อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

วิธีทําข้าวหมกไก่อร่อยเด็ด แบบง่ายๆ

วิธีทำข้าวหมกไก่อร่อยเด็ด แบบง่ายๆ

สูตรอาหาร : ข้าวหมกไก่นั้นเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวอินเดีย แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเมืองไทยและยังเป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวพี่น้องอิสลามทางภาคใต้อีกด้วย สำหรับเสน่ห์ของข้าวหมกไก่อยู่ที่ความหอมของเครื่องเทศที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่และตัวข้าว อีกทั้งข้าวหมกไก่ก็ยังเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยและมีคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ เพราะมีทั้งโปรตีนจากไก่ คาร์โบไฮเดรตจากข้าว วิตามินและเกลือแร่จากผัก ไขมันจากเนย จึงไม่ใช่เรื่องยาก…ที่ทั้งอร่อยรสเด็ดและมีคุณค่าทางอาหารเช่นนี้จะเป็นที่ถูกปากถูกใจของนักชิมทั้งหลาย วันนี้ เราจึงได้นำสูตรวิธีทำข้าวหมกไก่แบบง่ายๆ มาฝากครับ ที่สำคัญหอมอร่อยรสเด็ดแน่นอน (^_^)


เครื่องเทศข้าวหมกไก่
1. อบเชย (ใช้ยาวประมาณ 1 นิ้ว) 2 ชิ้น หรืออบเชยป่นก็ได้
2. กานพลู 6 ดอก
3. กระวาน 6 ลูก
4. เม็ดผักชีป่น 2 ช้อนชา
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
6. พริกชี้ฟ้าแดงเม็ดใหญ่ (เอาเมล็ดด้านในออก) 2 เม็ด
7. กระเทียมซอย 3ช้อนโต๊ะ
8. ขมิ้น 1 ช้อนชา
9. ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ
10. ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา
11. พริกป่น 1/2 ช้อนชา
12. เกลือป่น 2 ช้อนชา

เครื่องปรุงข้าวหมกไก่
1. ข้าวสารเก่า 3 ถ้วยตวง
2. สะโพกไก่ หรือน่องไก่ 1 กิโลกรัม (8 ชิ้น)
3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย (150 กรัม)
4. เนยจืด 60 กรัม
5. นมข้นจืด 4 ช้อนโต๊ะ
6. หอมแดงเจียว สำหรับโรยหน้า (ตามใจชอบ)
7. ผักชีเด็ดใบ สำหรับโรยหน้า
8. เครื่องเคียง เช่น แตงกวาหั่นแว่น ผักกาดหอม มะเขือเทศหั่นแว่น

วิธีทำ
1. ล้างไก่ให้สะอาด สับเป็นชิ้นใหญ่ แล้วนำส้อมมาจิ้มชิ้นไก่ให้ทั่ว พักไว้
2. เตรียมเครื่องเทศผงให้พร้อม ด้วยการนำ อบเชยป่น กานพลู กระวาน ลูกผักชีป่น และพริกไทย ลงไปคั่วในกระทะให้หอม จากนั้นนำไปโขลกจนละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้ แล้วนำพริกชี้ฟ้าแดง (เอาเมล็ดด้านในออก) และกระเทียมซอยมาโขลกจนละเอียด ผสมกับเครื่องเทศที่โขลกไว้ จากนั้นใส่ พริกป่น เกลือ ขมิ้น ผงกะหรี่ และยี่หร่า คนให้เข้ากัน
3. ผสมเครื่องปรุงหมักไก่ โดยการนำเครื่องเทศผง (จากข้อ 2) ตามด้วยโยเกิร์ต เนยจืด และนมจืด ผสมให้เข้ากันในชามผสม
4. นำสะโพกไก่ น่องไก่ที่เตรียมไว้ ไปหมักกับเครื่องปรุง (จากข้อ 3) แล้วคลุกเคล้านวดขยำๆเบาๆ ให้เข้ากัน เพื่อให้เครื่องปรุงทั้งหมดซึมเข้าเนื้อไก่ จากนั้นหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือจะให้ดี…หมักแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ข้ามคืน…จะยิ่งทำให้เนื้อไก่นุ่มและหอม (เมื่อจะนำมาทำข้าวหมกไก่ ก็ให้เอาออกมาพักให้หายเย็นก่อน)
5. เมื่อไก่หมักได้ที่แล้ว นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยจืดลงไปเล็กน้อย รอจนเนยละลาย ใส่สะโพกไก่ลงไป ทอดให้หนังไก่เริ่มตึงและเหลือง จากนั้นพลิกอีกด้าน ทอดจนเหลืองเช่นกัน ตักขึ้น พักไว้ (คือทอดไก่ให้เกือบสุกทั้งสองด้านเท่านั้น เพราะเดี๋ยวเราจะต้องนำไก่ทอดนี้ไปหมกในหม้อหุงข้างต่ออีก)
6. ให้นำข้าวสารไปซาวน้ำและเทน้ำทิ้งให้หมด แล้วใส่ไก่ที่ทอดไว้แทรกระหว่างข้าว ใส่เครื่องหมักที่เหลือตามลงไป สุดท้ายใส่น้ำเปล่าลงไป กะให้พอดีกับข้าวที่หุงตามปกติด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า กดสวิตช์หุงข้าวจนสุก…แล้วปล่อยให้ข้าวระอุอีกประมาณ 10 นาที
7. ตักข้าวหมกไก่ใส่จาน โรยด้วยหอมเจียว ใบผักชี แล้ววางแตงกวาหั่น ต้นหอมไว้ข้างๆ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
(สำหรับเสิร์ฟรับประทานได้ 8 ที่)

