อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

11 กฏข้อห้ามแปลกๆ ของนักเรืยนนอก

11 กฎข้อห้ามแปลกๆ ของนักเรียนนอก


จะเป็นยังไง?? ถ้ากฏระเบียบและข้อห้ามในโรงเรียนที่อยากให้นักเรียนยึดถือปฏิบัติ เพื่อสร้างความเป็นระเบียบวินัยและเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม มันแปลกประหลาดมากเกินไป จนไม่น่าปฎิบัติตาม อย่างเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ 11 กฎข้อห้ามแปลกๆ ของนักเรียนนอก ที่รับรองว่ากฏระเบียบเมืองไทยบ้านเราดูธรรมดาไปเลย ถ้าได้เจอกับกฎระเบียบเหล่านี้…

0

11 กฎข้อห้ามแปลกๆ ของนักเรียนนอก

1. รองเท้า ugg boots
เด็กนักเรียนในรัฐ Pennsylvania ถูกห้ามไม่ให้ใส่รองเท้า ugg boots ในห้อง เพราะสามารถใช้เป็นที่ซ่อนโทรศัพท์มือถือได้

2. เพื่อนสนิท
โรงเรียนในสหราชอาณาจักรบางแห่งห้ามไม่ให้นักเรียนมีเพื่อนสนิท เพื่อรักษาความรู้สึกของเพื่อนคนอื่นที่ไม่สนิท (ห้ะ?? แบบนี้แล้ว จะมีความทรงจำและมิตรภาพดีๆ ระหว่างเพื่อนได้ยังไง โดดเดียวแย่เลย)

3. ภาษามือ
มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้สั่งให้นักเรียนคนหนึ่งเปลี่ยนสัญลักษณ์ภาษามือที่ใช้บอกชื่อของตัวเอง เพราะเป็นสัญลักษณ์คล้ายกับปืน (เอิบ บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจเนอะ)

4. ปากกาหมึกแดง
โรงเรียนในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร มีการใช้ปากกาหมึกเขียวเพื่อตรวจงานนักเรียนแทนปากกาหมึกแดง เพราะเป็นสีที่มีความหมายในด้านลบ

5. การจับมือ
ในรัฐ Tennessee การจับมือถือว่าเป็นพฤติกรรมที่จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ (ไม่อยากจะคิดถึงเมืองไทยเรา)

banned

11 กฎข้อห้ามแปลกๆ ของนักเรียนนอก

6. ลูกบอล
โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐ Toronto ห้ามนักเรียนนำลูกบอลมาโรงเรียน หลังจากที่มีผู้ปกครองเอาเรื่องโรงเรียนเพราะโดนลูกบอลอัด

7. baggy pants
โรงเรียนบางแห่งอ้างว่า baggy pants เป็นกางเกงที่พวกจิ๊กโก๋อัธพาลใส่กัน และยังรบกวนการเรียนการสอนอีกด้วย (ซะงั้นไป)

8. สายรัดข้อมือรณรงค์ในเรื่องมะเร็งเต้านม
โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐ Pennsylvania ห้ามไม่ให้นักเรียนใส่สายรัดข้อมือรณรงค์ในเรื่องมะเร็งเต้านม เพราะประโยค “I LOVE BOOBIE” ที่เขียนไว้บนสายรัดจะส่งผลเสียต่อเด็กได้

GrilledCheeseAd

grilled cheese

9. grilled cheese
grilled cheese ถูกแบนในโรงเรียนสหราชอาณาจักร เนื่องจากไม่ดีต่อสุขภาพ

10. การ์ดวันพ่อ
เดี๋ยว”การ์ดวันพ่อ” แล้วจะผิดกฎได้อย่างไงกัน?? โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ห้ามไม่ให้มีการ์ดวันพ่อ เพื่อให้เกียรตินักเรียนบางคนที่กำพร้าพ่อ (แต่การ์ดวันแม่กลับไม่ได้ถูกห้าม)

11. Darwin T-Shirt
โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งห้ามไม่ให้สวมเสื้อ “Evolution of Brass” ที่ออกแบบโดยวงแบนด์ของโรงเรียน เนื่องจากลายเสื้อดูเหมือนจะสนับสนุนแนวคิดสังคมแบบดาร์วิน ซึ่งขัดกับความเชื่อของคนในสังคม

ข้อมูลจาก: 9GAG, wegointer





 

Create Date : 15 กันยายน 2557    
Last Update : 15 กันยายน 2557 9:39:43 น.
Counter : 1589 Pageviews.  

