อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

จริงหรือ? นํ้าแก้ ปวดหัว ได้

เวลาที่คุณ ปวดหัว คุณจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะนอนพักผ่อน หรือไม่ก็อาจจะหายาแก้ปวดมากิน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า “น้ำ” ก็สามารถที่จะช่วยให้คุณหายปวดได้เหมือนกัน

water

หากคุณ ปวดหัว มากจนไม่สามารถที่จะนอนหลับได้ ลองใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือขวดใส่น้ำร้อน แต่ไม่ควรจะร้อน จนเกินไปเดี๋ยวจะต้องรักษาแผลพุพองที่ตามมาอีก หลังจากนั้นก็ประคบที่บริเวณท้ายทอย แล้วใช้ความเย็นประคบที่หน้าผาก จะช่วยให้อาการทุเลาลงได้

แต่ถ้าเป็นอาการที่ เกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบหรือเอ็นอักเสบ ให้ใช้กระเป๋านำแข็งประคบตั้งแต่ต้นคอลงมาถึงหัว ไหล่ในวันแรกเพื่อลดอาการอักเสบและใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบในวันต่อๆ มา จะช่วยให้คลายปวดได้

หรือ ถ้ามีอาการปวดหัวซึ่งเกิดจากเลือดลมเดินไม่สะดวกรู้สึกมึนๆ ตื้อๆ ให้ใช้วิธีแช่เท้าในน้ำอุ่น โดยเริ่มจากใช้น้ำอุ่นในปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มให้น้ำร้อนขึ้นๆ จนกระทั่งรู้สึกอุ่นสบาย แช่ไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง อาการปวดจะบรรเทาลง

อีกวิธีหนึ่งก็คือ นอนคว่ำเอาหมอนรองที่หน้าอก จากนั้นเอาน้ำร้อนประคบที่หลังส่วนบน หรือบริเวณกลางหลังตรงกับแนวกระดูกสันหลัง วิธีนี้จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น

เลิกใช้ยาแก้ปวดแล้วหันมาใช้ธรรมชาติช่วยก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณที่มาจาก : มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค / //www.thaihealth.or.th




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 9:39:35 น.
Counter : 923 Pageviews.  

เจ้าสัวธนินทร์ แถลงปฏิเสธซื้อ เทสโก้ โลตัส ตามข่าวลือ!!!

เจ้าสัวธนินทร์ แถลงปฏิเสธซื้อเทสโก้ โลตัส ตามข่าวลือ แต่ถ้ามีเสนอขายก็สนใจซื้อ

วันนี้(25 พ.ย.) มีรายงานข่าวว่า นายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)ได้เปิดเผยกรณีที่มีข่าวลือว่ามีการซื้อกิจการเทสโก้โลตัส ด้วยมูลค่า3แสนล้านบาท ซึ่งเป็นข่าวจากการนำเสนอของสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยเจ้าสัวธนินทร์ได้ปฏิเสธว่าไม่มีการซื้อคืนกิจการเทสโก้โลตัสและรายงานตัวเลขดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่เคยมีข้อเสนอให้ซีพีเป็นตัวเลือกแรกหากโลตัสจะเสนอขายกิจการด้วย

01

เจ้าสัวซีพี กล่าวต่อว่าในอนาคตธุรกิจอะไรที่ซีพีจะซื้อเข้ามาต้องไปไม่ขัดกับธุรกิจเดิมและส่งเสริมให้ธุรกิจเดิมแข่งแกร่งขึ้น เพราะซีพีอยู่ในวงการธุรกิจค้าปลีก ถ้าซื้อเข้ามาสามารถทำให้สินค้าเราถูกลง ลูกค้าก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น แต่ตอนนี้เทสโก้ยังแข็งแรง ตนยังไม่ไปถามว่าเขาจะขายหรือไม่ เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติกัน

แต่ถ้ามีข้อเสนอให้เข้าร่วมหุ้นส่วนกิจการตนก็สนใจ เพราะเทสโก้โลตัส เสมือนเป็นลูกรักและตนมีส่วนก่อตั้งขึ้นมาแต่ต้องจำยอมทิ้งกิจการไปเพราะวิกฤติต้มยำกุ้ง ถ้าตอนนี้โลตัสจะขายกิจการจริงซีพีก็สนใจเข้าซื้อ แต่ถึงวันนี้ยังไม่ได้ยินคนในเทสโก้โลตัสแม้แต่คนเดียวบอกว่าจะขายกิจการ

MThai News




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 9:36:29 น.
Counter : 1073 Pageviews.  

