ไปงานแต่งงาน.. ... แต่งตัว ไปงาน แต่งงาน ... ... แต่งตัวไปงานแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจเล๊ยสักนิด ... ก็แค่เลือกแต่งตามความเหมาะสม บวกกับ ความสวย เท่านั้นเอง ... ดูจากสถานที่และเวลาก่อน ถ้าเป็นการจัดงานตอนกลางคืน ที่โรงแรมหรู ๆ ก็ควรเลือก เสื้อผ้า ให้สมสถานที่หน่อย ยิ่งถ้าเป็นงานเลี้ยงรับรอง ที่เขาไปยืนคุยประกอบการกินแล้วด้วย ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งแปะลงได้สักเท่าไหร่ คุณยิ่งมีสิทธิ์เดินเฉิดฉาย โชว์ไปรอบห้องได้ โดยไม่ผิดกติกา จะหรูเริดยังไงก็ตามใจเถิด แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งต้องนั่งอยู่กับเก้าอี้ เป็นส่วนใหญ่ ก็ควรเลือกเสื้อผ้า ชุดที่ไม่ยับง่าย เวลาลุกไปห้องน้ำ ห้องท่า จะได้ไม่เหมือนกับแอบไปนอนมางีบนึง งานเลี้ยงแบบโต๊ะจีนนั้น ควรลดความฟู่ฟ่าของเสื้อผ้า ลงมาอีกนิด เพราะ งานแบบนี้เขามักไปเพื่อกิน กันลูกเดียวมากกว่า เลือกเสื้อผ้าตัวสวยแกมสบาย เพราะ คุณต้องพุ้ย ตัก ขยับเขยื้อนไปมา ในอิริยาบถต่าง ๆ มากกว่า การกินอาหารอย่างอื่น ๆ ... แล้วก็ต้องเลือกเสื้อผ้า ตามเวลาอันเหมาะด้วยว่า เป็น เช้า สาย บ่าย เย็น ถ้าเป็นการเลี้ยงใส่บาตรเช้าตรู่ ก็เลือกแค่ชุดเรียบ ๆ อย่าให้ระยิบระยับ แพรวพรายมากนัก คนแก่ผู้เฒ่า จะค้อนเอาว่า แต่งตัวไม่ถูกกาละเทศะ ตกค่ำหน่อย ถึงค่อยเฉิดฉายได้ ถ้าคุณไม่แน่ใจในขนบธรรมเนียม ประเพณีเรื่องใดของฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาว ก็ควรถามไถ่ทางคุณเธอ ดูซิว่า ใส่สีแดงไปจะถือไม๊เนี่ย หรือต้องใส่สีชมพูจัดจ้าไปเอาฤกษ์เอาชัย สมัยก่อน ไม่นิยมให้แขกใส่สีขาวไป ประชันกับเจ้าสาว แต่สมัยนี้ เขาไม่ค่อยถือกันแล้ว เพราะ สีขาวกำลังมาแรง ขออย่างเดียว อย่าตัดแบบซะฟู่ฟ่า แถมติดดอกไม้ประดับประดา ยังกับเป็นเจ้าสาวเสียเอง ก็แล้วกัน ส่วนสีดำนั้น สมัยก่อน เป็นสีต้องห้ามสำหรับงานแต่งงาน แต่สมัยนี้ ไม่ค่อยมีใครเขาถือกันสักเท่าไร คุณอยากใส่ก็เชิญ แต่ต้องไม่แคร์กับสายตาขุ่นเคือง ของคุณยายเจ้าสาว หรือ ท่านผู้เฒ่าคนอื่น ๆ นะจะบอกให้ ขอแนะนำว่า ถ้าอยากใส่สีดำจริง ๆ ก็อย่าใส่ดำมึดทะมีนสีเดียว ให้เลือสีสด ๆ อื่น ประดับแซมพอทำเนาด้วยดีกว่า ... ข้อสำคัญที่สุด คุณจะแต่งตัว สวยเริด พริ้ง ยังไงก็ได้ แต่กรุณา อย่าแต่งเกินหน้าเจ้าสาว เป็นอันขาด ถึงแม้ว่า เจ้าสาวอาจจะสวยน้อยกว่าคุณ ไปนิดนึงก็ตาม หรือ ชุดเจ้าสาวอาจจะไม่มีอะไรที่ดูเด่นสะดุดตา กระนั้น เป็นการถือว่า ให้เกียรติแก่เจ้าสาว ดังนั้น คุณควรเลือกดูชุด เครื่องประดับ ให้ดูเหมาะสม พองาม อ้อ... แล้วอย่าลืม ของขวัญ ติดไม้ติดมือไป พอเป็นพิธีด้วยล่ะ ... จะได้ไม่เขิน ... ... มรรยาทยอดแย่ ... ในงานแต่งงาน ... ตำราว่าด้วยมรรยาทนั้น บอกแต่การทำตัวเป็นแขกที่ดี ... แต่ไม่ได้บอกไว้สักนิดว่า เจ้าภาพน่ะเขาชังน้ำหน้าแขกไม่ดีแบบไหน .. ก็ขอโพนทะนาไว้ซะ ณ. ที่นี้เลย ... อันเนื่องมาจากงานแต่งงาน ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เขาช้ำหัวอกกับแขกรับเชิญ ที่ไม่น่ารัก ... ... แขกจู้จี้ เรื่องอาหาร ไม่กินหมู กินเนื้อ แล้วก็พานบ่นลั่นว่า ไม่เห็นมีอะไรกินเลยนี่ ... ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นแขกรับเชิญที่ไหน ก็กรุณาอย่าบ่นเรื่องอาหาร ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน ... แล้วก็ไม่ต้องบ่นด้วย ... แขกที่ได้รับเชิญแล้ว ไม่ยอมโผล่มา ทั้งที่รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะ ... โดยเฉพาะ ถ้าตรงกับเวลาถ่ายทอดหมัดมวย ฟุตบอลใด ๆ ที่เจ้าภาพเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่า คุณนอนเขลงดูมวยอยู่กับบ้าน ไม่สนใจจะมางานเขา ทั้งที่ปากบอกว่า มาแน่ ๆ ซี้กันแทบเป็นแทบตาย ... ... ของขวัญห่อโตเบ้อเริ่ม ที่คุณหอบไปยื่นให้ แล้วยืนกรานให้แกะดูตรงนั้น ผลคือ เจ้าบ่าวเจ้าสาว ต้องละความงามสง่ามา ทิ้ง ดึง ฉีก ของห่อเท่าบ้านนั่น อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ไหนแขกเหรื่อ ที่จะต้องต้อนรับอีกพะเรอล่ะ แมคอัพเจ้าสาวละลายกันพอดี ... แขกที่ใช้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ยังกะเป็นเอเย่นต์บริษัททัวร์ ถือว่า มาจากต่างจังหวัด พอเขาเอ่ยปากเอื้อเฟื้อ จองที่พักให้ ก็ขอห้องชั้นโน้นติดห้องคนนี้ ขอเตียงเดี่ยวเตียงคู่ไม่เอา ... ถ้าเป็นการพักฟรี ที่เขาจัดให้ล่ะก้อ อย่าจู้จี้เป็นอันขาด ... แขกที่พาเพื่อนฝูง แฟน หรือ ผู้ติดตามที่ไม่ได้รับเชิญ มาอีกเป็นโขยง .. งานแต่งงานสมัยนี้ เขานับจำนวนไว้เป็นรายหัว เจ้าบ่าวเจ้าสาว เขาก็คงกะเผื่อไว้แค่นิดหน่อย และ เชิญเฉพาะแขกสำคัญและสหายสนิท ไม่ได้เปิดเป็นงานสาธารณะ จัดเลี้ยงทำทานใด ๆ ถ้าคุณคิดจะควงหนุ่มไปอีกซักคนล่ะก้อ ให้เอ่ยปากถามเจ้าสาวเจ้าบ่าว ล่วงหน้าก่อน นาน ๆ เขาจะได้มีเวลาตอบปฎิเสธ หรือ เตรียมการได้ด้วย เหตุผลเรื่องงบประมาณ เป็นเกณฑ์สำคัญ อย่าหอบลูกจูงหลาน ตามไปอีกโขยงใหญ่ เป็นอันขาด เพราะ คิดว่า เด็กตัวเท่านี้ กินไม่เปลืองหรอกน่า ... แค่เก้าอี้ที่เขาจัดไว้ ก็ไม่พอนั่งแล้ว ไม่ต้องคิดไปถึงอาหารให้เสียเวลา ... ดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอร์มากเกินไป จนเมามาย เพราะ คิดว่าของฟรีกินได้ไม่อั้น แขกบ้านเราชอบกินกันซะเมาแอ๋ โดยเฉพาะ ผู้ชาย ที่มักจะเมามาก บางคนก็เมาแล้ว สร้างความรำคาญให้แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาว อย่างยิ่ง ทำให้เจ้าภาพหน้าไม่ค่อยดี กลัวเกิดการอาละวาดขึ้นมาบ่อย ๆ ยับยั้ง ความเป็นคอทองแดง ไว้ไปดริ๊งค์ต่อที่บ้านเถอะน่า เห็นใจคนข้าวใหม่ปลามันเขา ให้มีความสุขใจไปตลอดงาน ดีกว่าไปอาละวาดเมามาย ... อย่าขอของชำร่วยเกินจำนวน อ้างว่าไปเผื่อคนโน้น ฝากคนนี้ ของเขามีจำกัด ถ้าอยากได้จริง ๆ ให้ขอตอนลากลับ เมื่อของเหลือแจกแล้ว จะเหมาะกว่า ไม่อึดอัดใจคนแจกเขาด้วย.. ... ในคืนวันแต่งงาน เพื่อนเจ้าบ่าว มักจะชักชวนให้เจ้าบ่าว สังสรรค์ เป็นการฉลองการสละโสด บางทีก็ฉลองซะจนถึงเช้าเลย หรือ บางทีก็คะยั้นคะยอให้เจ้าบ่าว ดื่มจนเมามายไม่ได้สติ พอเข้าห้องหอ ก็ล้มตัวหลับไปเลย หรือบางทีก็ปล่อยเจ้าสาว ให้คอยจนถึงเช้าเลยก็มี ด้วยความเป็นห่วงเจ้าบ่าวนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรจะชักชวนเจ้าบ่าว ให้อยู่ดึกจนเกินไป หรือ เมามายจนเกินไป คืนแต่งงานคืนแรก เป็นคืนที่สำคัญสำหรับคนสองคน ควรให้ความเกรงใจผู้เป็นเจ้าสาวบ้างนะคะ   Create Date : 08 มีนาคม 2552 5 comments Last Update : 8 มีนาคม 2552 20:15:26 น. Counter : 810 Pageviews. Share Tweet