วิธีล้างองุ่น ให้สะอาด

วิธีล้างองุ่น ให้สะอาด

ล้างองุ่น

เชื่อว่าเราๆ ท่านๆ คงเคยทานองุ่น ปกติมักจะมีคราบ เหมือนยาง เป็นฝ้าขาวๆ ที่ผลองุ่น ล้างยังไงก็ไม่ออก ใช่มั้ยคะ บางครั้งก็ถือว่านานๆ ทานที ก็เลยตามเลย ซึ่งก็ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความปลอดภัยเท่าไหร่นัก เพราะไม่รู้ว่าไอ้คราบๆ ที่ติดผลองุ่นอยู่มันคือสารอะไรตกค้างรึเปล่า…เท้าความซะยืดยาว แค่จะบอกว่าตอนนี้รู้ วิธีล้างองุ่น ให้สะอาด มั่นใจที่จะรับประทานแล้วล่ะ

1. เด็ดผลองุ่นออกจากพวง เพื่อจะได้ง่ายในการล้าง

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

2. ใส่ภาชนะ

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

3. บีบยาสีฟัน (อะไรก็ได้) พอสมควร แล้วขยี้ให้ทั่วมือ

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

4. ใส่น้ำพอสมควร แล้วลงมือล้าง

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

5. ล้างด้วยน้ำเปล่าแล้ว สะเด็ดน้ำ

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

6. เป็นงายล่ะ..ดูดี มีความปลอดภัย ขึ้นมาเลย

วิธี ล้าง องุ่น สุขภาพ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารพิษ

ที่มาจาก siamsouth.com




 

Create Date : 15 กันยายน 2557    
Last Update : 15 กันยายน 2557 9:35:27 น.
Counter : 1617 Pageviews.  

จุดกําเนิดของ nanoscienen

ในปัจจุบันมักจะได้ยินคำว่า "นาโน" กันหนาหู  วิทยาศาสตร์นาโนหรือ nanoscience คือการศึกษาวัสดุหรือโครงสร้างของสสารในระดับนาโนเมตรหรือ 10-9 เมตร (เล็กกว่าความยาว 1 มิลลิเมตร 1 ล้านเท่า) nanoscience หรือ nanotechnology ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่นในทางการแพทย์ อุตสาหกรรม  แม้กระทั่งในชีวิตประจำวันของเราก็มี nanoscience เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นผงซักฟอกที่ใช้กันอยู่ในท้องตลาดก็มีการผสมอนุภาคเงินที่เล็กในระดับนาโนเมตรเพื่อใช้กำจัดแบคทีเรีย (จริงๆ นอกจากผสมในผงซักฟอกแล้วก็ยังใช้ในตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ฯลฯ)  แม้ว่าจะให้ความรู้สึกว่าเป็นสาขาวิจัยใหม่เพิ่งเฟื่องฟู  แต่ถ้าจะนับกันจริงๆ จังๆ nanoscience น่าจะมีอายุประมาณเกือบๆ 170 ปีแล้ว

                ว่ากันว่า nanoscience ออกสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1847 ด้วยฝีมือของกระทาชายนายนี้ซึ่งไม่มีใครไม่รู้จัก  "ไมเคิล ฟาราเดย์" นอกจากจะฝากผลงานเกี่ยวกับไฟฟ้าและแม่เหล็กเอาไว้มากมายเช่น กฎของฟาราเดย์  กรงฟาราเดย์ ฯลฯ  อดีตลูกจ้างในร้านเย็บเล่มหนังสือที่เรียนด้วยตัวเองจนกลายมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังพรสวรรค์มหาศาลรายนี้ยังถูกใคร ๆ ให้เครดิตว่าเป็นผู้ให้กำเนิด nanoscience อีกด้วย

