อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

โอเมเก้ 3 ในปลา ก็มีโทษ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงศ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ บอกว่า น้ำมันปลาเริ่มเป็นที่สนใจมาประมาณ 30 ปี เมื่อมีข้อมูลว่าชาวเอสกิโม ที่บริโภคปลาในปริมาณสูง จะมีปัญหาเส้นเลือดอุดตันน้อย ระดับไขมันในเลือดต่ำ และการเกาะตัวของเกล็ดเลือดน้อยกว่าชาวเดนมาร์กซึ่งกิน เนื้อสัตว์มากกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชาวประมง ที่บริโภคปลาในปริมาณมาก จะมีโรคหลอดเลือดหัวใจ การเกาะตัวของเกล็ดเลือดและความหนืดของเลือดน้อยกว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านเลี้ยงสัตว์


กลุ่มกรดไขมันที่เรียกว่า โอเมก้า 3 คือ ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เป็นไขมันจำเป็น ต้องได้รับจากอาหารเนื่องจากร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้สารอาหารที่สำคัญมี 2 ชนิด คือ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ปลาทะเลน้ำลึก ที่ให้สารอาหารโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า ปลาในอ่าวไทย ที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาทู และที่มีในปริมาณน้อย ถึงปานกลาง ได้แก่ ปลาอีกา ปลากะพง ปลาตาเดียว ส่วน ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ จะพอมีโอเมก้า 3 บ้าง ซึ่งมากกว่าปลาน้ำจืดอื่น ๆ

สำหรับความสำคัญของโอเมก้า 3 ในเด็ก กรด DHA มีความสำคัญต่อการเจริญพัฒนาสมองและดวงตาของเด็กทารก โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด การขาดของ DHA จะมีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้น โดยเด็กที่มีระดับ DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ การนอนและการเรียนรู้มากกว่าเด็กกลุ่มที่มีระดับ DHA ปกติ และเมื่อได้รับ DHA เสริม อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น

ส่วนความสำคัญของโอเมก้า 3 ในผู้ใหญ่และคนสูงอายุ จะช่วยลดระดับไตรกลี เซอไรด์ในเลือด และเพิ่มระดับไขมันชนิดดีซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดได้ ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น ช่วยลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย ลดอุบัติการของโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม ชะลอหรือป้องกันการเจริญของเซลล์มะเร็ง

นอกจากโอเมก้า 3 แล้ว ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และในปลาทะเลยังมีไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาเรื่องคอพอก และช่วยการเจริญพัฒนาของสมองเด็กในช่วงปีแรกด้วย

ข้อควรระวังในการกินโอเมก้า 3 เนื่องจากน้ำมันปลาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้นการกินปลาในปริมาณมากต่อเนื่องกัน หรือกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา จะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดออกหยุดยากโดยเฉพาะหากกินร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพรินหรือโคลพิโดเกรล

หากกินปลาทะเลมากกว่า 8 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยากแล้ว ยังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลงด้วย สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างในการบริโภคปลาทะเลปริมาณมาก คือ การปนเปื้อนโลหะหนัก โดยเฉพาะสารปรอท ดังนั้นหากบริโภคมากเกินไป จะเกิดการสะสมและเป็นพิษได้.


ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูลโดย นิตยสารสยามดารา




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2557    
Last Update : 14 ตุลาคม 2557 7:51:31 น.
Counter : 1129 Pageviews.  

รวมหัวเตียงแปลกๆ สวยๆ หลากหลายไตล์

หัวเตียงถือเป็นเรื่องสำคัญของการตกแต่งห้องนอนไม่แพ้เรื่องใดในห้องนอนนะคะ เพราะห้องจะสวยได้ต้องมีองค์ประกอบโดยรวมที่ครบ วันนี้ Decor.Mthai จึงรวบ รวมหัวเตียงแปลกๆ สวยๆ หลากหลายสไตล์มาให้เพื่อนๆ ชมกันค่ะ

