อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

บําบัดอาการคอตกหมอนหรืออาการปวดเมื่อยต้นคอ

บำบัดอาการคอตกหมอนหรืออาการปวดเมื่อยต้นคอ
19-02-2014 เข้าชมแล้ว: 1207


การนอนผิดท่าเป็นเวลานาน ๆ หรือแม้แต่การเล่นกีฬาอย่างหนัก จะส่งผลให้เกิดการอักเสบที่เอ็น, กล้ามเนื้อ, กระดูก และไขข้อ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่า เป็นการนอนตกหมอน มีอาการตึงที่บริเวณต้นคอจนต้องเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ปวดบ่าและแขน สร้างความทุกข์ทรมาน

วัลย์ลิกา ประเสริฐกุล นัก กายภาพบำบัด ได้เขียนถึง วิธีการยืดกล้ามเนื้อคลายอาการตกหมอน ไว้ในเว็บไซต์ของศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเริ่มจากการประคบเย็น อาจจะใช้แผ่นประคบเย็นสำเร็จรูป (Cold pack) หรือถุงใส่น้ำและน้ำแข็งอัตราส่วน 1:1 ประคบที่ต้นคอ เพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อคอ โดยให้ประคบประมาณ 15 – 20 นาที ทำซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง

จากนั้นให้นั่ง ฟุบกับโต๊ะหรือเตียง ให้ใช้มือข้างเดียวกับด้านที่ปวดคอ วางลงบริเวณศีรษะทางด้านหลัง กางนิ้วโป้งออก ใช้นิ้วโป้งกดคลึงบริเวณที่เจ็บที่สุดของลำกล้ามเนื้อ กดแรงพอประมาณให้รู้สึกตึงหรืออาจจะปวดเล็กน้อย กดค้าง 30 วินาทีแล้วผ่อนแรง กดซ้ำ ๆ ประมาณ 3-5 นาที หรือจนรู้สึกว่าลำกล้ามเนื้อนิ่มลงหรืออาการปวดลดลง แต่อย่าคลึงแรงจนทำให้ปวดมาก เพราะจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวเพิ่มขึ้น โดยให้ทำวันละ 1-2 ครั้ง

ต่อ มา ยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ ก้มศีรษะ หันหน้าไปทางที่เอียง และใช้มือด้านตรงข้ามกับข้างที่มีอาการวางมือบนศีรษะ กดศีรษะลงให้รู้สึกตึงก้านคอเล็กน้อย ค้างไว้แลัวให้นับ 1-10 โดยจะรู้สึกผ่อนคลายที่กล้ามเนื้อคอบริเวณที่มีอาการ สามารถทำซ้ำได้ไม่เกิน 10 ครั้ง วันละ 3 รอบ

หากผู้อ่านท่านใด มีอาการนอนตกหมอนหรือปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ ช่วงบ่าและแขนสามารถนำวิธีนี้ไปบรรเท่าอาการเจ็บลงได้

 

ที่มา  เดลินิวส์




 

Create Date : 10 กันยายน 2557    
Last Update : 10 กันยายน 2557 10:27:44 น.
Counter : 3109 Pageviews.  

แบบบ้านไทยประยุกต์ วิวสวยติดทะเล

วันนี้ Decor.Mthai ได้นำ แบบบ้านไทยประยุกต์ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ เพราะว่าทุกวันนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้เกิดรูปแบบของการผสมผสานทางวัฒนธรรมไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยของเราที่เริ่มเข้าสู่ยุคการผสมผสานของวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ในแวดวงของการตกแต่งบ้าน ก็เริ่มเข้าสู่ยุคที่เรียกว่าร่วมสมัยด้วยเช่นกัน เรามาดูตัวอย่างบ้านสไตล์นี้กันค่ะ

ตัวอย่าง แบบบ้านไทยประยุกต์

แบบบ้านไทยประยุกต์

– มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณหน้าบ้าน นอกจากจะเป็นการเสริมเรื่องของฮวงจุ้ยที่ดี แล้วยังทำให้บ้านดูหรูขึ้นอีกด้วย –

แบบบ้านตัวอย่าง

– ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขกตกแต่งให้เป็นสีขาว สไตล์โมเดริน์ –

