อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

10 ที่เทื่ยวโดนใจคนกรุง ไปเช้าเย็นกลับแบบซิวๆ

10 ที่เที่ยวโดนใจคนกรุง ไปเช้าเย็นกลับแบบชิวๆ

ในช่วงวันหยุดหรือปิดเทอม หลายๆคนคงเบื่อการอยู่บ้าน หรือใช้ชีวิตอยู่ตามห้างสรรพสินค้า วันนี้ทางทีมงาน Toptenthailand มีที่เที่ยวที่ใกล้กรุงเทพมาฝากกัน เผื่อใครอยากจะใช้เวลาไปพักผ่อนกับครอบครัว แต่ไม่อยากไปค้างคืน หรือเวลาไม่พอ ก็ไปเที่ยวใกล้ๆก็ได้ เพราะยังไงความสุขก็อยู่ที่คนไปเที่ยวด้วยอยู่แล้วใช่มั้ยคะ?

1. Black Mountain Water Park



การพักผ่อนที่แท้จริงๆของหลายๆคนคือการเล่นน้ำนั่นเอง เพราะฉะนั้นที่นี่คือสถานที่ที่คุณมองหาแน่นอน สวนน้ำที่แสนจะกว้างใหญ่ มีให้เลือกเล่นได้หลากหลายแบบ สำหรับหลายวัย ที่เหมาะกับการมาเที่ยวกันทั้งครอบครัว ทั้งสไลเดอร์แบบใหญ่ยักษ์ ที่ใครขึ้นไปต้องเสียวสันหลังแน่นอน หรือจะเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กที่สีสันสะดุดตามาแต่ไกล และที่นี่ยังมีทะเลสาบที่สร้างขึ้นเพื่อให้เล่นกีฬาผาดโผนอย่าง Wake Board รับรองว่าทั้งครอบครัวจะเล่นจนไม่ยอมกลับบ้านเลยล่ะค่ะ

2. มอนทาน่าฟาร์ม


ที่เที่ยวบรรยากาศดีท่ามกลางวิวภูเขา บรรยากาศภายในฟาร์มก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ และพื้นที่กว้างขวางเหมาะกับการเดินเล่นในวันบรรยากาศดีๆนัก ภายในฟาร์มมีฟาร์มแกะที่เราสามารถให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด มีมุมถ่ายภาพสวยๆหลายจุด ให้เลือก ร้านอาหาร ร้านขายของฝากก็มี และยังมีซุ้มเกมส์ให้เด็กๆได้สนุกไปด้วย 

3. Art in paradise


ใครชอบศิลปะ และชอบการถ่ายรูปต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้ง เพราะเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ของศิลปะในรูปแบบของภาพ 3 มิติ ที่พอถ่ายออกมาเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในภาพจริงๆ โดยมีทั้งหมด 10 ห้องภาพ ที่จะแตกต่างกันด้วยธีมของภาพ ที่แน่นอนว่าใครไปก็ต้องสนุกกับการถ่ายภาพชัวร์ๆ แต่แนะนำว่าอย่าไปคนเดียวนะคะ เดี๋ยวจะไม่มีใครถ่ายรูปสวยๆให้

4. เมืองโบราณ


ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชมอะไรแปลกๆใหม่ๆบ้าง นอกจากห้างที่ไปแทบทุกอาทิตย์ ที่นี่จะตอบโจทย์ทุกอย่างให้คุณเพราะเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จำลองวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต รวมทั้งสถานที่สำคัญของประเทศเอาไว้ในแบบขนาดจิ๋ว เป็นที่ๆครอบครัวควรจะใช้เวลาร่วมกันมากๆ คนสูงอายุจะได้เจอกับบรรยากาศเก่าๆที่โหยหา ส่วนเด็กๆก็ได้เรียนรู้วิถีแบบเก่าๆ ที่ควรค่าแก่การสืบทอด

5. ตลาดน้ำอัมพวา


ที่นี่เปิดเฉพาะวันหยุดเท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้ผู้ชมมากันเที่ยวกันอย่างล้มหลาม สร้างบรรยากาศแบบเป็นกันเองแบบสุดๆ เหมือนคุณได้ไปเที่ยวตลาดน้ำในสมัยก่อน แม่ค้าก็จะพายเรือขายอาหารที่ทั้งอร่อย และทั้งคุ้มค่า ถ้าคุณขี้เกียจเดินก็สามารถล่องเรือไปรอบๆบริเวณตลาดได้ ก็จะได้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ

6. ตลาดสามชุก


ใครที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศอันเก่าแก่กว่า 100 ปีละก็ ต้องที่นี่ที่เดียวเท่านั้น นอกจากบรรยากาศที่ยังคงความเป็นไทยเอาไว้ ยังเต็มไปด้วยอาหารที่หาทานได้ยาก ซึ่งที่นี่มีทำให้ดูกันสดๆเลย ใครอยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปเปลี่ยนบรรยากาศล่ะก็ต้องมาตลาดสามชุกร้อยปี ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย

7. มิโมซ่า


ที่เที่ยวแห่งใหม่ของพัทยา ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอก ที่เค้าว่ากันว่าจำลองมาจาก COLMAR หมู่บ้านในเมือง Alsace ของฝรั่งเศส เป็นเมืองเก่าเล็กๆ โดดเด่นในเรื่องสีสันสวยงามของตึกทั้งหลาย ที่นี่เต็มไปด้วยของให้คุณช้อปปิ้ง และร้านอาหาร ที่คนรักการถ่ายรูปห้ามพลาด ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมแอมบาสเดอร์ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี หาง่ายขนาดนี้ใครไม่ไปก็พลาดแล้ว

8. ซานโตรีนี่พาร์ค


ที่นี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ชะอำนี้เอง แต่พอไปถึงคุณจะหายเหนื่อยด้วยอารมณ์ของที่นี่ที่ตกแต่งเหมือนเราไปเที่ยวที่ซานโตรินีที่กรีซจริงๆ ใครที่ชอบถ่ายรูปห้ามพลาด เพราะทุกตรอก ทุกซอก ทุกซอยคุณจะถ่ายได้ไม่มีวันเบื่อ และยังเอาใจคนชอบช้อปปิ้ง เพราะเต็มไปด้วยหลากหลายแบรนด์ที่ลดราคาบ่อยซะเหลือเกิน ส่วนสาวกฮาร์ดคอร์ที่รักความเอ็กซ์ตรีมก็เชิญไปเล่นเครื่องเล่นสุดระทึกในบริเวณโซนพาร์คได้เลย

