อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?

พุงเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากมี สำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย ทดลองมาหลายวิธีอาจยังไม่เกิดผล


พุง เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากมี สำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย ทดลองมาหลายวิธีอาจยังไม่เกิดผล รับประทานอาหารเสริมก็กลัวผลข้างเคียงและไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในราคาสูง

“เดลินิวส์ออนไลน์” มีทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ชอบรับประทานให้เลือกรับประทาน “แบคทีเรีย” ที่ถูกต้องพร้อมสลายไขมัน ให้หน้าท้องแบนราบ ได้อย่างมั่นใจ

“แบคทีเรีย” ไม่ใช่พิษร้ายต่อร่างกายเสมอไป เราเปลี่ยนแบคทีเรียศัตรูที่เป็นพิษให้เป็นมิตรต่อร่างกายได้โดยการเลือก แบคทีเรียชนิดดีหรือโปรไบโอติก ที่มีผลต่อการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งเป็นตัวควบคุมความอยากอาหารและมีแนวโน้มในการช่วยสลายการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง โดยแบคทีเรียที่กล่าวมาข้างต้น สามารถหาได้จากอาหารที่รับประทานอยู่ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

1. ผักดอง อุดมด้วยโปรไบโอติก แต่ควรเลือกแบบที่ดองในเกลือทะเลและน้ำ เพราะน้ำส้มสายชู ทำให้ได้รับประโยชน์จากแบคทีเรียชนิดดีไม่เต็มที่
2. ถั่วแขก ถั่วฝักอุดมด้วยแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ ซึ่งเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ถ้าคุณนำถั่วแขกไปลวก แล้วต่อด้วยการแช่น้ำเย็นจัด ๆ ก็จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้มากขึ้น
3. กระเทียมต้น กระเทียมต้นครึ่งต้นมีอินูลิน ซึ่งเป็นพรีไบโอติก ถึง 5 กรัม และยังมีโอลิโกฟรุคโตส ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอีก 5 กรัม
4. กระเทียม นอกจากจะช่วยเพิ่มจำนวน L Reuteri (แบคทีเรียที่ช่วยต้านโรค) แล้ว กระเทียมสองกลีบยังช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ อี โคไล (แบคทีเรียชนิดไม่ดี) และทำให้ได้รับพรีไบโอติกอีก 1 กรัมด้วย
5. หน่อไม้ฝรั่ง หน่งไม้ฝรั่งแค่ 5-6 ต้น มีฟรีไบโอติกถึง 6 กรัมแค่การต้มจะทำให้ผักชนิดนี้ช่วยลดไขมันได้น้อยลง จึงควรต้มโดยใช้ไฟอ่อนแค่สองนาที สีจะได้เขียวสดเหมือนเดิมด้วย
6. แก่นตะวัน แค่ 20 กรัมมีอินูลิน ซึ่งเป็นพรีไบโอติกถึง 3.5 กรัม และถ้านำไปบดผสมกับน้ำมันก็จะได้เมนูคาร์โบไฮเดรตต่ำ ซึ่งดีต่อสุขภาพมากินแทนมันบอด
7. กล้วย อุดมด้วยโอลิโกฟรุคโตสซึ่งเป็นพรีไบโอติก ถ้าอยากปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ เพื่อลดอาการท้องอืดคุณควรจะกินกล้วยวันละสองผล
8. แตงโม แตงโมแต่ละเสี้ยว (1/16) มีพรีไบโอติก 1 กรัม ถ้าจะให้ได้รับไบโอติกในปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ละวัน ต้องกินแตงโมทั้งลูก แต่อาหารที่อุดมด้วยพรีไบโอติกก็ไม่ได้มีแค่แตงโม

นี่จึงเป็นวิธีเบื้องต้นที่สลายไขมันบนหน้าท้องได้ โดยไม่ต้องจ่ายราคาสูงและสามารถหาซื้อได้สะดวก

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก //healthmeplease.com

โดย ชนัดดา บุญครอง 

ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์"




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 8:21:01 น.
Counter : 886 Pageviews.  