แบบบ้านตัวอย่าง

– ห้องนั่งเล่นอีกมุมของบ้าน ตกแต่งให้หลังคามีลักษณะ คล้ายๆ โดมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านเรือนไทย –

แบบบ้านตัวอย่าง

– มีมุมรับประทานอาหาร ตกแต่งสไตล์โมเดริน์ สามารถมองเห็นวิวรอบๆ บ้าน –

แบบบ้านตัวอย่าง

– ห้องนอนตกแต่งหลังคาทรงจั่วโดยใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก มีประตูไม้แกะสลักด้านหลังเตียงนอน ทำให้ได้บรรยากาศบ้านเรือนไทย –

แบบบ้านตัวอย่าง

– ห้องน้ำตกแต่งให้มีอ่างอาบน้ำตรงกลางห้อง มีเเชนเดอร์เรีย อยู่ด้านบนอ่างอาบน้ำ รู้สึกได้ถึงความหรูหรา และความเป็นส่วนตัว –

แบบบ้านตัวอย่าง

– มองจากมุมนี้ รู้สึกได้ถึงวิวที่สวยงาม เหมือนสระว่ายน้ำอยู่ติดกับทะเลแค่เอื่อม –

แบบบ้านตัวอย่าง

แบบบ้านตัวอย่าง

ปัจจุบันเราจะหารูปแบบบ้านที่เป็นบ้านเรือนไทยหรือทรงไทยแท้ๆ นั้นยากขึ้นทุกวัน แม้ว่าบ้านเรือนไทยจะมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัวเอง เป็นบ้านที่เหมาะสมกับภูมิอากาศบ้านเรา เพราะมีใต้ถุนสูง หลังคาสูง มีจั่วรับลม มีลานกว้างกลางบ้าน ช่วยให้ระบายอากาศร้อนได้ดี มีพื้นที่โล่ง โปร่งสบาย บ้านเรือนไทยนั้นอาจจะไม่ล้ำนำสมัยเหมือนบ้านแนวตะวันตกแบบใหม่ๆ ที่เค้านิยม ออกแบบกัน แต่บ้านเรือนไทยกลับสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยของเราออกมาได้อย่างชัดเจน

credit : decoist.com




 

Create Date : 09 กันยายน 2557    
Last Update : 9 กันยายน 2557 5:04:13 น.
Counter : 3100 Pageviews.  

ทําไมต้อง ตรวจภายใน

เมื่อเอ่ยถึง “ ตรวจภายใน ”  มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยละเลย บ่ายเบี่ยง หรืออายที่จะตรวจ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการ ตรวจภายใน สามารถบอกได้ว่าบริเวณอวัยวะเพศของคุณมีอะไรผิดปกติหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยร้ายของผู้หญิง… มะเร็งปากมดลูก

151616238

ซักประวัติ

ก่อนที่หมอจะบอกได้ว่า โรคหรือปัญหาที่อวัยวะเพศของคุณเป็นอะไร จำเป็นจะต้องซักถามประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นเสียก่อน จึงจะบอกได้ว่าเป็นโรคอะไร บางรายซักก็แล้วตรวจก็แล้ว ยังบอกไม่ได้ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจถึงจะได้คำตอบก็มี

การซักประวัติ ส่วนมากหมอจะถามว่าเป็นอะไรมา เป็นมาอย่างไร ตอนนี้อายุเท่าไรแล้ว มีลูกกี่คน คุมกำเนิดอย่างไร บางรายอาจต้องถามละเอียดมากกว่านี้ จนคนไข้บางคนคิดว่าหมอจะมาล้วงความลับก็มี เช่น ถามว่าเวลามีเพศสัมพันธ์แล้วเจ็บไหม มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหน การที่ต้องถามเช่นนี้ก็เพื่อจะได้ข้อมูลมากพอที่จะช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้องมากขึ้น