รวมหัวเตียงแปลกๆ สวยๆ หลากหลายสไตล์

รวมหัวเตียงแปลกๆ สวยๆ หลากหลายสไตล์

หัวเตียงตกแต่งด้วยพรมสีแดงลายดอกก็สวย เป็นวัสดุที่ประหยัดเงินในกระเป๋า แถมทำเองเปลี่ยนเองได้บ่อยๆ ด้วยนะคะ

headboard-amazing

หัวเตียงถักด้วยเชือกสองสีสลับกันสวยดี

old-wood-headboard

นำไม้แนวตั้งมาทำเป็นหัวเตียงแสนเท่

pallet-headboard

หัวเตียงไม้แนวนอนก็เก๋ไปอีกแบบ

modenr-bhg

เปลี่ยนหัวเตียงให้เป็นชั้นวางของ นอกจากจะแปลกตาแล้วยังประหยัดพื้นที่ในห้องไปได้เยอะเลยค่ะ

ranch-house-bedroom-iron-headboard

ทำหัวเตียงเป็นกรอบไม้ แล้วนำรั่วเหล็กดัดมาใส่ในกรอบช่างเป็นหัวเตียงที่แปลกตามากๆ

turn-your-headboard-into-an-eye-cathing-bedroom

ตกแต่งหัวเตียงคล้ายเหล็กดัดประตูบ้าน ทำให้เตียงดูหรูมีราคา มีสไตล์ขึ้นค่ะ

เห็นหัวเตียงแปลกๆ กันไปแล้วเพื่อนๆ ชอบกันมั้ยค่ะ ถ้าชอบก็ลองนำไปเป็นไอเดียการออกแบบตกแต่งห้องนอนของเพื่อนๆ ดูได้นะคะ บางแบบก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ

ขอบคุณ : homedit.com




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2557    
Last Update : 13 ตุลาคม 2557 10:26:06 น.
Counter : 1976 Pageviews.  

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกําเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล


ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล .. อย่างที่ทีนเอ็มไทยได้เคยนำเรื่องราวของตุ๊กตาสยองอย่าง “แอนนาเบล“ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันไปแล้วว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ในเคสปราบผีของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์  “The conjuring” (คนเรียกผี) ในปีที่ผ่านมา โดยได้เคสของตุ๊กตาแอนนาเบล (ที่ถือว่าเป็นเคสโหดเคสหนึ่งเลยก็ว่าได้) มาเป็นตัวเปิดเรื่องได้น่ากลัว และสยองสุดๆ ทำให้หายคนสนใจเจ้าตัวนี้เป็นอย่างมาก จนในที่สุดนางก็ได้ออกมาทำหนังฉายเดี่ยวแล้วคะ กับ Annabelle (ตุ๊กตาผี)

ไม่ว่าจะในภาพยนตร์  “The conjuring” (คนเรียกผี) หรือ  Annabelle (ตุ๊กตาผี) นั้นตัวของแอนนาเบลนั้นถือได้ว่าเป็นตุ๊กตาที่น่ากลัว หลอนอยู่ไม่น้อยทีเดียว แต่ถ้าเพื่อนๆ ได้อ่านเรื่องราวจริงๆ (based on true story) ของแอนนาเบล จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ตัวจริงของแอนนาเบลดูไม่มีวี่แววว่าน่ากลัวเลยสักนิด ซึ่งแตกต่างจากในภาพยนตร์โดยสิ้นเชิง .. (หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ^^)

แปล-เรียบเรียงเขียนโดย teen.mthai.com (หากนำไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยคะ)

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตาแอนนาเบล ตัวนี้กลับมาเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกอีกครั้งเมื่อ ภาพยนตร์สยองขวัญ “The conjuring” (หรือชื่อภาษาไทยว่า คนเรียกผี) นั่นได้นำเรื่อราวสยองๆ ของ แอนนาเบล มาเป็นตัวเปิดเรื่อง เป็นเรื่องราวราวที่เกิดขึ้นจริง โดยตุ๊กตาแอนนาเบลเป็นหนึ่งในเคสปราบผีของสามี-ภรรยา เอ็ด และลอเรน วอเรน เพื่อนๆรู้ไหมว่า แค่เป็นตัวเปิดเรื่องก็ทำให้คนที่เข้าชมต่างสนใจเรื่องราวของตุ๊กตาตัวนี้แบบสุดๆ จนในที่สุด แอนนาเบลก็ได้แยกออกมาทำภาพยนตร์เป็นของตัวเองซะที! (พูดเหมือนนางเป็นซุปตาร์เลยเนอะ >,<)

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

นักเขียนชาวอเมริกัน Johnny Gruelle (เป็นศิลปินวาดการ์ตูน กราฟิก)

