อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

นร. ไทยเจ๋ง! คว้า19ทอง5เงินแข่งคณิตศาสตร์ฯ

นักเรียนไทยสุดเจ๋ง คว้า 19 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน จากการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ระดับประถมศึกษาประเทศอินเดีย

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยจากการที่ สพฐ. ได้คัดเลือกและส่งผู้แทนนักเรียนไทยระดับชั้นประถมศึกษาจำนวน 16 คน เข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติระดับประถมศึกษา Wizard at Mathematics International Competition 2014 (WIZMIC) Mathematics ระหว่างวันที่ 14-22 ตุลาคม 2557 ณ สาธารณรัฐอินเดีย ผลปรากฏว่านักเรียน 16 คน สามารถคว้ารางวัลรวม 24 รางวัล 48 เหรียญ

127151

ประกอบด้วยประเภทบุคคล เหรียญทอง 13 เหรียญ และเหรียญเงิน 3 เหรียญ ได้เหรียญทอง 3 รางวัล เหรียญเงิน 1 รางวัล ประเภทกลุ่มบุคคลได้เหรียญทอง 3 รางวัล ได้แก่ เด็กชายกีรติ สุธีรยงประเสริฐ โรงเรียนอนุบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เด็กชายรวัชญ์ ผดุงเกียรติวงษ์ โรงเรียนวัดดอนไก่เตี้ย จังหวัดเพชรบุรี เด็กชายภากร นันทอารี โรงเรียนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร เด็กชายสุวลักษณ์ ตันชัยเอกกุล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร จังหวัดนครปฐม เด็กหญิงชาลิสา วิรุณราช โรงเรียนอนุบาลปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เด็กชายธีร์ อิทธิพานิชพงศ์ โรงเรียนอนุบาลยุวพัฒน์นครวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

เด็กชายชยพล เชาว์วีระประสิทธิ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ กรุงเทพมหานคร เด็กชายวศิน สิทธิเดชากุล โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม กรุงเทพมหานคร เด็กชายปรมัตถ์ สมุทรสินธุ์ โรงเรียนสยามสามไตร กรุงเทพมหานคร เด็กชายพัชรพล เกษมธรรมแสวง โรงเรียนอนุบาลระยอง จังหวัดระยอง เด็กชายเวทิต กัลย์จรัส โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เด็กหญิงอริสรา จิชกิตติ โรงเรียนอำนวยศิลป์ กรุงเทพมหานคร

เด็กชายจิรสิน จานะพร โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และเหรียญเงิน 3 เหรียญ ได้แก่ เด็กชายไมตรี หิรัญติยะกุล โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เด็กชายปรานต์กฤษฎิ์ สิริพิชิตศุภผล โรงเรียนวัดดอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา เด็กชายมาตภูมิ สุนทรานนท์ โรงเรียนวัดพลับพลาชัย กรุงเทพมหานคร ประเภททีม ได้เหรียญทอง 3 รางวัล ได้แก่ ทีม เอ ประกอบด้วย เด็กชายกีรติ สุธีรยงประเสริฐ โรงเรียนอนุบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

เด็กชายรวัชญ์ ผดุงเกียรติวงษ์ โรงเรียนวัดดอนไก่เตี้ย จังหวัดเพชรบุรี เด็กชายภากร นันทอารี โรงเรียนจิตรลดา กรุงเทพมหานคร เด็กชายสุวลักษณ์ ตันชัยเอกกุล โรงเรียนอนุบาลสุธีธร จังหวัดนครปฐม ทีม บี ประกอบด้วย เด็กชายไมตรี หิรัญติยะกุล โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เด็กหญิงชาลิสา วิรุณราช โรงเรียนอนุบาลปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

เด็กชายธีร์ อิทธิพานิชพงศ์ โรงเรียนอนุบาลยุวพัฒน์นครวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เด็กชายชยพล เชาว์วีระประสิทธิ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ กรุงเทพมหานคร และ ทีม ดี ประกอบด้วย เด็กชายพัชรพล เกษมธรรมแสวง โรงเรียนอนุบาลระยอง จังหวัดระยอง เด็กชายเวทิต กัลย์จรัส โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

เด็กหญิงอริสรา จิชกิตติ โรงเรียนอำนวยศิลป์ กรุงเทพมหานคร เด็กชายจิรสิน จานะพร โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และเหรียญเงิน 1 รางวัล ได้แก่ ทีม ซี เด็กชายปรานต์กฤษฎิ์ สิริพิชิตศุภผล โรงเรียนวัดดอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา เด็กชายมาตภูมิ สุนทรานนท์ โรงเรียนวัดพลับพลาชัย กรุงเทพมหานคร

