อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

ผลวิจัยใหม่ทางแพทย์ กัญชาแก้อัลไซเมอร์ ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม

ผลวิจัยใหม่ทางแพทย์ กัญชาแก้อัลไซเมอร์ ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม

กัญชาแก้อัลไซเมอร์

ถึงแม้ยาเสพย์ติดอาจจะมีโทษต่อสุขภาพและชีวิตเราซักแค่ไหน แต่ยังไงเหรียญก็ต้องมี 2 ด้านเสมอ ถึงมันจะมีข้อเสีย แต่ลึกๆแล้วมันอาจจะมีข้อดีอยู่บ้าง เพราะล่าสุด คณะวิจัยได้ออกมาเผยแล้วว่า กัญชาแก้อัลไซเมอร์ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่วิจัยนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงขาสูบทั้งหลายอาจจะมีเฮได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรทาง Men.MThai ก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอเพื่อนๆ อยู่แล้วครับ

กัญชาแก้อัลไซเมอร์

กัญชาแก้อัลไซเมอร์

นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา (University of South Florida) ได้ออกมาเผยว่า พวกเขาได้ค้นคว้าและวิจัย กัญชา จนเชื่อว่า กัญชาอาจเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเกิดโรคอัลไซเมอร์เลยก็ได้ นำทีมค้นคว้าโดย นำทีมโดย ดร. Chuanhai Cao โดยการศึกษาดำเนินการศึกษาในรูปแบบของเซลล์โรคอัลไซเมที่พบว่าปริมาณที่น้อยมากของโดส THC ในกัญชา ที่จะทำให้เราเมา แต่จะมีโปรตีนที่เรียกว่า amyloid beta ซึ่งโปรตีนนี้แหละ จะสร้างเนื้อเยื่อในสมองที่นำไปสู่การเกิดขึ้นของการเกิดโรคอัลไซเมอร์นั่นเอง

กัญชาแก้อัลไซเมอร์

กัญชาแก้อัลไซเมอร์

อีกทั้ง ความเข้มข้นต่ำของสาร THC ยังมีความสามารถในการสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ไมโทคอนเดรีย ที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานของเซลล์โดยการหายใจระดับเซลล์ในวัฏจักรเครบส์ที่เมทริกซ์และการถ่ายทอดอิเล็กตรอนที่คริสเต ซึ่งทำหน้าที่ในการคอยช่วยให้พลังงานสมองในการส่งสัญญาณอีกต่างหาก ซึ่งตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นกันต่อไปแหละครับ ว่าทางทีมงานวิจัยจะสามารถหาความสามารถที่แท้จริงของเจ้ากัญชา มาทำประโยชน์ในทางการแพทย์อย่าง กัญชาแก้อัลไซเมอร์ ได้หรือไม่




 

Create Date : 03 กันยายน 2557    
Last Update : 3 กันยายน 2557 5:18:15 น.
Counter : 2187 Pageviews.  

บ้านคือแหล่งรวมของจุลินทรีย์

บ้านคือแหล่งรวมของจุลินทรีย์

Written by Natty_sci on . Posted in ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์, สุขภาพ, โรคภัยไข้เจ็บ

10

บ้านคือวิมานของใครหลายๆคน และแน่นอน เป็นวิมานของสิ่งมีชีวิตจำพวกจุลินทรีย์เป็นล้านล้านตัวด้วย

งานวิจัยหนึ่งของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยพลังงานอาร์โกนเน่ และมหาวิทยาลัยชิคาโก ได้เผยถึงรายละเอียดจากการวิเคราะห์จุลินทรีย์ตามบ้านและอพาร์ทเมนต์ โดยงานวิจัยนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Science แล้ว

การศึกษาครั้งนี้ให้ความสนใจกับปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่รอบๆเรา หลักฐานเผยว่า จุลินทรีย์เหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพของเรา การรักษาโรค และการติดต่อ

"ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าแบคทีเรียบางตัวอาจจะทำให้หนูน้ำหนักขึ้นได้ และบางทีก็ช่วยให้หนูมีพัฒนาการของสมองที่ดี" แจ็ค กิลเบิร์ด นักวิจัยเผย

"เราอยากจะรู้ว่าแบคทีเรียเหล่านี้มาจากไหน และทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตอยู่กับบ้านหรือในร่มมากขึ้น เราเลยอยากจะรู้ว่า จุลินทรีย์เหล่านี้อาศัยอยู่ในบ้านกับเราและเรารับมือกับพวกมันอย่างไร"

"นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจในโลกศตวรรษที่ 21 นี้"

โครงการนี้มีชื่อว่า Home Microbiome Project โดยได้ติดตามครอบครัว 7 ครอบครัว ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 18 ปี สุนัข 2 ตัว และแมว 1 ตัวอาศัยอยู่ ได้ทำการติดตามเป็นเวลา 6 สัปดาห์ นักวิจัยได้ทำการใช้สำลีเก็บตัวอย่างจากมือ เท้า และจมูกทุกวันเพื่อเก็บรวบรวมจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่บนตัวพวกเขา และได้เก็บตัวอย่างจากพื้นที่ต่างๆในบ้าน ทั้งประตู สวิตช์หลอดไฟ พื้น และเคาน์เตอร์

เมื่อนักวิจัยได้ตัวอย่างแล้ว ก็ทำการวิเคราะห์ดีเอ็นเอเพื่อศึกษาดูว่าแบคทีเรียแต่ละตัวเป็นชนิดไหนบ้าง

"เราอยากจะรู้ว่าคนเราได้รับผลกระทบจากจุลินทรีย์ทั่วไปในบ้านมากน้อยแค่ไหน" กิลเบิร์ตเผย

นักวิจัยได้พบว่า คนเราได้รับผลกระทบจากจุลินทรีย์ตามบ้านพอสมควร โดยเมื่อครอบครัว 3 ครอบครัวไม่อยู่บ้าน จุลินทรีย์ใช้เวลาไม่ถึงวันที่จุลินทรีย์จะกลับมาเยอะเหมือนเดิม

การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วยการสัมผัสก็มีผลมากเช่่นกัน โดยในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อคนสองสามคนมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันก็จะทำให้จุลินทรีย์ไปมาหาสู่กันจำนวนมาก สำหรับครอบครัวพ่อแม่และลูกน้อยนั้นมีจุลินทรีย์อยู่มากที่สุ

ในบ้านหลังหนึ่ง มือเป็นแหล่งที่มีจุลินทรีย์ชนิดเดียวกันอยู่มากที่สุดในแต่ละคน ขณะที่จุลินทรีย์ที่จมูกมักจะไม่ค่อยเหมือนกัน

ส่วนสัตว์เลี้ยงนั้นก็ทำให้จุลินทรีย์ในบ้านไม่เหมือนเดิมเช่นกัน โดยนักวิจัยพบว่า แบคทีเรียตามพืชและดินนั้นจะมีมากในสุนัขและแมวที่ใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้าน

อย่างน้อยที่สุดคือ มีกรณีหนึ่งที่นักวิจัยได้ศึกษาแบคทีเรียก่อโรคที่ชื่อ Enterobacter ที่พบในมือคน ห้องครัว และที่อื่นๆเป็นครั้งแรก

"แต่ไม่ได้หมายความว่าเคาน์เตอร์ครัวเป็นแหล่งแพร่เชื้อ แต่แบคทีเรียตัวนี้ก็เป็นสิ่งไม่ดี ชีวิตคนเราก็เป็นปกติอยู่แล้วที่จะเผชิญหน้ากับแบคทีเรียอันตรายในนสิ่งแวดล้อมของเรา แต่มันจะเป็นเรื่องแน่ถ้าระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่ทำงาน"

กิลเบิร์ตเชื่อว่า การศึกษาครั้งนี้น่าจะช่วยให้เราหาวิธีป้องกันได้อย่างถูกต้อง โดยเมื่อเก็บตัวอย่างมาจากพื้นบ้านนั้น กิลเบิร์ตบอกว่า "เราทำนายได้ง่ายๆเลยว่ามันเป็นจุลินทรีย์ตระกูลไหน"

นักวิจัยยังเผยว่า เมื่อคนออกจากบ้าน จุลินทรีย์จะมีการย้ายที่อย่างสังเกตเห็นได้

"ตามทฤษฎีแล้ว อาจจะใช้ข้อมูลตรงนี้มาทำนายได้แม่นๆเลยว่า คนๆหนึ่งอยู่ตรงไหนในบ้าน และล่าสุดนี้ไปตรงไหน"

อ้างอิง: DOE/Argonne National Laboratory. (2014, August28). Home is where the microbes are. ScienceDaily. Retrieved August 30, 2014fromwww.sciencedaily.com/releases/2014/08/140828142746.htm