9. มวกเหล็กเอทีวี


สำหรับครอบครัวที่มีแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้งที่สุดแสนจะมันส์ โลดโผน ทั้งยิงปืน ยิงธนู ปีนหน้าผา เพ้นท์บอล และกิจกรรมสุดโด่งดังของที่นี่ นั่นก็คือการขับรถเอทีวีนั่นเอง คุณจะรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยอยู่ในป่าจริงๆ ที่งานนี้เสียเหงื่อแต่สนุกแน่นอน!! แต่ต้องอย่ามาช่วงหน้าฝนนะคะ เพราะดีไม่ดีจะแห้วเอา

10. สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา


ที่นี่เอาใจเด็กๆทั้งหลาย หรือผู้ใหญ่มีใจเป็นเด็ก ที่เคยฝันว่าอยากจะเข้าไปอยู่ในโลกของตุ๊กตา เพราะสุนทรีย์แลนด์จะทำความฝันของทุกคนให้เป็นจริง ด้วยการทำให้ตุ๊กตาสุดแสนจะน่ารักนับร้อยๆตัว มาสวมบทบาทที่เหมือนคน ทั้งเจ้าหญิงเจ้าชาย หรือพ่อมด และที่นี่ยังเต็มไปด้วยจินตนาการที่คุณทั้งหลายคาดไม่ถึง ใครสนใจก็พาเด็กมาเที่ยวได้ที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2557    
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 14:04:59 น.
Counter : 1941 Pageviews.  

สาวๆจ๋าคบ แฟนแก่กว่า มีข้อดีกว่า

พูดถึงเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เรื่องคู่รัก นั่นแหล่ะถือว่าครอบคลุมใช้คำว่า “แฟน” ละกันนะ สาวๆ บางคนก็บอกว่ามีแฟนเด็ก เคี้ยวสนุก เป็นอมตะ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง . . .ส่วนบางคนก็บอกว่า มีแฟนแก่ สบาย งอแง ง๊องแง๊ง ก็ถูกเอาใจ เอ๊า… ก็ว่ากันไปต่างๆ นาน วันนี้เลยหยิบข้อดีก่อนการมี แฟนแก่กว่า มาบอกให้ฟังสักหน่อย ว่าจะจริงแท้แน่นอนยังไง

couple in a park

ความคิดเป็นผู้ใหญ่

คือจริงๆ อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ เพราะด้วยอายุของเขา ความคิด ความอ่าน จากการอาบน้ำร้อนมาก่อนของเขา ทำให้มีเหตุผล มีกาละเทศะ การเข้าสังคม การวางตัว ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา เป็นผู้นำ ช่วยตัดสินใจได้ดีอีกด้วย แล้วยังมีในเรื่องของอารมณ์และความอดทนในเรื่องต่างๆ ที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะหมายถึงทุกคนนะ เพราะก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่าบางคนเป็นผู้ใหญ่แต่ความคิดก็ยังเด็กอยู่เลย อันนี้ต้องแล้วแต่ใครจะเจอหนุ่มคู่ใจแบบไหนแล้วล่ะค่ะ

มีความอบอุ่นอยู่เสมอ

อาจจะด้วยความที่เรายังเด็กกว่า เพราะฉะนั้นเขาจะต้องคอยปกป้อง ดูแล ให้ความรัก ความอบอุ่น เอาอกเอาใจเรา เสมือนเราเป็นเด็กน้อยคนนึง ไม่ว่าจะทำอะไรผิด หรือทำอะไรพลาด ก็จะได้รับคำปลอบโยนที่ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ คล้ายๆ พ่อปลอบใจลูก ยังไงอย่างงั้นเลยแหล่ะค่ะ

ให้พื้นที่ส่วนตัว

ก็เพราะเขาเคยผ่านอะไรต่ออะไรมาแล้วนั่นแหล่ะ ทำให้เขาเข้าใจว่าช่วงอายุแบบเรานั้นต้องการอะไร เคยเป็นแบบไหน ทำให้ความก้าวก่ายในชีวิตส่วนตัวจนมากเกินไปจะไม่ค่อยมี อีกอย่างความคิดของผู้ใหญ่เขาจะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระซะด้วยซ้ำ เรียกว่าให้เกียรติเรา ก็ว่าได้

เข้ากับครอบครัวเราได้ดี

การที่เขาเป็นผู้ใหญ่มาได้ถึงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นเขาจะต้องผ่าน พบเจอ ผู้ใหญ่กว่าเขามามาก ไม่ว่าจะในสังคมที่ทำงาน สังคมครอบครัว หรือสังคมเพื่อน ทำให้การวางตัว และเข้าหาผู้ใหญ่กว่าเป็นเรื่องง่าย เพราะฉะนั้นเขาจะสามารถรู้วิธีเข้าหาครอบครัวของเรา วิธีคบกับเราที่จะไม่ทำให้พ่อ-แม่ ของเราต้องเป็นกังวลใจ รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่ครอบครัวของเราด้วย แบบนี้อาจจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเรายาวนานไปถึงสิ่งที่หวังไว้ก็ได้นะ

มีทุกอย่างพร้อมแล้ว

ทิ้งท้ายไปด้วยข้อสำคัญของการมีแฟนแก่กว่า นั่นก็คือ ความพร้อมของเขา ด้วยการที่ผ่านอะไรมาก่อน เรียนจบมาก่อน ทำงานมาก่อน ใช้ชีวิตสร้างฐานะและความมั่นคงมาก่อน ทำให้เขามีความพร้อมมากกว่าแฟนในรุ่นเดียวกัน มีความพร้อมที่จะแต่งงานสร้างครอบครัว ความมั่นคงในเรื่องการงานและการเงิน อาจจะหายากสักหน่อยถ้าจะเพรียบพร้อมขนาดนี้ แต่ก็มีอยู่แหละน้า

ขอบคุณที่มาจาก womanplusmagazine.com




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2557    
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 13:57:20 น.
Counter : 1196 Pageviews.  

