อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

เมนูแสนอร่อย"หมูทอดนํ้าปลา"

เมนูแสนอร่อย "หมูทอดน้ำปลา"

ถ้าพูดถึงเมนูหมูทอด ใครหลายๆคนคงจะชื่นชอบรับประทานกัน ไม่ว่าจะทานเป็นกับข้าว หรือจะทานเล่นก็ได้ วิธีการทำก็แสนง่ายดาย โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กที่มีชื่อว่า หมอดูพาแด๊ก ได้ในำสูตรการทำหมูทอดน้ำปลามาให้ชาวเน็ตได้ทดลองทำกันดู ไปดูกันว่า เมื่อทำออกมาแล้ว จะน่ากินขนาดไหน ไปดูกันเลย

ส่วนผสม

          1.หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม          2.น้ำปลาอย่างดี 7-8 ช้อนโต๊ะ 

          3.พริกไทยขาวป่นตามชอบ      4. ไข่ไก่ 1 ฟอง

          5. ผงปรุงรส เล็กน้อย              6. แป้งประกอบอาหารโกกิ 10-15 ช้อน 

          7. น้ำเย็น                              8. น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด

          9. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ         10. เกลือเล็กน้อย

 วิธีทำ
 1. ใช้มีดแกะสลักจิ้มให้ทั่วชิ้นหมู (เคล็ดลับ : สำคัญมากคือ ไปซื้อมีดแกะสลักมาจิ้ม ๆ ให้ทั่วหมูเลยครับ จิ้มหนังด้วย หมูจะนิ่ม น้ำหมักจะเข้าเนื้อหมู สุกเร็วครับ)
2. หมักหมูโดยใส่น้ำปลา พริกไทยป่น ไข่ไก่ ผงปรุงรสเล็กน้อย และแป้งประกอบอาหารโกกิ จากนั้นพรมน้ำเย็นบาง ๆ ลงไป แล้วค่อย ๆ นวดจนเข้ากันประมาณ 5 นาที จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที


3. ใส่น้ำมันปาล์มลงในกระทะให้ท่วม ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำมัน (เพื่อหมูจะไม่อมน้ำมัน) และเกลือเล็กน้อย (กันหมูติดกระทะ) ใช้ไฟค่อนข้างแรง จากนั้นนำหมูลงทอด โดยทอดทีละข้างให้เกรียมจนเนื้อหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ตามรูป) จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ


ที่มา : เฟซบุ๊ก หมอดูพาแด๊ก




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 9:01:45 น.
Counter : 2251 Pageviews.  

3 กระทรวงแชมป์ถูกร้องเรืยน 5 ปัญหายอดฮิต

ผอ.ศูนย์บริการประชาชน เผย 3 กระทรวงแชมป์ถูกร้องทุกข์มากสุด โดยมี 5 ปัญหาที่มีการร้องเรียนเข้ามามาก คือ ปัญหาหนี้สิน ที่ดินทำกิน ยาเสพติด สาธารณูปโภคทั่วไป การคอรัปชั่น และมีจนท.รัฐร้องให้ช่วยตามลูกหนี้ที่หนีหนี้ด้วย

น.ส.อรนุช ศรีนนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน กล่าวว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง 3 อันดับแรกคือ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง โดยเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมมักจะเป็นเรื่องที่มีการตัดสินคดีไปแล้วแต่ประชาชนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

32

รวมถึงเรื่องของกรมบังคับคดีด้วย ส่วนกระทรวงมหาดไทยเป็นเรื่องของปัญหาที่ดินทำกิน และกระทรวงการคลังเป็นปัญหาหาเรื่องหนี้นอกระบบ สำหรับ 5 ปัญหาที่มีการร้องเรียนเข้ามามาก ผอ.ศูนย์บริการประชาชน กล่าวว่า ปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหายาเสพติด ปัญหาสาธารณูปโภคทั่วไป และปัญหาการคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ

หลังจากเกิดเหตุที่มีประชาชนที่มาร้องเรียนเรื่องหนี้สินและได้เผาตัวเองนั้น ปรากฏว่าหลังจากนั้นศูนย์บริการประชาชนได้เสริมมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น และทั้งนี้พบว่ามีประชาชนมาร้องเรียนปัญหาหนี้สินมากขึ้นด้วยเช่นกัน รวมทั้งพบว่ามีเจ้าหน้าที่บางรายมาร้องเรียนให้ศูนย์บริการประชาชนช่วยตามหาลูกหนี้ที่หนีหนี้ด้วย

MThai News




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 8:56:44 น.
Counter : 926 Pageviews.  

