อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

คําว่า" สวัสดี" เรี่มใช้เป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 มค. พศ 2486

ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยพิจารณามาจากศัพท์ "โสตถิ" ในภาษาบาลี หรือ "สวัสติ" ในภาษาสันสกฤต โดยได้เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า"สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2486 เป็นต้นมา


"สวัสดี" เป็นภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า "สุ" เป็นคำอุปสรรค (คำเติมหน้าศัพท์ที่ทำให้ความหมายของศัพท์เปลี่ยนแปลงไป) แปลว่า ดี งาม หรือ ง่าย และคำว่า "อสฺติ" เป็นคำกิริยาแปลว่า มี แผลงคำว่า "สุ" เป็น "สว" (สฺวะ) ได้โดยเอา "อุ" เป็น "โอ" เอา "โอ" เป็น "สฺว" ตามหลักไวยากรณ์ แล้วสนธิกับคำว่า "อสฺติ" เป็น "สวสฺติ" อ่านว่า สะ-วัด-ติ แปลว่า "ขอความดีความงามจงมี (แก่ท่าน)"

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้ปรับเสียงของคำว่า "สวสฺติ" ที่ท่านได้สร้างสรรค์ขึ้นให้ง่ายต่อการออกเสียงของคนไทย จากคำสระเสียงสั้น (รัสสระ) ซึ่งเป็นคำตาย มาเป็นคำสระเสียงยาว (ทีฆสระ) ซึ่งเป็นคำเป็น ทำให้ฟังไพเราะ รื่นหูกว่า จึงกลายเป็น "สวัสดี" ใช้เป็นคำทักทายที่ไพเราะและสื่อความหมายดีๆ ต่อกันของคนไทย ส่วนคำว่า "ราตรีสวัสดิ์" ซึ่งเป็นคำแปลจากคำว่า "good night" ซึ่งเป็นคำลาในภาษาอังกฤษ ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นกัน โดยกำหนดให้คนไทยทักกันตอนเช้าว่า "อรุณสวัสดิ์" มาจากคำว่า "good morning" และให้ทักกันในตอนบ่ายว่า "ทิวาสวัสดิ์" มาจากคำว่า "good afternoon" ส่วนตอนเย็นให้ทักกันว่า "สายัณห์สวัสดิ์" มาจากคำว่า "good evening" แต่เนื่องจากต้องเปลี่ยนไปตามเวลา จึงไม่เป็นที่นิยม คนไทยนิยมใช้คำว่า "สวัสดี" มากกว่า เพราะใช้ได้ตลอดเวลา แต่กระนั้น คนไทยก็ยังคงใช้อยู่บ้างบางคำคือ คำว่า อรุณสวัสดิ์ และราตรีสวัสดิ์

คำว่าสวัสดีนั้นจะทำหน้าที่ทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และเมื่อเรากล่าวคำว่าสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้นมาจากใจของผู้ไหว้

ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่าสวัสดีพร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามของคนไทยที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟัง และยังสามารถเพิ่มสเน่ห์ในตัวบุคคลได้อีกด้วย

ที่มา วิกิพีเดีย




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2557    
Last Update : 31 ตุลาคม 2557 9:51:42 น.
Counter : 852 Pageviews.  

15 วิธีกับ 15 นาที ออกกําลังกายสําหรับผุ้ที่ไม่มีเวลา

การออกกำลังกายฉบับเร่งด่วนสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา

ไม่มีเวลาออกกำลังกายงั้นเหรอ ความจริงแล้วเพียงแค่ใช้เวลา 15-20 นาทีต่อวันในการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงพอสมควร ก็ทำให้ร่างกายฟิตและสุขภาพดีได้แล้ว หากว่าคุณยังคิดไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรดี เรามีทางเลือกให้คุณถึง 15 ข้อที่จะทำให้หัวใจสูบฉีดกระปรี้กระเปร่า

15 วิธีกับ 15 นาที เรียกความฟิตแบบเร่งด่วน

พลังของการเดิน
ถ้าคุณไม่สามารถไปเข้ายิมได้ในช่วงพักกลางวัน ลองหันมาเดินออกกำลังกายสัก 15 นาที ด้วยการก้าวเท้าเร็วๆ ไปตามทางเดินในเมืองหรือสวนสาธารณะ วิธีนี้จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 100 แคลอรีใน 10 นาที แต่อย่าลืมแกว่งแขนขณะเดินด้วยล่ะ