งานวิจัย: S. Lax, D. P. Smith, J. Hampton-Marcell, S. M. Owens, K. M. Handley, N. M. Scott, S. M. Gibbons, P. Larsen, B. D. Shogan, S. Weiss, J. L. Metcalf, L. K. Ursell, Y. Vazquez-Baeza, W. Van Treuren, N. A. Hasan, M. K. Gibson, R. Colwell, G. Dantas, R. Knight, J. A. Gilbert. Longitudinal analysis of microbial interaction between humans and the indoor environmentScience, 2014; 345 (6200): 1048 DOI: 10.1126/science.1254529





 

Create Date : 03 กันยายน 2557    
Last Update : 3 กันยายน 2557 5:11:21 น.
Counter : 1544 Pageviews.  

10 ประเทศที่วัยรุ่นอยากไปเป็นนักเรืยนแลกเปลื่ยนมากที่สุด

10 ประเทศที่วัยรุ่นอยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมากที่สุด


เพื่อนๆ teen.mthai เคยคิดอยากจะไป เรียนต่อต่างประเทศ กันบ้างรึเปล่าคะ? แล้วประเทศไหนที่เพื่อนๆอยากไปมากที่สุด .. เราเลยเอา 10 อันดับ?ประเทศที่ วัยรุ่น อยากไปเป็น นักเรียนแลกเปลี่ยน มากที่สุด มาให้เพื่อนๆดูกัน .. 10 ประเทศที่วัยรุ่นอยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมากที่สุด

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

10 ประเทศที่วัยรุ่นอยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมากที่สุด

อันดับ 10 ประเทศอาร์เจนตินา

เป็นประเทศที่เรียกได้ว่ามาแรงใช่ย่อย ถึงจะอยู่ไกลสุดโพ้นถึงทวีปอเมริกาใต้ แต่เด็กไทยหลายคนก็ยังยืนเป็นเสียงเดียวกันว่า “หนู/ผมอยากไปอาร์เจนตินาค่ะ !” ซึ่ง สาเหตุหลักๆ ก็เพราะว่าประเทศนี้เค้าพูดภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ ดังนั้นเพื่อนๆหลายคนที่ชื่นชอบภาษาสเปนหรือพอพูดสเปนได้ ก็เลยอยากจะลองไปแลกเปลี่ยนที่นี่ ก็แอบสงสัยอยู่ว่า อ้าว แล้วทำไมไม่ไปสเปนกันเลยล่ะคะ ? ซึ่งน้องๆ ก็ตอบมาได้อย่างน่าสนใจมากว่า สเปนอยู่ยุโรปนี่เอง จะไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ไปได้ แต่โอกาสไปเที่ยวอาร์เจนตินานี่ค่อนข้างยากมาก ดังนั้นนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ไปอาร์เจนตินาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน (จริงด้วยแฮะ)

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 9  ประเทศจีน

ดินแดนมังกรยอดฮิตที่หลายคนฝันใฝ่อยากไป โดยเฉพาะเพื่อนๆ?ที่มีเชื้อสายจีน เพราะอาม่า อากง อาอึ้มที่บ้านต่างก็สนับสนุนให้ไปจีนกันอยู่แล้ว สาเหตุหลักๆ ก็ไม่พ้นภาษาจีนที่เป็นภาษาที่สำคัญมากๆ ภาษาหนึ่งของโลก ขอบอกเลยว่าปัจจุบันคนรู้ภาษาจีนเยอะมากๆ ดังนั้นนี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไปอยู่ในประเทศจีนที่ใช้ภาษาจีน เพื่อฝึกทักษะภาษาจีนของเราให้ยิ่งเก่งกว่าคนทั่วไป รวมถึงประเทศจีนก็ยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยมาก นั่งเครื่องบิน 5-6 ชั่วโมงก็ได้กลับมาเจอหน้าคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านแล้ว แถมที่จีนเนี่ย ยังมีนักเรียนไทยไปเรียนกันเยอะมากๆ ดังนั้นขอบอกเลยว่าไม่เหงาแน่นอน คนไทยเดินสวนกันเต็มเมืองค่ะ (ถ้าไม่ได้ไปอยู่เมืองแปลกๆ อะเนอะ)

