อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

อยาก ลดนํ้าหนัก ห้าม! อดอาหาร

ความอ้วนไม่เข้าใครออกใคร แม้จะมีการออกกำลังกายเป็นประจำ แต่หากยังไม่เลิกนิสัยกินจุบกินจิบ พฤติกรรมสำคัญที่ทำให้มีน้ำหนักเกินแล้วล่ะก็ การ ลดน้ำหนัก ก็คงไม่ใช่เรื่องหมูๆ อย่างที่ใครๆ บอกง่ายนิดเดียว…

นพ.ฆนัท ครุทกุล เลขานุการเครือข่ายคนไทยไร้พุง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโภชนวิทยาคลินิก รพ.รามาธิบดี ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ไว้ว่า สิ่งสำคัญในการ ลดน้ำหนัก จริงๆ คือ การบริโภคอาหารให้ครบทั้ง 3  มื้อ ไม่ควรอดอาหาร เพราะจะนำไปสู่การบริโภคอาหารเพิ่มมากขึ้น

142286531

โดยคุณหมอให้คำเพิ่มเติมไว้ดังนี้

ควร: กินมื้อเช้า

“เน้นกินอาหารมื้อเช้าที่มีประโยชน์และให้คุณค่า เพราะจะช่วยปรับให้การทำงานของร่างกายเป็นระบบ ช่วยให้ไม่รู้สึกหิวบ่อย เพราะได้รับพลังงานและสารอาหารที่เพียงพอ”

ควร: ปรับพฤติกรรมการกิน

“สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีที่สุดก็คือ เมื่อถึงเวลากิน แม้ไม่หิว ก็ควรกิน หลีกเลี่ยงนิสัยกินจุบจิบ เวลาทำงานไม่ควรนำอาหารหรือขนมตั้งไว้ใกล้มือ เพราะการเห็นของกิน ก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารได้

ไม่ควร: อดมื้อ กินมื้อ

“หลายคนไม่กินอาหาร ทำให้เวลาหิว ก็ยิ่งกินมากขึ้น วิธีที่เหมาะสมคือ ถึงเวลาที่ต้องกิน ก็กิน ไม่เช่นนั้น ร่างกายจะมีการกระตุ้นให้อยากอาหาร ไม่อย่างนั้นแล้วจะกินเกินที่ร่างกายต้องการ เพราะฉะนั้นเช้า กลางวัน เย็น เมื่อถึงเวลากิน ก็ควรกินทันที”

ไม่ควร: ปล่อยตัวเองจนหิว

“การปล่อยให้ตัวเองหิว เมื่อหิว ก็จะยิ่งกินเยอะ ซึ่งก่อนนอน 4 ชั่วโมง ไม่ควรกินอาหารแล้ว ควรดื่มน้ำเปล่า หรือนมอุ่นรองท้อง”

เมื่อมีปรับพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้นแล้ว ที่เหลือก็คือการหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันได้หมด

“เพียงเท่านี้เราก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของน้ำหนักเกินแล้วครับ” เลขานุการเครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องโดย : ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content //www.thaihealth.or.th




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 7:54:30 น.
Counter : 895 Pageviews.  

ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน

ที่จริงแล้วผักสวนครัวทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น โหระพา ขิง ข่า ตะไคร้ หรือใบสระแหน่ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น .....

โดยเฉพาะสรรพคุณทางยาของความเป็นสมุนไพรไทยที่ใครได้ยินแล้วจะต้องบอกว่า สุดยอด เสมอ ว่าแล้ววันนี้ก็เลยอยากให้คุณๆ ได้รู้จักกับประโยชน์ของพืชผักสวนครัวเหล่านี้กัน

สมัยเด็กมักจะโดนคุณแม่ใช้ให้ไปเก็บพืชผักสวนครัวหลังบ้านบ่อยๆ บ้านหลังเล็กๆ ของเรามีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับปลูกผักสวนครัวไว้ปรุงอาหารกินเอง แต่หลังจากย้ายตัวเองมาฝังตัวอยู่ที่เมืองหลวง ก็มได้มีพืชผักสวนครัวส่วนตัวไว้กินอีกเลย