ภาพถ่าย 12 หญิงผุ้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก


12 บุคคลที่ทีนเอ็มไทยนำมาเสนอในวันนี้ ล้วนเป็นผู้หญิงที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย ทั้ง 12 คนนี้ได้รับสมยานามต่างๆนาๆ ทั้งในแบบของความดีงาม และความอัปยศอดสู! ซึ่งรูปภาพที่เพื่อนๆ จะได้เห็น ผู้หญิงทั้ง 12 คนนี้เป็นรูปที่ถ่ายขึ้นใหม่ โดยใช้นางแบบจริงๆ และปรับแบล็คกราวน์ สะท้อนให้เห็นเรื่องราวของหญิงทั้ง 12 ในยุคนั้นๆด้วยภาพบและองค์ประกอบต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความสวยงามและชัดเจนในตัวของแต่ละบุคคล ^^ ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

ราชินีอลิซาเบธที่ 1 : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้ทรงพรหมจรรย์

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

1. ราชินีอลิซาเบธที่ 1 : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้ทรงพรหมจรรย์

ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ และสมเด็จพระราชินีนาถแห่งไอร์แลนด์ ที่พระองค์ได้รับพระฉายานามว่า “ราชินีผู้ทรงพรหมจรรย์” เนื่องจากพระองค์ไม่มีการอภิเษกสมรสเลยตลอดพระชนม์ชีพ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 ทรงเป็นกษัตรีย์พระองค์ที่ 5 และนับเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ทิวดอร์

ถึงแม้พระองค์เป็นราชินีที่ไม่มีการสมรสตลอดพระชนม์ชีพ แต่พระองค์ก็ทรงขับเคลื่อนอังกฤษให้ไปในทางที่ดีขึ้น และในยุคของพระองค์นี้เองที่อังกฤษได้แสดงแสนยานุภาพ ทั้งการสำรวจ วรรณกรรม สงคราม และการศึกษาไปกว่าครึ่งค่อนโลก หรือเรียกได้ว่าพระนางเป็น ” หญิงเก่งโดยแท้ “

ในด้านการปกครองพระราชินีนาถอลิซาเบธทรงดำเนินนโยบายที่เป็นสายกลางมากกว่าพระราชบิดา พระอนุชา และ พระเชษฐภคินี คำขวัญที่ทรงถืออยู่คำหนึ่งคือ “video et taceo” ( ข้าพเจ้ารู้แต่ข้าพเจ้าไม่พูด) นโยบายดังกล่าวสร้างความอึดอัดใจให้แก่บรรดาราชองคมนตรี แต่ก็เป็นนโยบายที่ทำให้ทรงรอดจากการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองและทางการมีคู่ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรมาหลายครั้ง

แม้ว่าจะทรงดำเนินนโยบายการต่างประเทศอย่างระมัดระวัง และทรงสนับสนุนการสงครามในเนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และ ไอร์แลนด์อย่างครึ่งๆ กลางๆ แต่ชัยชนะที่ทรงมีต่อกองเรืออาร์มาดาของสเปนในปี พ.ศ. 2131 ก็ทำให้ทรงมีชื่อว่าทรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับชัยชนะอันสำคัญที่ถือกันว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ภายใน 20 ปีหลังจากการเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงได้ชื่อว่าเป็นพระมหากษัตรีย์ของยุคทองของอังกฤษ

พระราชินีนาถอลิซาเบธทรงได้ชื่อว่าเป็นผู้นำผู้มีเสน่ห์และเป็นผู้นำให้ประเทศรอดจากภัยพิบัติต่างๆ ในยุคที่รัฐบาลอยู่ในสภาวะที่ปั่นป่วนและสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศเพื่อนบ้านต้องเผชิญกับสถานะการณ์ภายในที่เป็นอันตรายต่อราชบัลลังก์ หลังจากรัชสมัยอันสั้นของพระอนุชาและพระเชษฐภคินีแล้วรัชสมัยอันยาวนานถึง 44 ปีก็เป็นรัชสมัยที่สร้างความมั่นคงให้แก่ราชอาณาจักร และเป็นรัชสมัยที่วางรากฐานของความเป็นชาติของอังกฤษด้วย

รัชสมัยของพระองค์เป็นที่รู้จักกันว่า “สมัยเอลิซาเบธ” ที่มีชื่อเสียงเหนือสิ่งใดว่าเป็นยุคเรอเนสซองซ์ของนาฏกรรมของอังกฤษ ที่นำโดยนักเขียนบทละครผู้มีชื่อเสียงเช่นวิลเลียม เชคสเปียร์ และ คริสต์โตเฟอร์ มาร์โลว์, และความเจริญทางการเดินเรือโดยผู้นำเช่นฟรานซิส เดรค เป็นต้น

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ไทย สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 ทรงครองราชย์ในเวลาเดียวกันกับระหว่างรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

จักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า อิสตรีคนสุดท้ายแห่งคาซาลีน่า

2. จักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า อิสตรีคนสุดท้ายแห่งคาซาลีน่า

พระจักรพรรดินีอเล็กซานดราทรงเป็นที่รู้จักดีที่สุดในฐานะที่ทรงเป็นจักรพรรดินีพระองค์สุดท้ายของรัสเซีย ผู้เป็นพาหะโรคฮีโมฟีเรียให้กับบรรดาเครือญาติของพระ องค์ ทั้งนี้พระนางก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะอิสตรีคนสุดท้าย ของคาซาลีน และเนื่องจากพระนางทรงปฏิบัติหน้าที่ดีจนเกินไป จนไปขัดความก้าวหน้าของบาทหลวงปิศาจรัสปูติน ผู้ที่ทำให้ราชวงศ์โรมานอฟอันยิ่งใหญ่ของรัสเซียล่มสลาย ทั้งนี้ยังมีอีกหลายหลักฐานปักใจเชื่อว่า สาเหตุที่พระนางทรงเสียชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับ รัสปูติ

อ่านเพิ่มเติม : จักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า จักรพรรดินีผู้ทรงภูมิธรรม

3. สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า จักรพรรดินีผู้ทรงภูมิธรรม

พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดินีนาถที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและครองราชย์ยาวนานที่สุดของรัสเซีย การปกครองของพระองค์เป็นการอธิบายถึงการเป็น ผู้ใช้อำนาจเด็ดขาดที่ทรงเรืองปัญญา (enlightened despot) ทั้งยังทรงฟื้นฟูจักรวรรดิรัสเซียให้แข็งแกร่งและมีอาณาเขตกว้างกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนรัสเซียกลายมาเป็นชาติมหาอำนาจที่สำคัญมากที่สุดชาติหนึ่งในยุโรป

พระองค์ทรงทำการปฏิรูประบบราชการรวมไปถึงมีรับสั่งให้สถาปนาเมืองและหมู่บ้านขึ้นมากมาย และในฐานะที่ทรงเป็นผู้นิยมชมชอบพระราชกรณียกิจของซาร์ปีเตอร์มหาราช พระองค์จึงได้ดำเนินพระราโชบายตามแนวทางของซาร์ปีเตอร์มหาราชโดยการปฏิรูปรัสเซียให้เข้าสู่ความทันสมัยตามแบบฉบับชาติยุโรปตะวันตก

อย่างไรก็ตามการเข้ารับราชการในกองทัพและระบบเศรษฐกิจของประเทศยังคงต้องพึ่งพาระบบทาสอยู่ต่อไป ในขณะที่ความต้องการใช้แรงงานของประเทศและของเหล่าผู้ครอบครองที่ดินเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การใช้แรงงานทาสดำเนินไปถึงขั้นกดขี่แรงงานทาส และระบบทาสดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในเหตุผลประการสำคัญของการก่อกบฏหลายต่อหลายครั้ง ดังเช่นกบฏปูกาเชฟที่มีกองทหารม้าและชาวนาจำนวนมากมายเข้าร่วมการกบฏ

ตลอดระยะเวลาในการครองราชย์หรือ สมัยแคทเธอรีน ถูกพิจารณาว่าเป็นยุคทองของจักรวรรดิรัสเซียและของระบอบศักดินาในรัสเซีย แถลงการณ์ว่าด้วยเสรีภาพของขุนนางซึ่งเป็นที่โต้แย้งกันในรัชสมัยของซาร์ปีเตอร์ที่ 3 ก็ได้รับการยินยอมในช่วงรัชสมัยของพระนางแคทเธอรีน โดยแถลงการณ์ฉบับนี้ได้ให้อิสรภาพแก่บรรดาขุนนางไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพหรือการรับราชการสนองคุณประเทศ ให้อิสรภาพในการครอบครองที่อยู่อาศัย

เช่น แมนชันรูปแบบคลาสสิก โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมและได้รับการสนับสนุนโดยพระนางเจ้าแคทเธอรีนอย่างมาก ก่อให้เกิดตึกรามบ้านช่องอันหรูหราขึ้นจำนวนมาก ซึ่งตลอดช่วงการครองราชย์ของพระองค์ได้ทรงทำให้โฉมหน้าของประเทศเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จึงกล่าวได้ว่ารัชสมัยของพระนางคือยุคเรืองปัญญาของรัสเซียก็ว่าได้

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

คาท์เตสอลิซาเบธ บาโธรี่ ผู้มีฉายาว่า เคาท์เตสคลั่งเลือด

4. คาท์เตสอลิซาเบธ บาโธรี่ ผู้มีฉายาว่า เคาท์เตสคลั่งเลือด

เป็นหญิงสาวที่มีความเชื่อในเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะ และต้องการคงร่างของตนเองให้คงดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงมีความคิดที่ว่า หากได้อาบเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์แล้ว จะทำให้ตนเองดูอ่อนเยาว์ได้ตลอดไป เธอจึงสั่งให้คนรับใช้ไปเอาร่างของหญิงสาวบริสุทธิ์ มากรีดเอาเลือดใส่อ่างด้วยเครื่อง ไอรอน เมเดน (Iron maiden) แล้วอาบต่างน้ำ โดยมีเหยื่อที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับเธอไปไม่น้อยกว่า 600 คน กว่าที่เธอจะถูกคนจับไปขังในคุกมืดจนตาย เธอได้รับสมญานามว่า The Blood Countess และ Countess Dracula - เคาท์เตสคลั่งเลือด (แดร็กคิวล่า)

เอลิซาเบธ เกิดในตระกูลบาโธรี่ เป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่และสืบสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลที่เก่าแก่ร่ำรวย มีอำนาจ เป็นที่น่ายำเกรงของประชาชนมาหลายต่อหลายยุคสมัย เธอไม่ใช่สาวสวยออกขี่เหร่ด้วยซ้ำ อีกทั้งเธอยังมีอาการบกพร่องทางจิตอย่างรุนแรง

เป็นเรื่องธรรมดาของตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่ญาติเพื่อ รักษาทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ทำให้ผู้สืบสายเลือดตระกูลนี้จำนวนมากมีอาการบกพร่องทางจิตอันเนื่องมาจาก ลักษณะทางพันธุกรรม เป็นต้นว่าโรคฮิสทีเรีย หรือแม้แต่การสืบทอดของสาวกลัทธิบูชาปีศาจ ผู้มักมากในกาม ฯลฯ เอลิซาเบธ ก็เช่นเดียวกัน นิสัยเพี้ยนของเอลิซาเบธ ปรากฏตั้งยังเล็กๆ เอลิซาเบธนั้นแทนที่จะพอใจกับเกียรติยศที่ผู้คนเตรียมใส่พานทองมาประเคนให้ แต่เธอกลับทำท่าเบื่อหน่ายพวกพี่เลี้ยง ครูอาจารย์ที่มาอบรมสั่งสอน เธอกลับเกเรหนีเรียน แอบไปเที่ยวเล่นกับลูกชาวนา ชาวไร่ที่เป็นทาส เธอชอบเล่นสัปดนเสียจนท้องเมื่ออายุเพียง 13

อ่านเพิ่มเติม : คาท์เตสอลิซาเบธ บาโธรี่ ผู้มีฉายาว่า เคาท์เตสคลั่งเลือด 

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก สมเด็จพระราชินีนาถคริสติน่าแห่งสวีเดน : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้ชาย

สมเด็จพระราชินีนาถคริสติน่าแห่งสวีเดน : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้ชาย

5. สมเด็จพระราชินีนาถคริสติน่าแห่งสวีเดน : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้ชาย