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 8  โปรตุเกส

โอ้โห ประเทศนี้ติดโพลมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่ได้หมายถึงโปรตุเกสไม่ดีหรืออะไรยังไงนะคะ แต่เพราะเพื่อนๆ?บางคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อหรือรู้จักโปรตุเกสกันมากนัก แต่ขอบอกว่าเลยว่าประเทศโปรตุเกสเนี่ยเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ใครชอบความสงบและธรรมชาติริมทะเลแบบชิลๆ ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาดค่ะ ส่วนสาเหตุสำคัญที่โปรตุเกสกลายเป็นอีกประเทศยอดฮิตที่น้องๆ อยากไปแลกเปลี่ยนกันก็เพราะว่า เกิดจากการบอกเล่ากันปากต่อปากจากรุ่นพี่ที่เคยไปโปรตุเกสต่อกันมาเป็นทอดๆ ว่าที่นี่ดีมาก สงบ น่าอยู่ ดังนั้นรุ่นน้องรุ่นหลังๆ ก็เลยอยากจะไปแลกเปลี่ยนที่นี่บ้างนั่นเอง

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 7  บราซิล

ประเทศนี้เค้าเตะฟุตบอลเก่งกันระดับโลกเลยล่ะค่ะ เพราะเราๆ ส่วนมากก็รู้จักแซมบ้าบราซิลกันจากฟุตบอลใช่มั้ยคะ ? 5555 และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เทศกาล Carnival ของบราซิลที่เป็นเทศกาลที่ดังไปทั่วโลกและใครๆ ก็อยากจะสัมผัสด้วยตัวเอง อัน ที่จริงเทศกาล Carnival เนี่ย ที่ไหนๆ ก็มีค่ะ แต่เค้าก็ว่ากันว่าไม่มีที่ไหนจะยิ่งใหญ่และสนุกกว่าบราซิลแล้วล่ะ ดังนั้นใครชอบความคึกคักเฮฮาปาจิโกะ ขอแนะนำให้เลือกบราซิลกันโลดดดด ! อ้อ แล้วอีกอย่าง ที่บราซิลเค้าพูดภาษาโปรตุเกสกันนะคะ ไม่ใช่ภาษาเม็กซิกันหรือภาษาสเปน ไม่ใช่นะไม่ใช่

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 6 เดนมาร์ค

ฮิตกันแบบเบาๆ แต่ก็ฮิตอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่ฝันอยากไปยุโรปเหนือแถบสแกนดิเนเวียที่ได้ชื่อว่าเป็นแถบที่น่าอยู่ที่ สุดและปลอดภัยที่สุดในโลก (และค่าครองชีพก็แพงปลิดชีพที่สุดด้วย) ซึ่งขอบอกเลยว่าเดนมาร์คเนี่ยเป็นอะไรที่น่าอยู่มากจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะใครที่โชคดีได้ไปอยู่ที่เมืองหลวง(กรุงโคเปนฮาเกน) เพราะที่นี่มีถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในโลก ! ใครที่ชอบช้อปปิ้งในบรรยากาศชิคๆ แต่ไม่วุ่นวายเท่าปารีสหรือโรม ขอแนะนำประเทศเดนมาร์คเลยค่ะ หรือใครเกิดซ่าๆ หน่อย ก็ลองนั่งรถไฟจากเดนมาร์คไปเดินเล่นแบบไปเช้าเย็นกลับที่สวีเดนยังได้เลยค่ะ ใกล้กันนิดเดียว เก๋ๆ ปะล่ะ

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 5  เบลเยี่ยม

ถ้าพูดถึงดินแดนช็อกโกแลต เพื่อนๆคงจะนึกถึงสวิตเซอร์แลนด์ใช่มั้ยคะ ? แต่ความจริงแล้ว เค้าว่ากันว่า ช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลกจริงๆ อยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยมนี่แหละค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีวอฟเฟิลชื่อดังที่ใครได้ชิมก็ต้องติดใจทุกราย ดังนั้นใครชื่นชอบขนมหวานและไม่กลัวอ้วน เบลเยี่ยมรอคุณอยู่แน่นอนค่ะ และนอกจากนี้ ถึงแม้เบลเยี่ยมจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่คนที่นี่เค้าก็พูดกันถึง 3 ภาษาเลยค่ะ เมืองไหนอยู่ใกล้ฝรั่งเศสก็พูดฝรั่งเศส เมืองไหนอยู่ใกล้เยอรมันก็พูดเยอรมัน และเมืองไหนอยู่ใกล้เนเธอร์แลนด์ก็พูดดัตช์กัน ดังนั้นใครอยากรู้หลายๆ ภาษาให้งงเล่นๆ Let’s go to Belgium กันด่วน