แนะนำเพิ่มเติม
  • หากเลือกใช้ข้าวหอมมะลิเก่าจะให้ความหอมนุ่ม ทำให้น่าทานมากยิ่งขึ้น
  • สำหรับขมิ้น หากใช้เป็นขมิ้นแขกจะให้กลิ่นที่หอมและเนื้อข้าวหมกไก่จะมีสีเหลืองสวยกว่าใช้ขมิ้นไทย แต่ถ้าใช้ขมิ้นไทยสีจะออกไปทางเหลืองคล้ำนิดหน่อย จึงอาจจะทำให้ดูน่ารับประทานน้อยกว่า
  • สำหรับทำข้าวหมกไก่ ควรเลือกเนื้อส่วนน่องและสะโพก เพราะจะให้รสชาติที่อร่อยนุ่มนวล

สำหรับสูตรวิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ รสเด็ดอย่างละเอียดสามารถดูได้ที่:
สูตรวิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2557    
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 7:55:33 น.
Counter : 2950 Pageviews.  

วิธีหาขนาด ชุดชั้นใน ด้วยตัวเอง

ชุดชั้นใน

            การเลือกสวมใส่ ชุดชั้นใน ที่เหมาะสมได้สัดส่วนและมีทรวดทรงที่สวยงามนั้นจำเป็นที่จะต้องเลือก ขนาดยกทรง ( คัพและไซส์ ) ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสรีระและ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกซื้อ ยกทรงคือ การวัดสัดส่วน เพื่อหาขนาด คัพไซส์ อย่างถูกวิธี

    1 . ยืนตรงแล้วใช้สายวัด ( ด้านเซนติเมตร ) วัดตำแหน่ง รอบอก โดยให้สายวัดผ่านจุดหัวถันทั้ง 2 ข้าง

      2. จากนั้นวัดรอบใต้อก ( ซึ่งจะบอกถึงขนาดลำตัว )

       เส้นรอบวงทั้งสองตำแหน่งนี้ ควรอยู่ในแนวขนานกับพื้น และไม่รัดแน่น หรือหลวมเกินไป จากนั้นนำตัวเลขที่ได้มาลบกัน แล้วนำผลต่าง มาดูตารางเปรียบเทียบ ขนาดชุดชั้นในผลต่างที่ได้คือ ขนาดของ คัพ ส่วนขนาดของ ไซส์ นั้นนำตัวเลขที่ได้จากการวัดอบใต้อก มาเทียบกับตารางยกทรงได้เลย

ตัวอย่างการหาขนาด (คัพ ไซส) ของยกทรง

   รอบอก     81  ซม.
รอบใต้อก  69  ซม.
ผลต่าง     12  ซม.

     ขนาดคัพ คือ B ขนาดไซส์คือ 70
ขนาดยกทรงที่ได้คือ B 70

ที่มาจาก Wacoal




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2557    
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 7:53:11 น.
Counter : 1410 Pageviews.  