ปั่นจักรยานกับที่
ถ้าคุณมีเครื่องปั่นจักรยานที่บ้าน…ก็จงใช้มันซะ! คนที่น้ำหนัก 65 กิโลกรัมสามารถเผาผลาญได้ถึง 115 แคลอรีภายใน 15 นาที และถ้าคุณปั่นด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นก็อาจจะเผาผลาญได้ถึง 185 แคลอรีทีเดียว

เดินรอ ไม่ยืนรอ
คราวหน้าหากคุณไปรับลูกที่โรงเรียนแล้วถึงก่อนเวลาเลิกเรียน อย่ายืนรอเฉยๆ ให้ใช้เวลาที่มีไปเดินเล่นแถวๆ นั้น และถ้าเป็นไปได้ ลองเดินไปส่งลูกที่โรงเรียนแทนขับรถไปส่งดู

ใช้บันไดธรรมดา
ใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์ วิธีนี้ถือเป็นการออกกำลังกายเพื่อความกระฉับกระเฉงซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป และยังมีระดับการเผาผลาญพลังงานต่อ 1 นาทีมากกว่าจ็อกกิ้งเสียอีก

เดินไปทำงาน
ถ้าคุณโชคดีที่มีออฟฟิศอยู่ใกล้ในระยะทางที่สามารถเดินไปได้ จงใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่า! แต่แม้ว่าคุณจะไม่ได้โชคดีแบบนั้น ก็ใช้วิธีลงจากรถเมล์ให้เร็วขึ้นสัก 1 ป้าย จากนั้นก็เดินไปยังที่ทำงาน

เต้น
เปิดวิทยุของคุณซะ จะเป็นไอพอดหรือทีวีที่มีเสียงเพลงก็ได้ จากนั้นก็ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับท่วงทำนองให้เต็มที่ เพียง 15 นาทีคุณก็เผาผลาญไปแล้วถึง 94 แคลอรี

กระโดดตบ
ออกแรงกระโดดตบแบบว่องไวก็ให้ผลดีเช่นกัน โดยเฉลี่ยแล้วคนทั่วไปจะเผาผลาญได้ราว 100 แคลอรีใน 10 นาทีจากการคาร์ดิโอประเภทนี้ แต่ถ้าคุณไม่สามารถทำติดต่อกันได้ถึง 10 นาที ให้แบ่งเป็นครั้งละ 5 นาที 2 ครั้งต่อวัน

วิ่งอยู่กับที่
มีสักกี่คนที่ชอบดูโฆษณาทางทีวี? ดังนั้นระหว่างรอก็ย่ำเท้าวิ่งอยู่กับที่ดีกว่า ผู้หญิงที่หนักประมาณ 68 กิโลกกรัมสามารถเผลผลาญได้ 45 แคลอรีภายใน 5 นาทีระหว่างรายการกำลังพักให้ชมโฆษณา

ออกกำลังกายระหว่างดูทีวี
และถ้ารายการทีวีกำลังฉายอยู่ ทำไมไม่หาอะไรยกเบาๆ หรือออกกำลังช่วงขาระหว่างดูไปด้วยล่ะ

เคลื่อนไหวขณะออกเดินทาง
สนามบินทุกวันนี้ดูจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็จริง แต่เมื่อปัจจุบันกระเป๋าเดินทางถูกพัฒนาให้มีล้อลากสะดวกๆ แล้ว ก็ไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่คุณจะต้องให้สายพานของทางลาดเลื่อนพาคุณไป ดังนั้นจงเดินไปเรื่อยตามทางด้วยขาของคุณเอง และอย่าใช้บันไดเลื่อนในศูนย์การค้าหรือชั้นใต้ดิน แต่ให้ก้าวขึ้นบันไดแทน

วิดพื้นก่อนกินอาหารเย็น
ถ้าอาหารเย็นของคุณกำลังอยู่ในเตาอบ ให้ออกกำลังไปพลางๆ ด้วยการใช้แขนดันตัวกับขอบเคาน์เตอร์ครัว คล้ายๆ กับท่าวิดพื้น เพื่อออกกำลังกายช่วงแขนและไหล่ หรือจะใช้เวลา 2-3 นาทีระหว่างระอาหารในไมโครเวฟเพื่อกระโดดตบฆ่าเวลาก็ได้