เด็กชายวศิน สิทธิเดชากุล โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม กรุงเทพมหานคร เด็กชายปรมัตถ์ สมุทรสินธุ์ โรงเรียนสยามสามไตร กรุงเทพมหานคร ประเภทกลุ่มบุคคลได้เหรียญทอง 3 รางวัล ได้แก่ ทีมเอ ทีมบี ทีมดี และทีมซี คว้าเหรียญเงินไปครอง

นอกจากนี้ ทีมนักเรียนไทยที่คว้าเหรียญทองประเภททีมยังสามารถทำคะแนนได้มากเป็นอันดับ หนึ่งของทุกสายการแข่งขัน และเหรียญเงินประเภททีมก็สามารถทำคะแนนได้มากเป็นอันดับที่สองของสายการแข่ง ขันด้วย ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้มีนักเรียนจาก 9 ประเทศ จำนวน 172 คนเข้าร่วม ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เนปาล อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อินเดีย ศรีลังกา และประเทศไทย

: , , ,




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2557    
Last Update : 22 ตุลาคม 2557 9:18:41 น.
Counter : 1130 Pageviews.  

มหัศจรรย์ความลับของร่างกาย ได้รุ้แล้วทึ่งสุดๆ

จิตใจของคนเรายากแท้จะหยั่งถึง ร่างกายของเราเองก็เช่นกันที่มีระบบต่าง ๆ ซับซ้อนซ่อนอยู่ ซึ่งถ้าเราไม่ใช่หมอที่มีความรู้ หรือนักวิทยาศาสตร์ ก็คงไม่มีโอกาสได้รับรู้ความลับของร่างกายอีกหลายต่อหลายอย่าง แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่หมอ ก็สามารถรับรู้ความลับของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้เหมือนกัน เพราะเว็บไซต์ Readers’ Digest เขาได้หอบเอาข้อมูลจาก Travis Stork หัวเรือใหญ่ของรายการ The Doctors มาฝากกันด้วย เอาเป็นว่ารีบมาอ่านกันดีกว่า ร่างกายเขาอยากจะบอกความลับให้เราได้รู้กันแย่แล้วจ้า




สมองมีความคิดกว่า 20,000 อย่างต่อวัน

เคยสงสัยกันไหมคะว่าวัน ๆ หนึ่งในสมองของเรามีความคิดวนไปเวียนมากันมากเท่าไร คำตอบก็คือเซลล์สมองและเส้นประสาทนับ 100 พันล้านเซลล์มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 5-50 ครั้งต่อวินาที ชีพจรเต้นเร็ว 270 ไมล์ต่อชั่วโมง และปรากฏการณ์นี้ก็ทำให้เราสามารถพูดเห็นและเห็นสิ่งของต่าง ๆ ด้วยความคิดที่ต่อเนื่องได้ เป็นต้นว่า

1. เห็นสัตว์ตัวเล็กที่มีขนปุกปุยตัวนั้นว่าเป็นแมว

2. มีสีส้ม

3. คุณนึกถึงแมวการ์ฟีลด์

4. คุณจำได้ว่าการ์ฟีลด์เป็นการ์ตูนเรื่องโปรดของคุณเอง




ร่างกายของเราไม่สามารถถึงจุดเดือด หรือจุดเยือกแข็งได้

ในร่างกายของเรามีระบบปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติอยู่ ซึ่งจะคอยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในสภาวะสมดุลกับสภาพอากาศภายนอก อย่างถ้าข้างนอกมีอุณหภูมิสูงกว่า 36 องศาเซลเซียส ร่างกายจะรู้สึกร้อน และระบายความร้อนออกมาในรูปแบบเหงื่อ แต่ถ้าอุณหภูมิเริ่มเย็นลง ต่อมเหงื่อก็จะปิด และอุณหภูมิในร่างกายก็จะค่อย ๆ ปรับตัวเป็นปกติต่อไป หรือถ้าอากาศภายนอกเย็นจัด ร่างกายก็จะส่งความร้อนออกมาให้ความอบอุ่นทันทีเช่นกัน






หัวใจเต้นเป็นจังหวะ 60-100 ครั้งต่อนาที

ร่างกายของเรามีจังหวะการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 100,000 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 3 พันล้านล้านครั้งในชีวิตของคนคนหนึ่งโดยเฉลี่ย แต่ถ้าได้ออกกำลังกาย หัวใจก็จะเต้นแรงขึ้นอีกกว่า 70% เมื่อเทียบกับคนที่เคลื่อนไหวร่างกายน้อยกว่า ซึ่งจะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นเพียง 20% เท่านั้น และเลือดก็จะสูบฉีดผ่านหลอดเลือดแดงได้ถึง 2,000 แกลลอนต่อวันเลยด้วยค่ะ