1 2

                ไมเคิล ฟาราเดย์  "บิดาแห่ง nanoscience" [1]              ภาพตัวอย่างของ "อนุภาคนาโน" (อนุภาคซิลิกา) [2] 

            งานวิจัยของฟาราเดย์ที่ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่ง nanoscience"  นั้นเกี่ยวกับ "gold sol" หรือสารละลายที่มีตัวถูกละลายคืออนุภาคทองคำขนาดเล็ก  สารละลายนี้เป็นที่รู้กันในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ว่าถ้าผสมในเครื่องแก้วจะทำให้เครื่องแก้วมีสีแดงอมม่วงที่เรียกกันว่า "สีม่วงของแคสเซียส" เครื่องแก้วที่มีสารละลายทองคำผสมอยู่เรียกกันว่า "เครื่องแก้วแครนเบอรี่" บ้าง (เพราะมีสีเดียวกับแครนเบอรี่)  "เครื่องแก้วสีทับทิม" บ้าง  ฟาราเดย์เป็นคนแรกที่ค้นพบว่า "สี" ของสารละลาย "gold sol" นี้ขึ้นอยู่กับขนาดของอนุภาคทองคำ  ถ้าขนาดของอนุภาคทองคำเปลี่ยน สีของสารละลายก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกันดังในภาพด้านล่าง

3 4

                                เครื่องแก้ว "สีม่วงของแคสเซียส" [3]               สีของสารละลายขึ้นอยู่กับขนาดของอนุภาคทองคำขนาดเล็ก [4]

            ฟาราเดย์แสดงปาฐกถาเกี่ยวกับ "gold sol" ในชื่อเรื่องว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและแสง"  (หนึ่งในผู้ที่เข้าฟังปาฐกถาของฟาราเดย์คือเจ้าชายอัลเบิร์ต สวามีของสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย) ฟาราเดย์เป็นคนแรกที่ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างสีของสารละลายและขนาดของตัวถูกละลายแต่เขาก็ไม่ได้อธิบายว่าทำไมการเปลี่ยนขนาดของอนุภาคตัวถูกละลายทำให้สีของสารละลายเปลี่ยนไป  ในภายหลัง กุสตาฟ มี (Gustav Mie) นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันจึงได้อธิบายปรากฎการณ์นี้โดยใช้ทฤษฎีการกระเจิงแสงและการดูดกลืนแสงโดยอนุภาคทรงกลม

                ว่ากันว่า "อนุภาคนาโน (nanoparticles)"ที่ถูกศึกษาอย่างเป็นทางการอนุภาคแรก(ในโลก)ก็คืออนุภาคทองคำของฟาราเดย์ ในปัจจุบันอนุภาคทองคำขนาดเล็กที่ฟาราเดย์และนักวิทยาศาสตร์มากหน้าหลายตาเคยศึกษาวิจัยได้ถูกนำมาใช้ในทางเภสัชกรรมและการแพทย์อย่างแพร่หลายเช่นใช้ในการขนส่งยาภายในร่างกาย (drug delivery)  การตรวจมะเร็ง (tumor detection)  และยีนบำบัด (gene therapy)

เครดิตภาพ

[1] //en.wikipedia.org/wiki/Michael_Faraday#mediaviewer/File:Faraday-Millikan-Gale-1913.jpg

[2]//en.wikipedia.org/wiki/Nanoparticle#mediaviewer/File:Mesoporous_Silica_Nanoparticle.jpg

[3] //en.wikipedia.org/wiki/Cranberry_glass#mediaviewer/File:Vintage_cranberry_glass.jpg

[4] //en.wikipedia.org/wiki/Colloidal_gold#mediaviewer/File:Gold255.jpg




 

Create Date : 15 กันยายน 2557    
Last Update : 15 กันยายน 2557 9:32:46 น.
Counter : 3074 Pageviews.  