Raggedy Ann (แร็กจีดี้ แอน) ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงแฮนด์เมด มีผมสีแดงและมีจมูกสามเหลี่ยม เป็นตัวละครสร้างขึ้นโดยนักเขียนชาวอเมริกัน Johnny Gruelle (เป็นศิลปินวาดการ์ตูน กราฟิก) โดยแร็กจีดี้ แอน ถูกวาดขึ้นเพื่อเป็นภาพประกอบในหนังสือสำหรับเด็กที่จอห์นนี่ทำขึ้น แร็กจีดี้แอน เกิดขึ้นในปี 1880 ในสมัยก่อนถือเป็นตุ๊กตายอดนิยมสำหรับเด็กๆ เป็นที่รักแบะเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเด็กผู้หญิงเลยก็ว่าได้คะ

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

Original Raggedy Ann

ในตอนแรกนั้น Johnny Gruelle ได้สร้าง Raggedy Ann ขึ้นสำหรับ Marcella (มาร์เซลล่า) ลูกสาวของเขา เธอนำตุ๊กตาผ้าเก่าๆ มาให้พ่อวาดใบหน้าหลังจากนั้นจอห์นนี่ก็ได้หยิบหนังออกมาจากชั้นวางหนังสือของเขา เป็นหนังสืบทกวีที่แต่งโดย James Whitcomb Riley เขาเปิดไปเจอชื่อของบทกวี 2 ชื่อด้วยกันคือ “The Raggedy Man” and “Little Orphant Annie” เขาก็เลยได้ไอเดียชื่อของตุ๊กตาตัวนี้ และหันไปพูดกับลูกสาวของเขาว่า “ทำไมเราไม่เรียกเธอว่า แร็คจีดี้ แอน หล่ะ” นี่แหละคือที่มาของชื่อ ตุ๊กตา Raggedy Andy (แร็กจีดี้ แอนดี้) Marcella (มาร์เซลล่า) ชอบขึ้นไปเล่นบนห้องใต้หลังคาที่บ้านของคุณยาย บนนั้นเต็มไปด้วยของใช้ที่เก่า ไม่ใช่แล้วเต็มไปหมด มาร์เซลล่าสนุกกับการปั่นจักรยานพอเธอเหนื่อยเธอก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอันใหญ่ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นถังใบใหญ่อยู่ที่มุมห้องมืดๆ เธอสงสัยและอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นนะ? เธอจึงเดินเข้าไปลากถังใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะออกมา จากนั้นเธอก็เริ่มค้นของที่อยู่ในถัง เธอพบของเก่าเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าของผู้หญิง-ผู้ชายสมัยเก๊าเก่า เจอรูปภาพเด็กผู้หญิงผมหยิกยาวใส่กระโปรงยาว แล้วก็เจอตุ๊กตาผ้าเก่าๆ มีลูกตาข้างเดียว มีรองเท้าข้างเดียว พร้อมจมูกและรอยยิ้มที่ถูกวาดขึ้น เธอดึงมันออกมาจากถังและนำไปให้พ่อของเธอดู ..

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

“Marcella, her heart full of happiness, was feeding Raggedy Ann part of her egg.” ประโยคหนึ่งในหนังสือ RAGGEDY ANN AND THE KITE

 (ในหนังสือที่จอห์นนี่เขียน เขาได้ใส่ตัวละครลูกสาวของเขาเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย .. )

หลังจากนั้นไม่นาน Marcella (มาร์เซลล่า) ลูกสาวของเขาก็ได้เสียชีวิตลงเกิดจากการฉีดวัคซีนขณะอยู่ที่โรงเรียน(เกิดความผิดพลาด) ซึ่งไม่ได้รับการยินยอมจากพ่อและแม่เลย ซ้ำทางเจ้าหน้าที่ก็ยังบอกปัดว่ามันคือความผิดพลาด เรื่องนี้ทำให้หัวใจของจอห์นนี่และภรรยาแตกสลาย ต้องเสียลูกสาวที่รักไป หลังจากนั้นตุ๊กตาแร็กจีดี้ แอนก็ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับการต่อต้านการฉีดวัคซีน