เราหายใจ 25,000 ครั้งต่อวันโดยธรรมชาติ

การหายใจโดยธรรมชาติก็คือ การที่เราหายใจเป็นปกติในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกธรรมชาติของเซลล์สมองที่สั่งการให้ร่างกายเราหายใจ และใคร ๆ ก็รู้ว่าตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ ก็หมายถึงการมีชีวิตอยู่ของเรานั่นเอง แต่ทราบไหมคะว่าใน 1 วัน เราหายใจไปมากถึง 25,000 ครั้งเลยทีเดียว

ที่ต้องหายใจถี่ขนาดนี้ก็เพราะว่า ร่างกายของมนุษย์ทุกคนต้องมีการเผาผลาญ ซึ่งกระบวนการเผาผลาญจำเป็นต้องอาศัยออกซิเจนประมาณ​ 7-10 ออนซ์ต่อนาที และก็ไม่ต้องกลัวว่าหายใจเอาอากาศเข้าไปมากขนาดนั้นแล้วจะไม่มีที่เก็บ เพราะในร่างกายก็มีถุงลมเอาไว้เก็บออกซิเจนได้มากถึง 300 ล้านโมเลกุลอากาศขนาดเล็ก (microscopic) ซึ่งสามารถกักออกซิเจนเอาไว้ใช้ และกรองคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจากร่างกายได้อีกด้วย







กล้ามเนื้อประสาทตาเคลื่อนไหวกว่าแสนครั้งต่อวัน

กล้ามเนื้อจอประสาทตาที่เกี่ยวข้องกับการโฟกัสระยะการมองเห็นของเราต้องเคลื่อนไหวมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน หรือเทียบเท่ากับการเดินไกลกว่า 50 ไมล์เลยทีเดียว เพื่อให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างชัดเจน รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมรักษาสุขภาพตากันให้ดีด้วยนะคะ เส้นประสาทตาของเราจะได้ทำงานหนักน้อยลงอีกหน่อย







เรากะพริบตาประมาณ​ 15 ครั้งต่อนาที

นอกจากจอประสาทตาจะต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอแล้ว ในขณะที่เราตื่นนอน ร่างกายของเรายังสั่งการให้เราต้องกะพริบตาประมาณ 15 ครั้งต่อนาที หรือประมาณ 15,000 ครั้งต่อวันอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องดวงตาจากฝุ่นและอันตรายทั้งหลาย อย่างถ้าสังเกตเวลาที่มีลมแรง ๆ หรืออากาศเย็น ๆ ดูสิ จะรู้สึกได้ว่าเราจะกะพริบตาหรือหรี่ตาลงบ่อยขึ้น





ร่างกายผลิตน้ำลายกว่า 6 ถ้วยต่อวัน

ดูเหมือนจะไม่มากขนาดนั้น แต่จริง ๆ แล้วถ้าจะวัดตวงกันอย่างจริงจังก็จะเห็นว่า ร่างกายของเราผลิตน้ำลายออกมามากถึง 6 ถ้วยต่อวันเลยทีเดียว และอย่าได้ยี้น้ำลายเด็ดขาดเชียวนะคะ เพราะถ้าไม่มีน้ำลาย ร่างกายของเราจะไม่สามารถรับรสอาหารได้ กลืนอาหารก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ชัด อีกทั้งน้ำลายยังมีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยย่อยอาหาร ดักจับและฆ่าเชื้อโรคที่ผ่านเข้ามาทางปากของเราได้ด้วย เพราะในน้ำลายมีเอนไซม์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามาก ๆ เลยล่ะ







ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง 3 ล้านเซลล์ต่อวินาที

เลือดทุกหยดในตัวเราจะประกอบไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดแดงอยู่เต็มไปหมด เพราะเพียงแค่เลือดหยดเดียวก็จะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงนับล้านตัวผสมอยู่ ดังนั้นร่างกายจึงต้องผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมาเยอะ ๆ เพื่อให้โปรตีนฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงไปจับกับออกซิเจน และส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไงล่ะ






ทุกครั้งที่มีดบาด แผลจะไม่โชกเลือดหรือติดเชื้อ

ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่าเวลาที่ถูกมีดบาดแบบไม่ลึกเท่าไร จะมีเลือดซึมออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแผลที่ถูกมีดบาดก็ไม่ได้อักเสบหรือติดเชื้อถ้าได้รับการดูแลที่ดีด้วย ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าทุกครั้งที่เกิดบาดแผลบนผิวหนังของเรา เลือดที่หลั่งออกมาจะช่วยทำความสะอาดบาดแผล และป้องกันเชื้อโรคเข้าไปด้วยการแข็งตัวเป็นลิ่ม เพื่อที่จะไปขัดขวางสิ่งสกปรกต่าง ๆ