แต่งบ้านผิดฮวงจุ้ย มีวิธีแก้อย่างไร

วันนี้ Decor.Mthai มีเรื่องของการ แต่งบ้านผิดฮวงจุ้ย มีวิธีแก้อย่างไรบ้าง มาฝากเพื่อนกันค่ะ มีทั้งตกแต่งแบบไหนที่ผิดหลักฮวงจุ้ย และก็มีวิธีแก้อย่างไรให้ถูกต้องด้วยค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้แล้วเราไปชมกันเลยค่ะ

แต่งบ้านผิดฮวงจุ้ย มีวิธีแก้อย่างไรบ้าง

ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน

แต่งบ้านผิดฮวงจุ้ย มีวิธีแก้อย่างไรบ้างขอบคุณภาพ : //www.homenayoo.com

ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน : กรณีนี้ จะเจอกันอยู่บ่อยๆ ในทางฮวงจุ้ยจะบอกว่า ทำให้เงินไหลออก เรียกว่าหาเงินมาเท่าไหร่ก็ไหลออกหลังบ้านหมด

การแก้ไข : กรณีนี้ไม่ยากเลยครับ วิธีที่นิยมใช้กันมากก็คือหาฉากหรือตู้โชว์มากั้นระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังบ้าน กระแสที่พุ่งตรงระหว่างสองประตู ก็จะถูกหักเหออกไป อีกวิธีหนึ่งย้ายประตูหลังหลบประตูหน้า โดยย้ายไปเปิดด้านข้างแทน อย่าลืมว่า บ้านจะต้องมีประตูหลังเสมอ นี่เป็นกฎพื้นฐานในทางฮวงจุ้ย บางคนแก้ไขประตูตรงกัน โดยการปิดประตูหลังเสีย หลังบ้านจึงทึบไม่มีทางออก ตำราบอกว่า จะส่งผลให้บ้านหลังนั้น อุดตัน อับโชค ซึ่งถ้ามองตามหลักเหตุผล ก็จะหมายถึงบ้านจะอับลม เพราะธรรมชาติของลมจะต้องมีทางเข้าและทางออก อากาศถึงจะถ่ายเทได้ดี การแก้ไขอะไรก็แล้วแต่ จะต้องดูที่ผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ไม่ใช่แก้อย่างหนึ่งแล้วไปเสียอีกอย่างหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องตามแก้กันไม่รู้จบ

ฮวงจุ้ยห้องครัว

Kitchenขอบคุณภาพ : maddyruns.com

ฮวงจุ้ยห้องครัว : กรณีที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องตำแหน่งเตาไฟ กับซิงก์น้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยจะบอกเอาไว้ว่าสองสิ่งนี้ห้ามอยู่ใกล้กัน หรือตรงข้ามกัน เพราะเตาเป็นธาตุไฟ ซิงก์เป็นธาตุน้ำ ไฟกับน้ำ เป็นธาตุปะทะกัน ส่วนใหญ่การวางเตาไฟกับซิงก์จะวางแยกกันในลักษณะตัวแอล เตาอยู่ด้านหนึ่ง ซิงก์อยู่ด้านหนึ่ง

วิธีแก้ไขวิธีที่ 1 : กรณีที่เตากับซิงก์น้ำอยู่ติดกัน ให้พิจารณาก่อนว่า ระยะห่างมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าห่างเกิน 1 เมตร ถือว่าไม่จำเป็นต้องแก้ เพราะผลกระทบจะไม่เกิด แต่ถ้าอยู่ติดกัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ ย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้หาฉากสแตนเลสกันความร้อนมากั้นตรงกลาง ก็ถือว่าใช้ได้

วิธีแก้ไขวิธีที่ 2 : กรณีที่เตาไฟกับซิงก์น้ำอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าห้องครัวมีพื้นที่กว้างพอ ให้ใช้โต๊ะมาวางขั้นกลาง แต่ถ้าห้องครัวแคบ ต้องย้ายอย่างใดอย่างหนึ่งออกไป

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ

bathroom-designs-59ขอบคุณภาพ : home.howstuffworks.com

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ : ลักษณะผิดฮวงจุ้ยที่พบบ่อยก็คือโถส้วม (ชักโครก) มักจะวางตรงกับประตูห้องส้วม พูด ง่ายๆเวลาเปิดประตูก็เห็นชักโครกพุ่งเข้าหาคนที่เดินเข้า อย่างนี้ถือว่าผิดแน่นอน

