อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

ฮือฮา นักดาราศาสตร์เผย ปรากฏชื่อ 7 อําเภอไทยบนหลุมดาวอังคาร

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2557 นายวิษณุ เอื้อชูเกียรติ กรรมการวิชาการสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า บนดาวอังคารมีหลุมอุกกาบาตจำนวนมาก ในจำนวนนี้สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ได้ตั้งชื่อตามชื่ออำเภอและจังหวัดในประเทศไทย 7 หลุมได้แก่

  • Chatturat อ. จัตุรัส (ชัยภูมิ)
  • Kantang อ. กันตัง (ตรัง)
  • Nan จ. น่าน
  • Phon อ. พล (ขอนแก่น)
  • Tak จ. ตาก
  • Thom ไม่พบชื่อนี้โดยตรง แต่มี อ. นาทม (นครพนม) และ
  • Yala จ. ยะลา

สำหรับการตั้งชื่อหลุมดาวอังคารนั้น สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตั้งชื่อดาวอังคารเมื่อปี ค.ศ.1919 ต่อมาในปี 1957 เริ่มเข้าสู่ยุคอวกาศเมื่อมีการส่งสปุตนิก ดาวเทียมดวงแรกของโลกขึ้นสู่อวกาศ ตามมาด้วยการสำรวจดวงจันทร์ในโครงการอะพอลโลของสหรัฐอเมริกา โครงการลูนา และซอนด์ ของสหภาพโซเวียต อีกทั้งยานอวกาศที่ถูกส่งไปสำรวจดาวเคราะห์ดวงอื่น เช่นยานชุดวอยเอเจอร์ มารีเนอร์ หรือยานกาลิเลโอ เป็นต้น เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้งานตั้งชื่อของสหพันธ์ฯ กลายเป็นงานช้าง เพราะนอกจากจะได้ข้อมูลดวงจันทร์และดาวอังคารที่ละเอียดขึ้นแล้ว ยังมีภาพจากดาวพุธ ศุกร์ กับดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี และเสาร์ โถมเข้ามาให้ตั้งชื่ออีก ทั้งนี้การตั้งชื่อสามารถทำได้เฉพาะกับดาวเคราะห์และดวงจันทร์ที่เป็นก้อนหิน รวมทั้งดาวเคราะห์น้อยเท่านั้น จะตั้งชื่อให้อะไรบนดาวเคราะห์แก๊สขนาดยักษ์ อย่างพฤหัสบดี เสาร์ ยูเรนัส และเนปจูน ไม่ได้ เพราะผิวนอกที่เราเห็นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา



"ล่าสุดได้กำหนดมาตรฐานสำหรับการตั้งชื่อภูมิสถานบนดาวอังคาร ดังนี้ 1.หลุมขนาดใหญ่ ตั้งชื่อตามชื่อนักวิทยาศาสตร์ผู้มีส่วนสร้างความก้าวหน้าแก่การศึกษาดาวอังคาร และนักเขียนหรือคนอื่นที่มีผลงานเกี่ยวกับเรื่องของดาวอังคาร 2.หลุมขนาดเล็ก ตั้งชื่อตามชื่อเมืองในโลก ที่มีประชากรน้อยกว่า 100,000 คน 3.หุบเขาขนาดใหญ่ ใช้ชื่อว่าคำว่า ดาวอังคาร หรือ ดาว ในภาษาต่าง ๆ อย่าง ดาวvallis ซึ่งเป็นร่องน้ำสำคัญที่พบบนดาวอังคาร 4.หุบเขาขนาดเล็ก ชื่อแม่น้ำในสมัยโบราณ หรือชื่อปัจจุบัน"นายวิษณุ กล่าว



และว่า จะเห็นได้ว่าเกือบทุกกรณีสามารถเอาชื่อจากประเทศหรือวัฒนธรรมต่าง ๆ ในโลกมาใช้ได้ ซึ่งคณะอนุกรรมการก็ได้พยายามทำอย่างเสมอภาค คือหยิบจากที่โน่นที่นี่มาตามส่วนของทวีปและประเทศที่มีในโลก รวมทั้งจากประเทศไทย ถือเป็นการให้เกียรติกับทุกประเทศ