แต่ถ้ามีเชื้อโรคแทรกแซงเข้าไปในแผลได้ เซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะออกมาจัดการเชื้อโรคเหล่านั้นทันที และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายก็จะหลั่งสารฮีสตามีน (histamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ตามปกติ จึงทำให้แผลเกิดอาการบวมแดงนั่นเอง และกระบวนการเหล่านี้ก็จะกระตุ้นให้ทุกเซลล์ในร่างกายของเราตื่นตัว เพื่อคอยรับมือกับเชื้อโรคที่แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายเราด้วย





ไตอาศัยเลือดกว่า 50 แกลลอนเพื่อช่วยฟอกให้สะอาด

ในแต่ละวันร่างกายได้รับมลพิษ และสารพิษไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร จึงทำให้ไตต้องคอยฟอกเลือดอย่างขะมักเขม้น และในกระบวนการทำความสะอาดไตแต่ละครั้ง ก็ต้องอาศัยเลือดมากกว่า 50 แกลลอน หรือประมาณ 3 เท่าของถังแก๊สรถยนต์ขนาดกลาง เพื่อช่วยในการฟอกไตให้สะอาด และกลั่นเอาสารพิษออกไปจากร่างกายด้วย

นอกจากนี้ไตยังเป็นอวัยวะที่สำคัญกับการรักษาความสมดุลของระบบขับถ่ายของเรา โดยดูได้จากเวลาที่เราดื่มน้ำเยอะ ไตก็จะทำงานได้ดีขึ้น เวลาขับปัสสาวะก็จะออกมาเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีซีดจนเกือบขาว แต่ถ้าวันไหนดื่มน้ำน้อย สารพิษในร่างกายก็จะตกค้างอยู่เยอะ และไตก็ขับพิษออกมาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงทำให้ปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลืองเข้มคล้าย ๆ สีของน้ำแอปเปิล






ร่างกายสร้างกระดูกใหม่ขึ้นมาประมาณ ​0.3% ทุกวัน

กระดูกของเราทุกคนแข็งแรงเหมือนเหล็ก แต่มีน้ำหนักเบาเหมือนอะลูมิเนียม และมีชีวิตอยู่ร่วมกับเส้นเลือดและเส้นประสาทอีกมากมาย นอกจากนี้กระดูกยังเป็นอวัยวะที่ร่างกายผลิตใหม่ออกมาใหม่ได้ตลอดอายุของเราเอง แต่สำหรับคนที่โตเต็มที่แล้วร่างกายก็จะผลิตกระดูกเพิ่มขึ้น 10 % ต่อปี หรือเฉลี่ยก็ประมาณ 0.3% ต่อวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราไม่ค่อยได้ใช้กระดูก หรือพูดง่าย ๆ ว่าไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าไรนัก กระดูกก็มีสิทธิ์ที่จะหด เสื่อมสภาพ และเติบโตได้ช้ากว่าคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอด้วยนะคะ





เหงื่อที่เท้าเราหลั่งออกมามากกว่า 2 ถ้วยต่อวัน

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเท้าเราถึงมีกลิ่นอับมากกว่าจะมีกลิ่นหอมสดชื่น เพราะในแต่ละวันที่เราก้าวเดินโดยเฉลี่ยแล้วไม่น้อยกว่า 8,000-10,000 ก้าว ร่างกายก็จะผลิตเหงื่อออกมาที่เท้ามากเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วก็ไม่ต่ำกว่า 2 ถ้วยตวงต่อวันเลยทีเดียว ยิ่งถ้าสวมถุงเท้าและรองเท้าผ้าใบ เหงื่อที่ออกมากก็จะไม่มีที่ระบายให้แห้ง สุดท้ายก็จะอับจนส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาอีกด้วย





เซลล์ผิวที่ตายแล้วมีมากถึง 50 ล้านเซลล์ต่อวัน

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในร่างกายของเรา และมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อร่างกายเราหลายอย่าง เช่น เป็นที่อาศัยของต่อมเหงื่อ โดย 1 ตารางนิ้วของผิวหนังจะมีต่อมเหงื่อประมาณ 650 ต่อม เป็นที่อยู่ของหลอดเลือดกว่า 20 ฟุต มีเซลล์เม็ดสีอยู่มากถึง 60,000 เซลล์ และมีปลายประสาทอยู่ใต้ผิวหนังอีกประมาณ 1,000 ปลายประสาท ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าแต่ละวันร่างกายของเราจะผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้มากถึง 50 ล้านเซลล์ต่อวัน