เป็นพระราชธิดาใน สมเด็จพระราชาธิบดีกุสตาฟ อดอล์ฟที่ 2 แห่งสวีเดน พระนางมีบุคลิกลักษณะเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โปรดการทรงม้า การลุกนั่งแบบผู้ชายและฉลองพระองค์สั้นผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทเรียกพระนางว่า“เจ้าชายคริสติน่า”

พระนางขึ้นครองราชย์ตอนพระชันษาครบ 6 ปี แต่พระนางเบื่อกับการเป็นกษัตริย์ จึงทำให้พระเจ้าชาลส์ที่ 10 กุสตาฟผู้เป็นญาติของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน  หลังพระนางสละราชบัลลังก์ พระนางพร้อมด้วยบริวารใกล้ชิดเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสันตปาปาและก็เปลี่ยนมานับถือโรมันคาทอลิก

พระนางชอบทำตัวให้เป็นที่สนใจเมื่ออยู่ในโรม ชวนคนใหญ่คนโตในโรมทะเลาะ พระสันตปาปาทรงอยากให้พระนางออกไปจากโรมเสียที จึงพระราชทานเงิน 10,000 เหรียญให้พระนางกลับสวีเดน(ค.ศ. 1656) และเสด็จแวะไปหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระเจ้าหลุยส์ทรงต้อนรับอย่างสมพระเกียรติที่พระราชวังฟองแตนโบล

พระนางสั่งสังหาร เคานต์ เมนาล เดซิ ที่มีตำแหน่งเจ้ากรมอัศวราชโดยเพราะท่านเคานต์เขียนจดหมายตำหนิพระนาง พระนางยังพยายามเป็นกษัตริย์เนเปิลส์ และโปแลนด์แต่ไม่สำเร็จ และเมื่อพระนางไม่สามารถกลับสวีเดนได้แล้ว พระนางจึงกลับสู่โรม พระนางอดทำตัวเป็นที่สนใจไม่ได้แต่ไม่มีใครสนเลย พระนางเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1689 พระศพถูกเก็บไว้ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก เจ้าหญิงโอลิมเปียส ผู้ได้รับฉายาว่า เจ้าหญิงแม่มด หรือ เจ้าหญิงอสรพิษ

เจ้าหญิงโอลิมเปียส ผู้ได้รับฉายาว่า เจ้าหญิงแม่มด หรือ เจ้าหญิงอสรพิษ

6. เจ้าหญิงโอลิมเปียส ผู้ได้รับฉายาว่า เจ้าหญิงแม่มด หรือ เจ้าหญิงอสรพิษ

เพราะพระนางอยู่ในลัทธิบูชางู ของเทพสุราเมรัย ไดโอนีซุอุส พระนางจึงเทิดทูนงูมาก ๆ และบางตำราก็บอกว่าพระนางสามารถคุยกับงูได้ บังคับงูได้ แถมยังชอบหลับนอนกับงูอีกด้วย

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

พระนางคลีโอพัตรา ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้แสนเย้ายวน

7. พระนางคลีโอพัตรา (คลีโอพัตราที่ 7 ฟิโลปาตอร์) : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีผู้แสนเย้ายวน

ความสวยของพระนางเคยทำให้อียิปต์ รอดจากการเป็นเมืองขึ้นมาแล้ว โดยการที่พระนางแอบหลบซ่อนตัวไปกับม้วนพรมที่เอาไปถวายแด่กษัตริย์จูเลียส ซีซาร์ จนพระองค์หลงพระนางหัวปักหัวปำ ทำให้กองทัพอียิปต์เมื่อรวมกับทัพรัสเซีย กลายเป็นกองทัพไร้เทียมทานจนประเทศอื่น ๆ ไม่กล้ารุกรานอียิปต์อีกเลยจนถึงวัน ที่จูเลียส ซีซาร์โดนลอบปลงพระชนม์โดยกบฏของรัสเซีย

พระนางคลีโอพัตรา เป็นพระราชินีแห่งอียิปต์โบราณและเชื้อพระวงศ์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ทอเลมีแห่งมาซิโดเนีย ดังนั้นจึงเป็นผู้ปกครองอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกคนสุดท้าย พระนางมีพระปรีชาสามารถมากทรงแตกฉานถึง 14 ภาษา เช่น ฮิบรู, ละติน, มาเซดอนโบราณ, เอธิโอเปียน, ซีเรีย, เปอร์เซีย, และ อียิปต์ ซึ่งแม้แต่ในราชวงศ์ น้อยคนนักที่จะแตกฉานภาษานี้

พระนางคลีโอพัตรา นับว่าเป็นผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งทำให้ราชินีองค์ก่อนๆ ที่ทรงพระนามคล้ายคลึงกันถูกลบเลือนไปสิ้น ในความเป็นจริงแล้วพระนางไม่เคยปกครองอียิปต์เพียงลำพัง แต่ครองราชย์ร่วมกับพระบิดา, พระอนุชา ,สวามีผู้เป็นอนุชาของพระองค์ หรือไม่ก็พระโอรส การครองราชย์ร่วมกันดังกล่าวมีผู้ร่วมบัลลังก์เป็นเพียงกษัตริย์ตามพระยศเท่านั้น อำนาจแท้จริงอยู่ในมือของคลีโอพัตราเองทั้งสิ้น

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

เอเลเนอร์แห่งอาควิเตน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีนักรบ

8. เอเลเนอร์แห่งอาควิเตน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีนักรบ

เป็นพระราชินีของฝรั่งเศสในพระเจ้าหลุยส์ที่ 7, พระราชินีของอังกฤษในพระเจ้าเฮนรีที่ 2, เป็นพระราชชนนีของพระมหากษัตริย์อังกฤษสองพระองค์สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ และสมเด็จพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษ พระราชินีเอเลเนอร์ทรงเป็นสตรีที่มีฐานะดีและอำนาจมากที่สุดในยุโรปในยุคกลาง

เอเลเนอร์แห่งอาควิเตน ทรงได้รับการเลี้ยงดูขึ้นมาในราชสำนักที่มีวัฒนธรรมดีที่สุดราชสำนักหนึ่งในยุโรปในสมัยนั้น ซึ่งเป็นที่กำเนิดของปรัชญารักในราชสำนัก (courtly love) ดยุกวิลเลียมที่ 10 พยายามส่งเสริมให้พระราชินีเอเลเนอร์มีการศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าภาษาแม่ของพระราชินีเอเลเนอร์จะเป็นภาษาปัวเตแวน (Poitevin) แต่ก็ทรงได้รับการศึกษาในภาษาละติน การดนตรี วรรณคดี การทรงม้า การล่าด้วยเหยี่ยว และการล่าสัตว์