• โหระพา
โหระพาเป็นผักที่มีกลิ่นแรงบางคนบอกว่าหอม บางคนว่าฉุน แต่ไม่ว่าจะหอมหรือฉุน โหระพาก็เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารไทยมานานนม รวมทั้งมีสรรพคุณทางยามากกว่าที่เราเคยรู้จักเยอะเลย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจถ้าโหระพาจะเป็นผักชูรส และอยู่ในอาหารอย่างแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน เป็นต้น

สารอาหาร
โหระพาที่ใครบางคนว่าฉุน ที่จริงแล้วเป็นผักที่มีสารอาหารด้วยนะ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน

สรรพคุณทางยา
คุณสมบัติทางยาของโหระพาท่ฃี่สุดยอดมากๆ ก็คือ ช่วยย่อยอาหารแก้การจุกเสียด แน่นท้อง เพราะสามารถช่วยขับลมในลำไส้ได้ แต่สำหรับคนที่เกลียดโหระพาเข้าไส้ คุณอาจจะแอบปลื้มที่ได้รู้ว่าผักสวนครัวอย่างโหระพาไม่ได้มีดีแค่ใบ แต่เมล็ดยังสามารถนำมาแช่น้ำให้พองรับประทานเป็นยาแก้บิดได้ด้วย

ทราบหรือไม่•โหระพารักษาโรคเข่าเสื่อมได้ ตำราแพทย์ระบุว่าให้นำต้น ใบและรากโหระพามาตำพอละเอียด ใส่เหล้าขาว 40 ดีกรีเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำไปตั้งไปแค่พอร้อน ทิ้งไว้ให้อุ่น จากนั้ก็นำไปพอกเข่าประมาณ 10-15 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง แล้วอาการจะค่อยทุเลาลง
•โบราณว่าโหระพาเป็นยาบำรุงทางเพศด้วยนะ



•ขิง
ขิงเป็นเครื่องเคียงอย่างหนึ่งในเมนูอาหารไทย แต่หลายคนส่ายหน้าเวลาเห็นขิง ส่วนหนึ่งก็เพราะกลิ่นแรงเหลือกำลัง ดังนั้นจึงเลี่ยงด้วยการเขี่ยขิงทิ้งไว้ข้างๆ จาน แต่ต่อไปนี้ถ้าอยากได้ประโยชน์มากมายจากอาหารการกิน ลองชิมขิงดูสักครั้ง

สารอาหาร
ขิงประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญคือ โปรตีน คาร์ดบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ

สรรพคุณทางยา
ประโยชน์อย่างหนึ่งที่เราจะได้จากการใช้เหง้าขิงแก่ทุบหรือบดเป็นผง แล้วชงน้ำดื่มก็คือ แก้อาหารคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด และแน่นเฟ้อ

นอกจากนี้ขิงยังมีประโยชน์ทุกส่วน ตั้งแต่
ราก – ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ และแก้บิด
ต้น – ช่วยขับให้ผายลม แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
ผล – แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
ใบ – แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
ดอก – ช่วยย่อยอาหาร แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคประสาทที่ทำให้ใจขุ่นมั่ว

ทราบหรือไม่•ขิงแก้ผมร่วง ตำราระบุว่า ให้ใช้เหง้าขิงสดมาผิงไฟพออุ่น จากนั้นให้ตำแล้วนำมาพอกบริเวณที่มีผมร่วง ทำแบบนี้ประมาณ 3 วัน วันละ 2 ครั้ง ถ้ายังไม่ได้ผลให้ทำต่อไป
•ขิงกำจัดกลิ่นกาย ถ้ารักษากลิ่นเหงื่อใต้วงแขนมาหลากหลายวิธีแล้วแต่ยังช่วยไม่ได้ ลองใช้เหง้าขิงแก่ โดยทุบแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาทาใต้วงแขนทุกวัน จะช่วยกำจัดกลิ่นกายได้ชะงัด
•ขิงแก้ปากเหม็น โดยให้คั้นน้ำขิงผสมน้ำอุ่น เติมเกลือเล็กน้อย แล้วกลั้วปาก ฆ่าเชื่อโรค