การตรวจภายใน

ภายหลังการซักประวัติคนไข้  สิ่งจำเป็นที่หมอจะต้องทำต่อคือ ” ตรวจภายใน ” คุณผู้หญิงบางคน  พอหมอบอกว่า”ต้องตรวจภายในครับ” ก็อิดออดต่อรองขอตรวจด้วยวิธีอื่นแทนได้ไหม เช่น ตรวจด้วยเอ็กซเรย์ หรือ อัลตราซาวน์แทนไม่ได้เหรอ จากนั้นจะมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้น ตั้งแต่กลัวจนตัวสั่น เสียงสั่น บางคนเหงื่อแตกเลยก็มี  หรือไม่ก็อิดออดขอกลับบ้านไปทำใจก่อน อาจเพราะอาย ตั้งแต่เป็นสาวมาจนวัยกลางคน  ยังไม่เคยให้ใครมากล้ำกลายอวัยวะเพศเลย ซ้ำร้ายบางคนสัญญากับตัวเองเลยว่า “ยังไงเสียก็จะไม่ตรวจภายใน ตายเป็นตาย” แต่เอาเข้าจริงๆ ส่วนมากไม่ค่อยยอมตายหรอก แต่กว่าจะตรวจได้ก็ปล่อยให้โรคเป็นไปมากจนเจ็บปวดทนไม่ไหวจึงยอมตรวจ
จากการสังเกตของหมอพบว่า เดี๋ยวนี้แทนที่สาว ๆ จะอาย กลับเป็นคนที่ค่อนข้างสูงอายุที่อายมากและอิดออดไม่ยอมตรวจ ยิ่งเป็นคุณย่าคุณยายยิ่งอายหนักเข้าไปอีก ส่วนสาว ๆ พอบอกว่าต้องตรวจภายใน หลายคนรีบขึ้นเตียงตรวจเลยก็มี บางคนหมอซักประวัติดูแล้ว คิดว่ายังไม่น่าจะต้องตรวจหรอกก็กลับเซ้าซี้ให้หมอตรวจก็มีเหมือนกัน

ตรวจภายใน บอกอะไร

โรคของอวัยวะเพศหญิง มีลักษณะของแต่ละโรคที่ไม่เหมือนกัน โรคบางโรค เช่น เนื้องอกมดลูกหรือเนื้องอกรังไข่ เวลาใช้เครื่องอัลตราซาวน์ตรวจ อาจสามารถมองเห็นเป็นภาพก้อนเนื้องอกได้ แต่บอกไม่ได้ว่าก้อนดังกล่าวกดเจ็บหรือไม่ ก้อนมีผิวเรียบหรือไม่ ขยับหรือเคลื่อนไหวได้หรือไม่ เป็นเนื้องอกชนิดธรรมดาหรือร้ายแรง จะรู้ได้ก็ต้องใช้การคลำด้วยมือเท่านั้น โดยการ “ตรวจภายใน” นั่นเอง  ซึ่งผลที่ได้จากการตรวจภายในร่วมกับการตรวจด้วยวิธีอื่น จะทำให้คุณหมอสามารถวินิจฉัยโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ตรวจภายใน ทำอย่างไร

เมื่อจะต้องรับการตรวจภายใน คุณผู้หญิงจะต้องขึ้นนอนบนเตียงที่ออกแบบมาเพื่อตรวจภายในโดยเฉพาะ โดยจะมีที่รองขาหรือที่เรียก”ขาหยั่ง” เพื่อแยกขาให้ออกจากกัน ทำให้เห็นอวัยวะสืบพันธุ์ได้ชัดเจน  นึกภาพตามไปเรื่อยๆ นะครับ

  1. หมอจะใช้น้ำยาทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด แล้วใช้ผ้าสะอาดคลุมบริเวณขาทั้ง 2 ข้างและหน้าท้องส่วนล่าง เหลือเปิดไว้เฉพาะบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
  2. เริ่มจากการตรวจดูบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และอาจต้องใช้มือคลำว่ามีก้อนเนื้องอกบริเวณปากช่องคลอดด้วยหรือไม่
  3. จากนั้นใช้เครื่องมือถ่างขยายปากช่องคลอด ซึ่งทำด้วยเหล็กใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อตรวจดูภายในว่ามีแผล มูกเลือดที่ปากมดลูกหรือช่องคลอดหรือไม่ รวมทั้งจะได้เช็คมะเร็งปากมดลูกไปด้วย
  4. และปิดท้ายด้วยการสอดนิ้วมือของมือข้างหนึ่งเข้าไปในช่องคลอด และใช้นิ้วของมืออีกข้างหนึ่งกดที่หน้าท้องโดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย แล้วใช้มือทั้ง 2 ข้างร่วมกันในการคลำอวัยวะในช่องท้อง ไม่ว่าจะเป็นมดลูกหรือรังไข่ว่าโตผิดปกติไหม กดเจ็บไหม มีถุงน้ำหรือเนื้องอกหรือเปล่า