อียิปต์เผยร่างจริง" ตุคันคาเมน" ต่อสาธารณชน

เอเอฟพี/บีบีซีนิวส์/เอพี – อียิปต์เผยโฉมพระพักตร์ที่แท้จริงของ “ตุตันคาเมน” ยุวกษัตริย์แห่งไอยคุปต์ นำร่างมัมมีออกจากโลงหินสู่ตู้กระจก เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ถือเป็นการเก็บรักษาไปในตัว หลังมีผู้คนเข้าชมจำนวนมากมายในแต่ละปี พร้อมนำแบคทีเรียและความร้อนเขามาด้วย ถือเป็นการจัดแสดง “ร่างมัมมีพระศพ” ให้แก่สาธารณชนได้ชมเป็นครั้งแรก นับจากค้นพบฟาโรห์วัย 19 และสิ้นสุดการค้นหาสาเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์เมื่อ 3,000 ปีก่อน 


       เหล่านักโบราณคดีค่อยๆ บรรจงเคลื่อนย้ายพระศพมัมมีฟาโรห์ “ตุตันคาเมน” (Tutankhamen) ออกจากหีบศพหินแบบโบราณ ที่ประดับตกแต่งไว้อย่างงดงาม มาไว้ในตู้กระจกที่มีการควบคุมอุณหภูมิภายในเป็นอย่างดี จัดแสดงไว้ในที่ฝังศพของพระองค์ ณ หุบผากษัตริย์ ในเมืองลักซอร์ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา


บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักโบราณคดีกำลังค่อยเคลื่อนย้ายพระศพ จากโลงหินสู่โลงกระจก เพื่อเหตุผลในการรักษาสภาพ ส่วนการเปิดให้สาธารชนเยี่ยมชม คือผลพลอยได้


การเผยร่างกายมัมมีที่แท้จริงของตุตันตาเมน หรือ คิงตุต (King Tut) นั้น นับเป็นครั้งแรกหลังค้นพบพระศพมัมมีในปี พ.ศ.2465 โดยโฮเวิร์ด คาร์เตอร์ นักสำรวจชาวอังกฤษ ซึ่งนับจากนั้นกว่า 80 ปี มีเพียง 50 คนเท่านั้นที่มีโอกาสเห็นพระพักตร์จริงๆ ของฟาโรห์หนุ่มที่สิ้นพระชมน์มานานกว่า 3,000 ปี

หลังจากที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเคลื่อนย้ายพระศพฟาโรห์ที่ดังที่สุดแห่งศตวรรษเข้าสู่ตู้กระจกแล้ว ก็เปิดผ้าลินนินสีขาวที่ห่อมัมมีเป็นชั้นสุดท้าย เผยให้เห็นร่างไร้วิญญาณหลายพันปี ซี่งพระศพที่เห็นในปัจจุบันมีลักษณะหดตัว และเป็นสีดำทั้งร่าง รวมถึงใบหน้า

       การเคลื่อนย้ายครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ร่างกายส่วนที่เหลือของคิงตุต ซึ่งนักโบราณคดีเปิดเผยว่ามัมมีต้องเผชิญกับความร้อน ความชื้น และแบคทีเรียต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากนำเข้ามา ขณะเยี่ยมชมหลุมฝังศพกษัตริย์องค์น้อยในแต่ละปี