เล่นกับเด็ก
เสร็จจากอาหารเย็นแล้ว ก็ลองไปเล่นกับเด็กๆ ในสวนหลังบ้านหรือสวนสาธารณะ อาจเป็นฟุตบอลหรือการละเล่นอื่นๆ ก็ได้ เพียงแค่เตะบอลไปมาประมาณ 10 นาทีก็ทำให้คุณได้เผาผลาญถึง 100 แคลอรีแล้ว

ออกไปข้างนอก
แทนที่จะนั่งเคี้ยวอาหารกลางวันอยู่ในโรงอาหารของออฟฟิศ ลองออกไปเดินหาร้านเบเกอรีหรือแซนด์วิชเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แต่แค่ให้แน่ใจว่าคุณเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ

ทำบ้านให้สะอาด
หาแรงกระตุ้นให้อยากทำงานบ้านซะ! เพราะนอกจากคุณจะได้บ้านที่น่าอยู่ขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้เผาผลาญแคลอรีอีกด้วย การดูดฝุ่นประมาณ 15 นาทีช่วยเผาผลาญได้ถึง 100 แคลอรี

สคอทแบบพื้นฐาน
การสคอทเป็นการออกกำลังกายง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ขณะแปรงฟัน หรือรอการต้มน้ำเดือด การสคอท 100 ครั้งภายใน 5 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ 45 แคลอรี

ขอบคุณที่มาจาก MSN




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2557    
Last Update : 31 ตุลาคม 2557 9:44:03 น.
Counter : 1440 Pageviews.  

เมนูสุดฟิน แสนอร่อย กับ สูตร"ข้าวหน้าไก่ย่าง" เด็ดจริง

เมนูสุดฟิน แสนอร่อย กับ สูตร "ข้าวหน้าไก่ย่าง" เด็ดจริง ไม่ควรพลาด!

ในเมื่อข้าวไก่ย่างตามร้านดังราคาแพงนัก ลองมาทำกินเองเสียเลยดีกว่า ที่สำคัญสูตรนี้ทำง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง

สำหรับใครที่ชอบกินข้าวหน้าไก่ย่างสูตรต่าง ๆ เช่น ข้าวไก่ย่างเทอริยากิ ข้าวไก่ย่างลาบ ข้าวยำไก่แซ่บ ฯลฯ ถ้าไปกินตามร้านดังก็ราคาแพงไม่ใช่เล่น วันนี้เรามีสูตรข้าวไก่ย่างหมักซอสคิคโคแมนราดด้วยซอสสูตรพิเศษ อร่อยไปกับไก่ย่างหมักซอสสูตรเด็ดเนื้อนุ่ม ๆ ย่างให้หอมแล้วราดด้วยซอสสูตรพิเศษ แค่เห็นรูปก็ฟินแล้ว เมนูทำง่าย ถูก และดีแบบนี้จะพลาดได้ไง เป็นสูตรมาจาก เฟซบุ๊ก iCook จะเด็ดและดีขนาดไหน ตามมาดูมาชมกันเลยจ้า

ส่วนผสมและวัตถุดิบที่ต้องเตรียมนะคะ

1. สะโพกไก่ (ติดหนัง) 1 ชิ้น

2. น้ำจิ้มไก่  4 ช้อนโต๊ะ

3. ซอสถั่วเหลืองคิคโคแมน 1 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

5. ผงคนอร์ 1/2 ช้อนชา

6. ข้าวสวย 1 ถ้วย

7. ต้นหอมซอย

8. ซูกินีสไลซ์

9. หอมใหญ่หั่นเต๋า

10. พริกหยวก

11. ซอสสำหรับราดไก่ 1/2 ช้อนชา

วิธีการทำ

1. ผสมน้ำจิ้มไก่ ซอสคิคโคแมน น้ำตาลทราย และผงคนอร์เข้าด้วยกัน จากนั้นนำไก่สะโพกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
2. นำไก่ไปย่าง หรือนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียสจนไก่สุก นำออกจากเตา จัดใส่จานที่มีข้าวสวยเตรียมไว้
3. ผัดซูกินีกับหอมใหญ่ พริกหยวก และซอสสำหรับราดไก่เข้าด้วยกันพอผักสุก จัดใส่จาน เตรียมไว้

ส่วนผสมของการทำซอสราดไก่

1. น้ำจิ้มไก่ 2 ช้อนโต๊ะ

2. ซอสถั่วเหลืองคิคโคแมน 1 ช้อนโต๊ะ

3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

4. ผงคนอร์ 1/4 ช้อนชา

วิธีการทำซอส

ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยจนส่วนผสมข้นเล็กน้อย จากนั้นตักราดลงบนไก่ย่างที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ





 

Create Date : 30 ตุลาคม 2557    
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 9:43:53 น.
Counter : 1763 Pageviews.  