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 4  ญี่ปุ่น

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมดินแดนซูโม่แห่งนี้ถึงเข้ามาติดชาร์ท อันดับ 4 ที่เพื่อนๆ อยากไปแลกเปลี่ยนกันได้มากที่สุด เพราะที่นี่มีทุกอย่างค่ะ ! ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นสุดอร่อย หรือจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย หรือจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง โอ๊ยยย ช้อปได้ทั้งวันเถอะ แถมยังมีดาราญี่ปุ่นจอห์นนี่จูเนียร์ คาเมะ ทาเคชิอีกต่างๆ นานาที่ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งอกตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ปัจจุบัน กำลังเป็นอีกภาษาชั้นนำของโลกไม่แพ้ภาษาจีน แถมยังมีเทคโนโลยีสุดทันสมัยอัปเดทก่อนใครในโลก ชุดนักเรียนก็น่ารักคิกขุอีกต่างหาก โอ้โห ไม่ว่าจะไปเรียนหรือไปเที่ยว ขอบอกว่ามันเริดที่สุดเลยค่ะญี่ปุ่นเนี่ย

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 3 เยอรมัน

อีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่มักจะมีโควต้ารับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากไทยเยอะกว่าประเทศอื่น จึงทำให้ใครๆ ต่างก็แห่มาเลือกเยอรมันกัน และแน่นอนว่าเพื่อนๆ ส่วนมากที่เลือกไปเยอรมันกันก็มักจะเป็นเด็กศิลป์-เยอรมัน ที่ร่ำเรียนเยอรมันกันมาเป็นปีๆ และอยากจะลองไปเจอของจริงกันที่ดินแดนเบียร์แห่งนี้ ขอบอกว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะจากเหนือจรดใต้ของเยอรมันนั้น เด็ดทุกที่ !! ไล่ลงมาเลยตั้งแต่แฮมเบิร์ก เบอร์ลิน ฮันโนเวอร์ ดุสเซลดอฟ โคโลญจน์ แฟรงเฟิร์ต สตุ๊ทการ์ท มิวนิค เที่ยวเป็นปียังเที่ยวไม่ครบเลยล่ะ และที่เด็ดกว่านั้นคือ ประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่ฮวงจุ้ยดีมาก เพราะทิศตะวันตกติดเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส ทิศเหนือติดเดนมาร์ค ทิศตะวันออกติดโปแลนด์ เชค ออสเตรีย ทิศใต้ติดสวิตเซอร์แลนด์ โอ้โห สุดสัปดาห์อยากไปเที่ยวไหน กดปุ่มเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 2 อิตาลี

ไม่ต้องแปลกใจอะไรกันเลยว่าทำไมใครๆ ถึงอยากไปอิตาลี เพราะประเทศนี้เค้าครบเหมือนกันค่ะ ! อาหารก็อร่อย ภาษาอิตาเลียนก็เพราะ สถาปัตยกรรมก็ยิ่งใหญ่และสวย(มาก) แหล่งช้อปปิ้งก็ดังระดับโลก และผู้ชายก็หล่อด้วย (เอ่อ… เกี่ยวมั้ย -*-) เที่ยวเป็นปีก็เที่ยวไม่ครบเหมือนเยอรมันนี่แหละค่ะ เริ่มจากเหนือจรดใต้ด้วยการไปช้อปปิ้งเชิดๆ ที่มิลาน จากนั้นก็ไปล่องเรือกอนโดล่าที่เวนิซ ก่อนไปเดินชิลๆ ชมบ้านเมืองสวยๆ ที่ฟลอเรนซ์ แว้บไปถ่ายรูปกับหอเอนปิซ่าที่เมืองปิซ่า นั่งรถไฟต่อไปดูน้ำพุเทรวี่ที่กรุงโรม ปิดท้ายด้วยไปนั่งชิลริมทะเลที่เมืองเนเปิลส์ โอ้โห น่าอิจฉาไปมั้ยคะเนี่ย ?