       “กษัตริย์แห่งทองคำพระองค์นี้ ทั้งน่าอัศจรรย์และลี้ลับ ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องการชมว่า อียิปต์มีวิธีเก็บรักษาพระองค์ไว้อย่างไรบ้าง และเชื่อว่าผู้คนทั่วโลกก็อยากจะยลโฉมของพระองค์” ซาไฮ ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) ผู้อำนวยการสภาโบราณสถานแห่งอียิปต์ กล่าวก่อนที่จะเคลื่อนย้ายฟาโรห์ผู้โด่งดัง



ฮาวาสส์กับพระศพฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุด


       เมื่อครั้งที่คาร์เตอร์สำรวจพบหลุมศพของฟาโรห์หนุ่ม พร้อมขุมทรัพย์มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ประดับประดาไปด้วยทอง ตรงใจกลางของหลุมศพซึ่งเก็บมัมมีพระศพฟาโรห์ไว้ ก็ยังปกคลุมไปด้วยเครื่องราง เพชรนิลจินดา และในหน้าของพระองค์สวมด้วยหน้ากากทองคำ สร้างความประหลาดใจให้แก่เขายิ่งนัก

       แต่ด้วยความต้องการแค่ขุมทรัพย์ คาร์เตอร์และทีมสำรวจจึงตัดแขนขาและหัวของมัมมีออกเป็น 18 ส่วน โดยใช้มีดและขดลวดที่อังความร้อนลอกหน้ากากทองออกจากใบหน้าของฟาโรห์


หน้ากากทองคำของตุตันคาเมน แสดงให้เห็นถึงยุคแห่งทองในสมัยที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพ แต่หน้ากากทองชิ้นนี้ยั่วยวนใจยิ่งนัก ทำให้ทีมสำรวจแรกลงทุนเลาะออกจากพระพักตร์ของพระองค์


       ร่างกายของฟาโรห์ได้รับการประกอบขึ้นใหม่ และส่งกลับไปยังโลงศพหินอันเดิมในอีก 1 ปีถัดมา (พ.ศ.2466) และเพิ่งจะได้รับการเคลื่อนย้ายอีก 3 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เพื่อเอ็กซเรย์ตรวจสอบในประเด็นต่างๆ

       ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่เหล่านักโบราณคดีต้องการรู้เป็นอย่างยิ่งคือ “สาเหตุการสิ้นพระชนม์” ของฟาโรห์เจ้าของร่าง ที่จากโลกไปทั้งที่ยังมีพระชนมายุเพียงแค่ 19 ชันษา รวมถึงคำร่ำลือ “คำสาปฟาโรห์” ที่ตามหลอกหลอนผู้บุกรุกรวบกวนพระศพ

ครั้งแรกที่นำคิงตุตไปเอ็กซเรย์ในปี 2511 จนพบเศษกระดูกในกะโหลกศรีษะ ทำให้เชื่อว่าพระองค์น่าจะถูกปลงพระชนม์ด้วยลูกธนู ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางรายก็สันนิษฐานเหตุว่า เป็นเพราะตุตันคาเมนต้องการนำแนวคิด “พหุเทวนิยม” (การนับถือพระเจ้าหลายองค์) กลับมาสู่ชาวอียิปต์อีกครั้ง หลังจากที่อาเคนาเตน (Akhenaten) พระราชบิดาของคิงตุตได้ปฏิรูปศาสนาอย่างถอนรากถอนโคนนำเอา “เอกเทวนิยม” ให้นับถือสุริยเทพ “อาเตน” เพียงองค์เดียว

       แต่หลังจากอาเคนาเตนสิ้นพระชนม์ลง ศาสนสถานและชื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “อาเตน” จึงถูกลบออกไป รวมทั้งพระนามของ “ตุตันคาเตน” ที่เปลี่ยนมาเป็น “ตุตันคาเมน” อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ผลจากการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ครั้งล่าสุดในปี 2548 ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า พระองค์ไม่ได้ถูกลอบปลงพระชนม์ และสิ้นพระชนม์จากการติดเชื้ออันเนื่องมาจากกระดูกหัก อีกทั้งสันนิษฐานว่า เศษกระดูกในกะโหลกน่าจะเกิดขึ้นในช่วงดองพระศพ