8 ประโยคสุดหลอนที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ต

8 ประโยคสุดหลอนที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ต


8 ประโยคสุดหลอนที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ต ขอบอกว่าหลอนจริงๆ นะคะ เพราะเพียงแค่คุณอ่านประโยคสั้นๆ เหล่านี้ก็สามารถขนหัวลุก จนต้องหันมองบริเวณรอบๆ ตัวหรือรอบๆ ห้องได้แน่นอน ถ้าเพื่อนๆ ไม่เชื่อ ลองไปพิสูจน์ดูกัน…

ijighkj

8 ประโยคสุดหลอนที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ต

1. คืนหนึ่งผมพาลูกชายเข้านอน แล้วลูกก็พูดกับผมว่า “ พ่อครับช่วยดูหน่อยว่ามีผีอยู่ใต้เตียงรึเปล่า..” ผมเลยก้มลงดูใต้เตียงเพื่อให้ลูกหายกลัว แต่ผมดันกลับเห็นลูกชายผมหมอบอยู่ใต้เตียง จ้องมาที่ผมแล้วกระซิบ “พ่อ..มีใครไม่รู้อยู่บนเตียง”

2. ไม่ต้องกลัวผีหรอก ก็แค่มองดูทางซ้าย..ดูทางขวา..ก้มลงดูใต้เตียง..เปิดดูในตู้เสื้อผ้า ขออย่างเดียวอย่าเงยหน้าขึ้นดู เธอไม่ชอบให้ใครเห็น…

3. “ผมแทบขำกลิ้งเมื่อภรรยาของผมแกล้งทำเป็นผีหลอกใส่ผมในกระจก แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงรถขับมาจอดที่หน้าบ้านพร้อมกับนึกขึ้นได้ว่าภรรยาผมไม่อยู่บ้านนี่หว่า”

4. “ฉันดูรูปในโทรศัพท์แล้วก็เห็นรูปของตัวเองกำลังนอนหลับในห้องนอน…ฉันอยู่บ้านคนเดียว”

images

8 ประโยคสุดหลอนที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เน็ต

5. ฉันได้ยินแม่เรียกให้มาที่ในครัว ตอนที่ฉันกำลังจะเดินลงบันได จู่ๆก็ได้ยินเสียงกระซิบว่า “อย่าลงไปลูก แม่ก็ได้ยินเหมือนกัน..”

6. “ผมตื่นขึ้นมากลางดึกได้ยินเสียงเคาะเรียก ในตอนแรกผมก็นึกว่ามันมาจากทางหน้าต่าง แต่พอตั้งใจฟังดีๆมันมาจากในกระจก..”

7. “มีคนกำลังยิ้มให้ฉันมาทางหน้าต่างห้องนอน…..ห้องฉันอยู่บนชั้นที่14”

8. “ยายฉันบอกว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่ฉันมีตาทิพย์ สามารถเห็นยมทูตมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของคนที่กำลังจะตายได้ ฉันก็คิดว่ามันเป็นพรสวรรค์เหมือนกัน จนกระทั่งฉันเห็นยมทูตยืนอยู่ที่หน้าบ้านทุกๆ บ้าน..”

ข้อมูล yamsayong.tv





 

Create Date : 30 ตุลาคม 2557    
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 9:39:11 น.
Counter : 1319 Pageviews.  

ปิตุฆาต-มาตุฆาต 5 คดีดัง สังหารบุพกาลีกระฉ่อนโลก

รวมคดีดังสะเทือนขวัญ ทั้งไทยและเทศ เกี่ยวกับเรื่องราวการสังหารพ่อและแม่บังเกิดเกล้า รวมถึงคนในครอบครัว ที่โด่งดัง และได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

1.หนุ่ม 18 สังหารยกครัวตัวเอง ป้ายความผิดให้น้องที่ตาย

022

คดีสะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นที่จังหวัด ปทุมธานี ในประเทศไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองพุทธของเรานี้เอง เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวโด่งดัง จนเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2557 ที่ผ่านมานี้เอง

เรื่องนี้มีนัยยะที่กลายเป็นคดีพลิกล็อก เพราะเบื้องต้นผู้ลงมือ ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ได้ให้การโยนความผิดไปที่น้องชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกสังหาร เขาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เข้าใจว่า น้องชายของเขาเป็นคนลงมือยิงพ่อและแม่จนเสียชีวิตและยิงตัวตายตาม