วิธีแก้ไขวิธีที่ 1 : ย้ายโถส้วมเข้าด้านใน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ค่อนข้างจะยาก เพราะจะต้องย้ายท่อน้ำเสียตามไปด้วย

วิธีแก้ไขวิธีที่ 2 : ให้หันโถส้วมไปในทิศทางที่ไม่ตรงกับประตู แทนที่จะพุ่งตรงออกมา ก็หันไปด้านข้างแทน โดยที่ไม่ต้องย้ายตำแหน่ง หรือ ถ้าไม่อยากย้ายโถส้วมก็อาจจะเลือกแก้โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของประตูแทนก็ได้ ถ้าไม่อยากย้ายอะไรเลย ก็ให้ปิดประตูห้องส้วมไว้เสมอ พยายามเปิดประตูเข้าออกให้น้อยที่สุด ก็จะช่วยลดผลกระทบลงได้

ฮวงจุ้ยห้องนอน

Girls-Bedroomขอบคุณภาพ : freshome.com

ฮวงจุ้ยห้องนอน : ถือเป็นห้องสำคัญที่สุดในบ้าน มีข้อบัญญัติมากมายเกี่ยวกับห้องนอน แต่ที่พบเจอบ่อยๆ ก็จะเป็นเรื่องการวางเตียง ตำแหน่งต้องห้ามในทางฮวงจุ้ย คือห้ามวางเตียงตรงกับประตู หรือนอนขวางประตูห้อง นั่นเอง

วิธีแก้ไขวิธีที่ 1 :  ย้ายเตียงหลบ หรือไม่ก็ย้ายประตูห้อง การย้ายเตียงหลบน่าจะดีกว่า ถ้าย้ายไม่ได้ก็ต้องหาฉากมากั้นระหว่างประตูกับเตียง หัวเตียงเป็นหน้าต่าง หลายคนกังวลกับเรื่องนี้มาก ตำราฮวงจุ้ยพูดเอาไว้จริง แต่การแก้ไขง่ายนิดเดียว แค่ติดม่านแล้วปิดเวลานอน ปัญหาก็หมดไป

ฮวงจุ้ยห้องพระ

ห้องพระขอบคุณภาพ : www.thaismefranchise.com

ฮวงจุ้ยห้องพระ : ตามหลักฮวงจุ้ยจะห้ามวางโต๊ะหมู่บูชา หรือหิ้งพระ ติดกับผนังห้องน้ำ ถ้าจำเป็นต้องวางจะต้องบุผนังด้านที่พิงห้องน้ำด้วยไม้ เพื่อขั้นระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับห้องน้ำ แต่ถ้าย้ายตำแหน่งได้ก็ควรย้ายจะดีที่สุด

ขอบคุณ : decorreport.com




 

Create Date : 12 กันยายน 2557    
Last Update : 12 กันยายน 2557 8:44:08 น.
Counter : 2258 Pageviews.  

รุ้หรือไม่ เงาะก็มีพิษ

เข้าสู่หน้าฝนโปรยปรายเช่นนี้ มีพืชผล ออกมามากมายให้เราได้รับประทานกันอิ่มหนำสำราญ เท่าที่สำรวจตลาดตอนนี้ ผลไม้มีมากมายหลายหลากให้เรารับประทาน อย่างถ้าเป็นช่วงเดือนที่ผ่านมา ทุเรียนก็กำลังมาแรง และดูเหมือนว่ากำลังจะถูกแซง ด้วยเจ้าผลไม้เปลือกขน สีแดง ที่ข้างในหวานฉ่ำ อย่างเงาะ นั่นไงล่ะ