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก


วันนี้ทีนเอ็มไทยนำ 7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก มาให้เพื่อนๆ ได้ชมความสวยงามของพวกเจ้าหน้าแหลมนี้กันคะ ซึ่งส่วนมากเราจะเห็นเจ้าหมาป่าพันอยู่ที่คอของหนุ่มสาว มันได้กลายเป็นแฟชั่นที่ฮิตกันในปัจจุบันไปซะแล้ว โดยที่ไม่ได้เห็นความสวยงามที่มีชีวิตจริงๆ! ของพวกมันเมื่ออยู่ในธรรมชาติ อ่ะชอบตัวไหนกันบ้าง ..

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.comหมาจิ้งจอกเฟนเนก-001

Image credits: Francisco Mingorance

1. Fennec Fox : หมาจิ้งจอกเฟนเนก

หมาจิ้งจอกเฟนเนก (Fennec fox) หรือ หมาจิ้งจอกทะเลทราย (Desert fox) ในวงศ์สุนัขเป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็กที่สุดในโลก เพราะเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 1.75 กิโลกรัม (ใกล้เคียงกับชิวาวาเลยนะ >,<) เฟนเนก มีขนสีน้ำตาลเหลืองตลอดทั้งตัว ดวงตาสีดำ มีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือ ใบหูที่ยาวมากๆ! บางตัวอาจยาวได้ถึง 15 เซนติเมตรเลยทีเดียว

หมาจิ้งจอกเฟนเนกมีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา โดยอาศัยอยู่ในทะเลทราย มีพฤติกรรมรวมกันเป็นฝูงขนาดเล็ก หากินในเวลากลางคืน โดยมีอาหารหลักคือ แมลงชนิดต่าง ๆ ด้วยการขุดคุ้ยจากการฟังเสียงจากใบหูที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนั้นแล้วยังสามารถกินสัตว์ที่มีขนาดเล็ก, ไข่นก และผลไม้ แต่ก็ยังตกเป็นเหยื่อของสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าได้เช่นกัน แต่ด้วยสภาพร่างกายที่เหมาะกับการอาศัยอยู่ในทะเลทราย ทำให้สามารถเอาตัวรอดได้ดี

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

Fennec Fox : หมาจิ้งจอกเฟนเนก Image credits: animalgalleries.org

ขนที่อุ้งเท้าของ เฟนเนก จะหนามีไว้ใช้สำหรับเดินบนพื้นทรายที่ร้อนระอุได้ ขนสีน้ำตาลเหมือนสีของทรายของช่วยให้อำพรางตัวได้ในทะเลทราย อีกทั้งขนทำหน้าที่สะท้อนความร้อนจากแสงแดดในเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็ทำหน้าที่สะสมความอบอุ่นไว้เพื่อต่อสู้กับความหนาวเย็น เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคึน ขยายพันธุ์ด้วยการตั้งท้องนานครั้งละ 2เดือน เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 9 เดือน โดยจะตกลูกปี​ละ​ครั้ง ​เป็น​สัตว์​ที่​มี​คู่​ตัว​เดียว​ตลอด​ชีวิต ตัวผู้​จะ​ดุร้าย​และ​หวง​คู่ อีก​ทั้ง​ทำ​หน้าที่​คอย​หา​อาหาร​ให้​ตัวเมีย​ตลอด​เวลา​ช่วง​ที่​ตั้ง​ท้อง​และ​ให้​นม ตกลูกครั้งละ 2-4 ตัว

ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารัก และมีขนาดเล็ก จึงทำให้หมาจิ้งจอกเฟนเนกกลายเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งของมนุษย์ เช่นเดียวกับ สัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นฉายาของทีมฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรียอีกด้วย โดยเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Les Fennecs หมายถึง “หมาจิ้งจอกทะเลทราย”

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.comfox-species-photography-3-1-002

Image credits: Roeselien Raimond

2. Red Fox : หมาจิ้งจอกแดง 

มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหมาทั่วไปแต่มีขนาดเล็กกว่า ขนตามลำตัว มีสีเทาแดงหรือสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม สีขนบริเวณปลายหูและขามีสีดำ สีขนอาจมีเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ กล่าวคือ สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงที่มีอากาศมีความชื้นสูง พบทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง, ปากีสถาน ภาคเหนือของอินเดีย, เนปาล, ภูฏาน, ภาคเหนือของพม่า, จีน, ภาคเหนือของลาวและเวียดนาม