ด้านนายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า การตั้งชื่อหลุมบนดาวอังคาร จะไม่ใช้ชื่อยาว ตั้งชื่อไม่เกิน 1-2 คำ เพื่อให้กระชับ ซึ่งแต่ละชื่อจะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ คือชื่อนั้น จะมีเรียกแค่ในประเทศนั้นโดยเฉพาะ เป็นต้น อย่างไรก็ตามตลอดเดือนเมษายน เป็นช่วงที่ดาวอังคารเคลื่อนเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 2 ปี เวลา 20.00น. สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า อยู่ด้านซ้ายมือของดวงจันทร์ เป็นดาวเคราะห์สีแดงสว่างสุกใส สวยงาม และวันที่ 14 เมษายนทางสมาคมฯ ก็ได้จัดกิจกรรมตั้งกล้องดูดาวส่องดูขั้วน้ำแข็งดาวอังคารใกล้โลกด้วย

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2557    
Last Update : 30 ธันวาคม 2557 9:56:09 น.
Counter : 960 Pageviews.  

หาดนํ้าใส อ. สัตหีบ วิวสวย นํ้าทะเลใส น่าไปไม่ไกลกรุง

หาดน้ำใส


          หากคุณกำลังเบื่อหน่ายกับการเรียนหนัก ทำงานเหนื่อย และยังไม่รู้ว่าจะพาตัวเองไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ "หาดน้ำใส" แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลน้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งหาดแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปตากอากาศพักผ่อนหย่อนใจ สัมผัสบรรยากาศสุดสดชื่น รับลมชมทะเลกันได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เท่านั้น

สำหรับหาดน้ำใส เป็นชายหาดสั้น ๆ ที่มีความยาวประมาณ 600 เมตร มีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีหาดทรายเนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า มีน้ำทะเลสีสวยสะอาดใสเหมาะแก่การเล่นน้ำ พร้อมมีฉากหลังเป็นขุนเขาสีเขียวขจีสด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมทิวทัศน์ของธรรมชาติและท้องทะเลที่สวยงาม พร้อมกับทำกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ร่วมกับครอบครัวหรือชาวแก๊งกันได้



          ซึ่งกิจกรรมก็มีให้ทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพายเรือแคนู, ลงเล่นน้ำทะเล โดยสามารถเช่าอุปกรณ์เล่นน้ำกับทางเจ้าหน้าที่ได้เลย, นอนแผ่กายอาบแดด, หามุมโดน ๆ นอนอ่านหนังสือเล่มโปรด ซึ่งทางหาดจะมีซุ้มร่ม ๆ ให้สามารถนั่งหรือนอนกันได้แบบสบาย ๆ หรือจะเลือกไปเดินชมวิวรับลมเย็นชิล ๆ ฟังเสียงฟองคลื่นซัดสาดก็มีความสุขได้ไม่แพ้กัน และเพราะด้วยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตทหาร จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวกันได้แบบอุ่นใจหายห่วง







นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ หาดยังมีร้านค้าจำหน่ายอาหารนานาชนิด อาทิ อาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง เครื่องดื่ม ผลไม้สด ๆ ฯลฯ มาเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้ไปฝากท้องกันอีกด้วย สำหรับหาดแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมในบริเวณหาด และไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟเพื่อประกอบอาหาร แต่จะอนุญาตให้นำอาหารจากข้างนอกเข้ามารับประทานภายในหาดได้ และสำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่ลงเล่นน้ำทะเลจนเปียกแฉะและไม่อยากเหนียวตัวกลับบ้านทางหาดก็มีน้ำจืดและห้องน้ำสะอาดให้บริการกันอีกด้วย 

รู้แบบนี้แล้วใครที่เบื่อหน่ายกับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในที่เดิม ๆ ก็ลองแวะเฉียดมาเชยชม มาหามุมโปรดถ่ายรูป แวะมาพักกายผ่อนคลายกันที่หาดน้ำใสกันดูนะคะ รับประกันว่าปลื้มชัวร์...