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

“Raggedy Ann Stories” By Johnny Gruelle

Johnny Gruelle ได้รับสิทธิบัตรในการเป็นเจ้าของ Raggedy Ann (แร็กจีดี้ แอน) เมื่อวันที่ 7 กันยายน 1915, หลังจากนั้น Raggedy Ann (แร็กจีดี้ แอน) ก็ถูกสร้างขึ้นเป็นตุ๊กตา และทำออกขายในปี 1918 พร้อมหนังสือ “Raggedy Ann Stories” และเมื่อนำตุ๊กตาออกวางขายก็ได้รับผลตอบรับดีสุดๆ หลังจากนั้นจอห์นนี่ก็ได้ทำตัวละคร Raggedy Andy (แร็กจีดี้ แอนดี้) ออกมาอีกหนึ่งตัว เป็นพี่ชายของ แร็กจีดี้ แอน ทำขึ้นมาในปี 1920 ออกพร้อมหนังสือเล่มใหม่ “Raggedy Andy Stories” แอนดี้เป็นตุ๊กตาเด็กผู้ชาย ใส่เสื้อผ้าชุดกะลาสีเรือพร้อมหมวก

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล US Patent for RAGGEDY ANN-Johnny Gruelle 1915

สิทธิบัตร US Patent for RAGGEDY ANN – Johnny Gruelle ปี 1915

เมื่อตุ๊กตา Raggedy Ann และ Raggedy Andy ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น ตั้งแต่ปี 1940 เขาก็เริ่มเขียนหนังสือเรื่องราวของ  Raggedy Ann ขึ้นอีกหลายเล่ม โดยมีการสร้างตัวละครเพิ่มมาหลายตัวเลยคะ รวมถึงปรับปรุงรูปร่างหน้าตาของตุ๊กตาพี่น้องคู่นี้ให้ดูดี น่ารักขึ้นอีกทั้งยังทำไซส์ของตุ๊กตาขึ้นมาใหม่ถึง 3 ขนาด (ความจริงแล้วเขาทำแพทเทิร์นน้องแอนหายตะหาก >,<) แต่ก็ยังคงรูปแบบของตุ๊กตา เรียบง่าย ผสมกับการเย็บใบหน้าให้แตกต่างกันอีกหลายๆแบบด้วยตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ในปี 1945 สร้างตัวละคร อูฐ และทำหนังสืออกมาในชื่อ

“Raggedy Ann and Andy and the camel with the wrinkled knees”

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

Raggedy Ann and Andy

ดังไม่ดังก็ดูเอา! นอกจาก Raggedy Ann and Andy ออกมาในรูปแบบของหนังสืออ่านสำหรับเด็กๆ แล้ว ยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์, หนังสือการ์ตูน, การ์ตูนออกอากาศในโทรทัศน์ และอีกมายมายเลยคะ เช่น

  • ภาพยนตร์ ปี 1941 Raggedy Ann and Raggedy Andy
  • ปี 1941 Suddenly It’s Spring
  • ปี 1947 The Enchanted Square
  • หนังสือการ์ตูน โดยสำนักพิมพ์ Dell Comics
  • ปี 1977 ภาพยนตร์สารคดี (Musical) การผจญภัยของแอน & แอนดี้ : Tissa David เป็นผู้หยิงคนแรกที่ได้แสดงเป็น Raggedy Ann ฉบับเคลื่อนไหวในภาพยนตร์แอนิเมชั่นด้วย
  • ปี 1978 รายการโทรทัศน์ช่วงเทศกาลคริสต์มาส “Raggedy Ann and Andy in The Great Santa Claus Caper “
  • ปีต่อมา 1979 รายการโทรทัศน์ช่วงเทศกาลฮาโลวีน “Raggedy Ann and Andy in The Pumpkin Who Couldn’t Smile”
  • ปี 1981 ดัดแปลงมาทำเป็นละครเวที
  • ปี 1988–1992 ถูกนำมาทำเป็นซีรีส์การ์ตูน (animated television series) การผจญภัยของแอน & แอนดี้ (The Adventures of Raggedy Ann and Andy)
ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล  Doll-Showcase-Raggedy-Ann-early-advertisement-Jo-Bs

โฆษณา ตุ๊กตา Raggedy Ann และนังสือ สมัยนั้น

ในปัจจุบัน Raggedy Ann and Andy ถือเป็นตุ๊กตาที่หายาก อีกทั้งได้รับการแต่งตั้งอยู่ในหอเกียรติยศ The National Toy Hall of Fame ในปี 2002 ด้วย ส่วนตุ๊กตาแอนดี้ก็ไล่ตามเธอมาในปี 2007