หมาจิ้งจอกแดง สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ นอกจากนี้จากการศึกษานานกว่า 40 ปี ของนักวิจัยพบว่า หมาจิ้งจอกแดงสามารถส่งเสียงร้องได้หลากหลายมากถึง 40 เสียง สำหรับการสื่อสารกันเอง, การหาคู่ หรือการสื่อสารกันเฉพาะในฝูงหรือครอบครัว

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.comfox-species-photography-3-3-004

Image credits: Wenda Atkin

หมาจิ้งจอกแดง นับเป็นหมาจิ้งจอกชนิดที่มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางที่สุด และนับเป็นต้นแบบของหมาจิ้งจอกทั้งหมด ดังนั้นจึงปรากฏในวัฒนธรรมและความเชื่อของชนชาติต่าง ๆ มาแต่โบราณ โดยชาวตะวันตก หมาจิ้งจอกจะเป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์ และปรากฏในนิทานพื้นบ้าน และนิทานอีสปหลายเรื่อง สำหรับชาวเอเชียตะวันออก เช่น ชาวจีน หรือชาวญี่ปุ่น เชื่อว่า หมาจิ้งจอกแดงสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจเพื่อหลอกลวงมนุษย์ได้ เช่น ปีศาจจิ้งจอก, ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นต้น

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.com796f00734afae0b3c773f6c910300c48-006

3. Marble Fox : หมาจิ้งจอกมาร์เบิ้ล

หมาจิ้งจอกมาร์เบิ้ล นั้นจัดอยู่ในสปีชีส์เดียวกับ Red Fox (หมาจิ้งจอกแดง) นอกจากนี้สี-ลวดลายที่เพื่อนๆ เห็นนั้นไม่ได้เกิดมาจากธรรมชาติของพวกมัน แต่เกิดมาจากการที่มนุษย์นั้นทำขึ้น ซึ่งมนุษย์นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย ขนเฟอร์! นั่นเอง

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.comfox-species-photography-6-1-008

Image credits: John Pane

4. Gray Fox : หมาจิ้งจอกสีเทา

Gray Fox (หมาจิ้งจอกสีเทา) อาศัยอยู่ทางใต้ของอเมริกา-ทางตอนเหนือของแคนนาดา ( เวเนซุเอลาและโคลัมเบีย ) สิ่งที่โดดเด่นก็คือ สีขนที่มีสีผสมกันที่สวยงาม หางยางฟู นอกจากนี้หมาจิ้งจอกสีเทายังสามารถปืนต้นไม้ได้เก่งอีกด้วย

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก  teen.mthai.comfox-species-photography-4-1-010

Image credits: Shelley Evans

5. Silver Fox : จิ้งจอกสีเงิน

Silver Fox (จิ้งจอกสีเงิน) มีสิ่งที่โดดเด่นแบบเห้นได้ชัด คือ ขนฟูๆของมันที่สีจะออกไปทางสีเงิน-เทา บางตัวขนจะมีสีฟ้าเทาที่หาง เมื่อก่อนจิ้งจอกสีเงินถือว่าเป็นสัตว์ที่มีมูลค่ามากตัวหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้มันก็ยังถูกนำไปทำเครื่องนุ่งห่ม เครื่องแต่งกาย เช่นในสมัยขุนนางในรัสเซีย, ยุโรปตะวันตก และจีน >,< น่าสงสารจัง~

7 สายพันธุ์หมาป่าที่สวยที่สุดในโลก teen.mthai.comfox-species-photography-1-1-012

Image credits: Daniel Parent

6. Arctic Fox : หมาจิ้งจอกอาร์กติก

หมาจิ้งจอกอาร์กติก (Arctic fox), หมาจิ้งจอกขั้วโลก (Snowy fox) หรือหมาจิ้งจอกหิมะ (Polar fox) เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก อาศัยอยู่ทั่วไปในเขตชายผั่งมหาสมุทรอาร์กติกตลอดจนเขตทุนดราที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง มีขนสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้ล่าเหยื่อได้ง่าย และสามารถพรางตัวจากศัตรูได้ด้วย