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. (เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น) ค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาท

การเดินทาง : หาดตั้งอยู่ในพื้นที่ของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ หรือถนนสุขุมวิท จากนั้นให้มุ่งหน้ามายังอำเภอสัตหีบ พอถึงทางแยกที่ตัดกับถนนสุขุมวิทหรือบริเวณหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ให้ใช้เส้นทางที่จะไปท่าเรือจุกเสม็ด จากนั้นพอถึงค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้าให้เลี้ยวซ้ายไปยังเส้นทางพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เมื่อถึงป้อมทหารให้ขับต่อมาจนเจอแยกจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปอีกเล็กน้อยก็จะพบกับหาดน้ำใส




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2557    
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 7:50:07 น.
Counter : 1802 Pageviews.  

หลากประสบการณ์ ภัย มดลูก ที่ผุ้หญิงต้องรุ้

หลากประสบการณ์ ภัย มดลูก ที่ผู้หญิงต้องรู้

         เมื่อถามไถ่ถึงปัญหาจึงรู้ว่า เวลามีประจำเดือน เธอมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ต้องกินยาแก้ปวด และถึงขั้นต้องนอนกอดกระเป๋าน้ำร้อนตลอดทั้งวัน จนไม่สามารถพยุงร่างให้มาทำงานได้ ฉันจึงเตือนเธอว่า อย่าชะล่าใจ เพราะการปวดประจำเดือนไม่ได้หมายถึงอาการปวดท้องอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนปัญหาสุขภาพ มดลูก ซึ่งอาจมีโรคร้ายแฝงอยู่บันทึกอาการผิดปกติของมดลูก

มดลูก

เกือบช็อค เพราะ ช็อกโกแลตซีสต์

อาการประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ หรือขาดหายไปนานหลายเดือน ของ คุณจารุวรรณ เสมอวงศ์ อายุ 48 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว จังหวัดชลบุรี กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ เพราะเป็นอาการที่เป็นมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยสาว

     เมื่อก้าวสู่วัยของการสร้างครอบครัว ปัญหาประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ ก็เป็นอุปสรรคสำคัญของชีวิตคู่ โดยเธอกลายเป็นคนมีบุตรยาก กอรปกับการทำงานหนัก จนละเลยสุขภาพของตัวเอง “เจ็ดวันทำแต่งาน ไม่รู้วันหยุดเป็นอย่างไร …กว่าจะได้นอนก็ตีสอง ตื่นตีห้า พอหกโมงเช้า ไปทำงานแล้ว” เรื่องอาหารการกินยิ่งไม่เคยใส่ใจ ยึดหลัก สะดวก รวดเร็ว และต้องทันใจ หิวเมื่อไหร่ก็คว้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใกล้มือฉีดซองเทใส่ชาม เติมน้ำร้อน ตักใส่ปาก และกลืนเข้าท้องอย่างรีบเร่ง หรือบางครั้งก็กินอาหารไปพร้อมกับการทำงานจนปัญหาสุขภาพก่อตัวขึ้น

เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ความผิดปกติที่ซ่อนเร้นในร่างกาย ก็เปิดเผยตัวตนขึ้น ประจำเดือนที่เคยมาน้อย หรือแทบจะไม่มีเลย ก็กลับไหลออกมามากไม่หยุด และมีลักษณะเป็นลิ่ม เป็นก้อน ทำให้เธอ เกิดอาการ ใจสั่น ตัวเย็น จนเกือบช็อคหมดสติในห้องน้ำ พอตั้งสติได้และรีบไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสาเหตุ เธอจึงรู้ว่าขณะนั้นในร่างกายมีก้อนช็อกโกแลตซีสต์ ที่โตมากกว่า 3 เซนติเมตร เกาะอยู่ที่ มดลูก ทั้ง 2 ข้างแล้ว นับจากวันนั้น การมีประจำเดือนของเธอก็เปลี่ยนไป อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