แต่เนื่องจากวิถีกระสุนขัดแย้งกับบาดแผล แถมยังมีภาพขณะที่ลูกชายคนโตไล่ปิดกล้องวงจรปิดภายในบ้านก่อนเกิดเหตุ จึงทำให้รูปการในเบื้องต้นค้านสายตาเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน จนลูกชายคนโตถูกคาดคั้น และยอมรับสารภาพผิดในเวลาต่อมา ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าพ่อแม่และน้องชายเสียเอง 

โดยคนร้ายสารภาพว่าสาเหตุ อ้างเครียดถูกกดดันหลายเรื่องทั้งเรื่องเรียน รวมถึงการถูกติดกล้องตามดูพฤติกรรมที่คอนโดฯ อ้างตั้งใจยิงแค่แม่คนเดียว แต่กลัวพ่อกับน้องจะตื่น จึงลงมือฆ่าทิ้งทั้งหมด

2.หนุ่มติดยาคลั่งฆ่า”พ่อ-แม่”บังเกิดเกล้า อ้างเหยื่อเป็นผีปอบ

news05-1

อีกคดีในไทย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ ก.พ. 2553 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งคนร้ายคือนาย ปรีชา ยะโกบอายุ 28 ปี ซึ่งจากรายงานว่าเขาติดยาเสพติดและก่อเหตุสลดขึ้น เพราะเกิดอาการคลั่ง จึงลงมือฆ่าพ่อแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองเสียชีวิตอนาถ โดยเขาอ้างว่าทำไปเพื่อฆ่าผีปอบ

นายปรีชา ได้ถือมีดพร้าตรงรี่เข้ามาก่อนฟันพ่อและแม่ของตัวเองหลายครั้งติดต่อกัน ทั้งคู่พยายามวิ่งหนี แต่ล้มลง ญาติที่เห็นพร้อมด้วยเพื่อนบ้านได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ. แต่ในที่สุดก็เสียชีวิตทั้งคู่

ทั้งนี้ หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งเตลิดอยู่ในละแวกบ้าน แต่ชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าคุมตัวนายปรีชา พบว่าเจ้าตัวอยู่ในสภาพพูดจาไม่รู้เรื่อง อ้างเพียงว่าได้ฆ่าปอบไปแล้ว 2 ตัว

นายปรีชาพบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะการเสพในระดับรุนแรง ทั้งยาบ้า กัญชา มาระยะหลัง คือ น้ำต้มกระท่อม จนถึงขั้นเสียสติ

3.สาวมะกันร่วมมือแฟนหนุ่มฆ่าแม่ตัวเองยัดกระเป๋าที่บาหลี

EyWwB5WU57MYnKOuFBpNOrEBvvawSt6ecLel92w81avJLlWsxdEK5l

เขยิบมาดู เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศไม่ใกล้ไม่ไกลจากเรากันบ้าง กับคดีสุดสลดใจ ในช่วงเทศกาลวันแม่ของไทยพอดิบพอดี เมื่อคู่รักชาวอเมริกัน คือ น.ส.เฮทเธอร์ ฟอน ไวส์ แม็ค วัยเพียง 19 ปี และนายทอมมี เชฟเฟอร์ วัย 21 ปี ฐานะผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมและอำพรางศพ นางชีลา ฟอน ไวส์ แม็ค ชาวอเมริกัน วัย 62 ปี แม่ของฝ่ายหญิง เมื่อ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา

เฮทเธอร์ ฟอน ไวส์ แม็ค

เหตุเกิดขึ้นที่โรงแรม “เซนต์ รีจิส” ในเมืองนูซาดัว บนเกาะบาหลี ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อทอมมี่และเหยื่อมีปากเสียงกัน และกล้องวงจรปิดจับภาพทั้งหมดไว้ได้ ต่อมานางชีลาก็ถูกพบเป็นศพในกระเป๋าเดินทาง ก่อนเจ้าหน้าที่จะตามจับคนร้ายทั้งสองได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตามตำรวจท้องถิ่นที่ครอบครัวของเหยื่ออาศัยอยู่ เผยว่าปมปัญหาอยู่ที่สองแม่ลูกคู่นี้มีประวัติความขัดแย้งกันมายาวนาน เพราะตำรวจในพื้นที่ได้บันทึกโทรศัพท์แจ้งเหตุจากบ้านหลังนี้มีจำนวนถึง 86 ครั้ง ช่วงปี 2547-2556