ร่างกายมีระบบต่อสู้มะเร็งเสมอ

ร่างกายของเรามีเซลล์อยู่ประมาณล้านล้านเซลล์ ถ้าการกลายพันธุ์เกิดขึ้นในดีเอ็นเอในส่วนใดก็ตาม ก็สามารถสร้างเซลล์มะเร็งที่พร้อมจะลุกลามแพร่กระจาย และกลายเป็นเนื้องอกได้หมด

ทั้งนี้ ในแต่ละนาทีร่างกายก็จะมีการแตกเซลล์ด้วย ซึ่งการแตกเซลล์ในแต่ละครั้งก็จะมีการคัดลอกยีน 30,000 ยีนด้วยทุกครั้ง และถ้าหากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจับความผิดปกติของยีนและดีเอ็นเอที่คัดแยกออกมาได้ ก็จะหยุดส่งเลือดและสารอาหารไปให้เซลล์ดีเอ็นเอที่ผิดปกตินั้นทันที จนส่งผลให้ดีเอ็นเอที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งเหล่านั้นค่อย ๆ ฝ่อและตายไปในที่สุด ทำให้เรารอดพ้นจากโรคมะเร็งได้ขั้นหนึ่งนั่นเอง

ได้รู้ความลับของร่างกายที่เราไม่เคยได้รู้มาก่อนแล้วอย่างนี้ ต่อไปจะได้ดูแลร่างกายและสุขภาพของเราได้อย่างถูกต้องกันมากขึ้น และจะได้ลดความวิตกกังวลกับปัญหาสุขภาพบางอย่างไปได้อีกด้วยเนอะ

ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2557    
Last Update : 22 ตุลาคม 2557 9:14:38 น.
Counter : 1020 Pageviews.  

สาว ๆ ต้องระวัง! ติดเชื้อจากสระว่ายนํ้า

สาวๆหลายๆคนคงจะชอบการออกกำลังกาย โดยการว่ายน้ำ เพราะทั้งสนุกและก็ไม่เหนื่อยมาก แต่อย่าลืมว่าสระว่ายน้ำเป็นสถานที่สาธารณะที่มีคนมาใช้ร่วมกันมากมาย หากสระว่ายน้ำนั้นมีระบบจัดการที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะนำเชื้อโรคมาสู่เราได้ หรือแม้แต่ถ้าเราว่ายน้ำในสระส่วนตัวแต่ระบบหมุนเวียนน้ำ หรือคลอรีนที่เราใส่ไปในสระมีปริมาณมากเกินไปก็เป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆได้ มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคอะไรได้บ้างและวิธีป้องกันเชื้อโรคเมื่อเราไปว่ายน้ำ

200218569-003

การ ติดเชื้อ ในช่องคลอดจากการว่ายน้ำ ในสระว่ายน้ำที่สะอาดได้มาตรฐาน มีการใช้ยาฆ่าเชื้อโรคเช่น คลอรีนนั้นเกิดขึ้นได้ยาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะลักษณะของช่องคลอดในภาวะปกติ จะ ตีบแฟบ เข้ามาชิดกันคล้ายลูกโป่งชนิดยาวที่ยังไม่ได้เป่าลมเข้าไป เมื่อมีอะไรที่ใส่เข้าไปในช่องคลอด มันก็จะโป่งพองออกเป็นรูปทรงกระบอกคล้ายลูกโป่งที่ถูกเป่าลมให้มันพองออกนั่นเอง ดังนั้น ในภาวะปกติ สิ่งแปลกปลอมจะเข้าสู่ช่องคลอดโดยอาศัยน้ำในสระ จะเป็นไปได้ยาก และอีกประการหนึ่ง ชึดอาบน้ำก็เป็นเกราะช่วยป้องกัน ได้อีกชั้นหนึ่ง

สระว่ายน้ำมาตรฐานมันจะมีระบบกรองน้ำ มีการไหลเวียนถ่ายเทน้ำ มียาฆ่าเชื้อโรคใส่ไว้ในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับ รังสีและความร้อนจากแสงแดดทำให้น้ำในสระสะอาดและปลอดภัย เพราะฉะนั้น การเล่นน้ำในสระว่ายน้ำเหล่านี้จะปลอดภัย ส่วนใหญ่ผู้เล่นน้ำมักจะติดเชื้อ โดยทางอ้อมมากกว่า ซึ่งจะเรียนให้ทราบต่อไป

โรคเกี่ยวกับอวัยวะเพศ หรือ ช่องคลอดจากการว่ายน้ำ ที่พบบ่อย คือ อาการอักเสบของเยื่อบุปากช่องคลอด ผู้ป่วยเหล่านี้ หลังจากว่ายน้ำแล้ว จะมีอาการแสบๆ ที่ปากช่องคลอด โดยเฉพาะเมื่อปัสสาวะไหลมาถูกบริเวณนั้น บางคนมีอาการตกขาวร่วมด้วย เมื่อตรวจภายในก็พบมีอาการอักเสบของเยื่อบุช่องคลอดอย่างชัดเจน แต่ตรวจไม่พบเชื้อที่เป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดโรคได้ พวกนี้ สาเหตุมักเกิดจากการแพ้ คลอรีนที่มีอยู่ในน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำที่มีคลอรีนในอัตราส่วนที่เข้มข้นเกินไป