       ขณะที่นักวิจัยบางคนเชื่อว่ารอยแตกที่กระดูกอาจเกิดขึ้นในภายหลัง ด้วยฝีมือของนักโบราณคดี ไม่ว่ารอยแตกที่กระดูกนั้นจะเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ฮาวาสส์แสดงความมั่นใจว่าตุตันคาเมนไม่ได้ถูกลอบปลงพระชนม์แน่นอน และปิดข้อสันนิษฐานดังกล่าวไว้เพียงเท่านี้ โดยจะไม่รบกวนพระศพอีกต่อไป

       ที่สำคัญในการแสกนครั้งเดียวกันนี้ ก็ได้มีการสร้างแบบจำลอง “พระพักตร์” ของพระองค์ขึ้น โดยใช้ข้อมูลจากโครงสร้างใบหน้ามัมมี และจากหน้ากากทองคำหนัก 11 กิโลกรัมที่เคยใช้ครอบ


โครงหน้าของตุตันคาเมนที่นักวิจัยประมวลผลออกมา โดยจำลองในแบบปูนปั้นสไตล์อียิปต์โบราณ



       “ตุตันคาเมน” หรือ "ตุตันคามุน" (Tutankhamun/Tutankhamen) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียง 10 ชันษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334-1323 ก่อนคริสตกาล ก่อนหน้าขึ้นครองราชย์ใช้พระนามว่า “ตุตันคาเตน” อันหมายถึงเทพอาเตน หรือสุริยเทพอวตารลงมา

อ่านเพิ่มเติมที่ //www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000131149




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 8:52:37 น.
Counter : 1178 Pageviews.  

" ปูอัดทอดจิ้มมายองเนส" เมนูทานเล่นแสนอร่อย

"ปูอัดทอดจิ้มมายองเนส" เมนูทานเล่นแสนอร่อย

วันนี้เราได้นำเสนอเมนูที่เพื่อนๆสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน ถูกใจทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ เมนูนี้ก็คือ “ปูอัดมายองเนส” วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย แถมได้ปูอัดที่กรอบอร่อยมาทานเล่นกัน จะมีวิธีทำอย่างไร ไปดูกันเลย


อุปกรณ์

           1. ปูอัด 

           2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

           3. มายองเนส 3 ช้อนโต๊ะ 


วิธีทำ 

1. นำปูอัดมาซับน้ำให้แห้ง หลังจากนั้นฉีกปูอัดเป็นเส้นฝอย
2. คลุกเคล้าปูอัดที่ฉีกไว้กับแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่ว จากนั้นใช้กระชอนหรือตะแกรง ร่อนแป้งส่วนเกินให้ออกจากปูอัด เพื่อไม่ให้แป้งติดลงไปในน้ำมันเยอะจนเกินไป 

3. ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อทรงสูงใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟแรงจนน้ำมันร้อน จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟปลานกลาง ใส่ปูอัดลงไปทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เสริฟท์พร้อมกับซอสมายองเนสทานคู่กันอร่อยทีเดียวเชียว




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 8:01:29 น.
Counter : 3661 Pageviews.  

วิธีผูกไท ผูกเน็คไท หลากสไตส์

คุณๆจะเคยรู้กันไหมว่า.. เน็คไท ที่เราเคยผูกเพื่อใส่ไปงานต่างๆ และอาจจะเคยมีปัญหากับมันว่า จะเอาฝั่งไหนขึ้นทบก่อน จนต้องแก้ปัญหาด้วยการให้คนที่ผูกเป็นผูกให้ และเวลาใส่ต้องระมัดระวังกับมันเหลือเกินว่า ปมมันจะหลุดไหมนะ

เอาเป็นว่า วันนี้ men.mthai.com จะลดปัญหานี้ให้กับเพื่อนแมนๆของเราเอาไปใช้ดู กับวิธีการผูก เน็คไท ซึ่งเราพร้อมนำมาให้เพื่อนได้รับรู้ แถมด้วยสไตล์การผูกในแบบต่างๆกันด้วยว่า แบบไหน ที่เหมาะกับเรา