บ้านเกิดอยูู่ที่อิลลินอยส์, สหรัฐอเมริกา ในสมัยนั้นที่แอนปละแอนดี้กำลังบูม จอห์นนี่ก็ได้สร้างพิพิธภัณฑ์  Raggedy Ann and Andy ขึ้นอีกทั้งยังมีการจัดเทศกาลประจำปีประจำปีอีกด้วย แต่ต่อมาในปี  2009  พิพิธภัณฑ์ถูกปิดและเทศกาลถูกยกเลิกไป ของเล่นบางส่วนถูกบริจาคไปยัง พิพิธภัณฑ์ของเล่นแห่งชาติ และอีกส่วนเก็บรวบรวมไว้ที่ Rockome Gardens theme park

แปล-เรียบเรียงเขียนโดย teen.mthai.com (หากนำไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยคะ)

ขอบคุณข้อมูล en.wikipedia.org,raggedyann-museum,www.fudanbook.info/B0006/x/html/g/Gruelle,Johnny/Raggedy%20Ann%20Stories,//www.ebay.com/itm/US-Patent-for-RAGGEDY-ANN-Johnny-Gruelle-1915-092-3,//www.thesophisticatedreader.com/the-sophisticated-reader/2013/06/05/the-raggedy-story,//www.oldchildrensbooks.com/books/raggedy-ann-in-cookie-land-in-original

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

Raggedy Ann & Andy Exposition Reproduction Dolls ปี 1998

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

Raggedy Ann In Cookie Land.

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ลูกปธน. จอห์น เอฟ. เคนเนดีสหรัฐอเมริกา ก็เล่น ตุ๊กตา Raggedy Ann

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ตุ๊กตา Raggedy Ann

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

รูปถ่ายของเด็กๆ กับ ตุ๊กตา Raggedy Ann เมื่อปี 1952

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

อีกหนึ่งจุดเด่นดั้งเดิมของ ตุ๊กตา Raggedy Ann ก็คือ รอยปักรูปหัวใจ I LOVE YOU

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล  Raggedy Ann and Andy Magic Cloth Paper Dolls

ตุ๊กตากระดาษ “Raggedy Ann and Andy Magic Cloth Paper Dolls”

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

รูปภาพ สงครามครั้งที่ 2 Raggedy Ann ถูกส่งให้ทหารคนหนึ่งโดยครอบครัวของเขา เพื่อเป็นกำลังใจและโชคดี ขณะที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

ภาพนี้พอจะคุ้นๆ กันบ้างไหม .. รูปนี้เป็น ตุ๊กตา Raggedy Ann ที่มีเรื่องเล่า แอนนาเบลสิงอยู่นั่นเองคะ ส่วนคนที่อุ้มก็คือ คนปราบผีแอนนาเบล ..

ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นกำเนิดตุ๊กตาผีแอนนาเบล

เปรียบเทียบให้ดูอีกครั้ง! เรียงจากซ้ายไปขวา แอนนาเบลในภาพยนตร์ – ตุ๊กตา Raggedy Ann ต้นฉบับ – ตุ๊กตา Raggedy Ann ที่มีผีแอนนาเบลสิงอยู่

 เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ตุ๊กตาแอนนาเบล ตุ๊กตาผีสิงเฮี้ยนและโด่งดังที่สุด

//teen.mthai.com/variety/63042.html

เรื่องจริงคนเรียกผี The conjuring

//teen.mthai.com/variety/62825.html

10 อันดับตุ๊กตาผีสิงที่น่ากลัวที่สุด สยองขวัญ!

//teen.mthai.com/variety/45935.html





 

Create Date : 13 ตุลาคม 2557    
Last Update : 13 ตุลาคม 2557 10:23:46 น.
Counter : 1590 Pageviews.  