ร่วมมือดี ตรวจได้ราบรื่น

การตรวจภายในจะเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าคุณผู้หญิงให้ความร่วมมือกับหมอซึ่งก็เพียงแค่นอนแยกขา แล้วปล่อยตัวตามสบาย ไม่เกร็งหน้าท้อง ทั้งนี้เพื่อให้หมอตรวจดูปัญหาในช่องคลอดได้ง่าย เห็นชัดเจน  เพราะถ้าเกร็งแล้ว จะคลำอะไรไม่ได้เลย

คุณผู้หญิงหลายคน เมื่อหมออธิบายการตรวจภายในจนเข้าใจดีแล้ว แต่พอถึงเวลาตรวจเข้าจริงก็อดไม่ได้ที่จะมีสารพัดอาการ บางคนเอามือมาคอยปิดเวลาหมอจะตรวจ พอหมอหยุดตรวจก็หยุดปิด พอจะตรวจใหม่ก็ปิดใหม่ ทำเหมือนเล่นชักเย่อ บางคนก็นอนตัวแข็งเกร็งเหมือนหุ่นยนต์ บางคนก็บิดก้นหนีเวลาหมอจะตรวจ เหมือนเล่นเกมตำรวจจับขโมย บางคนก็ส่ายก้นไปมา หรือเลื่อนก้นขึ้นลงเหมือนนั่งม้าโยก ซึ่งทำให้การตรวจภายในยุ่งยาก และอาจทำให้ตรวจผิดหรือตรวจไม่ได้เลย ต้องบอกตรงๆ ว่าเสียเวลาทั้งคนไข้และหมอครับ

ทั้งนี้การตรวจภายใน หากพบความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ และได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องก็สามารถช่วยได้ครับ.

ขอบคุณที่มาจาก : รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์
สูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล




 

Create Date : 09 กันยายน 2557    
Last Update : 9 กันยายน 2557 4:59:42 น.
Counter : 1098 Pageviews.  

การสื่อสารเชื่อมสมองถึงสมองคนอื่นโดยตรง

การสื่อสารเชื่อมสมองถึงสมองคนอื่นโดยตรง

Written by Natty_sci on . Posted in ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี

01

นับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเครื่องมือสื่อสารจากสมองถึงสมองของอีกคนหนึ่งได้โดยตรง

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติที่ประกอบไปด้วยนักประสาทวิทยาและวิศวกรหุ่นยนต์ประสบความสำเร็จในการสื่อสารข้อมูลจากหัวของคนหนึ่งผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังมนุษย์อีกคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป 5,000 ไมล์ โดยได้รายงานระบบที่คิดค้นขึ้นนี้ในวารสารวิชาการ PLOS ONE แล้ว

"เราอยากจะรู้ว่าคนเราจะสามารถสื่อสารโดยอ่านข้อมูลจากกิจกรรมของสมองของคนหนึ่งแล้วฉีดกิจกรรมของสมองนี้ไปยังอีกคนหนึ่งได้หรือไม่ และหากระยะทางไกลกันมากๆจะเป็นไปได้หรือไม่" ศ.นพ.ดร.อัลบาโร ปาสกาล-โลโอเน ผู้อำนวยการศูนย์เบเรนสัน-อัลเลนแห่ง Noninvasive Brain Stimulation at Beth Israel Deaconess Medical Center (BIDMC) และศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เผย

"แน่นอนว่า ทางเชื่อมต่อที่เป็นได้คืออินเตอร์เน็ต แล้วก็จะเข้าสู่คำถามที่ว่า เราจะพัฒนาการทดลองที่ทำให้เกิดการสื่อสารจากสมองสู่สมองผ่านอินเตอร์เน็ตระหว่างบุคคลหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งเช่นในอินเดียหรือฝรั่งเศสได้หรือไม่"