ดิ่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

ใครว่าการดื่มนมมีดีแค่ช่วยเพิ่มแคลเซียม ทำให้ตัวสูงได้อย่างเดียว ขอบอกว่าจริง ๆ แล้วยังช่วยป้องกันโรคอ้วนได้อย่างน่าอัศจรรย์ อ๊ะ...ถ้าไม่เชื่อก็ตามมาเลย




นม เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและนิยมดื่มกันทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะวัยเด็กหรือหนุ่มสาว ก็ได้ประโยชน์จากการดื่มนมกันทั้งนั้น แล้วรู้กันหรือเปล่าว่าเจ้าเครื่องดื่มชนิดนี้ ไม่ได้ทำหน้าที่ของมันในการเสริมแคลเซียมและเพิ่มวิตามินต่าง ๆ ให้ร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ เป็นโรคอ้วนอีกด้วย ฮั่นแน่ ! สงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่ามันช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร ก็ในเมื่อเคยได้ยินกันว่าดื่มนมมาก ๆ จะทำให้อ้วน เลิกสงสัยกันได้แล้วค่ะ เพราะเราไขความกระจ่างกันด้วยผลวิจัยที่เว็บไซต์ healthylnb.com นำมาเสนอกัน ลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่าการดื่มนมน่ะ ดีกว่าที่คิดซะอีก



การศึกษาล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเปิดเผยว่า การดื่มนมนอกจากจะช่วยเสริมสร้างกระดูกแล้วยังช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วนได้ โดยการศึกษานี้ได้ทำการวิจัยจากการตอบแบบสอบถามของคนกว่า 7,173 คน เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและสุขภาพโดยรวม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่ดื่มนมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 แก้ว จะมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนต่ำกว่าผู้ดื่มนมหรือรับประทานเนื้อไก่ในปริมาณน้อยหรือไม่บริโภคเลย



แถมทีมนักวิจัยยังพบอีกว่าผลิตภัณฑ์จากนม หรือที่มีนมเป็นส่วนประกอบ ก็สามารถป้องกันโรคอ้วนได้เช่นกัน และควรจะมีนมเป็นหนึ่งในอาหารที่บริโภคทุกวันในปริมาณที่พอเหมาะ ที่น่าสนใจไปยิ่งกว่านั้นคือ ในการวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้ที่ดื่มนมเป็นประจำทุกวันสามารถลดความเสี่ยงโรคอ้วนได้ถึง 37% แต่อย่างไรก็ตามผลการศึกษานี้พบแต่กับในผู้ที่ดื่มนมไขมันต่ำกว่า 3.4% เท่านั้น



ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้นมสามารถช่วยป้องกันโรคอ้วนได้ ก็มาจากสารอาหารสำคัญที่อยู่ในนมอย่างแคลเซียม พระเอกของเรานั่นเอง โดยเจ้าแคลเซียมนั้นมีส่วนในการช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ และการที่ร่างกายของเรามีระดับฮอร์โมนที่ปกติก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพได้



นอกจากนี้นักวิจัยก็ยังได้แนะนำให้รับประทานอาหารเสริมแคลเซียมบ้าง แต่ก็ไม่ควรรับประทานแทนอาหารที่มีแคลเซียมสูง เพราะจะทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่ดีต่อร่างกายอย่างเช่นโปรตีนค่ะ




ใครที่คิดว่าดื่มนมแล้วทำให้อ้วนได้ทราบกันอย่างนี้แล้วก็คงจะเปลี่ยนความคิดกันแล้วใช่ไหมคะ ยังไงก็หันมาดื่มนมกันดีกว่าเนอะ โดยเลือกดื่มนมไขมันต่ำ เพื่อสุขภาพร่างกายและกระดูกที่แข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกระดูกพรุนจนต้องหาอาหารเสริมกันให้วุ่นวายไงล่ะ

ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 9:29:48 น.
Counter : 940 Pageviews.  