กินหวานอย่างไรไม่อันตราย

สารให้ความหวานที่ให้พลังงาน สารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน หรือสารทดแทนความหวานที่เรียกว่า น้ำตาลเทียม น้ำตาลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานต่ำ


คนไทยกินน้ำตาลได้แค่ไหน

น้ำตาลจัดเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ไม่มีเส้นใยอาหาร น้ำตาล 1 กรัมให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี ข้อแนะนำในการรับประทานน้ำตาล คือ จำกัดไว้ที่ 5-10% ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมดในหนึ่งวัน ซึ่งตามหลักโภชนาการแนะนำให้กินน้ำตาลในปริมาณน้อยเช่นเดียวกับไขมันและเกลือ สำหรับคนไทยกองโภชนาการแนะนำว่าไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

คนส่วนใหญ่เมื่อรับประทานน้ำตาล ไม่ว่าจะในรูปเครื่องปรุงหรือขนมหวานมักลืมว่าน้ำตาลให้พลังงานเช่นเดียวกับข้าวและแป้ง จึงถือเป็นพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายจะได้รับ น้ำตาลเพียง 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานถึง 48 กิโลแคลอรีซึ่งเท่ากับข้าวประมาณ ½ ทัพพี อีกทั้งยังไม่มีวิตามิน เกลือแร่ กากใยอาหารที่ร่างกายต้องการ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไปจึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา เช่น ฟันผุ ไขมันในเลือดสูง อ้วนง่าย

สารให้ความหวานที่ให้พลังงานชนิดอื่นนอกเหนือจากน้ำตาลทรายและฟรุคโตส ได้แก่ น้ำเชื่อมจากข้าวโพด น้ำผลไม้หรือน้ำผลไม้เข้มข้น น้ำผึ้ง กากน้ำตาล (molasses) เด็กซ์โทรส (dextrose) และ มอลโตส (maltose) มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเช่นเดียวกับน้ำตาลทรายและฟรุคโตส นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลแอลกอฮอล์ซึ่งมีผลต่อระดับน้ำตาลน้อยกว่าน้ำตาลทรายและคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ แต่ถ้ากินมากจะรู้สึกไม่สบายท้องหรือท้องเสีย

8 วิธีลดน้ำตาล ลดโรค

1. หยุดเติมน้ำตาล เป็นวิธีง่ายที่สุดและเห็นผลในการลดน้ำหนักและพลังงาน แต่การหยุดกินน้ำตาลทันทีอาจทำได้ยาก จึงควรลดปริมาณน้ำตาลลงทีละน้อย เช่น ลดปริมาณน้ำตาลในชา กาแฟและนมที่ดื่มอยู่ หรืออาจใช้น้ำตาลเทียมซึ่งให้แคลอรีน้อยแทนน้ำตาล เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมจุบจิบ ลูกอม ช็อคโกแลต เป็นต้น

2. อย่าหลงคารมคำโฆษณาว่าเป็น “น้ำตาลสุขภาพ” เช่น น้ำตาลทรายแดง เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลชนิดใดก็ล้วนให้พลังงานเท่ากัน

3. รับประทานผลไม้แทนขนมหวาน เพราะผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ และมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลดหรือชะลอการดูดซึมน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอ้วน แต่ควรจำกัดปริมาณเพียงวันละ 2 อุ้งมือ เพราะในผลไม้ก็มีน้ำตาลอยู่ด้วย และเลี่ยงดื่มน้ำผลไม้ เพราะจะได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการ

4. ลดหรือกำจัดคาร์โบไฮเดรตแปรรูป จำพวกขนมปังและเบเกอรี่ เส้นพาสต้าและของขบเคี้ยว เพราะส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลในเลือดได้เร็วพอๆ กับการกินกลูโคส นอกจากนี้คาร์โบไฮเดรตที่เหลือใช้จะถูกเก็บสะสมเป็นไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นไขมันที่ร่างกายเก็บเป็นเสบียง

5. ระวังของว่างไร้ไขมัน จากความเชื่อผิดๆที่ว่า ถ้าอาหารไร้ไขมันจะไม่ทำให้อ้วน ความจริงอาหารไร้ไขมันยังมีน้ำตาลและปริมาณแคลอรีสูง

6. อ่านฉลากอาหารเพื่อค้นหาน้ำตาลและไขมันไม่ดี สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือต้องการควบคุมปริมาณพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน แต่ยังติดใจในรสหวานชนิดเลิกไม่ได้ อาจใช้สารให้ความหวานชนิดที่ให้พลังงานต่ำ ในอาหารสำเร็จรูปหรือเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานดังกล่าวมักระบุไว้บนฉลากว่า"ปราศจากน้ำตาล" หรือ "sugar free"