10 อันดับ ประเทศ สุดฮิต ของ นักเรียนแลกเปลี่ยน

อันดับ 1  สหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง! ดินแดนแห่งเสรีภาพที่ใครๆ ก็อยากไปเยือนมากถึงมากที่สุด เพราะมีโควต้ารับเด็กไทยปีละป็นร้อยๆ คน จึงทำให้เพื่อนๆ ต้องสอบแข่งขันแย่งชิงกันสุดฤทธิ์สุดเดชเพื่อให้ได้ไปที่นี่ ซึ่งถ้าหากพูดถึงอเมริกา ทุกคน หลายคนคงจะนึกถึงแต่แสงสีเสียงในนิวยอร์ก หรือฮอลลีวู้ดสุดไฮโซที่ลอสแองเจอลิส แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่า ที่คิดเอาไว้กับที่ไปเจอจริงๆ มักสวนทางกัน เพราะบางคนถูกส่งไปอยู่นอกเมือง ไม่มีห้าง ไม่มีซุปเปอร์มารเก็ต ไม่มีรถบัส จะเข้าเมืองทีต้องโบกรถข้างทางแล้วต่อสองแถว (มีสองแถวมั้ย?) ลำบ๊ากลำบาก ลำบากกว่าตอนอยู่ไทยอีก จากที่คิดไว้ว่าจะเที่ยวห้างทุกเสาร์อาทิตย์ แต่กลับต้องนั่งเลี้ยงวัวในฟาร์มของโฮสท์แฟมิลี่ แต่ทั้งหมดมันคือประสบการณ์ที่จะหล่อหลอมให้เราเข้มแข็งขึ้นนั่นเองค่ะ :)

เพื่อนๆคนไหนที่ได้ไปเป็น นักเรียนแลกเปลี่ยน เรียนต่อต่างประเทศ แล้วละก็มาบอก teen.mthai กันบ้างนะคะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง? อย่างน้อยเมื่อเราได้โอกาสไปเรียนแล้ว ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ และ ความรู้ ไว้ให้มากที่สุดนะคะ ^^

ที่มา : toptenthailand




 

Create Date : 02 กันยายน 2557    
Last Update : 2 กันยายน 2557 4:56:05 น.
Counter : 1484 Pageviews.  

แพ้ ยาแก้อักเสบ ทําให้เมาได้จริงหรือ...

จากข่าวบันเทิงที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นข่าวของดาราชาย โฬม พัชฏะ ที่ไปออกงานอีเว้นท์งานหนึ่ง โดยระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ หนุ่มโฬมก็มีอาการแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด อาทิ พูดเสียงสูง, พูดกระดกลิ้นรัว, ตาปรือ, หน้าซีด, ยืนไม่นิ่ง และมีท่าทางประกอบการพูดที่ผิดกับปกติไปมาก คล้ายคนที่มีอาการมึนเมา ทั้งนี้ทางผู้จัดการส่วนตัวของหนุ่ม โฬม พัชฏะ เผยเป็นอาการจากการเบลอและแพ้ยาแก้อักเสบที่กินเข้าไปก่อนที่จะมาร่วมงานดังกล่าว ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า การแพ้ ยาแก้อักเสบ จะทำให้เกิดอาการเบลอ มึนเมา ได้เช่นนี้หรือ? วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับ ยาแก้อักเสบ มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่า

73823-r-1409344398848

อย่างแรกเลยเราต้องทำความเข้าใจกันใหม่เสียก่อน เนื่องจากคนไทยมักชอบเรียกชื่อยาแบบผิดๆ ซึ่งมักเรียกยาปฏิชีวนะว่า “ยาแก้อักเสบ” ซึ่งเป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง โดยยาปฏิชีวนะ และ ยาแก้อักเสบ แตกต่างกัน และใช้รักษาอาการป่วยที่ต่างกันด้วย โดยสรุปได้ง่ายๆดังนี้

  • ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin Antibiotics) อะมอกซิซิลลิน (Amoxycillin) เตตราไซคลีน (Tetracyclines) ซึ่งไม่มีฤทธิ์แก้ปวด หรือลดการอักเสบ ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส ใช้รักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น! เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นหนอง
  • ยาแก้อักเสบ (NSAIDs ย่อมาจาก Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) เป็นยาที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ซึ่งไม่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียและไวรัส ใช้บรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ เช่น ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ อาการเคล็ดขัดยอก เส้นเอ็นอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ

77864672

หากแพ้ยาปฏิชีวนะ และ ยาแก้อักเสบ จะมีอาการอย่างไร?