โรคที่เกิดในช่องคลอดที่เคยพบเนื่องมาจากการว่ายน้ำในสระ ได้แก่โรคพยาธิในช่องคลอด และโรคเชื้อรา เพราะเชื้อพยาธิและเชื้อรา สามารถอยู่ในน้ำสะอาดที่มีคลอรีนที่เจือจางได้นานอย่างน้อย 30 นาที เมื่อมีโอกาสเข้าไปในช่องคลอดของนักว่ายน้ำได้ ก็จะทำให้เกิดอักเสบ ตกขาว และ คันบริเวณอวัยวะเพศและช่องคลอดได้ แต่บางคนก็ไม่มีอาการ ส่วนเชื้อกามโรคอื่นๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส และ โรคเริม ไม่เคยพบมีรายงานที่แน่ชัดว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเหล่านี้มาจากการว่ายน้ำธรรมดาๆ เพราะเชื้อหนองในแท้และหนองในเทียมมักจะตายเมื่อถูกน้ำสะอาด และ เชื้อซิฟิลิสกับเชื้อเริม มักจะติดต่อด้วยการสัมผัสกับผู้เป็นโรค สิ่งสำคัญขณะที่เล่นน้ำ ไม่ควรให้น้ำเข้าปาก เพราะเชื้อโรคบางชนิดอาจมีอยู่ในน้ำได้ เช่น โรคท้องร่วง และตับอักเสบ เป็นต้น

สระว่ายน้ำบางแห่งไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร มีกระเบื้องแตกหรือชำรุดอยู่ในสระ เมื่อว่ายน้ำไปถูกกระเบื้องเหล่านี้บาดจนเป็นแผล อาจจะกลายเป็นแผลเรื้อรังขนาดใหญ่ได้ในบางครั้ง ซึ่งแผลเหล่านี้ มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่เรียกว่า Mycobacterium marinum เชื้อนี้ทำให้เกิดแผลเรื้อรังคล้ายแผลที่เกิดจาก เชื้อวัณโรคผิวหนังได้ แผลนี้รักษาค่อนข้างยาก แต่หายได้

การ ติดเชื้อ ทางช่องคลอดส่วนใหญ่ติดต่อโดยทางอ้อม เช่นจากที่นั่งเครื่องสุขภัณฑ์ ในห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัว ชุดอาบน้ำ หรือเครื่องใช้อื่นๆที่ใช้ร่วมกัน หรือผลัดกันใช้ เพราะเชื้อพวกนี้สามารถอยู่บนสิ่งเหล่านี้ได้นานพอที่จะติดต่อไปให้ผู้อื่นได้ เช่น เชื้อหนองใน สามารถอยู่ในหนองที่เปื้อนบนโถสุขภัณฑ์ได้นาน 3 – 6 ชั่วโมง อยู่ในผ้าเช็ดตัวที่เปียกได้นาน 18 ชั่วโมง เชื้อพยาธิในช่องคลอดสามารถอยู่ในผ้าเช็ดตัวที่เปียกชื้นได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง อยู่ในฟองน้ำที่เปียกชุ่มได้นาน 9 ชั่วโมง เป็นต้น พวกนี้ เวลาใช้เครื่องนุ่งห่มร่วมกัน ทำให้ติดเชื้อได้ มีผู้ป่วยรายหนึ่งแพทย์ตรวจพบเป็นพยาธิในช่องคลอด เมื่อซักประวัติ ติดตามหาแหล่ง ติดเชื้อ พบว่าผู้ป่วยใช้ชุดว่ายน้ำร่วมกับเพื่อนหญิงอีกคนหนึ่ง เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนมีอาการ เมื่อตามเพื่อนหญิงนั้นมาตรวจ ก็พบเชื้อพยาธิอยู่ในช่องคลอดของเพื่อนคนนั้นด้วย

วิธีป้องกัน

1. ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ ของสระว่ายน้ำโดยเคร่งครัด เช่น อาบน้ำให้สะอาดทุกครั้งก่อนลงสระ ไม่บ้วนน้ำมูกน้ำลาย ลงในสระ เป็นต้น

