Like a carousel that's turning running rings around the moon... Like the circles that you find in the windmill's of your mind...
การพัฒนา.. 1

การพัฒนา.. ความเป็นตัวของตัวเอง..






เซียวบะจ่าง - เรียนรู้ถึง การให้ความรัก แก่คนอื่น..




ของวัยรุ่น ยุคใหม่...


"การพัฒนา" หมายความถึง ลำดับต่าง ๆ ที่ก้าวไปข้างหน้า ของการเปลี่ยนแปลง ในหลายสิ่งตามแบบการเชื่อมโยง ของชีวิตที่มากขึ้น การพัฒนา เป็นกระบวนการซับซ้อน ในเรื่องที่เกี่ยวกับ การรวบรวม การทำหน้าที่ต่าง ๆ และ ความรู้สึกทั้งหลาย ทางร่างกาย ความคิด และ จิตใจ การเปลี่ยนแปลงในหลายสิ่ง จะเกิดขึ้นได้ในแทบทุก ๆ แง่มุม ทั้งภายในและภายนอก โดยไม่คำนึงว่า เด็กกำลังเติบโตอยู่หรือไม่ก็ตาม ชีวิตจะมีความแข็งแกร่ง ความรวดเร็ว และทักษะทางยานยนต์เพิ่มขึ้น ตลอดจนถึง การเจริญเติบโตทางเชาวน์ปัญญา และความสามารถในการแก้ปัญหา การเปลี่ยนแปลง จะทำให้ชีวิต พบกับความง่ายดาย ในเรื่องของภาษาที่ใช้ และ การติดต่อสื่อสารกับคนอื่น ๆ ทำให้ชีวิตทางสังคม มีคุณค่าขึ้น ด้วยสายใยของความสัมพันธ์ภายใน ทั้งความสนใจในหลายสิ่ง ที่เปลี่ยนแปลง และ การมีคุณค่าของตัวเอง ในเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิต จากการอยู่ในฐานะ ผู้อุปถัมภ์ของวัยทารก เด็ก ๆ ทั้งหลาย จะคืบคลานเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ และความรับผิดชอบ เกี่ยวกับชีวิต มันคงจะเป็นประโยชน์ และน่าสนใจ สำหรับพ่อแม่และครูบาอาจารย์ ที่จะเรียนรู้ในสิ่งดังกล่าว ต่อไปนี้ คือ...


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย การวิพากษ์วิจารณ์ เขาก็จะเรียนรู้ถึง การดุ่ด่าว่า..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความหวาดกลัว เขาก็จะเรียนรู้ถึง ความหวาดหวั่น ต่อสิ่งที่จะเกิดมีขึ้น..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความเป็นปรปักษ์ เขาก็จะเรียนรู้ถึง การต่อสู้ดิ้นรน..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความน่าสงสาร เขาก็จะเรียนรู้ถึง การแสดงออกในเรื่องของ ความรู้สึกเสียใจ เพื่อตัวเขาเอง..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความอิจฉาริษยา เขาก็จะเรียนรู้ถึง การแสดงความรู้สึก ในเรื่องของ ความผิด..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย การกระตุ้น เพื่อให้กำลังใจ เขาก็จะเรียนรู้ถึง การสร้างความมั่นใจ ให้แก่ตนเอง..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความอดทน เขาก็จะเรียนรู้ถึง การสร้าง ความมีน้ำอดน้ำทน ให้แก่ตนเอง..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย การยอมรับ เขาก็จะเรียนรู้ถึง การให้ความรัก แก่คนอื่น..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย การเห็นด้วย ในความคิดเห็นต่าง ๆ เขาก็จะเรียนรู้ถึง การชอบ ในตัวของเขาเอง


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความยุติธรรม เขาก็จะเรียนรู้ถึง คุณค่า ของการตัดสินอย่างเป็นธรรม..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความซื่อสัตย์ เขาก็จะเรียนรู้ถึง คุณค่าของความเป็นจริง..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย ความมั่นคงในชีวิต เขาก็จะเรียนรู้ถึง การสร้างความศรัทธา แก่ตัวของเขา และ คนอื่น ๆ..


... ถ้าเด็ก มีชีวิต ที่เต็มไปด้วย สายใยแห่งมิตรไมตรี เขาจะเรียนรู้ว่า โลกใบนี้ คือ สถานที่ที่ดีแห่งหนึ่ง ต่อการใช้ชีวิต อยู่ต่อไป..


เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ และครูอาจารย์ ซึ่งควรตระหนักและเอาใจใส่ ต่อความจริงดังกล่าวข้างต้น


ทารกแรกเกิด จะถูกจัดอยู่ในสถานภาพของการแบ่งแยก แบบหนึ่งลักษณะ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถจะแบ่งแยก ระหว่างสิ่งที่อยู่ภายใน และโลกภายนอก ของตัวเขาเองออกมา ได้อย่างแจ่มชัด เขาไม่สามารถแบ่งแยกว่า อะไรคือ ตัวเขาและ อะไรที่ไม่ใช่ ตัวเขา สถานภาพดังกล่าว จะคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง เขาเริ่มมีอายุ 3-6 เดือน ภายในระยะเวลาของอายุดังกล่าวนี้ เขาก็จะเริ่มเรียนรู้ถึง การรับผิดชอบ และรู้จักจดจำ ในสิ่งต่าง ๆ ไปทีละเล็กละน้อย ต่อประสบการณ์ที่เจ็บปวด ในเรื่องราวสำคัญที่ผ่านมา จะทำให้เด็กในวัยที่มีอายุ 3-6 เดือน ไม่อยากจดจำ และภายหลังจากวัยของอายุดังกล่าวนี้แล้ว การแยกตัวเองและ การได้รับความเจ็บปวด ในสิ่งต่าง ๆ ก็จะแสดงให้เขารู้ว่า เขาได้รับผลอันแน่นอน เกี่ยวกับ ความประพฤติ ที่จะติดตามมาในภายหลัง


ระยะที่สองของชีวิต 2-7 ปี จะเป็นช่วงวัยที่ข้องเกี่ยวกับ เรื่องของความเชื่อในเรื่องวิญญาณ ความสำคัญในระยะที่สอง ของการพัฒนาทางเชาวน์ปัญญา จะทำให้เด็กเรียนรู้ได้เร็ว เกี่ยวกับเรื่องทางศัพท์คำพูดที่มากขึ้น เริ่มมีความนึกคิด และการเริ่มเป็นคนมีเหตุมีผลของเขา สำหรับตัวของเขาเองแล้ว ทุก ๆ สิ่งจะต้องเป็นของที่มีจิตใจ และเขาจะเกิดรู้สึกนึกคิด ต่อทุกสิ่งที่เขาได้ทำ หรือทุกสิ่งที่กระทำต่อตัวเขาเอง เขาจะรู้สึกว่า โต๊ะ เป็นสิ่งของที่ "ซุกซน" ถ้าหากเขาเกิดเอาหัวไปชนกับมันเข้า หากได้รู้ถึง ลักษณะต่าง ๆ ของเด็ก จะช่วยทำให้เราเข้าใจ ปฏิกิริยาของเด็ก ถึงการพลิกแพลงเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ถ้าหากมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นมา เขาก็จะรู้สึกว่า เขาสามารถรับผิดชอบ หรือ ถ้าหากพ่อแม่ของเขาทะเลาะกัน เขาก็จะรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตัวเขานั่นเอง


ระยะที่สามของชีวิต จาก 7-16 ปี เป็นระยะของการมีเวลาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ภายหลังที่เด็กมีอายุ 7 ปีแล้ว เด็กก็จะเริ่มกลายเป็น คนมีเหตุผลมากขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย เขาจะเริ่มรู้จักสรุปถึง ความถูกต้องจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เขาได้เผชิญ ชีวิตของเด็ก จะเริ่มต้นจากภาพพจน์ ที่บอบบาง จากภายในตัวและสิ่งแวดล้อม ที่อยู่รอบข้างตัวเขา เมื่อเขาเลยทะลุผ่านจุดนี้ ก็จะเข้าสู่ การหลอกลวง อย่างง่ายดาย และตกกลายเป็นเหยื่อของ ความตื่นตระหนก ที่ถูกเร่งเร้าขึ้น โดย ความเชื่อทางจินตนาการ ของตัวเขาเอง เกี่ยวกับ ธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ จนกว่า เขาจะมีอายุอยู่ระหว่าง 7-8 ปี เขาก็จะเริ่มกลายเป็น คนมีเหตุผลขึ้นบ้าง ความประพฤติในวัยเด็ก กลายเป็นสื่อที่ควรเข้าใจ และควรคาดทำนายได้ ทำให้สามารถประเมิน ความต้องการทางอารมณ์ของเด็ก ๆ ที่มีอายุแตกต่างกัน ทั้งยังมีความกล้า เสี่ยงพอที่จะทำให้เขา ได้เผชิญกับอันตรายต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม ที่อยู่รอบข้างตัวของเขา ตามแต่ละระยะอายุของตัวเขาเอง..


0000000






Free TextEditor


Create Date : 13 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 11:31:53 น. 2 comments
Counter : 508 Pageviews.

 
ดีจ้า
ไม่ได้แวะมาหาหลายวันเลย ช่วงนี้เปรี้ยวสอบค่ะ
พอมีเวลาปุ๊บก็รีบมาทักเลยค่ะ แล้วต้องรีบไปอ่านหนังสือต่อค่ะ

คิดถึงนะคะ


โดย: ดาวไร้ตะวัน วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:53:33 น.  

 
thank you ka


โดย: chinanod วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:47:15 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

chinanod
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สมถะ เรียบง่าย กันเอง
Background.MyEm0.Com
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chinanod's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.