อาการของคนแพ้ ยาปฏิชีวนะ

  • พบบ่อย : อึดอัดในท้อง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ลำไส้ใหญ่อักเสบ มีอาการท้องเป็นตะคริวและท้องเดินอย่างรุนแรง ท้องเดินไม่หยุดจนกระทั่งอาจถ่ายเป็นเลือด ปากระบม ลิ้นเป็นฝ้า โลหิตจาง เลือดออกง่ายผิดปกติ จำนวนเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาวลดต่ำ ติดเชื้อราในช่องปากและทวารหนัก
  • พบได้น้อย : ระคายช่องคลอด เบื่ออาหาร คันนัยน์ตา และรู้สึกร้อนวูบวาบ
  • พบได้น้อยมาก : ผิวหนังหรือตาขาวเป็นสีเหลือง

อาการของคนแพ้ ยาแก้อักเสบ

อาการแพ้แบบอันตราย ควรหยุดยาทันทีและปรึกษาแพทย์ในกรณีที่พบอาการดังต่อไปนี้

  • มีอาการแน่หน้าอก อ่อนแรง หายใจเหนื่อยหอบ อาการเตือนของสมองขาดเลือด
  • อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจาระดำ
  • ไอเสมหะมีเลือดปน อาเจียนดำเหมือนน้ำโค๊ก
  • บวมเท้า หรือน้ำหนักขึ้นมาก
  • ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
  • คลื่นไส้อาเจียน แน่นชายโครง เบื่ออาหาร ปัสสาวะเข้ม อุจาระซีด ตัวเหลืองตาเหลือง
  • มีผื่น เลือดออกง่ายกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรงได้แก่ ไข้ เจ็บคอ บวมใบหน้าหนังตา ผื่นลอกตามผิวหนัง ได้ Steven Johnson’s syndrome,Erythema multiforme

 ผลข้างเคียงจากยาที่พบโดยทั่วไป

  • ระคายต่อกระเพาะ หากรับประทานขนาดยาไม่สูงและรับช่วงสั้นๆอาจจะมีอาการแน่นท้อง เสียดท้อง หากรับประทานยาในขนาดสูงและติดต่อกันเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดโรคกระเพาะ และมีเลือดออกได้
  • ตับอักเสบ หากรับประทานยากลุ่มนี้ในขนาดสูงเป็นระยะเวลานาน
  • ไต การใช้ยากลุ่มนี้แม้ว่าในระยะสั้นก็อาจจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และมีปัญหากับไต ดังนั้นคงต้องติดตามความดันและการทำงานของไต
  • หูอื้อ พบมากในผู้ที่รับประทานยาในขนาดสูง
  • มึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
  • น้ำมูกไหล เจ็บคอ
  • ผื่นคันเล็กน้อย

ได้รู้จักยาปฏิชีวนะและ ยาแก้อักเสบ รวมถึงอาการแพ้ยากันไปแล้วนะคะ ส่วนในกรณีของหนุ่ม โฬม พัชฏะ เอง เราก็ไม่ทราบว่าได้รับประทานยาตัวไหนไปเข้าไป และแพ้ยาตัวไหน เพราะผู้จัดการได้ออกมาบอกแค่ว่า ยาแก้อักเสบ เอาเป็นว่าหากเราป่วย ก็ควรพักผ่อน หาหมอและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของตัวเองนะคะ แล้วอย่าลืมสังเกตตัวเองด้วยว่า แพ้ยาตัวไหนหรือเปล่า?

ขอบคุณข้อมูลจาก : //www.siamhealth.net
www.vcharkarn.com
Rational Drug Use (Facebook)
เรียบเรียงโดย : health.mthai.com




 

Create Date : 02 กันยายน 2557    
Last Update : 2 กันยายน 2557 4:51:10 น.
Counter : 1190 Pageviews.  

อธิบายพฤฒิกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นด้วยสมอง

อธิบายพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นด้วยสมอง

Written by Natty_sci on . Posted in ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์, สังคมศาสตร์, สุขภาพ

09

เราทราบกันดีว่าเด็กผู้ชายเมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่นมักมีแรงจูงใจให้เข้าไปหาพฤติกรรมเสี่ยง ล่าสุด นักวิจัยได้ทำการศึกษากลไกในสมองบางอันที่จะช่วยอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมวัยรุ่นชายจึงเป็นแบบนั้น

พราดีบ ไบหด์ นักประสาทวิทยาจจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตท ได้รวบรวมงานวิจัยที่ทำการศึกษาเพื่ออธิบายพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นว่าเหตุใดจึงชอบทำอะไรไม่ปกติ

โดยครั้งนี้ได้มีการรวบรวมการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตวิทยา เคมีประสาทวิทยา การถ่ายภาพสมอง ประสาทวิทยาเชิงการแพทย์ และประสาทชีววิทยา และได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Developmental Neuroscience แล้ว

"นักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักการศึกษา นักประสาทวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรม และพ่อแม่มักจะไม่เข้าใจพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นและแก้ปัญหาไม่ตรงจุด" ไบหด์เผย

"พฤติกรรมเหล่านั้นไม่ได้มีผลกระทบกับเฉพาะวัยรุ่น แต่ยังรวมไปถึงครอบครัวและสังคมโดยทั่วไปอีกด้วย"

"ความเสียหายต่ออารมณ์และเศรษฐกิจจากพฤติกรรมเหล่านี้ค่อนข้างมาก งานวิจัยนี้ได้อธิบายไว้ในหนังสือเล่มนี้เพื่อเป็นแนวทางให้เข้าใจว่า พฤติกรรมเสี่ยงเช่นนี้อะไรที่เป็นสาเหตุ และเราจะมีวิธีจัดการ หลีกเลี่ยง และแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ได้อย่างไร"

ใจความในหนังสือเล่มนี้ตอนหนึ่งได้นำเสนอเรื่องราวภายในสมองของวัยรุ่นชายไว้ว่า

- วัยรุ่นชายจะมีกิจกรรมในสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์เมื่อเผชิญหน้ากับภยันตรายไม่เหมือนกันเด็กและผู้ใหญ่ ผลจากการสแกนด้วยภาพถ่ายแม่เหล็กเรโซแนนซ์ในการศึกษาครั้งหนึ่งพบว่า ระดับของสมองส่วนลิมบิกของวัยรุ่นนั้นจะตอบสนองต่ออันตรายที่กำลังจะเข้ามาค่อนข้างแตกต่างกับผู้ใหญ่ แม้แต่ตอนที่นักวิจัยไม่ได้บอกให้ตอบสนองต่ออันตรายก็ตาม

- เมื่อใช้เทคนิคการวัดกิจกรรมสมอง นักวิจัยอีกทีมหนึ่งได้พบว่า วัยรุนชายมักจะไม่ค่อยรู้สึกถึงอันตรายที่จะถูกลงโทษ แต่ค่อนข้างที่จะหวั่นไหวกับความรู้สึกว่าจะชนะพนัน

- การศึกษาพบว่า โมเลกุลที่มีความสำคัญในการพัฒนาความกลัวในสถานการณ์อันตรายนั้น ไม่ค่อยได้รับการกระตุ้นในสมองวัยรุ่นชาย จากจุดนี้นับว่าเป็นความแตกต่างด้านเคมีประสาทวิทยาระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหย่่ ซึ่งอาจจะสามารถอธิบายพฤติกรรมที่ซับซ้อนของวัยรุ่นได้

"การศึกษาครั้งใหม่นี้ได้เผยถึงกระบวนการทางประสาทของพฤติกรรมที่แปลกๆแต่เราก็รู้กันดีในหมู่วัยรุ่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ความซับซ้อนของสังคม และแรงกดดันจากภายนอก ต่างก็มีผลต่อวัยรุ่นได้ทั้งนั้น"

"การศึกษาครั้งนี้เราพยายามจะทำให้แตกต่าง ศึกษาและเข้าใจสาเหตุที่น่าจะเกิดขึ้นในหมู่วัยรุ่น งานวิจัยครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจวัยรุ่นมากขึ้นทั้งที่เวลาอยู่ในบ้านและนอกบ้าน สามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการศึกษาได้ และสามารถเยียวยาหรือแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีได้"

อ่านเพิ่มเติมในวารสารวิชาการได้ที่ //www.karger.com/Journal/Issue/261977

อ้างอิง: Florida State University. (2014, August 27). Inside the teenage brain: New studies explain risky behavior. ScienceDaily. Retrieved August 30, 2014 from //www.sciencedaily.com/releases/2014/08/140827203544.htm




 

Create Date : 02 กันยายน 2557    
Last Update : 2 กันยายน 2557 4:42:44 น.
Counter : 1354 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.