2. นักว่ายน้ำควรได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เจาะเลือดตรวจดูภาวะภูมิคุ้มกันโรค และโรคที่มีอยู่ในร่างกาย ถ้าพบโรคใด เช่น โรคซิฟิลิส ก็ควรรักษาเสีย ถ้าขาดภูมิต้านทานโรค ควรรับการฉีดวัคซีน ให้เรียบร้อยก่อน โดยเฉพาะโรคตับอักเสบ เป็นต้น หญิงที่แต่งงานแล้ว หรือหญิงสาวที่มีอายุมากกว่า 25 ปี ควรได้รับการตรวจภายในปีละครั้ง เพื่อตรวจรักษาโรคบางชนิด ที่มีอยู่ในช่องคลอดแต่ไม่มีอาการให้หมดไปเสีย อย่างน้อยก็ได้รับการตรวจหามะเร็งระยะแรกเริ่ม

3. เมื่อมีสิ่งผิดปกติ เกิดหลังจากว่ายน้ำแล้ว ควรรีบไปรับการตรวจจากแพทย์ และควรงดเล่นน้ำในระยะนี้

4. ไม่ควรให้น้ำเข้าปาก

5. ไม่ควรใช้เครื่องนุ่งห่ม หรือของใช้ส่วนตัวร่วมกัน

6. สระน้ำและน้ำในสระ ควรได้รับการตรวจบำรุงไม่ให้มีสิ่งบกพร่องที่อาจทำให้ เกิดอันตรายต่อร่างกาย และ เสี่ยงต่อการติดเชื้อของนักว่ายน้ำ

เป็นยังไงกันบ้างคะ ถ้าเราไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคเหล่านี้มาได้ เพราะฉะนั้นสาวๆก็ควรจะระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา

ขอบคุณที่มาจาก : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2557    
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 8:40:29 น.
Counter : 1336 Pageviews.  

"เสาวรส" รุ้จักกันดีไหม

ในตำราสมุนไพรไทยระบุไว้ว่าเนื้อไม้เสาวรสเป็นยาควบคุมธาตุ ถอน พิษเบื่อเมาทุกชนิด ใบนำมาตำให้ละเอียดคั้นน้ำดื่มเพื่อขับพยาธิ ผลผ่าเอาเมล็ด เยื่อหุ้มเมล็ดมาคั้นเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพด้วยมีวิตามินเอสูง

เสาวรส เป็นไม้เลื้อย ผลค่อนข้างกลม ผลอ่อนสีเขียวเมื่อสุกมีหลายสี รสเปรี้ยวจัด บางพันธุ์รสเปรี้ยวอมหวาน

คนไทยนิยมนำยอดมาเป็นผักสด จิ้มน้ำพริกมีรสขมเล็กน้อย

ในตำราสมุนไพรไทยระบุไว้ว่าเนื้อไม้เสาวรสเป็นยาควบคุมธาตุ ถอน พิษเบื่อเมาทุกชนิด

ใบนำมาตำให้ละเอียดคั้นน้ำดื่มเพื่อขับพยาธิ

ผลผ่าเอาเมล็ด เยื่อหุ้มเมล็ดมาคั้นเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพด้วยมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ แต่ผู้ที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงควรดื่มพอประมาณ และไม่ควรรับประทานสดแบบทั้งต้น เพราะมีสารพิษอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้.

ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2557    
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 8:34:26 น.
Counter : 1184 Pageviews.  

พุ่กันของ สง่า มะยุระ รุ้ไหมว่าท่านคือใคร

สง่า  มะยุระ เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ที่ อ. ศรีประจันต์ จ. สุพรรณบุรี ศึกษาวิชาสามัญที่โรงเรียนวัดสัปรสเทศ พร้อมกับฝึกวิชาวาดเขียนมาตั้งแต่เด็กกับอาจารย์อู๋  ที่วัดมะนาว อ. บางปลาม้า จ. สุพรรณบุรี ต่อมาได้มาอยู่กับอาจารย์ม้วนที่วัดสุวรรณาราม  คลองบางกอกน้อย ธนบุรี  จึงได้มีโอกาสเรียนวาดเขียนกับครูสอิ้งที่อยู่ข้างวัดนั้น  ครูสอิ้งพาไปช่วยเขียนลายรดน้ำที่หน้าต่างพระวิหารวัดพระเชตุพนฯ  ต่อมาได้ไปสมัครทำงานเขียนพานแว่นฟ้ากับคุณผิน และเขียนตู้พระมาลัยที่วัดมหาธาตุ

