเพดานปากอยู่บ่อย ๆ ค่ะ


อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวแม่ยาย (Pentheraphobia)

          จริง ๆ แล้วโรคนี้เป็นโรคที่ไม่ค่อยจะแปลกเท่าไรสำหรับคนที่มีครอบครัว เพราะโดยส่วนใหญ่คุณผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วก็มักจะกลัวแม่ยายกันเป็นธรรมดา แต่อาการของโรคนี้ใช่ว่ามันจะไม่รุนแรงนะ เพราะอาการของโรคแม่ยายนั้นจะมีตั้งแต่ อาการหอบ เหงื่อออกมาก คลื่นไส้ ปากแห้ง ใจสั่น ไม่สามารถพูดตามที่คิดได้ จนทำให้เสียการควบคุม และในชาวตะวันตก โรคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องตลกเลยล่ะค่ะ เพราะว่ามีชาวตะวันตกจำนวนไม่น้อยที่เป็นโรคนี้ดังที่เรามักจะเห็นในภาพยนตร์ต่าง ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้ก็มีอาการใกล้เคียงกับโรคกลัวแม่เลี้ยง (Novercaphobia) ซึ่งมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือตัวละครอย่างซินเดอเรลล่านั้นเอง

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวปีศาจ (Demonophobia)

          Demonophobia อาการเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากความกลัวปีศาจ กลัวว่าจะมีปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวเดินปะปนอยู่กับคนทั่วไป โดยอาการเหล่านี้แสดงให้เห็นเมื่่อต้องไปยังสถานที่ที่มืด หรือบ้านไม้เก่า แม้แต่เวลาดูหนังก็กลัวว่าปีศาจจะกระโดดออกมาจากจอ ซึ่งผู้ที่มีอาการกลัวเหล่านี้จะรู้สึกอยากหาเครื่องรางหรืออาวุธปราบปีศาจมาเก็บไว้เพื่อความอุ่นใจ

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวกระจก (Eisoptrophobia)

          Eisoptrophobia เป็นอาการกลัวกระจกที่ทำให้ไม่กล้ามองเข้าไปในกระจก เพราะจะรู้สึกว่าตัวเองจะถูกดูดเข้าไปในโลกอีกฝั่งที่อยู่ในกระจก นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการกลัวกระจกจะรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากถ้าหากกระจกเกิดแตกขึ้นมา เพราะกลัวว่าความโชคร้ายจะมาเยือน

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวการพูดคุยระหว่างมื้อเย็น (Deipnophobia)

          อาการกลัวสุดแปลกนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่ต้องรับประทานมื้อค่ำร่วมกับผู้อื่น เนื่องมาจากความรู้สึกอึดอัดและไม่ชอบพูดคุย แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ระหว่างรับประทานอาหารอยู่ อาการกลัวเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อต้องไปรับประทานอาหารเย็นในงานที่เป็นทางการ เพราะจะเกิดความกังวลถึงการรักษามารยาทบนโต๊ะอาหารที่มีมากมายนั่นเองค่ะ


อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวตุ๊กตา (Pediophobia)

          Pediophobia เกิดจากความกลัวตุ๊กตาทุกชนิด กลัวไปทุกส่วนของตุ๊กตาไม่เว้นแม้แต่เส้นผม  เนื่องจากมีความหลังฝังใจกับหนังสยองขวัญที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวและพูดได้ โดยอาการของโรคนี้จะกลัวแม้กระทั่งหุ่นยนต์ หรือหุ่นโชว์เสื้อผ้า พาลไม่กล้าไปเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้าไปด้วย แต่อาการเหล่านี้จะแตกต่างจากอาการกลัวเด็ก เพราะคนที่มีอาการเหล่านี้จะกลัวการที่ตุ๊กตาหรือหุ่นยนต์เหมือนมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวการทำอาหาร (Mageirocophobia)

          Mageirocophobia เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการกลัวการทำอาหาร เนื่องจากเกิดความไม่มั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเองอย่างหนัก ผู้ที่มีอาการกลัวเหล่านี้จะมีความเสี่ยงที่จะรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ถ้าหากอยู่ตามลำพัง ซึ่งอาการเหล่านี้จะแสดงออกเมื่อต้องทำอาหารให้ตัวเองหรือผู้อื่นรับประทาน เพราะกลัวว่าอาหารจะไม่อร่อย หรือคนอื่นทานอาหารที่ตัวเองทำแล้วจะท้องเสีย อาการเหล่านี้รักษาได้เพียงแค่ไปเรียนทำอาหารเพิ่มเติม หรือฝึกทำอาหารบ่อย ๆ ค่ะ