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

Image credits: William Doran

หมาจิ้งจอกอาร์กติกจัดว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปรับสภาพให้ดำรงอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวจัดได้ดีชนิดหนึ่ง มีระบบการปรับอุณหภูมิ ที่สามารถควบคุมความร้อนในร่างกายได้ สามารถทนอยู่ได้ในที่ ๆ มีอุณหภูมิต่ำถึง -50 องศาเซลเซียสได้ หมาจิ้งจอกอาร์กติกจะมีใบหน้าที่สั้นกว่าหมาจิ้งจอกชนิดอื่น และมีใบหูที่เล็ก ขนของมันฟูหนา เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน มันจะมีขนอยู่บริเวณอุ้งเท้าเพื่อช่วยให้เดิน และวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้ในช่วงที่หิมะตกหนัก หรือเกิดพายุหมาจิ้งจอกอาร์กติกจะขุดโพรงลึกลงไปใต้หิมะ และขดตัวนอนโดยใช้หางของมันตวัดมาปิดตัวและหน้าไว้คล้ายคนห่มผ้าห่ม

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

Image credits: Einar Gudmann / Image credits: Cecilie Sonsteby

7 สายพันธุ์หมาป่าที่สวยที่สุดในโลก teen.mthai.comfox-species-photography-1-3-013

Image credits: imgur.com

และเมื่อฤดูหนาวหมดลง หิมะเริ่มละลาย ต้นไม้เริ่มผลิใบอ่อน หมาจิ้งจอกอาร์กติกเองก็มีการเปลี่ยนแปลง ขนสีขาวของมันจะร่วงลง และมีขนสีเทาอมน้ำตาลขึ้นแทนและจะสั้นกว่าขนในฤดูหนาว ทำให้ตัวมันดูเล็กลง และมีขนาดเท่าแมวบ้านเท่านั้น ในขั้วโลกเหนือฤดูร้อนนั้นสั้นมาก และเมื่อฤดูหนาวกลับมา จิ้งจอกขั้วโลกก็จะเปลี่ยนสีขนกลับไปเป็นขนสีขาวอีกครั้ง เป็นการบอกให้รู้ว่า การต่อสู้กับความหนาวเย็นกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง

7 สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก

Image credits: Ben Andrew

7. Cross Fox

เป็นสุนักจิ้งจอกที่แตกแขนง แยกออกมาจากสายพันธุ์ Red Fox  (หมาจิ้งจอกแดง) ส่วนใหญ่พบเห็นได้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาคะ

เรียบเรียงเขียนโดย teen.mthai.com

อ้างอิงจาก boredpanda.com,th.wikipedia.org




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2557    
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 7:50:48 น.
Counter : 1776 Pageviews.  

เคยสงสัยไหมว่า เขาลักลอบตัด "ไม้พะยุง" ไปทําอะไรกัน??

โดยมติชนออนไลน์


เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็รู้จักไม้พะยูงกันทั้งนั้น เหตุผลที่ต้องสันนิษฐานไว้อย่างนี้ ก็เป็นเพราะข่าวภูมิภาคที่เราๆท่านๆอ่านและฟังจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ หรือช่องทางเข้าถึงข่าวสารใดๆก็ตาม ที่นำเสนอเรื่องราวการจับไม้พะยูงกันจนเป็นเรื่องปกติรายวันนั่นเอง

แต่ก็เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าประโยชน์ของไม้พะยูงคืออะไร??  ทำไมคนมันถึงต้องลักลอบเข้าไปตัดกันถึงในเขตอุทยานเเห่งชาติไม่เกรงกลัวคุกกลัวตะราง  บางคนลักลอบไปตัดในพื้นที่วัด ไม่กลัวบาปกลัวกรรม   หนักกว่านั้น คือความพยายามในการขนไม้พะยูง ซึ่งข่าวบางข่าวอ่านแล้วก็แทบขำ เพราะผู้ต้องหาต้องพยายามหลบซ่อนสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไม้ให้ถูกจับได้ 

เช่นที่เคยเห็นและเป็นข่าว ก็เช่นการใช้รถโฟล์คสวาเกน รถตู้ยี่ห้อหรูที่ระดับนายกรัฐมนตรีใช้ ในการไปขนไม้พะยูง หรือบางคนใช้รถเก๋งส่วนบุคคล ด้วยพื้นที่อันน้อยนิด ก็ก็ยังกล้าลงทุนยอมใช้ขนไม้พะยูง บางคนลงทุนใช้รถตำรวจ-ทหาร ปลอมไปขนก็มี...



เรื่องนี้น่าสนใจว่า ตกลงแล้วไม้พะยูงมันสำคัญยังไง ทำไมรอบตัวเราไม่เห็นจะมีใครใช้ไม้พะยูงไปทำอะไรเลย?