และคำตอบก็คือ เป็นไปได้

ศาสตราจารย์ ปาสกาล-เลโอเน พร้อมด้วยกูลิโอ รัฟฟินี และคาร์เลส กรอย ทีมวิจัยจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และมิเชล เบิร์ก ทีมวิจัยจากสตาร์บูร์ก ฝรั่งเศส ได้ทำการทดลองส่งข้อความคำว่า "hola" และ "ciao" ที่มีความหมายว่า "สวัสดี" ผ่านเครื่องส่งข้อความจากสมองสู่สมองโดยใช้คอมพิวเตอร์ จากตำแหน่งหนึ่งที่อยู่ในอินเดียไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งที่อยู่ในฝรั่งเศส โดยใช้ electroencephalogram (EEG) ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และใช้เทคโนโลยี transcranial magnetic stimulation (TMS) โดยมีหุ่นยนต์คอยช่วยและมีภาพคอยนำทาง เข้าช่วย

ก่อนหน้านี้ เทคโนโลยีเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และสมอง หรือ BCI โดยใช้ EEG จะใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ โดยอิเล็กโทรดที่ติดเข้าหัวกระโหลกของคนนั้นจะทำการบันทึกและรับรู้การคิดของมนุษย์ที่มนุษย์รับรู้ เช่น ความคิดว่าเคลื่อนไหวแขนหรือขา จากนั้น คอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลสัญญาณเหล่านี้และแปรผลเป็นข้อความเพื่อป้อนออกมาควบคุมสิ่งต่างๆเช่นหุ่นยนต์หรือรถเข็น

แต่ในการศึกษาครั้งใหม่นี้ ทีมวิจัยได้เพิ่มมนุษย์อีกคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป คืออยู่อีกฝั่งหนึ่งของระบบ ในการทดลองนี้ มีผู้เข้าร่วม 4 คนอายุระหว่าง 28 ถึง 50 ปี เมื่ออาสาสมัครคนหนึ่งเข้าร่วมทดสอบระบบเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์และได้รับคำสั่งให้ส่งข้อความ อีกสามคนที่เหลือจะได้รับข้อความและจะต้องเข้าใจข้อความเหล่านี้

และทีมวิจัยก็สามารถแปลข้อความคำทักทายคำว่า "hola" และ "ciao" เป็นรหัสไบนารี และส่งข้อความผ่านอีเมล์จากอินเดียไปฝรั่งเศส จากนั้นคอมพิวเตอร์อีกฝั่งก็รับข้อความที่ส่งมาแล้วส่งต่อไปยังผู้รับด้วยการกระตุ้นสมองด้วยวิธี noninvasive (ไม่ผ่าตัดเจาะเข้าไปในสมอง) ผู้รับสารจะได้รับในรูปแบบของแสงวาบ และแสงก็จะแสดงออกมาเป็นลำดับเชิงตัวเลขและฝ่ายผู้รับจะต้องเป็นคนถอดรหัสข้อมูลที่มากับข้อความเหล่านี้ ผลออกมาคือ ผู้รับไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่สามารถรับข้อความทักทายได้อย่างถูกต้อง

ส่วนในการทดลองที่สองนั้นก็ทำคล้ายๆกัน คือทำที่ฝรั่งเศสและสเปน และผลที่ออกมาก็เกิดความคาดเคลื่อนเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็นต์ในการถอดรหัส โดย 11 เปอร์เซ็นต์มาจากการข้อความที่ปลายทาง และอีกราวๆ 5 เปอร์เซ็นต์มาจากความผิดพลาดของการเข้ารหัสที่ต้นทาง

"เมื่อใช้เทคโนโลยีประสาทที่มีความแม่นยำ รวมถึงการใช้ EEG แบบไร้สายและ TMS ที่มีหุ่นยนต์ช่วยนี้ เราสามารถส่งข้อความจากคนหนึ่งไปยังอีกคนได้โดยตรงและไม่ต้องผ่าตัด โดยที่คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องพูดหรือเขียนอะไรเลย" ศาสตราจารย์ ปาสกาล-เลโอ เผย