7. ระวังการใช้สารให้ความหวานเทียมหรือสารทดแทนความหวานมากเกินควร เพราะอาจทำให้ร่างกายมีความอยากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น

8. คำนวณปริมาณน้ำตาล โดยอ่านข้อมูลโภชนาการที่แสดงปริมาณน้ำตาลทั้งหมดเป็นกรัมแล้วหารด้วยสี่ จะเท่ากับจำนวนช้อนชาของน้ำตาลที่กินเข้าไป


แม้รสหวานจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหาร แต่ถ้าบริโภคในปริมาณมากจะทำให้เกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เป็นของแถมตามมาได้

ที่มา สนุก.คอม




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2557    
Last Update : 13 ตุลาคม 2557 10:16:02 น.
Counter : 1035 Pageviews.  

บ้านคนเมือง ปลูกผักสวนครัว ตรงไหนถึงจะดี

รูปแบบการ ปลูกผักสวนครัว สำหรับคนเมืองที่มีพื้นที่มากหน่อย เช่นอยู่บ้านเดี่ยว เราก็สามารถทำแปลงผักที่สนามหน้าบ้านได้ เพียงแต่สนามหญ้าหน้าบ้าน ควรจะได้รับแสงแดดอย่างน้อยครึ่งวัน และถ้าจะให้ดีการทำแปลงผักควรให้แปลงปลูกหันด้านข้างรับแดด ทิศตะวันออกและตะวันตก สำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่กว้างขวางคงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะอยากปลูกตรงไหนก็ปลูกไปเถอะค่ะ เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ เรามาดูวิธีปลูกกันค่ะ

วิธีการปลูกผักสวนครัว สำหรับคนเมือง

1. ปลูกผักในแฟลต หรืออพาร์ตเมนต์ รวมทั้งคอนโด

สวนของฉัน

ขอบคุณภาพจาก : coosea

สวนของฉัน

ขอบคุณภาพจาก : palungjit

*-* ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ สำหรับการปลูกผักในแฟลตหรือคอนโด เพราะมีอยู่ที่เดียวที่พอจะปลูกได้
คือตรงระเบียงนั่นเอง โดยเราอาจจะใช้ระแนงไม้สำเร็จรูป หรือใช้เทคนิคเดียวกับสวนแขวนก็ได้ค่ะ *-*

2.ปลูกผักในทาว์เฮ้าส์ ราคาประหยัด

สวนของฉัน

สวนของฉัน

ขอบคุณภาพจาก : creativemove

*-* สำหรับบ้านทาวน์เฮ้าส์ การปลูกผักก็คงเหลือที่ปลูกแค่ส่วนหน้าบ้านนิดหน่อยเท่านั้น
เพราะหลังบ้านก็คงนำไปทำเป็นส่วนตากผ้า ส่วนซักผ้า หรือไม่ก็คงต่อเติมเป็นส่วนของห้องครัวไปแล้ว 
ส่วนใหญ่บ้านที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ ก็จะนิยมปลูกผักในแนวตั้งเพราะเป็นการปลูกผักแบบประหยัดพื้นที่ *-*

3.การปลูกผักสำหรับบ้านที่เป็นตึกแถว

สวนของฉัน

สวนของฉัน

ขอบคุณภาพจาก : 100ydesign

*-* สำหรับบ้านที่เป็นตึกแถว ก็คงไม่มีที่ไหนที่จะปลูกผักได้ดีไปกว่าบนดาดฟ้าแน่นอน
เพราะมีเนื้อที่เหลือเฟือ แถมยังมีเนื้อพอสำหรับไว้ตากผ้าอีกด้วย *-*

4. การปลูกผักสำหรับคนที่อยู่บ้านเดี่ยว

สวนของฉัน

ขอบคุณภาพจาก : thaicityfarm.com

สวนของฉัน

*-* สามารถทำแปลงผักที่สนามหน้าบ้านได้ หรือหลังบ้านก็ได้ค่ะ *-*

การปลูกผัก ” ปลูกผักสวนครัว “แสนสวย
หนังสือในเครือ อมรินทร์ How To
” ปลูกผักกันเถอะ “

ปลูกผักสวนครัว

credit : หนังสือ “ปลูกผักกันเถอะ”




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2557    
Last Update : 10 ตุลาคม 2557 11:01:18 น.
Counter : 3721 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.