6 วิธีพับกระทงใบตอง ง่ายนิดเดืยว

6 วิธีพับกระทงใบตอง ง่ายนิดเดียว


วันลอยกระทงปี 57 นี้ เพื่อนๆ มีไอเดียการทำกระทงหรือยังคะ? เพราะกทม.ปีนี้เค้ารณรงค์ให้ทุกคนใช้วัสดุทำกระทงจากธรรมชาติกันมากขึ้นค่ะ ทำให้ทีนเอ็มไทยเราอยากเป็นส่วนนึงที่จะให้เหล่าวัยรุ่นหันมาทำกระทงใบตองด้วยตัวเองกัน จะได้เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอีกด้วย ได้ยินแบบนี้แล้วอย่าเพิ่งถอดใจหรือเบื่อหน่ายนะคะ เพราะเรามี 6 วิธีพับกระทงใบตอง ง่ายนิดเดียว มาฝากเพื่อนๆ กัน รับรองว่าทำเสร็จแล้ว จะอยากถ่ายภาพอวดลงไอจีกันแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูวิธีการทำกันเลย

krathong_baitong

กระทงใบตอง

6 วิธีพับกระทงใบตอง ง่ายนิดเดียว

วิธีที่ 1 พับใบตอง กลีบผกา

กลีบผกา

กระทงใบตอง แบบกลีบผกา

วิธีทำ

1. ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ

2. พับตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาวางซ้อนให้ลดหลั่นกันไปตามภาพ ซึ่งจะนับเป็น 1 ตับ

3. นำไปติดโดยรอบที่ขอบของฐานกระทง ซึ่งเป็นต้นกล้วยตัดเป็นแว่น ความหนา 1.5 – 2 นิ้ว โดยประมาณ ทั้งนี้ปริมาณของกลีบกระทงที่ใช้จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของตัว ฐาน

4. จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ

วิธีที่ 2 พับใบตอง กลีบกุหลาบ

กลีบกุหลาบ

กระทงใบตอง แบบกลีบกุหลาบ

วิธีทำ

1. ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ

2. พับเป็นกลีบกุหลาบตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเีัรียงกันให้มีระยะห่างพองามตามความชอบ ควรจัดให้ยอดของกลีบ และลอนของกลีบตรงเสมอเป็นแนวเดียว ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย

3. ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด

4. พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้โดยรอบ ตรึงกลับใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับมงกุฏสวมศีรษะ

5. จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ

วิธีที่ 3 พับใบตอง หัวขวาน

หัวขวาน

กระทงใบตอง แบบหัวขวาน

วิธีทำ

1. ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ

2. พับตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเีัรียงกันให้มีระยะห่างพองามตามความชอบ เพื่อให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรพับแต่ละกลีบให้ได้ขนาดเท่ากันทุกจุด

3. ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็นแนวตรงเสมอกันโดยตลอด

4. พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐานกระทงได้โดยรอบ ตรึงกลับใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลยพ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายอ่างน้ำ

5. จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ

วิธีที่ 4 พับใบตอง กลีบหัวนก..ลายเปีย

t00010t00011t00012

ขั้นตอนการพับกลีบหัวนกลายเปีย

๑. ฉีกใบตองกว้าง ๑ ๑/๒ นิ้ว

๒. แบ่งครึ่งใตองให้เท่ากัน

๓. พับใบตองริมขวา ให้ชิดเส้นกึ่งกลางใบ

๔. พับทบทั้งสองข้างเข้าหากัน

๕. คว่ำกลีบให้สันตองอยู่ด้านบน พับใบตองลงมาให้เป็นมุมฉาก

๖. พับด้านซ้ายหลังมาทบตรงเส้นตั้งฉาก

๗. พับอีกด้านเหมือนกัน

๘. พับตลบสันทบกลับมาทางขวา ให้เป็นแนวโค้งทะแยง

๙. นำกลีบต่อมาสวมด้านหน้า ให้เส้นโค้งทะแยงขนานกัน

๑๐. เย็บต่อกันจนได้ความยาวตามต้องการ

วิธีที่ 5 พับใบตอง กลีบการเวก

t00017 กลีบการเวกt00018

ขั้นตอนการพับกลีบการเวก

๑. พับทบใบตองเข้าหากัน

๒. พับสันทบขวาไขว้มาทางซ้าย

๓. พลิกกลับด้านหลัง พับสันทบซ้ายไขว้ไปทางขวา

๔. พับริมสันทบขวาไขว้ไปทางด้านซ้าย

๕. พลิกกลับ พับริมสันทบซ้ายไขว้ไปทางด้านขวา

๖. นำกลีบมาสวม เย็บต่อกัน ความยาวตามต้องการ

วิธีที่ 6 การถักตัวตะขาบ

t00015 กลีบตะขาบt00016

ขั้นตอนการถักตัวตะขาบ

๑. ฉีกใบตองกว้าง ๑/๒ เซ็น้ติเมตร แล้วม้วนโดยเส้นทางขวามือซ้อนทับบนเส้นทางซ้ายมือ

๒. จับเส้นทางขวามือสอดเข้าในห่วง

๓. ดึงเส้นด้านซ้ายให้แน่น

๔. สอดเส้นด้านซ้ายเข้าในห่วง ดึงเส้นด้านขวาให้แน่น

๕. สอดสลับไปมา จนเส้นใบตองสั้นสุดใบตอง

๖. ต่อตัวตะขาบ ให้สอดใบตองด้านหน้าตัวตะขาบ อ้อมสอดเก็บปลายทางด้านหลัง แล้วก็ทำเช่นเดียวกัน

๗. ถักจนได้ความยาวตามต้องการ

หลังจากที่เพื่อนๆ พับใบตองแบบที่ชอบเรียบร้องแล้ว ก็ถึงส่วนของตัวกระทง ให้ใช้หยวกกล้วย หรือวัตถุที่ย่อยสลายได้ตัดให้เป็นวงโดยสูงประมาณ1-2.5 นิ้ว ส่วนขนาดแล้วแต่ความพอใจ แล้วนำเอาใบตองที่เราพับเป็นรูปทรงต่างๆ มาติดรอบๆ ขอบกระทงกันเลย

นอกจากนี้ก่อนที่เราจะนำกระทงไปลอยเพื่อขอขมาพระแม่คงคานั้น เพื่อนๆ อาจนำทริคความเชื่ออย่างการตัดเล็บ และผมใส่ลงไปด้วย เพื่อเป็นการขจัดสิ่งร้ายๆ ให้ออกไปจากตัวเรา หรือจะใส่เหรียญลงไปด้วย เพื่อนำมาซึ่งความมั่งคั่งตามความเชื่อก็ได้นะคะ สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ

cr. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, baanmaha





 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2557 7:54:28 น.
Counter : 2929 Pageviews.  

เด็ก 10 ขวบดับอนาถ เหตุส้วมระเบิดขณะปลดทุกข์

เด็กชายชาวอินเดีย ประสบอุบัติเหตุจากการระเบิดของถังส้วมสาธารณะ และเสียชีวิตเพราะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว เด็กชายวัย 10 ขวบ ผู้เคราะห์ร้าย ประสบอุบัติเหตุส้วมระเบิด เสียชีวิต ขณะใช้ห้องน้ำสาธารณะในเวลาราวสองทุ่มของคืนวันพุธ

14150909461415090980l

แต่ในขณะนั้น บ่อเกรอะเกิดระเบิดขึ้นข้างๆ ส้วมที่เขาเข้า จึงทำให้เขา ได้รับบาดเจ็บอย่างรุ่นแรง เพราะแรงระเบิดทำให้ฝาท่อกระเด็นมาโดนหัวของเด้กชายเคราะห์ร้ายรายนี้ โดยเกิดขึ้นจากก๊าซที่สะสมอยู่ในบ่อเกรอะจำนวนมาก

ทางด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองธาเน แจ้งว่าได้รับแจ้งเหตุเมื่องเวลาประมาณสองทุ่มครึ่งในคืนดังกล่าว จากการตรวจสอบระบบไหวเวียนอากาศของบ่อเกรอะถูกปิดด้วยกองขยะ ส่งผลให้มีก๊าซสะสมเป็นปริมาณมากทำให้มีแรงดันสูงจนเกิดการระเบิดขึ้นดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตูบเคราะห์ร้าย ตกบ่อน้ำมัน กู้ภัยใช้เวลา 2 ชม.ช่วยชีวิต




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2557 7:52:00 น.
Counter : 1165 Pageviews.  

กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?

หลายคนคงเคยประสบปัญหาการนอนไม่หลับ ทั้งที่บางครั้งก็รู้สึกง่วง เพลีย อยากนอนมาก แต่พอหัวถึงหมอนกลับนอนไม่หลับโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อนอนไม่หลับบางคนจึงหาวิธีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ตนเองนอนหลับได้ง่ายขึ้น หนึ่งในวิธีที่หลายคนมีความเชื่อว่าหากทำแล้วจะช่วยให้หลับง่าย คือ‘การกินไข่ต้ม’