"จุดนี้นับเป็นจุดที่ยิ่งใหญ่ในการสื่อสารของมนุษย์ แต่เราจะสามารถทำได้ในระยะทางที่ไกลหลายพันไมล์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะพิสูจน์หลักการของการสื่อสารจากสมองถึงสมองได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าการทดลองเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงก้าวแรกของการค้นหาความเป็นไปได้ที่จะสร้างระบบการสื่อสารจากสมองถึงสมองที่ตัวสารจะเป็นภาษาหรือการเคลื่อนไหวต่างๆได้ต่อไป"

อ้างอิง: Beth Israel Deaconess Medical Center. (2014, September 3). Direct brain-to-brain communication demonstrated in human subjects. ScienceDaily. Retrieved September 4, 2014 from //www.sciencedaily.com/releases/2014/09/140903105646.htm

งานวิจัย: Carles Grau, Romuald Ginhoux, Alejandro Riera, Thanh Lam Nguyen, Hubert Chauvat, Michel Berg, Julià L. Amengual, Alvaro Pascual-Leone, Giulio Ruffini.Conscious Brain-to-Brain Communication in Humans Using Non-Invasive TechnologiesPLoS ONE, 2014; 9 (8): e105225 DOI:10.1371/journal.pone.0105225





 

Create Date : 09 กันยายน 2557    
Last Update : 9 กันยายน 2557 4:51:26 น.
Counter : 1722 Pageviews.  

ไอเดียแต่งบ้านด้วย เฟอร์นิเจอร์สีนีออน แต่งห้องให้ดูสว่างตา

สีนีออน หรือเรียกอีกอย่างว่าสีสะท้อนแสง ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากดินแดนแฟชั่น ที่ใช้สีนีออน ทำเป็นเสื้อผ้า เช่นกางเกงขาสั้น และอุปกรณ์เสริม เช่นสร้อยคอ จึงเกิดแรงบันดาลใจทำให้มีผู้ออกแบบหลายท่านนำสีนีออนมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เพื่อทำให้บ้านสดใส และสว่างตาขึ้น เราจึงนำตัวอย่าง เฟอร์นิเจอร์สีนีออน มาให้ท่านเป็นไอเดียเพื่อนำไปตกแต่งบ้านของท่าน

เฟอร์นิเจอร์สีนีออน แต่งห้องให้ดูสว่างตา

เฟอร์นิเจอร์สีนีออน
สีชมพูสะท้อนแสงกับโต๊ะทำงาน อาจจะเป็นเรื่องที่ขาดไม่ถึง แต่พอนำมาตกแต่งกับผนังสีขาวและองค์ประกอบต่างๆ ทำให้ห้องน่าสนใจ

เฟอร์นิเจอร์สีนีออน
พูดถึงการรผสมสีที่น่าสนใจ ฉากหลังของห้องเป็นสีฟ้าสดใส โต๊ะสีเหลือง และเก้าอี้นั่งเล่นนีออนสีชมพู ทำให้ห้องนี้สดใส สมบูรณ์แบบ

neon-green-poster-bed
เสน่ห์ของเตียงสีเขียวนีออน ผ้าคุมเตียงลายดอกไม้ และโต๊ะข้างสีม่วง ทำให้เกิดจุดโฟกัสที่สวยงาม

neon-pink-chairs
เก้าอี้สีชมพูนีออน วอลล์เปเปอร์สีเทาลายดอกกุหลาบ กับงานศิลปะที่ผนังห้องช่วยให้พื้นที่ดูสง่างาม

neon-lighting

แสงจากไฟนีออนสาดเข้ามาที่ เก้าอี้สานสีฟ้า ห้องดูสดใส ทันสมัยขึ้น

neon-glass-vases

IMG_5190-004

แจกันแก้ว เรืองแสงในห้องสีขาว

neon-colored-furniture-and-a

เฟอร์นิเจอร์สีนีออน แต่งห้องสวย เพิ่มความสว่างให้ห้องคุณได้จริง

Credit : decoist.com




 

Create Date : 08 กันยายน 2557    
Last Update : 8 กันยายน 2557 4:25:29 น.
Counter : 1755 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.