     สง่า มะยุระ ได้รู้จักกับหลวงเจนจิตรยง ช่างเขียนอันลือชื่อในสมัยนั้น  ท่านชวนให้ไปช่วยเขียนลายบนโถกะยาคู โดยเอาฟักทองมากลึงให้เหมือนโถและจะต้องให้เสร็จในวันเดียว  มิฉะนั้นฟักทองจะเหี่ยว ทั้งสองท่านช่วยกันเขียนจนเสร็จ หลวงเจนจิตรยงชมฝีมือว่าดี  จึงชวนให้ไปช่วยเขียนที่วัดสุวรรณคีรีในคลองบางกอกน้อย โดยมอบหมายให้เขียนลายรดน้ำที่บานประตูหน้าต่างโบสถ์  ตอนนั้นหลวงเจนฯ  ท่านชราภาพมาก เมื่อเห็นว่าเขางานแข็งดีจึงมอบหมายให้เขียนทั้งหมด  นายสง่าต้องใช้เวลาเขียนถึงสี่เดือนจึงเสร็จ

     ต่อมาได้รับเหมาเขียนพานแว่นฟ้าและตู้พระมาลัยให้นายอู๊ด  ช่างหล่อ  และส่งขายที่ร้านแถวเสาชิงช้า  ระยะนี้ต้องทำงานหนักมาก  โดยเริ่มลงมือทำการเขียนตั้งแต่เช้าตลอดไปจนดึกดื่นจึงวางมือ เมื่อเขาอายุครบบวช  มารดาจึงจัดการบวชให้  โดยจำพรรษาที่วัดสุวรรณาราม  ธนบุรี

     ในระยะที่บวชสองพรรษานั้น นายสง่าได้มีโอกาสเข้าไปเขียนภาพรามเกียรติ์ที่พระระเบียงวัตพระศรีรัตนศาสดารามโดยมีพระเทวาภินิมมิต (ฉาย เทียมศิลป์ไชย) เป็นผู้อำนวยการเขียนภาพที่นั่น เขาได้ฝากฝีมือไว้บนผนังพระระเบียงอันเป็นที่ยกย่องกันมาก หลังจากลาสิกขาแล้วก็มาตั้งร้านขายเครื่องดื่มที่หลังโรงพยาบาลศิริราช โดยให้บิดาเป็นผู้ขาย  ส่วนตนเองไปทำงานประจำที่ร้านคณะช่าง  อันเป็นร้านช่างเขียนรับงานเขียนต่าง ๆ และทำบล็อกด้วย  ทำงานอยู่ร้านคณะช่างได้สองปีก็ลาออก และไปทำงานที่โรงพิมพ์บุญครอง

     สง่าสมรสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๙ แล้วเลยคิดว่าจะตั้งตนด้วยการทำพู่กันขาย เขาพากเพียรแก้ไขดัดแปลงพู่กันจนดีได้ระดับมาตรฐาน  กิจการของเขาดำเนินมาด้วยดี นับวาเป็นโรงงานทำพู่กันแห่งแรกของเมืองไทย

     เนื่องจาก สง่า มะยุระ ได้เคยร่วมงานเขียนภาพที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดารามกับพระเทวาภินิมมิต  ซึ่งคุณพระก็ได้ช่วยแก้ไขติชมให้ตลอด เขาจึงมีความเคารพและนับถือคุณพระเป็นครูตลอดมา สมัยต่อมาเมื่อภาพเขียนที่วัดพระแก้วเกิดชำรุดเสียหายมาก  แม้ว่าเขาจะชราภาพมากก็ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเขียนซ่อม บางห้องก็เขียนใหม่ทั้งหมดจนสำเร็จ

     ผลงานของ สง่า มะยุระ มีอยู่หลายแห่ง เช่น ออกแบบลวดลายตกแต่งหน้าบัน ซุ้มประตูหน้าต่างให้พระอุโบสถวัดราชบูรณะ เชิงสะพานพุทธ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ และยังออกแบบให้วัดสัตหีบและวัดกอไผ่ที่อยุธยาเป็นต้น ระยะหลังนี้เขามีฐานะมั่นคงร่ำรวยจากกิจการค้าโรงงานทำพู่กัน เขาจึงช่วยทำงานแก่พระพุทธศาสนาโดยไม่รับเงินค่าจ้างเลย  บางครั้งถ้าทางวัดขาดแคลนเงินก็ยังช่วยทำบุญร่วมด้วย

     สง่า มะยุระ ถึงแก่กรรมวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๑ นับว่าเขาเป็นจิตรกรรุ่นเก่าที่มีอาชีพเป็นจิตรกรมาตลอด และตั้งตัวได้ด้วยความพากเพียร ละด้วยฝีมือโดยแท้

     ข้อมูลที่เล่ามานี้ “ซองคำถาม” ได้มาจากหนังสือ พจนานุกรมศิลป์ ของสำนักพิมพ์เมืองโบราณ

“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”
สำเนามาจากเว็บไซต์ สนุก.คอม




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2557    
Last Update : 21 ตุลาคม 2557 8:31:18 น.
Counter : 869 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.