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 1
วิธีการผูก เน็คไท แบบธรรมดา

 

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ the trend knot

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ the prince Albert

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ small knot

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ the four inohand

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ the windsor

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก เน็คไท แบบ half windsor

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก หูกระต่าย

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีการผูก ผ้าพันคอ แบบ scott

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 11

วิธีการผูก เน็คไท แบบ Diagonal knot

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 12

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 13

วิธีการผูก เน็คไท แบบ Merovingian knot

วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 14

หากสิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ ให้ใช้ผ้าพับตามนี้ เพื่อใช้แทน เน็คไท

ประวัติ เน็คไท ( Neckties History )

ไม่ว่าจะเป็นแบบกว้างหรือแบบยาว มีลายหรือเรียบๆ ทำจากใยสังเคราะห์หรือทำจากผ้าไหม แต่ เน็คไท ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ อันจะขาดเสียไม่ได้ ในยามที่บรรดาคุณผู้ชายแต่งองค์ทรงเครื่อง ที่สำคัญ เน็คไท ยังเป็นเครื่องแต่งกายหนึ่งในเพียงไม่กี่ประเภท ที่มีชีวิตอยู่รอดมาได้นานถึงเกือบ 400 ปี ท่ามกลางกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา

เครื่องประดับตกแต่งลำคอนั้นมีใช้มานานตั้งแต่ยุคโบราณ เพื่อเป็นการบอกยศ ตำแหน่ง หรืออาดเพียงเืพื่อใช้ซับเหงื่อ โดยยุคแรกของ เน็คไท มีต้นกำเนิดมาจาก เครื่องประดับลำคอ หรือ “คราแวท” โดยผู้นำแฟชั่นนี้ก็คือพระพระเจ้าหลุยส์ที่14 แห่งฝรั่งเศสนั้นเอง

“คราแวท” ที่ว่านี้ ถือกำเนิดขึ้นภายหลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่ วิธีผูกไท ผูกเนคไท หลากสไตล์ รูปที่ 1514 ทอดพระเนตรเห็นเครื่องประดับคอลักษณะคล้ายโบที่ทหารโครเอเชียสวมอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยคำว่า “คราแวท” นั้นก็มีรากศัพท์มาจากคำว่า “โครแอต”ซึ่งแปลว่าชาวโครเอเชียนั่นเอง

ในปี พ.ศ.2467 ช่างตัดเสื้อชาวอเมริกันชื่อ เจสซี แลงสดอร์ฟ ได้คิดค้น และจดลิขสิทธิ์ เน็คไท ซึ่งผลิตขึ้นจากผ้าตัดเฉียงๆแบบเดียวกับที่เราเห็นกันชินตาอยู่ในปัจจุบัน

วิธีเลือกผูก เน็ึคไท

มีวิธีเลื่อกผุกเน็คไท ให้เหมาะสมกับขนาดเน็คไท ง่ายดังนี้

- ไทค์หน้ากว้าง 4 นิ้ว เป็นอิตาเลียนสไตล์ เหมาะกับการผูกแบบทบ หรือสองทบง่าย ๆ แล้วจะเกิดรอยบุ๋มแบบหยดน้ำ หรือเป็นแฉกคล้ายทองหยิบ ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า และการกำหนดปมตอนแรก

– ไทค์หน้าแคบลงมาประมาณ 3.5 นิ้ว เหมาะกับการผูกแบบวินเซอร์ เป็นปมสามเหลี่ยมแบบอังกฤษ และแบบทบ หรือสองทบที่เรียกว่าโฟร์อินแฮนด์ หรืออเมริกันก็ได้ แต่ถ้าผูกแบบโฟร์อินแฮนด์แล้ว ไทค์แบบอิตาเลียนจะสวยกว่า

เครดิต : wowboom.blogspot.com




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 7:57:58 น.
Counter : 4159 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.