•ข่า
ถ้าหยิบขึ้นมาเคี้ยวกันสดๆ ก็คงจะไม่ปลื้มนัก ข่าเลยกลายเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องเทศที่ใช้ปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเอร็ดอร่อยกับเมนูโปรดอย่างต้มข่าไก่กันนัก แต่หน่อข่าอ่อนสามารถเป็นเครื่องเคียงแสนอร่อยในเมนูน้ำพริกแบบไทยๆ ได้ด้วยนะ

สารอาหาร
สารอาหารที่จะได้จากข่าคือ คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม สฃวิตามินซี

สรรพคุณทางยา
ประโยชน์จากคุณสมบัติทางยาของข่า ให้ใช้เหง้าสดดำดให้ละเอียดผสมกับน้ำปูนใส แล้วรับประทานครั้งละครึ่งแก้ว จะช่วยขับลมแก้มฃท้องอืด ท้องเฟ้อท้องเดิน และบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้

ทราบหรือไม่ว่า•ประโยชน์อื่นๆ ที่ได้จากข่านอกเหนือจากการรับประทานอาหาร ได้แก่ ใช้รักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนและแก้ลมพิษ โดยใช้เหง้าสดตำให้ละเอียดผสมกับเหล้าขาวทาบริเวณที่เป็นจนกว่าจะดีขึ้น
•ใช้ข่าไล่แมลงได้ด้วย โดยนำเหง้ามาทุบหรือตำให้ละเอียด เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แมลงก็จะไม่กล้ามาแหยมอีกแล้ว

ที่มา สนุก.คอม




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2557 7:49:49 น.
Counter : 966 Pageviews.  

กรอบนอกนุ่มใน...กับเมนูไข่สก็อต

กรอบนอกนุ่มใน..กับเมนูไข่สก็อต

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. เนื้อหมูสับ 200 กรัม

2. เนื้อกุ้งสับ 100 กรัม

3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

4. กระเทียมสับละเอียด 3 กลีบ

5. พริกไทยป่นเล็กน้อยสำหรับปรุงรส

6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

7. ไข่นกกระทาต้มสุก ปอกเปลือก 10 ฟอง

8. แป้งข้าวโพดสำหรับคลุก

9. ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง

10. เกล็ดขนมปังบดละเอียดสำหรับคลุก

11. น้ำมันพืชสำหรับทอด

12. น้ำจิ้มไก่ หรือซอสพริกสำหรับรับประทานคู่

วิธีทำ

1. ผสมหมูสับ เนื้อกุ้ง แป้งข้าวโพด กระเทียม พริกไทยป่น และซีอิ๊วขาวให้เข้ากัน เตรียมไว้

2. นำไข่นกกระทาคลุกลงในแป้งข้าวโพดให้ทั่ว ห่อด้วยส่วนผสมหมูที่เตรียมไว้ให้ทั่วทั้งฟอง จากนั้นนำไปชุบลงในไข่ไก่ และคลุกลงในเกล็ดขนมปังให้ทั่ว เตรียมไว้

3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลางจนน้ำมันเดือด ใส่ไข่สก็อตลงทอดจนสุกเหลืองทั่วทั้งฟอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ผ่าครึ่ง จัดใส่จาน รับประทานคู่กับน้ำจิ้มไก่ หรือซอสพริก




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 8:32:50 น.
Counter : 2019 Pageviews.  

ลบรอยขีดข่วนบนหน้าจอมือถือด้วย "ยาสีฟัน"

ลบรอยขีดข่วนบนหน้าจอมือถือด้วย "ยาสีฟัน"!