ผู้เขียนลงค้นหาประโยชน์ของไม้พะยูงในกูเกิ้ลก็ต้องดีใจ ที่พบเพื่อนเป็นจำนวนมาก หลายคนต้องเอาความสงสัยไปตั้งตามเว็บบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะ เว็บไซต์พันทิป ที่ต่างก็ถามกันว่าไม้พะยูงที่เห็นในข่าวบ่อยๆนี่ ตกลงมันมีประโยชน์อะไรกันแน่

ผู้เขียนติดต่อสอบถามไปยัง นายดำรงค์ พิเดช ที่ปรึกษาฝ่ายสังคมจิตวิทยา ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  และตำแหน่งปัจจุบันคือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ  ที่สำคัญคือเคยเป็น อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เคยต่อสู้เรื่องป่าไม้ และสิ่งเเวดล้อมมานาน

เมื่อถามไปสั้นๆง่ายว่า ทำไมจึงมีข่าวคนร้ายขนไม้พะยูงลักลอบไปขายบ่อยนัก มันสำคัญยังไง? นายดำรง ตอบกลับมาทันทีว่า เพราะมันแพงไง!! โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า

ราคาไม้พะยูงในเมืองไทยมันไม่เเพงหรอก แต่ปัญหาคือการรับซื้อเมื่อส่งออกไปเมืองนอกมันเเพงมาก โดยเฉพาะการส่งออกไปประเทศจีน

"ราคาในเมืองไทยมันไม่แพงหรอก   แต่ถ้าส่งออกไปต่างประเทศเนี่ย แต่ก่อนเขาขายกันเป็นคิว คิวละ 3 - 4 แสน แต่ปัจจุบัน เศษเล็กเศษน้อยเขาก็ขายกัน  เขาขายกันเป็นกิโลกรัมแล้ว กิโลนึงนี่ประมาณ 3,000" นายดำรงค์กล่าว


นายดำรงค์เล่าเพิ่มเติมอีกว่า  ทั้งนี้เหตุที่ประเทศจีนมีการรับซื้อไม้ชนิดนี้เยอะ เริ่มจากการนำเข้าไม้ชนิดนี้ไปซ่อมแซมพระราชวังต้องห้าม  ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี 2551 ซึ่งช่างที่ซ่อมพบว่าไม้ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้ (เช่น เก้าอี้ โต๊ะต่างๆ) ล้วนทำมาจากไม้พะยูง และยังมีสภาพสมบูรณ์ดีมาก ทั้งๆ ที่ผ่านมานานหลายร้อยปี จึงเกิดการเล่าขานและเป็นกระเเสในเมืองจีน ทำให้คนรวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นจำนวนมากตามการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ต้องการนำมันมาประดับบารมี เช่นการนำไปสลักมังกร หรือแม้กระทั่งการนำไปทำโรงศพของมหาเศรษฐี

ต่อมาก็มีความนิยมนำไม้พะยูงไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ แต่ระยะหลังไม้พะยูงมีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก  ทางนายทุนจึงหันมาทำเป็นวัตถุมงคล พระ หรือแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ที่นำไปประดับบารมีคนรวย และเคารพบูชา 

ต่างกับประเทศไทยที่เชื่อว่าไม้พะยูงเป็นของสูง ผู้ที่มีบารมีไม่ถึงไม่สมควรเอามาใช้ เพราะจะมีปัญหาภายหลัง (ยกเว้นเอามาทำเป็นหิ้งพระ) ด้วยเหตุนี้คนไทยจึงไม่นิยมนำไม้พะยูงมาทำเป็นไม้กระดาน บันไดบ้าน และเตียงนอน ใช้เพียงแต่ทำรั้วบ้านเท่านั้น


เมื่อเกิดความต้องการมาก ก็ทำให้เกิดปัญหาการลักลอบเข้าไปตัดโดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากมูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆของไม้พะยูง จนเจ้าหน้าที่รัฐเองบางส่วนยังเข้าร่วมขบวนการดังกล่าว รู้เห็นเป็นใจการค้าไม้พะยูงซะเองก็มี