ไข่ต้ม เป็นเมนูไข่ที่ทำได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยไข่ต้ม 1 ฟอง อุดมไปด้วยโปรตีนจากไข่ขาวและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งไข่แดงยังมีสารอาหารจำพวกไขมัน โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี1, บี2, บี3, บี6 และ บี12 ธาตุเหล็ก และแร่ธาตุต่าง ๆ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือดได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการนอนไม่หลับ หลายคนจึงคิดว่าเกิดจากการไม่ได้กินโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ จึงหันมากินไข่ต้ม เพราะเข้าใจว่าหากได้รับโปรตีนปริมาณสูงในไข่ต้มจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าไข่ต้มจะมีประโยชน์มากมาย แต่ความเชื่อที่ว่า การกินไข่ต้มทำให้หลับง่ายนั้นอาจไม่จริงไปเสียหมด

อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญโภชนาการ กล่าวว่า การรับประทานไข่ต้มเพื่อช่วยให้หลับง่าย จริง ๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากไข่ต้มเป็นเมนูที่มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งยังมีโปรตีนที่มีประสิทธิภาพในการดูดซึมสูงกว่าโปรตีนชนิดอื่น จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่าหากได้รับโปรตีนจากไข่ต้มจะช่วยให้หลับง่าย แต่ความจริงแล้วไข่ต้มไม่ได้มีสารช่วยให้นอนหลับได้โดยตรง และสาเหตุของการนอนไม่หลับก็เกิดจากหลายปัจจัย การรับประทานไข่ต้มเพียงอย่างเดียว จึงไม่มีความแน่นอนว่าจะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น

จากข้อมูลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุว่า สาเหตุของอาการนอนไม่หลับมีหลายปัจจัย ทั้งปัญหาทางด้านอารมณ์ จากความเครียด และโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรคในกลุ่มกังวล และโรคจิต รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่หรือสภาพแวดล้อม เช่น การนอนแปลกที่ การนอนในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป เสียงดัง อากาศร้อน หรือการนอนในท่าที่ผิดปกติทำให้ไม่สบายตัว เช่น การนอนทับแขน รวมไปถึงอาการเจ็บป่วย เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน อาการปวดตามร่างกาย การไอเรื้อรัง การหายใจลำบาก การตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย ๆ และการใช้ยาหรือสารบางชนิดที่ส่งผลให้นอนไม่หลับ

การนอนหลับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่มีความสำคัญ เพราะส่งผลไปถึงความแข็งแรงของสุขภาพในระยะยาว สมองและร่างกายต้องการการพักผ่อนในขณะหลับเพื่อบำรุงซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ การนอนหลับที่เพียงพอจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตที่ดี อย่ารอให้ป่วยถึงจะหันมาใส่ใจสุขภาพ ควรดูแลร่างกายตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำสภาพจิตใจให้สงบ ไม่เครียด งดการดื่มสุราและการสูบบุหรี่

เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง อารมณ์สดใส ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้ดีที่สุด

ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2557 7:47:00 น.
Counter : 1078 Pageviews.  

แดดแรงๆ จะเป็น มะเร็งผิวหนังไหมนะ

เนื่องจากบ้านเมืองเรามีสภาพอากาศร้อน แสงแดดแรงเกือบตลอดทั้งปี ถึงจะหลบเข้าร่มแต่สุดท้ายผิวใสๆ ก็อาจจะหมองคล้ำได้ และที่สำคัญนอกจากผิวจะหมดสวยแล้ว แสงแดดยังอาจก่อให้เกิดโรค มะเร็งผิวหนัง อีกด้วย

มะเร็งผิวหนัง เป็นมะเร็งที่สามารถพบได้เร็วกว่ามะเร็งชนิดอื่นเนื่องจากเห็น ได้จากภายนอก สามารถรักษาให้หายขาดได้ ธรรมชาติของ มะเร็งผิวหนัง จะขยายตัวค่อนข้างช้าอาจนานถึง 5-6 ปี แต่ถ้าไม่รักษาจะมีผลต่ออวัยวะใกล้เคียงไปจนถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้

78251923

มีลักษณะอย่างไร

ผื่นแอคตินิค เคราโตซิล ( Actinic Keratisis = AKS ) เป็นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ โดยมีลักษณะเป็นผื่นขุยๆ มักพบบริเวณหน้า แขน ลำตัว หลังมือ หรือบริเวณที่ได้รับแสงแดดมาก ถ้าไม่รักษาจะกลายเป็น มะเร็งผิวหนัง ได้

