รู้สถานะตนเอง
ก่อนที่คุณจะเคลียร์หนี้สิน อย่าพึ่งรีบ ตั้งสติ และทำรายการออกมาให้หมดก่อนว่าตอนนี้เรามีหนี้สินอะไรบ้าง เรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง อันนี้ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองให้มาก เพราะถ้าคุณไม่รู้สถานะคุณเอง คุณก็จะไม่มีทางวางแผนการเงินได้อย่างมีวินัย

ทำงบประมาณ ติดตามการใช้จ่าย
นั่งทำรายการเลยว่าแต่ละเดือนใช้อะไรบ้าง และเอาเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้นนะ ของที่อยากได้ แต่ไม่จำเป็น พับเก็บไว้ก่อนเลย รอจัดการหนี้เสจก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที พอคุณมีรายการของที่จำเป็นแล้ว คุณก็จะคำนวนงบประมาณรายเดือนได้

เลิกสร้างหนี้
คุณคงไม่อยากรดน้ำมัน ลงไปในกองไฟที่กำลังโหมใช่มั้ยล่ะ นี่ก็เหมือนกัน ถ้าหนี้เก่ายังไม่หมด แล้วคุณยังไม่ควบคุมการใช้จ่ายของคุณ สถานการณ์จะยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ

จ่ายหนี้มากกว่าขั้นต่ำ
จุดนี้พูดถึงหนี้บัตรเครดิต คุณจำไว้เลยว่า ธนาคารจะได้ประโยชน์จากการที่คุณจ่ายเพียงขั้นต่ำไปเรื่อยๆ เพราะคุณต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารทุกเดือนๆ ไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น อย่าเข้าใจว่านี่คือวิธีที่ธนาคารช่วยเหลือแบ่งเบาภาระจากคุณ และคุณจะไม่ต้องเสียอะไรเลย

เคลียร์หนี้ที่ดอกเบี้ยแพงสุดก่อน
สืบเนื่องจากข้อแรก พอคุณลิสต์รายการหนี้สินได้แล้ว คุณจะรู้ว่าหนี้ก้อนไหนดอกแพงสุด ดอกขึ้นเร็วสุด จัดการก้อนนั้นก่อน แล้วเรียบไปเรื่อยๆ

ถ้าดอกเบี้ยพอๆ กัน จ่ายขั้นต่ำทุกอันไปก่อน!
ในกรณีพิเศษ ถ้าหนี้ทุกก้อนของคุณ ดอกเบี้ยพอๆ กันหมด ให้กระจายจ่ายทุกก้อนตามขั้นต่ำที่ชำระไปก่อน ส่วนก้อนไหน จำนวนเงินต้นน้อยสุด ให้โปะและเคลียร์อันนั้นก่อน เพื่อที่จำนวนหนี้จะได้ลดลง ซึ่งจุดนี้จะช่วยในเรื่องจิตใจของคุณด้วย เพราะคุณจะเริ่มคิดว่าคุณสามารถควบคุมมันได้

หาแรงกระตุ้น

ชีวิตที่ขาดเป้าหมาย จะทำให้คุณขาดแรงที่จะผลักดัน อย่าใช้ชีวิตเพื่อเคลียร์หนี้ไปวันๆ ตั้งเป้าหมายว่า คุณจะจัดการหนี้ทั้งหมดเพื่ออะไร อนาคตที่ดีกว่าในแบบของคุณคือแบบไหน พอมีเป้าหมายแล้ว ก็เตรียมพุ่งชนได้เลย

ติดตามความคืบหน้า ให้รางวัลตัวเองบ้าง!
เมื่อผ่านไปแล้วสองสามเดือน กลับมาเช็คสถานะทางการเงินของคุณอีกครั้ง ถ้ามีความคืบหน้า ก็ให้รางวัลกับความพยายามของคุณบ้าง เพื่อที่คุณจะได้สู้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก MoneyGuru.co.th