ทั้งนี้อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เล่าเพิ่มเติมว่า  ในยุคที่ตนดำรงตำแหน่ง เมื่อเทียบสถานการณ์การค้าขายไม้พะยูงในปัจจุบันยัง ไม่รุนแรงขนาดนี้ โดยตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้ามาแก้ไข โดยได้ประกาศ  คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.  ก็ทำให้สถานการณ์เบาลง

โดยในส่วนจำนวนของไม้พะยูงนั้น เคยมีมากในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะหมดไป การลักลอบตัดในไทยจึงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในส่วนขั้นตอนการกระทำผิดนั้น หลังจากการลักลอบตัวในประเทศ ก็จะมีการลำเลียงออกต่างประเทศ โดยขนส่งผ่านประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผ่านลำน้ำโขง ไปยังประเทศลาว เพื่อส่งต่อไปยัง เวียดนามและจีน  ขณะที่บางส่วนก็ส่งต่อผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา



เมื่อขอให้เสนอเเนะแนวทางแก้ไข นายดำรง เห็นว่า การแก้ปัญหานอกจากเร่งปราบปรามในไทย ก็จะต้องมีการประสานไปยังทางการของจีน ให้การรับซื้อไม้พะยูงเป็นเรื่องที่ผิด โดยเฉพาะการออกกฏระเบียบห้ามรับซื้อไม้พะยูงที่ขโมยมา ซึ่งขณะนี้ ไม้ดังกล่าวใกล้สูญพันธุ์ เหลือเพียงบริเวณประเทศไทยเท่านั้น  ซึ่งในฐานะที่ตนเองเป็นสมาชิกสภาปฏฺิรูปแห่งชาติ เห็นว่าน่าจะมีการเพิ่มโทษผู้ที่กระทำความผิดลักลอบตัดไม้ดังกล่าว เช่นโทษจำคุก หรือการยึดทรัพย์ ก็จะทำให้นายทุนที่อยู่เบื้องหลังเกิดความหวาดกลัว

ทั้งนี้เนื้อไม้ที่มีสีสันและลวดลายสวยงาม จนถือได้ว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งในตลาดโลก  โดยเนื้อไม้พะยูงมีความละเอียด เหนียวแข็งทนทานและชักเงาได้ดี มีน้ำมันในตัวจึงมักใช้ทำเครื่อง เรือน เครื่องใช้ต่าง ๆ ใช้ในการแกะสลักและทำด้ามเครื่องมือต่าง ๆ   ในกรณีของไทย ใช้ทำเกวียน เครื่องกลึงแกะสลัก ทำเครื่องดนตรี เช่น ซอ ขลุ่ย ลูกระนาด เป็นต้น

ทีนี้ก็พอเข้าใจกันบ้างแล้ว ว่าเขาขโมยไม้พะยูงกันเพราะอะไร เพราะมันคุ้มที่จะเสี่ยงนั่นแหละครับ  ... 

ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2557    
Last Update : 9 ธันวาคม 2557 7:46:21 น.
Counter : 2499 Pageviews.  

ข้าวโพด มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

ข้าวโพด เป็นธัญพืช ที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน นอกจากจะมีฝักและเมล็ดที่มีรสชาติ หวาน แล้วยังประกอบไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย ยิ่งในปัจจุบันยุคไอที ข้าวโพด เป็นธัญพืชชั้นดี ที่จะช่วยดูแลสุขภาพร่างกายของเรา และป้องกันโรคต่างๆอีกด้วย มาดูกันว่า ข้าวโพด มีประโยชน์อะไรบ้าง

466037893

ข้าวโพด นอกจากจะเป็นพืชที่สำคัญต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยเรา ที่ให้คุณค่าต่างๆมากมาย ทั้งการบริโภค แปรรูป และใช้สร้างรายได้ต่างๆมากมาย  เนื่องจาก ข้าวโพด เป็นพืชที่ปลูกง่าย และการดูแลที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ออกผลผลิตได้ทีละมาก อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเรามากอีกด้วย

ชนิดของ ข้าวโพด

ข้าวโพด จะถูกจัดออกเป็น 5 กลุ่ม หลักๆนะครับ

  • ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือข้าวโพดไร่ (Field Corn)
  • ข้าวโพดหวาน (Sweet Corn)
  • ข้าวโพดเทียน (Waxy Corn)
  • ข้าวโพดแป้ง (Flour Corn)
  • ข้าวโพดคั่ว (Pop Corn)