อาการกลัวสุดแปลก

โรคกลัวถนนและการข้ามถนน (Agyrophobia)

          Agyrophobia เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการกลัวการข้ามถนน หรืออาการกลัวถนน ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้อาศัยอยู่ในเมืองได้ยากลำบากที่สุดเลยล่ะค่ะ เพราะไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจอแต่ถนน คนกลุ่มนี้จะกลัวถนนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นถนนในซอย หรือทางหลวง สี่แยก จะว่ากันง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเจอตรงไหนที่เป็นถนนก็จะกลัวทั้งนั้น สาเหตุอาจเป็นเพราะผู้ที่กลัวถนนนั้นอาศัยอยู่ในเมืองที่มีสภาพท้องถนนวุ่นวายและการจราจรติดขัด ทำให้ในที่สุดแล้วก็ต้องยอมย้ายออกไปอยู่ในพื้นที่ในชนบทที่การจราจรไม่พลุกพล่านแทน แต่อย่างไรก็ตามโรคชนิดนี้จะแตกต่างจากการกลัวรถโดยสิ้นเชิง

  ถึงแม้ว่าอาการกลัวเหล่านี้จะดูเหลือเชื่อไปสักหน่อย แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ซึ่งคนเราสามารถเอาชนะมันได้ แต่ถ้าหากเราไม่สามารถเอาชนะความกลัวในจิตใจไปได้ ก็อาจจะสะสมทำให้กลายเป็นอาการทางจิตที่รักษายาก ฉะนั้นถ้าคุณกำลังกลัวอะไรอยู่ละก็ ลองเผชิญหน้ากับมันนะคะ ความกล้าหาญเท่านั้นที่จะทำลายความกลัวได้ค่ะ





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 9:26:20 น.
Counter : 1591 Pageviews.  

ข้าวเหนืยวไก่ ทานไปมาก ก็เสื่ยงโรคภัย

    เหนียวไก่

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ข้าวเหนียวไก่ เมนูอร่อยถูกปากใครหลายคน แต่ถ้าเผลอทานมากไป อยากรู้ไหมว่าร่างกายของเราจะเสี่ยงโรคอะไรบ้าง

              เห็นคลิปน้องไลล่าโวยคนลักเหนียวไก่ หรือข้าวเหนียวไก่ไปจากตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์แบบสุดฮาถูกแชร์กันถล่มทลาย ชวนให้หิวอยากทานข้าวเหนียวไก่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ^^ ก็นี่เป็นของโปรดของใครหลายคนเลย แถมหาซื้อง่าย กินง่าย โดยเฉพาะมื้อเช้า ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งทานข้าว แวะซื้อข้าวเหนียวไก่ 1 ห่อ มานั่งทานก็อิ่มไปถึงมื้อกลางวันแล้วเนอะ แต่ถึงจะชอบแค่ไหนก็คงไม่ดีแน่ถ้าทานมากเกินไป เพราะข้าวเหนียวไก่ทอด หรือไก่ย่าง ไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากนัก เผลอทานเยอะ ไม่ยอมเปลี่ยนเมนูบ้าง ระวังอันตรายแฝงที่จะตามมา ตามนี้เลย !

    แคลอรี่สูงปรี๊ด

              ถึงจะเป็นข้าวเหนียวห่อเล็ก ๆ ไก่ทอดชิ้นไม่ใหญ่ แต่ขอบอกว่าให้พลังงานสูงใช่เล่นเลยค่ะ โดยข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกไว้ว่า ข้าวเหนียวนึ่ง ประมาณครึ่งทัพพี (ประมาณ 30 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเทียบเท่ากับข้าวสุก 1 ทัพพี, ขนมจีน 1 จับ, ขนมปัง 1 แผ่น, ข้าวโพด 1 ฝัก

    ส่วนไก่ทอด ยิ่งให้พลังงานสูงมาก คือ

    น่องไก่ทอด 1 ชิ้น (120 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 298 กิโลแคลอรี่
    ปีกไก่ทอด 1 ชิ้น (40 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 107 กิโลแคลอรี่
    อกไก่ทอด 1 ชิ้น (170 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 362 กิโลแคลอรี่