นํ้าฟักข้าว เครื่องดื่มสูขภาพสุดฮิต ทําอย่างไร ดื่มแบบไหน

น้ำฟักข้าว เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิต ทำอย่างไร ดื่มแบบไหนให้อร่อย

น้ำฟักข้าว เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิต ทำอย่างไร ดื่มแบบไหนให้อร่อย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

หลายคนรู้ว่า ฟักข้าวลูกสีส้ม ๆ เหลือง ๆ หน้าตาประหลาด ๆ นำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ แต่เชื่อเลยว่าหลายคนไม่รู้วิธีทำน้ำฟักข้าวแน่ ๆ และไม่รู้ว่าจะดื่มน้ำฟักข้าวแบบไหนให้อร่อย รสไม่ปะแล่ม ๆ วันนี้เรามีคำตอบ

          น้ำฟักข้าวกำลังเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมากเรียกว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ฮอตฮิตในตอนนี้เลยก็ว่าได้ แต่เชื่อเลยว่า หลายคนมีลูกฟักข้าวอยู่ในมือแต่ไม่รู้วิธีที่จะจัดการให้ลูกฟักข้าวกลายเป็นเครื่องดื่มอร่อย ๆ ได้อย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีทำน้ำฟักข้าวมาฝาก ลองมาดูกันซิว่า ฟักข้าวต้องผสมกับอะไรถึงจะดื่มแล้วอร่อย รสชาติไม่ปะแล่ม ๆ ไม่จืดชืด และชวนดื่มมากขึ้น

แต่ก่อนที่จะไปทำน้ำฟักข้าวดื่มกันนั้น เรามาดูสรรพคุณเด็ด ๆ ของลูกฟักข้าวกันสักนิด ฟักข้าว พืชพื้นบ้านที่หน้าตาประหลาด ๆ ลูกนี้มีประโยชน์แจ๋วทีเดียว ทั้งงวิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ไฟเบอร์ และที่เด็ดก็คือ ในฟักข้าวมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก สูงกว่าแครอทถึง 10 เท่าเชียว และยังมีการวิจัยกล่าวไว้ว่า เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวมีต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

1. น้ำฟักข้าว (แบบไม่ผสม)

          น้ำฟักข้าวสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดื่มคุณประโยชน์จากผลฟักข้าวแบบเต็ม ๆ แก้ว ได้รสชาติแท้ ๆ และกลิ่นของฟักข้าวชนิดที่เรียกว่า 100% เลยทีเดียว 

ส่วนผสม

ฟักข้าว 1 ลูก

น้ำต้มสุก 3 ถ้วย

เกลือป่น เล็กน้อย

น้ำเชื่อม ตามชอบ

วิธีทำ

1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม



2. น้ำฟักข้าวเสาวรส

          น้ำฟักข้าวสูตรนี้จะเพิ่มกลิ่นหอม ๆ และรสชาติเปรี้ยว ๆ จากเสาวรสเข้าไป ซึ่งจะได้รสชาติที่กลมกล่อมชวนดื่มมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญประโยชน์จะต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน

ส่วนผสม

ฟักข้าว 1 ลูก

น้ำต้มสุก (สำหรับปั่นฟักข้าว) 3 ถ้วย

เสาวรส 2-3 ลูก

น้ำต้มสุก (สำหรับปั่นเสาวรส) 3 ถ้วย

เกลือป่นเล็กน้อย

น้ำเชื่อม

วิธีทำ

1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เทใส่ภาชนะ เตรียมไว้

3. ตักเนื้อเสาวรสใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ

4. ผสมน้ำฟักข้าวและน้ำเสาวรสเข้าด้วยกัน เติมเกลือป่นและน้ำเชื่อมลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมดื่ม



3. น้ำฟักข้าวผสมน้ำส้ม

          น้ำฟักข้าวสูตรนี้เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบายขึ้นมาหน่อย ไม่ต้องปั่นเสาวรสอีกรอบแล้วนำมาผสม แต่จะใช้น้ำส้มแบบกล่องมาผสมลงไปเลย ง่าย ๆ แต่ได้ประโยชน์ครบ

ส่วนผสม

ฟักข้าว 1 ลูก

น้ำต้มสุก (สำหรับปั่นฟักข้าว) 3 ถ้วย

น้ำส้มแบบกล่อง 100%

เกลือป่นเล็กน้อย

น้ำเชื่อม

วิธีทำ

1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เทใส่ภาชนะ เตรียมไว้

3. ผสมน้ำฟักข้าวและน้ำส้มเข้าด้วยกัน เติมเกลือป่นและน้ำเชื่อมลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมดื่ม

  ทั้งหมดนี้ก็เป็น 3 สูตรน้ำฟักข้าวแบบโฮมเมดที่คุณก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ คราวนี้ใครถือลูกฟักข้าวมาฝากจากต่างจังหวัดก็ไม่ต้องมัวแต่มานั่งมองเจ้าลูกประหลาด ๆ แล้วรอให้เน่าทิ้ง เสียดายของ !