       มีทุกเดือน โดยในวันแรก ๆ พร้อมด้วยความทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้องอย่างหนัก เลือดประจำเดือนจะมีปริมาณมาก และ มีลักษณะเป็นลิ่ม เป็นก้อน อาการดังกล่าวจะหายไปเมื่อ เข้าสู่วันที่ 3 และประจำเดือนจะมาไม่เกิน 4 วัน ในทางการแพทย์ปัจจุบันเชื่อว่า การเกิดถุงน้ำหรือช็อกโกแลตซีสต์ เพราะเลือดระดู หรือ เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ คือแทนที่ จะออกมาทางช่องคลอดตามปกติ แต่อาจจะมีเลือดระดูส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง ไปฝังตัวที่รังไข่จน ทำให้เกิดเป็น ช็อกโกแลตซีสต์

      ลักษณะเซลล์ของ ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อผู้หญิงมีประจำเดือน (คือ การที่เยื่อบุโพรง มดลูกลอกตัวออกมา) ช็อกโกแลตซีสต์ ดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงด้วย ในแต่ละเดือนที่ผ่านไป ช็อกโกแลตซีสต์ ก็จะมีเลือดออกเพิ่มขึ้นๆ นั่นหมายถึง ช็อกโกแลตซีสต์ก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

มดลูก

เมื่อชีวิตถูกฉุดรั้ง ด้วยพังผืด

ภายหลังจากการคลอดลูกฝาแฝดด้วยการผ่าตัด คุณพิมพ์ชนก แก้วน้ำ อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง มีอาการหนาวสั่น สะท้านไปทั่วร่างกาย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    เธอต้องสวมใส่เสื้อกันหนาวตลอดเวลา และถ้าใครได้สัมผัสมือหรือเท้า ก็จะรู้สึกได้ว่าอวัยวะทั้งสอง นั้นเย็นเฉียบ ราวน้ำแข็ง ปัญหาสุขภาพกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน จนในที่สุดเธอต้องตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำ เพราะทนทรมานอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดวันต่อไปไม่ไหว

     เธอตัดสินใจเดินทางมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทำให้เธอรู้ว่า อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจาก พังผืดมดลูก เพราะโลหิตทุจริตโทษจากการคลอดบุตร พระคัมภีร์มหาโชตรัต ซึ่งเป็นตำราการแพทย์แผนไทยที่กล่าวถึงเฉพาะโรคสตรี อธิบายว่า ความผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือนของผู้หญิง มี 2 ลักษณะ คือ โลหิตปกติโทษ และ โลหิตทุจริตโทษ โลหิตปกติโทษ เป็นอาการที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนของสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เช่น ปวดท้อง ปวดหลัง แต่เมื่อประจำเดือนมาแล้วอาการเหล่านี้ก็จะหายไป

    ถ้าไม่หายและมีอาการรุนแรงขึ้น ก็จะเรียกว่า โลหิตทุจริตโทษ ซึ่งต้องตรวจดูต่อไปว่ามีความผิดปกติ หรือโรคร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่จึงทำให้โลหิตประจำเดือนมาผิดปกติ ซึ่งมีอาการดัง เช่น มามากเกินไป, มาน้อยเกินไป, มาไม่ตรงเวลา นอกจากนี้ คุณพิมพ์ชนก ยังพบว่า มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย นั่นคือ ก่อนมีประจำเดือน
– ก่อนมีประจำเดือน 2-3 วัน มีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยอย่างรุนแรง พร้อมกับอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด
ระหว่างมีประจำเดือน
– เมื่อเริ่มมีประจำเดือนไหลออกมาใน วันที่ 1 และ 2 ยังคงมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงต่อไป ลักษณะเลือดประจำเดือนมีสีแดง เป็นลิ่ม เป็นก้อน ขนาด 1-2 เซนติเมตร หลุดออกมา
– เมื่อเข้าวันที่ 3 และ วันที่ 4 อาการปวดประจำเดือน ค่อย ๆ ทุเลาลง ลักษณะเลือดประจำเดือน เปลี่ยนเป็นสีคล้ำ เกือบดำ (เป็นเลือดที่สะสมคั่งค้างเพราะการคลอดบุตร)
– เมื่อตรวจโดยคลำดูบริเวณหน้าท้อง ก็จะพบว่ามีก้อนขนาดเล็กคล้ายเม็ดทรายหรือเม็ดพุทรากระจายอยู่เต็มท้อง

