การรับประทานอาหารจานด่วนหรือในภัตคารเลิศหรูล้วนทําให้ได้รับพลังงานเกินและมีโภชนาการตํ่า
จากรายงานของงานวิจัยชิ้นใหม่ มันได้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารทั้งแบบจานด่วนและภัตตาคารที่มีบริการดีเยี่ยมนั้นมีส่วนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายได้รับพลังงาน ไขมันอิ่มตัวและโซเดียมในปริมาณที่สูงเกินกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด การศึกษานี้ได้ถูกเผยแพร่แบบออนไลน์ในวารสาร Public Health Nutrition เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งได้พบว่าเมื่อผู้ใหญ่รับประทานอาหารไม่ว่าจะเป็นตามภัตตาคารดีๆหรืออาหารจานด่วนก็ตาม พวกเขาจะได้รับพลังงานเกินกว่าความต้องการพลังงานในแต่ละวันประมาณ 200 กิโลแคลอรี จากการศึกษาก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้ให้ความสนใจกับการรับประทานอาหารตามภัตตาคารของผู้ใหญ่ ซึ่งพวกเขาพบว่าผู้ใหญ่ที่รับประทานอาหารจานด่วนอยู่แล้วจะได้รับพลังงาน ไขมันและโซเดียมในปริมาณที่สูงกว่าปกติ ในขณะที่พวกเขาได้รับผัก ผลไม้และวิตามินในปริมาณที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่ที่ไม่รับประทานอาหารจานด่วนเลย การศึกษาเหล่านี้ยังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของพลังงานที่สูงเกินที่จะได้รับจากอาหารทั้งจากร้านอาหารจานด่วนและภัตตาคารเข้าด้วยกันด้วย สำหรับการศึกษาครั้งนี้ Binh T. Nguyen จากสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาและ Lisa M. Powell จากมหาวิทยาลัย University of Illinois ในชิคาโก ได้อาศัยข้อมูลที่เพิ่งได้รับมาจากผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งสิ้นมากกว่า 12,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 20-64 ปี ในโครงการ National Health and Nutrition Examination Survey 2003 (NHANES) โดยผู้เข้าร่วมได้ไปรับประทานอาหารทั้งในร้านอาหารจานด่วนและภัตตาคารที่มีบริการที่ดีเยี่ยม โดยใช้เวลาทั้งสิ้นสองวัน ในวันที่รับประทานอาหารจานด่วน พวกเขาเหล่านั้นได้รับพลังงานรวมจากการบริโภคทั้งสิ้น 194.49 กิโลแคลอรี ไขมันอิ่มตัว 3.48 กรัม น้ำตาล 3.95 กรัมและโซเดียม 296.38 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทานอาหารที่ภัตตาคารได้ให้พลังงานทั้งสิ้น 205.21 กิโลแคลอรี ไขมันอิ่มตัว 2.52 กรัม และโซเดียมที่สูงกว่า (451.06 มิลลิกรัม) นอกจากนี้ลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคลยังช่วยลดผลกระทบที่จะได้รับจากการรับประทานอาหารตามภัตตาคารอีกด้วย กล่าวคือคนดำจะได้รับพลังงานสุทธิจากอาหารมากกว่าคนขาวและชาวสเปน และคนที่มีรายได้ปานกลางจะได้รับพลังงานมากกว่าคนที่มีรายได้สูง ดร. Nguyen ได้กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่มีคนอ้วนมากที่สุดในโลก ประมาณหนึ่งในสามของผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงจะเป็นโรคอ้วน ตามรายงานในปี 2007 มันได้แสดงให้เห็นว่าในขณะที่อัตราการเป็นโรคอ้วนได้พุ่งสูงขึ้น การรับประทานอาหารนอกบ้านก็ได้ให้พลังงานจากการบริโภคสุทธิที่สูงมากในระดับที่น่าตกใจ ซึ่งหนึ่งในสี่ของพลังงานที่ว่านี้มาจากการรับประทานอาหารจานด่วนหรืออาหารตามภัตตาคารที่เลิศหรู งานวิจัยของพวกเราได้ยืนยันด้วยว่าการรับประทานอาหารจานด่วนหรือภัตตาคารล้วนเกี่ยวข้องกับการได้รับพลังงานจากการบริโภคต่อวันที่สูงขึ้น และเป็นตัวชี้วัดถึงการได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนอีกด้วย นอกจากนี้คณะวิจัยยังได้พูดถึงผลในทางตรงกันข้ามที่กระทบในวงกว้างกว่า กล่าวคือ พวกเขาได้ศึกษาปริมาณพลังงานที่ได้รับจากการบริโภคของกลุ่มคนที่มีสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าและชนกลุ่มน้อย ที่มีนัยที่เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายประเทศ โดยพวกเขาได้พูดถึงความพยายามที่จะปรับปรุงลักษณะนิสัยในการบริโภคและการได้รับสารอาหาร รวมไปถึงลดการได้รับพลังงานจากการบริโภคที่เกินความจำเป็นจากการรับประทานอาหารตามภัตตาคาร ทั้งนี้มันสามารถช่วยลดความแตกต่างของเชื้อชาติและสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างจริงจังในการบริโภคอาหารของชาวอเมริกา ที่มา //www.sciencedaily.com/releases/2014/08/140807105211.htm เอกสารอ้างอิง Binh T Nguyen, Lisa M Powell. The impact of restaurant consumption among US adults: effects on energy and nutrient intakes. Public Health Nutrition, 2014; 1 DOI: 10.1017/S1368980014001153
Create Date : 18 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2557 2:19:55 น. |
|
1 comments
|
Counter : 737 Pageviews. |
|
|
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