ได้ความรู้นี้ครับ เนื้อหาคราวนี้   โดย: ลานสน 8 มีนาคม 2552 21:16:47 น.

ฮิฮิ...แต่งงาน... คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ฮิฮิ.................   โดย: ตาติ๊ก...น๊ะน๊ะ..ครับ (สกุลเพชร ) 8 มีนาคม 2552 21:26:12 น.

ไปมาไม่ต่ำก่า 10 งานแล้วครับ เกิดความยากจนขึ้นมาทันตาเห็น สำหรับผม จะเน้นว่าถ้าเป็นงานตามโรงแรม จะใส่สูทกึ่งลำลองไป และแต่งตัวสุภาพออกหวานๆ ไว้ก่อนน่ะครับ เอาไม่เด่นเกินหน้าเกินตาเจ้าบ่าว ผมเองพึ่งเจอมากับตัวครับ ไอ้เจ้าบ่าวเพื่อนผม มันแต่งเสร็จมาเมากับเพื่อนแหลกลาน ไม่สนเจ้าสาวเลย แต่เจ้าสาวเดินมาบอกว่า "หนูนอนก่อนนะคะ เหนื่อยมาทั้งวัน เรื่องคืนแรกของหนูกับพี่เขา ทีหลังก็ได้ค่ะ เพราะนานๆ ทีพี่ๆ จะได้มาเจอกัน" เจ้าสาวแฟร์มากกกกก ผมงี้ สลดทันที เลยขอตัวกลับก่อน มารู้ทีหลังว่า เข้าบ่าวเมาปลิ้น เต้นแร้งเต้นกา จนเช้าเลยครับ แหม ช่างเป็นเจ้าบ่าวที่ดีจริงๆ แต่ก็อย่างว่านะครับ ประโยคที่ว่า "คืนแรกของชีวิตคู่ ทีหลังก็ได้" ช่างสุดยอดจริงๆ เลยน่ะครับ   โดย: เข็มขัดสั้น 8 มีนาคม 2552 21:37:07 น.

ชุดที่มาลงนี่ดูจะสวยเกินเจ้าสาวไปอะป่าวเอ่ย แต่ชอบค่ะ สวยมากเลย   โดย: Summer Flower 9 มีนาคม 2552 19:17:16 น.

thank you ka   โดย: chinanod 9 มีนาคม 2552 19:28:10 น.