      หลังมีประจำเดือน มีอาการปวด มึนศีรษะ เป็นระยะ หลังจากใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยตรวจร่วมด้วยก็พบว่า คุณพิมพ์ชนกมี พังผืดในมดลูก สาวๆควรไปตรวจภายในทุกปีเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคภัยต่างๆ ด้วยรักและหวังดีนะคะ

ติดตามอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ใน นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 308




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2557    
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 7:46:11 น.
Counter : 1186 Pageviews.  

ตั้ง อาชีวะ ตอกกลับ หลังถูกล่าถอดวีซ่านิวซีแลนด์

ตั้ง อาชีวะ ตอกกลับ หลังถูกล่าถอดวีซ่านิวซีแลนด์ อัดอย่ามาทำเป็นรับไม่ได้  แนะเอาเวลาไปทำมาหากินจะดีกว่า

วันนี้ (28 ธ.ค. 57) นายเอกภน เหลือ รา หรือ ตั้งอาชีวะ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีหมิ่นสถาบัน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้ถึงกรณีที่ มีคนไทยบางกลุ่มออกมาต่อต้านการเป็นพลเมืองเต็มขั้นของประเทศนิวซีแลนด์ พร้อมกับเรียกร้องให้ นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และนายไมเคิล วู้ดเฮาส์ รมว.ตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ พิจารณายกเลิกวีซ่าถาวร (Permanent Residence visa) ดังกล่าว เนื่องจากนายเอกภพไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ว่า

ตั้ง อาชีวะ, เอกภพ เหลือรา, หมิ่นเบื้องสูง,   ข่าววันนี้

ตั้ง อาชีวะ

ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยบางกลุ่มจึงต้องมาล่ารายชื่อถอนวีซ่ากันอีก สิ่งที่ทำกันนั้นแสดงว่ารับความจริงกันไม่ได้ และยิ่งทำแบบนี้ทางการก็จะยิ่งมองว่านี่เป็นกรณีพิเศษที่ถูกคุกคาม แม้กระทั่งนอกแผ่นดินก็ยังมีคนคุกคามไม่เลิก ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะย้อนไปหาประเทศไทยเต็ม ๆ ดังนั้นเอาเวลาไปสนใจปัญหาปากท้องของชาวบ้านดีกว่าจะมาสนใจเรื่องของตน

อ่านข้อความทั้งหมดได้ที่นี่

ติดตามอ่านข่าวเกี่ยวกับ “ตั้ง อาชีวะ” ทั้งหมดได้ที่นี่ >>>>

MThai News

: , , ,
อ่านแล้ว : 26362 ครั้ง
ติดต่อทีมข่าว : news@mthai.com




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2557    
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 7:43:33 น.
Counter : 1749 Pageviews.  

เลขคณิตคิดไม่ยาก :คุณรุ้จัก"29กพ" ดีแค่ไหน

วันที่ 29 กุมภาพันธ์นับเป็นความพิเศษเพราะมีได้แค่ 4 ปีครั้ง และวันที่ 29 ก.พ.แห่งปี 2008 นี้ก็พิเศษเข้าไปอีก เพราะวันที่ 29 ก.พ.นี้ ตรงกับวันศุกร์ นับเป็นครั้งแรกใน 28 ปี

       เชื่อว่าถ้าใครมีความสามารถคลิกเข้ามานั่งอ่านบทความชิ้นนี้ คงต้องเคยผ่าน 29 กุมภาพันธ์มาแล้วอย่างน้อย 3-4 รอบ

       ว่าแต่...คุณรู้จัก “วันที่ 29 กุมภาพันธ์” ที่มา 4 ปีครั้งดีแค่ไหนลองทดสอบด้วยการตอบคำถามเหล่านี้ดู

1. ลองไล่ดูว่าปีที่จะมีวันที่ 29 ก.พ.ในอีก 5 รอบหลังจาก 2008 นี้มีปีอะไรบ้าง?