    เพราะฉะนั้นถ้าเราทานข้าวเหนียวครึ่งทัพพี บวกกับอกไก่ทอด 1 ชิ้น ก็รับพลังงานไปถึงราว ๆ 442 กิโลแคลอรี่ ซึ่งตัวเลขนี้พอ ๆ กับทานขนมจีนแกงเขียวหวาน 1 จาน หรือเส้นใหญ่ราดหน้าหมู 1 จานเลยทีเดียว ถ้าทานบ่อย ๆ ไขมันและโรคอ้วนอาจถามหาได้

    เหนียวไก่

    ปิ้งย่างก่อมะเร็ง

              หลายคนอยากอิ่มแบบไม่ต้องกังวลแคลอรี่มาก ก็เลยเลือกทานไก่ย่างแทนไก่ทอด ซึ่งไก่ย่าง 1 ชิ้น จะให้พลังงานประมาณ 97 กิโลแคลอรี่ น้อยกว่าไก่ทอดเป็นเท่าตัว แต่ถึงกระนั้นถ้าเลือกซื้อไก่ย่างไม่ดี ก็เสี่ยงต่อการได้รับมะเร็งเป็นของแถมเหมือนกัน เพราะในกระบวนการปิ้งย่างจะเกิดควันจากไขมันสัตว์ที่โดนความร้อนสูง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่อยู่ในกลุ่มโพลีซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAH) เป็นสารคล้ายคลึงกับการเผาไหม้เครื่องยนต์ บุหรี่ เมื่อเข้าสู่ร่างกายมาก ๆ จะก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และกระเพาะอาหาร

              นอกจากนี้ในการปิ้งเนื้อย่างยังมีสารก่อมะเร็งอีกตัวชื่อ เอชซีเอ ปรุงเฮเทอโรไซคลิก เอมีนส์ (HCA) สารนี้จะไปทำลาย DNA ก่อให้เกิดมะเร็งได้  อีกทั้งยังสามารถซึมผ่านไปสู่เนื้อเยื่ออื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย

    แบบนี้แล้วถ้าอยากกินไก่ย่างจริง ๆ ก็ต้องเลือกไก่ย่างที่ไขมันน้อย ๆ ต้องปิ้งไม่ไหม้ เพราะส่วนไหม้นี่แหละคือสารก่อมะเร็ง ถ้าใช้เตาไฟฟ้าปิ้งแทนเตาถ่านยิ่งดีค่ะ เพราะในถ่านอาจมีสารปนเปื้อนจากการพ่นสารเคมีในเปลือกไม้ก็ได้เราไม่รู้นี่จริงมะ


    ไก่ทอด

    ระวังน้ำมันทอดซ้ำ

              ไก่ทอดหนังกรอบอร่อย ๆ กัดทีก็มาพร้อมกับน้ำมันชุ่ม ๆ ถ้าชอบทานก็ต้องระวังหน่อยล่ะ เพราะจากการลงพื้นที่สำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบหลายร้านนำน้ำมันมาทอดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง เพื่อประหยัดต้นทุน ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากที่สุดเลย

    นั่นก็เพราะเมื่อน้ำมันผ่านความร้อนนาน ๆ จะเกิดสารโพลาร์ขึ้น เปลี่ยนน้ำมันให้เป็นสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็นหืน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ตามมาด้วยการเกิดสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของน้ำมัน สารชนิดนี้จะก่อให้เกิดมะเร็งบนผิวหนัง เกิดเนื้องอกในตับ ปอด ส่วนไอระเหยจากน้ำมันทอดอาหาร หากสูดดมเป็นระยะเวลานานก็อาจเป็นโรคมะเร็งปอดได้

              ดังนั้นถ้าใครจะทานไก่ทอด ก็ขอให้สังเกตร้านที่เราจะซื้อหน่อยค่ะว่า น้ำมันในกระทะของเขามีสีดำ เหนียวข้น มีฟองมาก มีกลิ่นเหม็นหืน เวลาทอดมีควันขึ้นมากแล้วหรือยัง ถ้าตรงตามนี้ก็เลี่ยงเลย เพราะแสดงว่าร้านนี้ใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้งแล้ว ยิ่งทอดซ้ำมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้อาหารอมน้ำมัน และยิ่งเพิ่มสารพัดโรคให้เราเป็นของแถมด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคมะเร็ง ของทอดสุดฟินนี่ล่ะมฤตยูเงียบเลย

    ไก่ทอด


    กระตุ้นอาการอักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์

    "อย่ากินไก่มาก เดี๋ยวเป็นโรคเกาต์"....ได้ยินคนพูดคำนี้บ่อย ๆ ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อไก่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเกาต์อยู่บ้างค่ะ แต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด