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 11:02:50 น.
Counter : 2458 Pageviews.  

6 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันใน หน้าหนาว

โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ จมูกและคอ โรคนี้มักพบมากใน หน้าหนาว เพราะความชื้นต่ำและอากาศเย็น

เกิดขึ้นได้จากการสูดดมอากาศที่มีเชื้อเข้าไป การคลุกคลีกับผู้ป่วยและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เมื่อได้รับเชื้อไข้หวัดเข้าไปจะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คัดจมูก มีน้ำมูก จาม มีอาการไอจากการอักเสบของหลอดคอและอาจมีไข้ต่ำ โรคไข้หวัดจะมีระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน แต่อาจมีอาการไอและน้ำมูกต่อเนื่องนานอีก 2-3 สัปดาห์

162239049

สำหรับ 6 เมนูที่รับประทานแล้ว ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อรับการเปลี่ยนผ่านจากปลายฝนต้นหนาว มีดังนี้

1. อาหารรสเผ็ดร้อนจากพริกและเครื่องเทศ เช่น พริก หอม กระเทียม พริกไทย ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กระชาย ใบกะเพรา แมงลักหรือแม้แต่สมุนไพรต่าง ๆ ที่ช่วยลดอาการคัดจมูก เช่น ใบโหระพา อบเชย กานพลู นำมาประกอบอาหาร จำพวกแกงร้อน ๆ เช่น ต้มยำไก่ จะช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น ปรับสมดุลภายในร่างกายให้ปกติ

2. การดื่มน้ำมาก ๆ หรือการดื่มน้ำอุ่น วันละไม่ต่ำกว่า 8 แก้วแทนการดื่มกาแฟหรือน้ำอัดลม ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ลดอาการไข้หวัดได้ ช่วยให้ทางเดินหายใจและทางเดินอาหารชุ่มชื้นขึ้น เสมหะถูกขับออกง่ายและยังยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้อีกด้วย โดยเครื่องดื่มที่นิยมดื่มนั้น เช่น น้ำขิง โดยนำขิงสับ 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 2-3 กลีบ แช่ในน้ำเดือด 5-10 นาที แล้วชงเป็นชาดื่ม มีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานคล่องขึ้น ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และบรรเทาอาการข้ออักเสบได้อีกด้วย

3. ซุปไก่ร้อนๆ ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก อาการไอ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งให้โปรตีนที่ดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น อาจเติมผักหลายสีเพิ่มประโยชน์จากสารแอนติออกซิแดนต์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

4. สารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบตาแคโรทีนหรือวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคออกจากร่างกาย หรือเลือกรับประทานผักผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แครอท ผักใบเขียว ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและประหยัดกว่าการรับประทานวิตามินจากยา

167243097

5. หัวหอมและกระเทียม กระเทียมช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัดได้อย่างดี โดยนำกระเทียม 1 กลีบเล็กมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วใช้ช้อนบี้ให้แตก เติมน้ำร้อนลงไป 1 ถ้วย ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วเติมน้ำผึ้งและมะนาวลงไป ดื่มวันละ 2 ถ้วย จะช่วยลดอาการหวัดให้เบาบางลง หรือตำหัวหอมใส่ถ้วยแล้วดมช่วยให้หายใจโล่งขึ้นได้

6. โยเกิร์ต ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเสริมสร้างสารแอนติบอดี้บางชนิด โดยเลือกรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติชนิดไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย และมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่มีชีวิตอยู่ จะได้รับประโยชน์อย่างเต็ม

นอกจากนั้นแล้ว ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอวันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง อากาศหนาวก็ควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถกันหนาวได้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคไข้หวัดที่อาจเกิดขึ้นแต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกวิธี

ขอบคุณที่มาจาก : เว็บไซต์เดลินิวส์




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 10:59:11 น.
Counter : 1020 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.