เอเลเนอร์ มีพระลักษณะที่ชอบการสังคม มีพระปรีชาสามารถฉลาดเฉลียว และทรงมีชื่อว่าเป็นผู้มีหัวแข็ง นอกจากนั้นก็ทรงมีชื่อว่ามีพระสิริโฉมงดงามโดยผู้คนร่วมสมัยแต่ไม่มีหลักฐานคำบรรยายความงามของพระองค์หลงเหลืออยู่

พระราชินีเอเลเนอร์ ทรงมีส่วนร่วมในการเดินทางไปต่อสู้ในสงครามครูเสดครั้งที่ 2  ทรงติดตามกองทัพพระเจ้าหลุยส์ พร้อมกับนางสนองพระโอษฐ์และข้าราชหญิงอีกกว่า 300 คน ทรงยืนยันในการมีส่วนร่วมในสงครามครูเสดในฐานะผู้นำทัพของแคว้นในการปกครองของพระองค์ 

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

ราชินีอะกริฟพีนา ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีนักวางยา

9. ราชินีอกริพพีนา : ผู้ได้รับพระราชสมัญญาว่า ราชินีนักวางยา

พระองค์ได้ลอบปลงพระชนม์ จักรพรรดิคลอเดียส (คลอดิอุสที่ 1) สามีของนาง ด้วยการให้หมอหลวงนำขนนกเคลือบยาพิษเข้าปากองค์จักรพรรดิ เพื่อที่จะได้ให้ลูกชายของตัวเอง จักรพรรดินีโร (ลูเซียส คลอดิอุส นีโร หรือฉายา นีโรจอมโหด) ขึ้นครองราชย์ ซึ่งความจริงจักรพรรดิคลอเดียส ผู้ที่ถูกอกริพพีนาวางยา เคยช่วยพระนางให้รอดพ้นจากความตายในฐานะกบฏมาก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะพระนางเอง จักรพรรดิคลอเดียส ครองราชย์ได้ 13 ซึ่งตลอดเวลา 13 ปีในรัชกาลทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความยุติธรรมทำให้บ้านเมืองสงบสุข 

อ่านเพิ่มเติม : ที่มา โปรแกรมเนโร Nero Burning Rom (มาจากนี่นี่เอง! >.<)

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก พระนางบอว์ดิคา : ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีแห่งคาเธช์

พระนางบอว์ดิคา : ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีแห่งคาเธช์

10. พระนางบอว์ดิคา : ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีแห่งคาเธช์

พระนางทรงเป็นผู้นำของชนเผ่าคาเธช์ ให้รุกขึ้นต่อต้านและทำศึกกับทัพโรมันอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น โดยที่พระองค์ทรงออกรบและบัญชาด้วยตัวพระองค์เอง

ด้วยเรื่องนี้มีตำนานว่า เมื่อสมัยก่อนกล่าวถึงอีเนียสผู้ก่อตั้งจักรวรรดิโรมันยังไม่ได้เป็นใหญ่ เธอได้หลงมาติดเกาะชาวคาเธช์ และด้วยแรงบัลดาลจากราชินีสวรรค์เฮร่า ด้วยความโกรธแค้นที่มีต่ออีเนียสทำให้ราชินีโดโด้ ผู้ปกครองคาเธช์ตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งนี้เทวีเฮร่าทำขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้อีเนียสหนี ไปสร้างจักรวรรดิโรมัน อันยิ่งใหญ่ แต่น่าเสียดายที่แม่ของอีเนียส เทวีอะโฟรไดร์ที ได้ทรงขอร้องให้มหาเทพซีอุส ทรงมีโองการไปเตือนสติอีเนียสให้หนีออกจากเกาะคาเธช์ ไปสร้างโรมซะ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อพออีเนียสหนีไป ราชินีโดโด้ก็ตรอมใจตาย แต่ทว่าก่อนที่พระนางจะสิ้นชีพได้แช่งอีเนียสไว้ว่า ต่อไปชาวคาเธช์กับชาวโรมันจะรบพุ่งกันเรื่อยไปจนกว่าจะตายไปข้าง และนี้คือผลพวงนั้นเอง

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก ราชินีอิสซาเบลล่า แห่งแคสไทล์ ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีคาร์ทอลิค

ราชินีอิสซาเบลล่า แห่งแคสไทล์ ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีคาร์ทอลิค

11. สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล : ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีคาร์ทอลิค

สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งสเปน พระนางและพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 (พระราชสวามี) ได้วางรากฐานในการรวมสเปน ทั้งสองได้เป็นขั้วอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในการยึดดินแดนสเปนกลับคืนมาจากพวกมัวร์และได้กระทำการรวมชาติสเปนเป็นปึกแผ่น อีกทั้งยังรู้จักนางในฐานะผู้อุปถัมภ์ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

  • พระนางทรงอนุมัติให้คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสไปแสวงหาดินแดนโพ้นทะเลและจนสำรวจพบทวีปอเมริกา
  • พระนางจัดได้ว่าเป็นนักปกครองที่ได้รับการกล่าวชื่อในประวัติศาสตร์
  • พระนางได้ทำให้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเจริญอย่างมากในสเปน
  • พระนางทำให้กรานาดาในการปกครองของมุสลิมมัวร์ยินยอมส่งเครื่องบรรณาการต่อพระองค์ ต่อมาพระนางได้ทำการยึดครองกรานาดาได้สำเร็จ และยึดครองนาวาร์ได้ในปี พ.ศ. 2055 แล้ว คำว่า สเปน ก็เริ่มถูกนำมาใช้เพื่อเรียกชื่อของราชอาณาจักรที่รวมกันใหม่นี้