    โดยโรคเกาต์เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด ทำให้มีกรดยูริคสูงเกินเป็นเวลานาน ซึ่งกรดยูริคส่วนหนึ่งเกิดจากการย่อยสลายของสารพิวรีนที่มีมากในเนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ฯลฯ หากทานอาหารที่มีสารพิวรีนมาก ๆ อย่างเช่นเนื้อไก่ ร่างกายก็จะสร้างกรดยูริคขึ้นมา ซึ่งถ้าร่างกายของเราไม่สามารถขับกรดยูริคออกได้หมด ก็จะสะสมตกตะกอนอยู่ตามข้อ ตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นโรคเกาต์ได้

              แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกหลายสาเหตุและหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ผู้สูงอายุ ก็เสี่ยงต่อโรคนี้แม้ไม่ได้ทานอาหารที่มีพิวรีนสูง ก็เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นโรคเกาต์อยู่ ก็ไม่ควรทานข้าวเหนียวไก่มากเกินไป เพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น แต่นักกำหนดอาหารก็แนะนำว่าไม่ต้องถึงขั้นงดทานสัตว์ปีกไปเลย เพียงแต่อาจต้องลดความถี่ในการทาน หรือทานในบริเวณที่เสี่ยงน้อย เช่น ไม่ทานตรงข้อ หรือทานบริเวณอกไก่แทนจ้า

    อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งขยาด "ข้าวเหนียวไก่" ไปเสียก่อนนะ เพราะจริง ๆ แล้วก็มีข้อดี คือทำให้เราได้รับสารอาหารสำคัญ ๆ อย่างข้าวเหนียวเป็นคาร์โบไฮเดรต มีกลูเตนและไฟเบอร์สูงกว่าข้าวขัดขาว ส่วนไก่ก็ให้โปรตีน ไขมัน ทานแล้วอิ่มท้อง แต่ที่นำมาเตือนกันวันนี้ก็เพื่อย้ำว่าอย่าทานให้มากเกินไปเท่านั้นเอง ซึ่งไม่ได้หมายถึงข้าวเหนียวไก่เพียงอย่างเดียว แต่อาหารจานอื่น ๆ ก็เช่นกันค่ะ ถ้าทานมากไปจนเกินความต้องการของร่างกาย ไม่ว่ายังไงก็อ้วนและชวนให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้เหมือนกัน ใส่ใจการรับประทานอาหารกันให้มาก ๆ นะคะ





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 9:22:36 น.
Counter : 1928 Pageviews.  

10 อันดับของคําที่มักออกเสืยงผิดบ่อยๆ

คุณเคยบ้างมั้ยที่พยายามออกเสียงคำไหนแต่ไม่เคยออกเสียงได้ถูกต้องซักที? ศัพท์ภาษาอังกฤษหลายคำเป็นที่ยอมรับว่าออกเสียงได้ยากมาก ตัวอย่างคำศัพท์ต่อไปนี้เป็นที่ขึ้นชื่อว่าออกเสียงยากที่สุด

clothes

อักษร e ไม่ออกเสียง

February

คุณต้องออกเสียงอักษรrทั้งสองตัว: เฟ็บ-รู-อา-หรี่ ไม่ใช่เฟ็บ-ยู-อา-หรี่

athlete

คำนี้มีแค่สองพยางค์เท่านั้น: แอ๊ธ-หลีท ไม่ใช่ แอ๊ธ-อะ-หลีท

probably

คำนี้ต้องออกเสียงสามพยางค์: พร้อบ-อะ-บลี่ ไม่ใช่ พร้า-หลี่ หรือ พร้อบ-บลี่

colleague

อย่าออกเสียงue

espresso

คำนี้ไม่มีเสียงx: เอ้ส-เพร้ส-โส่ ไม่ใช่ เอ๊กซ-เพร้ส-โส่

Wednesday

อักษรdไม่ออกเสียง

escape

คำนี้ไม่มีเสียงอักษรx : เอ่ส-เค้พ ไม่ใช่ เอ๊กซ-เข่พ

library

คำนี้ต้องออกเสียงอักษร rทั้งสองครั้ง: ไล้-แบร่-หรี่ไม่ใช่ ไล้-แบ-หรี่

picture

นี่เป็นคำที่ออกเสียงกันผิดบ่อยที่สุด ที่ถูกต้องควรอ่านว่าพิก-เจ่อร์ ไม่ใช่ พิด-เจ่อร์

ที่มา //englishtown.msn.co.th/sp/article.aspx?articleName=1&Otag=O00313




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 9:15:36 น.
Counter : 800 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.