โดยสาเหตุมาจาก การใช้ความรุนแรงในครอบครัว ลักทรัพย์ ทั้งนี้ที่เพื่อนบ้านระบุว่าแม่ลูกคู่นี้มีปากเสียงกันประจำ

4.คดีสยอง ! ลูกชายฆ่าพ่อแม่ตัดหัว ย่างเนื้อใส่กล่องข้าวในฮ่องกง

00001-500x261

เรื่องนี้เกิดขึ้นในฮ่องกงเมื่อเดือน มีนาคม ปี 2556 ซึ่งผู้ก่อเหตุคือนาย เฮนรี ฉั่ว วัย 30 ปี ที่ก่อเหตุฆ่าพ่อแม่ตัวเอง โดยร่วมมือกับเพื่อนอีกคน ซึ่งนายเฮนรี่ ได้ตัดหัวของพ่อแม่แช่ไว้ในตู้เย็น จากนั้นก็นำศพไปย่างไฟ พร้อมบรรจุลงกล่องอาหารก่อนนำไปทิ้งถังขยะเพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน ซึ่งคนร้ายได้มีการเตรียมการล่วงหน้าคือซื้อ มีด ตู้เย็น และเตาอบมาตระเตรียมก่อนลงมือ

อย่างไรก็ตาม สาเหตุในการก่อการสุดโหดเหี้ยมเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาสาเหตุอื่นๆนอกจาก นายเฮนรีมีอาการทางจิต และอ้างว่าไม่สามารถรับรู้ความเจ็บปวดของคนอื่นได้

5.หนุ่มมะกัน ใช้มีดแทงสังหารแม่ตัวเอง ใช้ค้อนทุบร่างแหลกไม่พอ ข่มขืนศพซ้ำ

101014_064105_kevin-davis-e1412908734961

ย้ายมาทางฝั่งอเมริกากันบ้าง ซึ่งคดีที่จะพูดถึงต่อไปนี้ เป็นความวิปริตแบบถึงขีดสุดก็ว่าได้ กล่าวคือ นายเควิน จาซราเอล เดวิส วัย 18 ปี ก่อเหตุสังหารโหด นาง คิมเบอร์ลีย์ ฮิลล์ วัย 50 ปี มารดาบังเกิดเกล้าของตัวเองเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยเขาใช้มีดแทงเข้าที่ศีรษะและใช้ค้อนทุบตามร่างกายของเธอจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์มากถึง 20 แห่ง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะเขายังลงมือข่มขืนร่างไร้วิญญาณเธอ แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ในวันรุ่งขึ้น ว่าตนเองลงมือสังหาร “ใครบางคน” ทั้งยังให้การว่านี่เป็นการเสียพรหมจรรย์ครั้งแรกของตัวเอง

โดยท้ายที่สุดแล้ว คณะลูกขุนเขตนูเซส ในรัฐเทกซัส ของสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายเควิน ถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ในข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น อย่างไรก็ตาม อัยการตัดประเด็นเรื่องปัญหาทางจิตออกไป เพราะเจ้าตัวยืนยันว่า มีสติสัมปัญชัญญะดีระหว่างก่อเหตุ และสมควรได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

ทั้งนี้ทั้งนั้น เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และตามหลักศาสนาพุทธแล้ว การทำ ปิตุฆาต-มาตุฆา คือการก่อบาปอย่างใหญ่หลวง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักธรรมคำสอนเรื่อง อนันตริยกรรม (กรรมที่หนักที่สุด) ที่หากผู้ใดกระทำบาปดังกล่าว ผู้นั้นจะต้องตกนรกสถานเดียว

แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว ผู้กระทำผิด จะต้องได้รับโทษทั้งทางโลกและทางธรรม โดยโทษของทางโลกคือจะถูกผู้คนประณามและสาปแช่ง ไม่คบค้าสมาคมใดๆเลย ทั้งยังถูกกฎหมายบ้านเมืองลงโทษตามที่ได้กล่าวมานี้อีกด้วย

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

คดีสยอง ! ลูกชายฆ่าพ่อแม่ตัดหัว ย่างเนื้อใส่กล่องข้าว




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2557    
Last Update : 30 ตุลาคม 2557 9:35:29 น.
Counter : 1440 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.