เงาะ เป็นผลไม้รสหวานและอมเปรี้ยว และถือว่าเป็นผลไม้ดับร้อนก็ว่าได้ เพราะเนื้อข้างใน เมื่อทานแล้วจะสร้างความเย็นฉ่ำให้กับร่างกายได้ สำหรับเงาะที่นิยมทานกันมีสองพันธุ์ คือ เงาะโรงเรียนผลรูปไข่ เปลือกสีแดงสดมีขนยาวสีเขียว เนื้อแห้ง แน่นหนา และอีกพันธุ์หนึ่งคือเงาะสีชมพู ผลค่อนข้างกลม เปลือกสีแดงอมชมพู ขนปลายแหลม เปลือกแกะออกได้ง่าย เมล็ดเล็กรูปรี โดยเงาะทั้ง2 พันธุ์นี้ คุณค่าทางโภชนาการ และคุณประโยชน์ต่อร่างกาย นั้นมากมายเลยทีเดียว

937420

เงาะ ผลไม้ลูกเล็กๆ แต่สารอาหารเพียบ

เงาะอุดมด้วยวิตามินC B1 B2 คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และไนอาซีน ช่วยทำให้ผิวพรรณสวยงาน แกะเมล็ดออกแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น จะได้รสชาติที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง ส่วนเงาะกระป๋องชนิดที่สอดไส้ด้วยสับปะรดหั่นพอคำนิยมเสริฟพร้อมน้ำแข็ง รสหวาน เย็น ชื่นใจ

ว่ากันว่า ทานเงาะ 6 ลูก ให้พลังงานได้ถึง 50 หน่วยพลังงานแคลอรี่ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดังที่ USDA Nutrient database ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า

  • คาร์โบไฮเดรต 20.87 กรัม
  • เส้นใย 0.21 กรัม
  • ไขมัน 0.65 กรัม
  • โปรตีน 2.5 กรัม
  • วิตามินบี1 0.013 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินบี2 0.022 มิลลิกรัม 2%
  • วิตามินบี3 1.352 มิลลิกรัม 9%
  • วิตามินบี6 0.02 มิลลิกรัม 2%
  • วิตามินบี9 8 ไมโครกรัม 2%
  • วิตามินซี 4.9 มิลลิกรัม 6%
  • ธาตุแคลเซียม 22 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุเหล็ก 0.35 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุแมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุแมงกานีส 0.343 มิลลิกรัม 16%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 9 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุโพแทสเซียม 42 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุสังกะสี 0.08 มิลลิกรัม 1%

โดยค่า % ที่เห็นอยู่นั้น คือร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่

ประโยชน์ของ เงาะ

การรับประทานเงาะสดนั้น นอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังมีประโยชน์ ทั้งยังเป็นยารักษาโรคได้ โดย

  • มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
  • สรรพคุณช่วยรักษาอาการอักเสบในช่องปาก
  • ช่วยแก้อาการท้องร่วงรุนแรงได้อย่างได้ผล
  • สรรพคุณของเงาะ ช่วยรักษาโรคบิดท้องร่วง
  • ใช้เป็นยาแก้อักเสบ
  • ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  • ประโยชน์ของเงาะ สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างได้มากมาย เช่น การทำเงาะกระป๋อง เงาะกวนเปลือก เป็นต้น
  • เงาะมีสารแทนนิน ซึ่งนำมาใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง ย้อมสีผ้า บำบัดน้ำเสีย ทำปุ๋ย และกาว เป็นต้น
  • สารแทนนิน (tannin)ช่วยป้องกันแมลง ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ใช้ทำเป็นยารักษาโรค

ข้อควรระวังในการทาน เงาะ

อย่างที่รู้กันว่า อะไรที่มากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่ดี และมันจะมีโทษ อย่างการทานเงาะก็เช่นกัน เงาะมีสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่การรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้ท้องอืดหรือท้องผูกได้

และอีกสิ่งที่ควรระวังคือเมล็ดเงาะ เพราะเมล็ดเงาะมีพิษ ห้ามรับประทานเพราะอาจจะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และมีไข้ได้ ถึงแม้จะนำไปคั่วจนสุกแล้วก็ตามก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดีเพราะฉะนั้นควรรับประทานอย่างพอประมาณ และทานเฉพาะในส่วนที่ทานได้ เพื่อที่ร่างกายจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด

ขอบคุณที่มาจาก : emaginfo.com




 

Create Date : 12 กันยายน 2557    
Last Update : 12 กันยายน 2557 8:37:23 น.
Counter : 1194 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.