การรวมเป็นหนึ่งเดียวของราชอาณาจักรคาสตีล ราชอาณาจักรอารากอน และราชอาณาจักรนาวาร์ได้วางรากฐานให้กับการเกิดสเปนสมัยใหม่และจักรวรรดิสเปน (Spanish Empire) สเปนกลายเป็นผู้นำอำนาจของยุโรปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 17 เนื่องมาจากการปรับปรุงด้านการเมือง สังคม และการทหารในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 การขยายตัวของผลผลิตที่ได้จากเหมืองแร่เงินในทวีปอเมริกาในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็ยิ่งเสริมตำแหน่งมหาอำนาจให้มั่นคงขึ้นอีก

พระราชินีนาถอีซาเบล ได้แต่งตั้งให้นายพลโทมาส เดอ ทอร์คิวมาดา เจ้าหน้าที่สอบสวน(โดยวิธีทรมาน) รุ่นแรกๆเป็นผู้บัญชาการในการสอบสวนทรมาน จนวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1492 มีบันทึกว่าเป็นวันออกกฤษฎีกาแอลฮัมบราโดยมีคำสั่งให้ขับไล่ชาวยิวและชาวมุสลิมออกนอกประเทศ

นอกจากนั้นประชาชนราว 2 แสนคนที่หลงเหลือในประเทศสเปน ถ้าไม่เปลี่ยนศาสนาก็จะถูกจับมาลงโทษอย่างทารุณ ในปี ค.ศ. 1974 สันตะปาปาพอลที่ 6 กล่าวถึงการกระทำของพระนางว่า “สมควรทำ” และอวยพร ให้พระนางเป็นนักบุญ

ในโบสถ์นิกายคาทอลิก ในฐานะข้ารับใช้ของพระเจ้า เพราะในยุคสมัยของพระนางได้กวาดล้างชาวคริสต์นิกายโปแตสแตนท์จนหมดสิ้น และทำนุบำรุงศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคให้ถึงจุดสูงสุด จนทำให้พระนางได้รับพระสมัญญานามมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพถ่าย 12 หญิงผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์โลก

พระนางมารีอองตัวเน็ต แห่งฝรั่งเศส ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีฟุ่มเฟือย

12. พระนางมารีอองตัวเน็ต แห่งฝรั่งเศส : ผู้ได้รับสมัญญาว่า ราชินีฟุ่มเฟือย

มารี อ็องตัวแน็ต เป็นเจ้าหญิงแห่งฮังการีและโบฮีเมีย อาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรีย อดีตพระราชินีแห่งฝรั่งเศส และนาวาร์ (แคว้นบาสก์ในปัจจุบัน) รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า มารี-อ็องตัวแน็ตแห่งออสเตรีย ถูกประหารด้วยกิโยตีนระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส

พระนางใช้เงินท้องพระคลังดั่งเศษกระดาษ ทุกวันต้องมีงานเลี้ยง เครื่องประดับต้องเเบรนด์เนมเท่านั้น น้ำหอมต้องน้ำหอมอย่างดี เสื้อผ้าต้องสวยหรูที่สุด อาหารต้องเลิศรสที่สุด เฟอร์นิเจอร์ต้องใหม่เอี่อมที่สุด และอื่น ๆ อีกมากมายจนทำให้เกิดการจลาจลขึ้นที่ฝรั่งเศศ ผลสุดท้ายคือพระนางและพระสวามี พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 โดนโทษประหารด้วยกิโยติน โทษฐานทำให้ฝรั่งเศสยากแคล้นอย่างมากจนประชาชนล้มตาย เพราะความอดอยาก

อ่านเพิ่มเติม : พระนางมารีอองตัวเน็ต แห่งฝรั่งเศส

เรียบเรียงโดย teen.mthai.com (ให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยนะคะ)

ขอบคุณข้อมูล //hogwartsthai.com/forum/index.php?showtopic=13763, //th.wikipedia.org,//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5_%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95,//th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%98_%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2557    
Last Update : 15 ตุลาคม 2557 13:52:43 น.
Counter : 1419 Pageviews.  

อร่อยลืม!!! สาวเผยวิธีผลิตนมจากเต้า

สาวพิลึก ลงทุนเค้นน้ำนมจากหน้าอกตัวเอง เขย่านานหลายชั่วโมง ได้ออกมาเป็นครีม เจ้าตัวอ้าง เข้มข้นที่สุดเท่าที่เคยกินมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวชาวเน็ตชื่อว่า มิเชล ได้โพสวิธีการทำเนยด้วยน้ำนมของตัวเองลงอินเตอร์เน็ต

page001

โดย”มิเชล”เล่า เธอได้นำน้ำนมของตัวเองมาเขย่านาน 1 ชั่วโมง ก่อนที่มันจะเริ่มกลายเป็นหยดและเริ่มก่อตัวเป็นเนย และเธอได้ลองชิมมัน ปรากฎว่า เนยจากน้ำนมดังกลาวมีรถชาดหวานมาก และเป็นเนยที่เข้มข้นด้วยครีมมากที่สุดเท่าที่เธอเคยกินเนยมาก

โดยไม่จำเป็นต้องปรุงรสเพิ่ม พร้อมทั้งถ่ายภาพยืนยันว่าเป็นหลักฐานเธออ้างว่าขั้นตอนการผลิตดังกล่าวว่า ขั้นแรก เธอจะนำน้ำนมขนาด 2 ออนซ์ มาใส่ในถ้วย และเขย่า จากนั้นก็เปลี่ยนพาชนะใหม่

อีก 20 นาทีต่อมาหลังจากพาชนะถ้วยทำได้ยาก และอีก 40 นาทีต่อมา เมื่อเธอเขย่าน้ำนมแรงขึ้น เธอสังเกตเห็นว่า น้ำนมได้จับตัวเป็นหยดกลมเล้ก ๆ ก่อนที่เธอจะนำไปในพาหนะอีกอัน และลองชิม

ปรากฎว่ามันกลายเป็นเนยได้ จากการชิมรสชาดของมัน และว่า เธอจะลองพยายามผลิตเนยดังกล่าวให้มีปริมาณมากขึ้นอีก ซึ่งอาจมากถึงขนาดสามารถทาแผ่นขนมปังได้

Mthai News




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2557    
Last Update : 14 ตุลาคม 2557 7:56:28 น.
Counter : 1094 Pageviews.  