2. ถ้าพจมานเกิดปี 1988 ดังนั้นวันที่ 29 กุมภาครั้งแรกของเธอ คือปีอะไร?

3. ปีไหนบ้างที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน : 1900, 1972, 1956, 1946, 1992, 1886, 1420, 1600

4. ปีนี้วันที่ 1 ม.ค.ตรงกับวันอังคาร ส่วนปีที่แล้ว 1 ม.ค.ตรงกับวันจันทร์ และก่อนหน้านั้น (ปี 2006) วันที่ 1 ม.ค.ตรงกับวันอาทิตย์ ลองทายดูแบบไม่เปิดปฏิทินว่า 1 ม.ค.ปีหน้า (2009) และวันที่ 1 ม.ค.2013 ตรงกับวันอะไรบ้าง?

5. ปีปกติมี 365 วัน แต่ทุกๆ 4 ปีจะต้องเพิ่มขึ้นมาอีก 1 วันเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ นั่นหมายความว่าโลกใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์นานกว่า 365 วัน แท้จริงแล้วโลกใช้เวลานานแค่ไหนโคจรรอบดวงอาทิตย์?

... ดูเฉลยท้ายบทความ ...
       แต่จะอ่านคำอธิบายในย่อหน้าถัดๆ ไปก่อนก็ไม่เกี่ยง !!


เราจะหาว่าปีไหนบ้างที่มีเดือนกุมภาได้ 29 วัน มีกฎง่ายๆ คือ

ปีคริสตศักราชที่หารด้วย 4 ลงตัว
       (อย่างปีนี้ 2008)

แต่ 99% ของกฎในสากลโลกต้องมีข้อยกเว้น..
นั่นก็คือ ปีที่หารด้วย 100 ลงตัวไม่ต้องเพิ่มวันที่ 29 เข้าไป
(อย่างปี 1900 และ 1800 ก็หารด้วย 4 ลงตัวและหารด้วย 100 ลงตัว ดังนั้นจึงไม่ต้องเพิ่มวันที่ 29 ลงไป)

       แต่นั่นหาใช่สิ้นสุดไม่...
       เพราะมีข้อยกเว้นของข้อยกเว้นบอกอีกว่า... แม้จะผ่านด่านหารด้วย 4 และ 100 ลงตัวแล้วก็ตาม แต่ถ้าปีนั้นเกิดหารด้วย 400 ลงตัว ให้กลับไปใช้หลักการแรกสุด นั่นคือ เพิ่มวันที่ 29 เข้าไปด้วย
(อย่างปี 2000 และ 1600 หาร 4 ลงตัว, หาร 100 ก็ลงตัว ทว่ายังหารด้วย 400 ลงตัว ดังนั้นจึงเพิ่มวันที่ 29 ได้)

เรื่องนี้มีคำอธิบาย...

       จากหลักการที่ว่า โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบกินเวลา 365.242199 วัน หรือ 365 กับอีก ¼ วันซึ่งปีปกติที่มี 365 วันก็จะทำให้เวลาขาดไป ¼ วัน ดังนั้นจึงต้องทดไว้ เมื่อทดครบ 4 ปีก็จะได้เท่ากับ 1 วันพอดีจึงทำให้ต้องเพิ่ม 1 ปีมี 366 วันในทุกๆ 4 ปี

       ปีที่มีวันเพิ่มมานั้นเราเรียกกันว่า “อธิกสุรทิน” ซึ่งแปลว่า “วันเกิน” ขณะที่ฝรั่งใช้คำว่า “ลีป" (leap) ที่หมายถึงการกระโดดหรือข้าม (ซึ่งเรียกกันทั้ง ลีปเดย์-leap day ที่หมายถึงวันที่ 29 ก.พ. หรือ ลีปเยียร์-leap year ที่หมายถึงปีที่มีวันที่ 29 ก.พ.) และสัญญลักษณ์แห่งปีกระโดดที่พวกเขาใช้คือ "กบ"