ปัจจุบันนี้หลายคนนิยมใช้โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตแบบหน้าจอสัมผัส แน่นอนว่าปัญหาที่มักพบเจอเป็นประจำนั่นก็คือ "รอยขีดข่วน" บนหน้าจอนั่นเอง วิธีป้องกันง่ายๆ ที่หลายคนมักทำกันก็คือ ติดฟิล์มกันรอย หรือไม่ก็หาเคสโทรศัพท์ หรือเคสแท็บเล็ตมาใส่เพื่อป้องกันปัญหารอยขีดข่วน

แต่รู้ไหมคะว่าอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยลบรอยขีดข่วนได้นั่นก็คือ "ยาสีฟัน" นั่นเอง



วิธีการใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่นำผ้านุ่ม ๆ ผืนเล็ก ๆ หรือสำลีแผ่นมา แล้วบีบยาสีฟันลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปขัดถูบริเวณหน้าจอที่มีรอยขีดข่วน แล้วเช็ดออกให้สะอาด รอยขีดข่วนก็จะจางหายไปทันทีเลย

เหตุผลที่ยาสีฟันช่วยลดรอยขีดข่วนได้ก็เพราะว่า ในยาสีฟันมีสาร Abrasives ซึ่งเป็นสารที่ใช้ขัดพื้นผิวให้เรียบเนียน อีกทั้งยาสีฟันยังมีฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารเคลือบฟัน มันจึงสามารถเคลือบทำให้หน้าจอเรียบเนียนขึ้นได้

วีธีนี้สามารถใช้ได้ดีกับหน้าจอพลาสติก และใช้ได้กับทั้งมือถือ แท็บเล็ต หน้าปัดนาฬิกา หรือหน้าจอกล้องดิจิตอล ก็ได้




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 8:30:42 น.
Counter : 1121 Pageviews.  

อึ้ง! สาวมหาลัยหน้าตาดี ติดเอดส์ ปล่อยเชื้อล้างแค้นชายกว่า 300 ราย

อึ้ง!สาวมหาลัยหน้าตาดี ติดเอดส์ ปล่อยเชื้อล้างแค้นชายกว่า 300 ราย

หญิงสาวหน้าตาดี อายุ 19 ปี ซึ่งเรียนอยู่ที่มหาลัยแห่งหนึ่งในประเทศเคนย่า เรื่องเกิดจาก เธอได้ไปปาร์ตี้กับรุ่นพี่คนหนึ่งในมหาลัยเดียวกัน และเธอเกิดพลาดพลั้งมีเซ็กส์โดยที่ไม่ได้ป้องกันใดๆเลย ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะเป็นธรรมดาของเด็กมหาลัยอยู่แล้ว ที่จะมีเซ็กแบบ one night stand แต่เมื่อเธอกลับป่วยและรู้สึกอ่อนแอกว่าเมื่อก่อน ทำให้เธอเข้าตรวจที่โรงพยาบาลและพบว่าเธอนั้นกำลังเป็นโรคเอดส์

เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายหลายครั้ง เพราะทั้งครอบครัวและตัวเธอเองต่างก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์แบบนี้แต่เธอกลับคิดได้ว่าในเมื่อฉันโดนแบบนี้แล้ว ทำไมฉันจึงต้องโดนคนเดียวล่ะ เธอจึงเริ่มปฏิบัติการเลยครับ ด้วยการอาศัยความหน้าตาดีของตัวเองจึงทำให้มีผู้ชายหลากหลายคนจากในมหาวิทยาลัยต่างวนเวียนมาหลับนอนกับเธอ และเธอยังบอกอีกว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ต่ำกว่าวันละ4คน!! ซึ่งในตอนนี้คิดว่าคงจะมีผู้ชายที่ติดเชื้อเอดส์จากเธอไปแล้วประมาณ 300 กว่าคน (เห้อ น่าเศร้าจริงๆนะครับ ไม่ใช่เรื่องที่น่ามาทำแบบนี้เลย)

เพราะฉะนั้นอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเตือนใจของวัยรุ่นไทย เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ใครคนไหนผ่านอะไรมาบ้าง เป็นโรคอะไรอยู่รึเปล่า เพราะฉะนั้นก่อนจะมีอะไรกันก็ควรป้องกันให้ดีที่สุด





 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 8:26:51 น.
Counter : 1532 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.