คุณค่าทางอาหารของ ข้าวโพด

  • คาร์โบไฮเดรต  “ข้าวโพด”มีคาร์โบไฮเดรตประมาณร้อยละ 72 ข้าวโพดหนัก 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ไขมัน  เมล็ดข้าวโพดมีไขมันอยู่ร้อยละ 4 มีฤทธิ์ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล ช่วยลดความดันโลหิตสูง
  • โปรตีน  โปรตีนในข้าวโพดเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ค่ะ เพราะจากกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายคือไลซีนและทริบโตฟาน ควรรับประทานข้าวโพดร่วมกับถั่วเมล็ดต่างๆ
  • วิตามิน  อุดมด้วยวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 รวมไปถึงเกลือแร่

สรรพคุณของ ข้าวโพด

  • ข้าวโพด ช่วยบำรุงสายตา ในข้าวโพดจะมีสาร เบต้าแคโรทีน (β-carotene) หรือที่เรารู้กันว่าเป็น โปรวิตามินเอ ร่างกายเราจะนำไปใช้สร้างสาร โรดอปซินนะครับช่วยให้ลดอัตราเสื่อมของลูกตาและป้องกันการเป็นโรคต้อกระจกตาด้วย อีกทั้งยังมี โฟเลตซึ่งจะช่วย สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอในการเสื่อมสภาพของร่างกาย
  • ป้องกันโรคหัวใจ ข้าวโพด จะมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ผูกกับใยที่ละลายกับน้ำดีจากคอเลสเตอรอลในตับของเรา ซึ่งจะช่วยให้คอเลสเตอรอลในร่างกาย สลายไปได้ดีอีกด้วย แถมยังอุดมไปด้วยโฟเลต, วิตามินบีที่ช่วยในการลดระดับของ homocysteine, กรดอะมิโนที่ตามผลิตภัณฑ์ในกระบวนการเมตาบอลิสำคัญ (เรียกว่ารอบการเติมหมู่เมธิ) ระดับสูงของ homocysteine สามารถทำลายเส้นเลือดที่นำไปสู่หัวใจวายโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดความดันในร่างกาย
  • ต้านมะเร็ง นอกจาก ข้าวโพด จะมีสารที่ช่วยในการสร้าง โรดอปซิน ที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว ข้าวโพด ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรค มะเร็งปอด และเส้นใยในข้าวโพดยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารเพื่อสุขภาพจึงลดความเสี่ยงของโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร เส้นใยอาหารแบบไม่ละลายน้ำ ในข้าวโพดจะช่วยให้ดี สำหรับริดสีดวงทวาร จากโรคทางเดินอาหาร หรืออาหารท้องผูก ทุเลาลง เนื่องจาก เส้นใยจะช่วยดูดซับน้ำ และช่วยระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ อย่างที่เราทราบกันดีเรื่อง สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ในข้าวโพด ทำให้ผิวพรรณของเราไม่เหี่ยวย่น เปล่งปลั่งดูสดชื่นมีชีวิตชีวา

ข้อแนะนำในการรับประทาน ข้าวโพด

  • ควรล้างให้สะอาดก่อนนำไปต้ม
  • เทเกลือลงในหม้อต้มสักเล็กน้อยเผื่อขับสารที่มีประโยชน์จาก ข้าวโพด
  • ต้มข้าวโพดให้สุก อย่างน้อย 30 นาที

ข้อควรระวังสำหรับสาวๆที่จะลดน้ำหนัก

ปริมาณที่แนะนำให้กิน ข้าวโพด ต่อวัน คือ ครึ่งฝักหรือ 1 ฝักเท่านั้น ควรเลือกแบบที่ต้มนะคะ แต่ถ้าใครชอบกิน ข้าวโพดแปรรูป อย่างป๊อปคอร์น คอร์นเฟลกส์ ข้าวโพดคลุก ก็ให้กินแต่พอดีหรือไม่เกิน 1 หน่วยบริโภคหรือปริมาณเท่ากับ 30 กรัมนั่นเอง ซึ่งปริมาณเท่านั้นก็ให้พลังงานถึง 150 กิโลแคลอรี่เลยทีเดยว ถ้าจะให้ดีควร ข้าวโพด ที่ไม่แปรรูปจะดีกว่า

ขอบคุณที่มาจาก : //www.สุขภาพไทย.com




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2557    
Last Update : 1 ธันวาคม 2557 8:52:04 น.
Counter : 1359 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.