คราวนี้ถ้าทุกๆ 4 ปีมีวันเกินมา 1 วัน เมื่อถึง 400 ปีหรือครบ 100 รอบจะมีวันเกินไปอีก 3.104 วัน(เพราะ อีก 1 วันในทุกๆ 4 ปีเป็นเวลาโดยประมาณ) ดังนั้นในรอบทุกๆ 400 ปีจะต้องลดวันลงไป 3 วัน ก็เลยกำหนดให้ปีที่ครบร้อยแต่หาร 400 ไม่ลงตัว ไม่ต้องเพิ่มวันตามข้อยกเว้นที่กล่าวมา จึงจะเป็นการนับวันเวลาได้ใกล้เคียงกับวัฎจักรโลกและดวงอาทิตย์มากที่สุด

       อย่างไรก็ดี ด้วยหลักการนี้เมื่อครบรอบ 10,000 ปี วันในปฏิทินจะผิดจากความเป็นจริงไปอีก 3 วัน แต่อีกตั้งหมื่นปี...ปัญหานี้เลยค่อยคิด !!

** ข้อสังเกตที่น่าสนใจ **

ปกติแล้ววันเริ่มปี หรือวันที่ 1 มกราคมของทุกปี จะตกในวันไล่ติดกันไปในสัปดาห์ แต่ละปี อย่าง 1 ม.ค.ปีที่แล้วตรงกับวันจันทร์ ส่วน 1 ม.ค.ปีนี้ตรงกับวันอังคาร ซึ่งวัฎจักรปกติแล้ว 1 ม.ค.2009 จะต้องตรงกับวันพุธ

       ทว่าวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้ากลับตรงกับวันพฤหัสบดี เพราะวันที่ 29 ก.พ.ทำหน้าที่ขโมยซีนไปเสียแล้ว

       ดังนั้นการเริ่มต้นปีที่จะเรียงกันไปนั้น หากเป็นปีอธิกสุรทินมาคั่น วันเริ่มต้นของปีถัดไปก็จะเลื่อนไปอีก 1 วัน ตามตัวอย่าง

       1 มกราคม 2000 ตรงกับ วันเสาร์ (ปีอธิกสุรทิน)
       1 มกราคม 2001 ตรงกับ วันจันทร์
       1 มกราคม 2002 ตรงกับ วันอังคาร
       1 มกราคม 2003 ตรงกับ วันพุธ
       1 มกราคม 2004 ตรงกับ วันพฤหัสบดี (ปีอธิกสุรทิน)
       1 มกราคม 2005 ตรงกับ วันเสาร์
       1 มกราคม 2006 ตรงกับ วันอาทิตย์
       1 มกราคม 2007 ตรงกับ วันจันทร์

       เหล่านี้...คือกติกาและข้อสังเกตของการมีหรือไม่มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ในแต่ละครั้ง ส่วนความเป็นมาของการเกิดวันที่ไม่เท่ากันในปฏิทินที่ใช้กันเป็นสากล และเกร็ดอื่นๆ เกี่ยวกับวันพิเศษนี้ สามารถติดตามได้จาก "ข่าวที่เกี่ยวข้อง" ด้านล่าง




เฉลย : ถ้าอ่านคำอธิบายก็น่าจะรู้คำตอบ ^^
(แต่เพื่อความมั่นใจ ดรากเมาส์ ปาดแถบแสงไปที่บรรทัดที่มองไม่เห็นด้านล่างกันเลย)

1. 2012, 2016, 2020, 2024, 2028
       2. ถ้าพจมานเกิดก่อน 28 ก.พ. หรือเกิดวันที่ 29 ก.พ.เลย ก็จะพบกับ 29 ก.พ.ครั้งแรกในปี 1988 นั้น แต่ถ้าพจมานเกิดหลังจากนั้นก็จะพบกับ 29 ก.พ.ครั้งแรกในปี 1992
       3. 1972, 1956, 1992, 1420, 1600
       4. วันพฤหัสบดี และ วันอังคาร
       5. 365 วันกับอีก 6 ชั่วโมงโดยประมาณ (หรือ 365.242199 วัน)




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2557    
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 7:38:21 น.
Counter : 974 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.