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก


แค่ได้ยินคำว่า คณิตศาสตร์ ก็ทำเอาหลายคนส่ายหน้าหนีกันเป็นแถวๆ น้อยคนนะที่จะชอบ .. ก็แหม สมการ?ถอดสแควรูท บลาๆ เล่นเอาตาลายไปหมด วันนี้ teen.mthai เอา โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก ! มาให้เพื่อนๆดูกัน ใครนะช่างคิดจริงๆ !! >,<

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์ข้อนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1637 โดย Pierre de Fermat นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส?ชื่อว่า ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา (อังกฤษ : Fermat’s last theorem) เป็นหนึ่งในทฤษฎีบทที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์ ซึ่งกล่าวว่า:

” ไม่มีจำนวนเต็มบวก x, y และ z ที่ทำให้   เมื่อ n เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า 2 “

ปีแยร์ เดอ แฟร์มา นักคณิตศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้เขียนทฤษฎีบทนี้ลงในหน้ากระดาษหนังสือ Arithmetica ของไดโอแฟนตัสฉบับแปลเป็นภาษาละตินโดย Claude-Gaspar Bachet เขาเขียนว่า “ฉันมีบทพิสูจน์ที่น่าอัศจรรย์สำหรับบทสรุปนี้ แต่พื้นที่กระดาษเหลือน้อยเกินไปที่จะอธิบายได้” (เขียนเป็นภาษาละตินว่า “Cuius rei demonstrationem mirabilem sane detexi. Hanc marginis exiguitas non caperet.”) อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 357 ปี ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ถูกต้องเลย

ข้อความนี้มีความสำคัญมาก เพราะว่าข้อความอื่นๆ ที่แฟร์มาเขียนนั้น ได้รับการพิสูจน์หมดแล้ว ไม่ว่าจะพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง หรือว่ามีคนให้บทพิสูจน์ในภายหลัง ทฤษฎีบทนี้ไม่ได้เป็นข้อความคาดการณ์สุดท้ายที่แฟร์มาเขียน แต่เป็น?ข้อสุดท้ายที่จะต้องพิสูจน์?นักคณิตศาสตร์ได้พยายามพิสูจน์หรือไม่ก็หักล้างทฤษฎีบทนี้มาโดยตลอด และต้องพบกับความล้มเหลวทุกครั้งไป ทำให้ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่สร้างบทพิสูจน์ที่ผิดๆ มากที่สุดในวงการคณิตศาสตร์ก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะทฤษฎีบทนี้ดูแล้วไม่มีอะไรซับซ้อนนั่นเอง

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

ทฤษฎีบท (ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาต์)

เมื่อ n เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า 2 สมการ xyzn?

จะไม่มีจำนวนเต็มบวก xและ ที่จะทำให้สมการนี้เป็นจริง

บทพิสูจน์ได้กลายเป็นจุดท้าทายของนักคณิตศาสตร์ทั่วโลกในช่วง 350 ปีที่ผ่านมา มีนักคณิตศาสตร์มือดีหลายต่อหลายคนได้พยายามพิสูจน์? แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ (เหมือนสัจพจน์ข้อที่ 5 ของยุคลิดเลย) แต่ความพยายามของนักคณิตศาสตร์เหล่านั้นบางท่านได้ผลพลอยได้อยู่ที่ได้เปิดแขนงของคณิตศาสตร์ใหม่ๆ ขึ้นมา

เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2531 ได้มีนักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ชื่อ โยอิชิ มิยาโอกะ ซึ่งทำท่าว่าจะสร้างบทพิสูจน์ขึ้นมาได้? ในบทพิสูจน์ของโยอิชินี้ดูเหมือนจะชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาต์กับเรขาคณิตแกนโค้ง (คืออะไรหว่า) แต่ปรากฏว่าบทพิสูจน์ของโยอิชิก็ต้องล้มเหลว เหมือนกับบทพิสูจน์ของนักคณิตศาสตร์คนอื่นๆ ก่อนหน้านั้น

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

โจทย์คณิตศาสตร์ที่ยากที่สุดในโลก

เซอร์ แอนดรูว์ ไวลส์ วัย 59 ปี (IQ: 170)

แอนดรูว์ ไวลส์ (Andrew Wiles) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษจากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ได้พิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา โดยใช้เครื่องมือในการพิสูจน์คือ เรขาคณิตเชิงพีชคณิต (ในเรื่องเส้นโค้งเชิงวงรี?และรูปแบบมอดุลาร์) , ทฤษฎีกาโลอิส และพีชคณิต Hecke โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ริชาร์ด เทย์เลอร์ (Richard Taylor) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเขาเอง บทพิสูจน์ของเขาได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Annals of Mathematics เมื่อ ค.ศ. 1995

ไวลส์ใช้เวลา 7 ปีในการพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา เขาทำการพิสูจน์โดยลำพัง และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด (ยกเว้น ตอนตรวจทานครั้งสุดท้าย ซึ่งเขาได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขาที่ชื่อ Nick Katz) ในวันที่ 21-23 มิถุนายน?ค.ศ. 1993 เขาก็ได้แสดงบทพิสูจน์ของเขาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ผู้เข้าฟังการบรรยายครั้งนั้นต่างก็ประหลาดใจไปกับวิธีการต่างๆ ในบทพิสูจน์ของเขา ต่อมา เขาก็พบข้อผิดพลาดในบทพิสูจน์ แต่ไวลส์และเทย์เลอร์ยังไม่ละทิ้งความพยายาม เขาใช้เวลาอยู่หนึ่งปีในการแก้ไข และในเดือนกันยายน ค.ศ. 1994 เขาก็ได้เสนอบทพิสูจน์ใหม่อีกครั้งโดยใช้วิธีการที่แตกต่างไปจากเดิม เรื่องการพิสูจน์นี้จึงเป็นเรื่องที่น่าจดจำเลยทีเดียว

หลายคนต่างสงสัยใน “บทพิสูจน์ที่น่าอัศจรรย์” ของแฟร์มาว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่ บทพิสูจน์ของไวลส์นั้น หนาประมาณ 200 หน้า และยากเกินกว่าที่นักคณิตศาสตร์ในปัจจุบันจะเข้าใจ

ข้อมูลจาก e-learning.kusol.org





 

Create Date : 14 ตุลาคม 2557    
Last Update : 14 ตุลาคม 2557 7:54:09 น.
Counter : 1151 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.