มะเร็งบาซอล เซลล์ คาร์ซิโนมา ( Basal Cell Carcinoma = BCC ) เป็น มะเร็งผิวหนัง ที่ร้ายแรงน้อย เพราะเกิดบริเวณชั้นตื้นๆ มักเกิดการทำลาย เพราะบริเวณตำแหน่งที่เป็น ถ้าเป็นบริเวณใกล้เคียงอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตา จมูก ปาก หู อาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะนั้นได้ มะเร็งชนิดนี้มักพบบริเวณ หู จมูก ใบหน้า หน้าอก หลัง ลักษณะที่พบมีหลายแบบ

  • เป็นก้อนเนื้อนูนสีเดียวกับผิวหนัง หรือ ชมพูใส มีขอบ อาจมีเลือดออกบ่อยๆ
  • ลักษณะคล้ายสิว เป็นๆ หายๆ มักมีเลือดออก
  • ลักษณะเป็นก้อนแบนแข็งติดกับผิวหนัง
  • ลักษณะเป็นก้อนขุย มีสะเก็ดดำเลือดออก

มะเร็งสะแควมัส เซลล์ คาร์ซิโนมา ( Squamous Cell Carcinoma = SCC ) ลักษณะคล้ายกับมะเร็งบาซอล เซลล์ คาร์ซิโนมา การลุกลามมักเร็วกว่ามะเร็งชนิด บาซอลเซลล์ คาร์ชิโนมา มักจะลุกลามลงลึกสู่ด้านล่างของเซลล์ผิวหนัง ถ้าคลำดูผิวหนังด้านล่างมักจะพบว่าเป็นก้อนแข็งๆ

มะเร็งแมลิกแนนท์ เมลาโนมา ( Malignant Melanoma ) ลักษณะคล้ายไฝดำ แต่จะกระจายอย่างรวดเร็วสู่อวัยวะภายในสามารถทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว จัดเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงที่สุด
มะเร็งบาซอล เซลล์ คาร์ซิโนมา และมะเร็งชนิดสะแควมัส เซลล์ คาร์ซิโนมา พบได้ตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มักพบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 60-80 ปี

สาเหตุการเกิด

  • แสงแดดซึ่งมีรังสีอัลตร้าไวโอเล็ท ในช่วงเวลา 10.00-15.00 น.
  • การระคายเคืองของสารเคมี เช่น การได้รับสารหนู ยาแผนโบราณ แหล่งน้ำ อาหาร
  • การเป็นแผลเรื้อรังจะมีการเปลี่ยนแปลง มีการทำลายยีนส์ที่ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังตามปกติ
  • พันธุกรรม

ป้องกันอย่างไร

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น.
  • ใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF > 15
  • หลีกเลี่ยงภาวะที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองของผิวหนัง เช่น การสัมผัสสารเคมีบ่อยๆ หรือ การใช้วัตถุขัดถูผิวหนังอย่างแรงๆ บางชนิด

Did You Know?

ไฝบางชนิดอาจกลายเป็น มะเร็งผิวหนัง

  • ไฝที่มีลักษณะขอบไม่เรียบ
  • สีไฝไม่สม่ำเสมอ
  • ขนาดโตมากกว่า 6 มม.
  • เมื่อแบ่งเส้นผ่าศูนย์กลางแล้ว ลักษณะของไฝสองข้างจะไม่เหมือนกัน

มีวิธีการรักษาอย่างไร

  1. ถ้าเป็นผื่นแอคตินิค เคราโตซิส สามารถใช้การจี้ด้วยความเย็นในการรักษาก็เพียงพอ
  2. ถ้าลุกลามเป็นมะเร็งบาซอล เซลล์ คาร์ซิโนมา ใช้วิธีการจี้ไฟฟ้า ร่วมกับการขูดผิวหนังหรือการตัดออกและการผ่าตัดพิเศษที่เรียกว่า Moh’s Surgery ซึ่งวิธีการใดขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย สภาพร่างกายของผู้ป่วย และลักษณะของเนื้อที่ผิดปกติ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย
  3. ถ้าเป็นมะเร็ง สะแควมัส เซลล์ คาร์ซิโนมา ต้องใช้วิธีการ ผ่าตัด Moh’s Surgery  และหากเกิดแผลเรื้อรังมากกว่า 2 สัปดาห์ มีเลือดออก มีการเปลี่ยนแปลงของไฝ ปาน ควรรีบมารับการตรวจจากแพทย์ผิวหนังโดยเร็ว

ขอบคุณที่มาจาก : emaginfo.com




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2557 9:44:42 น.
Counter : 969 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.