Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
22 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเล

5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเล

ก่อนออกเที่ยวทะเล เพลิดเพลินกับธรรมชาติในช่วงหน้าร้อน
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกเตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัย ด้วยข้อมูลต่อไปนี้ค่ะ

1. แสงแดด
ผิวหนังของลูกอาจถูกแดดแผดเผา และอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนได้ ถ้าลูกเล่นน้ำในช่วงที่แดดแรงจัด
โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย และมีความชื้นสูง
ร่างกายจะไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี อาจทำให้ลูกมีอาการเป็นลมแดด

* ปลอดภัยไว้ก่อน
ควรจัดเวลาในการเล่นน้ำที่ปลอดภัยจากแสงแดด ซึ่งก็คือช่วงเช้า-10.00 น. และหลังจากบ่าย 3 โมง
อีกหนึ่งวิธีปกป้องผิวของลูก ด้วยการทาครีมกันแดด ก่อนที่จะลงเล่นน้ำประมาณ 30 นาที
และหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แดดแรงจัดในช่วงพักเที่ยง


2. หาดทราย
ช่วงที่น้ำทะเลลง มักจะมีเปลือกหอย หรือเศษแก้ว เศษขวด ฝากระป๋องต่างๆ อยู่บนริมชายหาด
หากลูกไม่ทันระมัดระวังหรือเผลอเดินไปเหยียบก็อาจเป็นแผลที่เท้า

* ปลอดภัยไว้ก่อน
ควรเลือกหาดที่มีทรายละเอียดหรือค่อนข้างเรียบ ตรวจตรา สำรวจดูบริเวณที่จะเล่นว่าไม่มีเศษแก้ว
เศษขยะหรือเปลือกหอยที่แหลมคมมากมาย ที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกบาดเจ็บ
และต้องสอนลูกให้รู้จักดูและระมัดระวังตัวเองด้วยอีกชั้นหนึ่ง


3. คลื่น
เด็กๆ มักสนุกกับการตัก, ขุด, เล่นกับทรายริมชายหาด จนบางครั้งอาจไม่ทันรู้ตัวก็ถูกคลื่นซัด
โดยเฉพาะช่วงที่น้ำขึ้น คลื่นจะแรง และชายหาดก็มีความลาดชันสูง อาจทำให้หกล้มเสียหลัก เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

* ปลอดภัยไว้ก่อน
คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด
ไม่ปล่อยให้ลูกเล่นน้ำหรือสนุกกับการเล่นทรายเพียงลำพัง หรืออยู่นอกสายตาที่คุณมองเห็น


4. การว่ายน้ำ
อาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่มีการว่ายน้ำ ก็คือเรื่องตะคริวค่ะ
ซึ่งเกิดจากการทำงานหนักของกล้ามเนื้อ จนเกิดการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว

* ปลอดภัยไว้ก่อน
ควรให้ลูกออกกำลังกายแบบเบาๆ ก่อนลงเล่นน้ำสัก 15 นาที
เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ มีการขยายตัว พร้อมกับการใช้งาน
และการใส่ห่วงยางชูชีพสำหรับน้องหนูที่ยังว่ายน้ำไม่เป็น ก็เป็นการป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างดี


5. แมงกะพรุนไฟ
เมื่อผิวหนังสัมผัสกับแมงกะพรุนไฟ อาจทำให้มีอาการผื่นคัน
หรือถ้ามีอาการมากก็ทำให้ปวดแสบ ปวดร้อน แดงพองคล้ายอาการน้ำร้อนลวก

* ปลอดภัยไว้ก่อน
ควรให้ข้อมูลในการสังเกตลักษณะแมงกะพรุน เพื่อให้ลูกรู้จักระมัดระวังและเลี่ยงการสัมผัส
หรือสังเกตป้ายเตือน บริเวณที่ลูกจะลงเล่นน้ำค่ะ



หมายเหตุ :
แม้จะพบแมงกะพรุนตายติดตามชายหาดก็ไม่สมควรจะนำมาเล่น
เพราะพิษยังอาจจะมีอยู่และทำให้เกิดอันตรายได้
เมื่อถูกแมงกะพรุนอาจจะมีสายหนวดของแมงกะพรุนติดอยู่ ต้องรีบแกะออกโดยเร็ว
แต่อย่าใช้มือเปล่าเพราะมือจะถูกต่อยได้ด้วย ให้ใช้ผ้าหนาๆ เศษไม้ ทรายแห้งๆ หรือแป้งผงถูเบาๆ ให้หลุดออก
อย่าถูแรงเพราะถุงบางอันยังไม่คายพิษ ถ้าถูแรงจะทำให้พิษถูกปล่อยออกมาเพิ่มขึ้น
แล้วล้างบริเวณนั้นเบาๆ ด้วยน้ำทะเล น้ำมันแอลกอฮอล์ แอมโมเนีย หรือโลชั่นที่หาได้ใกล้ตัว
ชาวบ้านใช้ผักบุ้งทะเล เพื่อทำให้สภาพพิษซึ่งส่วนใหญ่เป็นโปรตีนเสื่อมลง
เมื่อถูกพิษแมงกะพรุนแล้วให้ขึ้นจากน้ำทันที เพราะถ้าเกิดอาการรุนแรงจะทำให้จมน้ำตายได้

จากประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่โดนพิษแมงกะพรุนชนิดไม่รุนแรง จากการเล่นน้ำทะเลในฤดูฝน
สัมผัสพิษวินาทีแรกจะรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อนมาก
หลังจากขึ้นน้ำทะเลจะมีอาการผื่นแดง บริเวณผิวหนังที่โดนพิษอย่างชัดเจน

โดยส่วนมากแล้วโรงแรมที่พัก
จะมีพนักงานคอยดูแลและปฐมพยาบาลบาลเบื้องต้น สำหรับลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาพักในโรงแรมนั้นๆ
และถ้านักท่องเที่ยวโดนพิษแมงกระพรุน
เจ้าหน้าที่จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และให้คำแนะนำในการดูแลตามอาการ ดังนี้

1. ล้างพิษตรงผิวหนังที่โดนพิษด้วยน้ำทะเลโดยด่วน
(หลีกเลี่ยงการใช้น้ำจืด เพราะน้ำจืดจะไปช่วยกระตุ้นพิษให้กระจายมากขึ้น)
รีดเซลล์ของแมงกระพรุนด้วยของมีคมบางๆ เท่าที่หาได้
เช่น นักท่องเที่ยวอาจจะมีบัตรเครดิต ให้ใช้คมของบัตรนั้นรีดพิษออก
ซึ่งสมัยก่อนชาวบ้านใช้ทรายขาวๆ สะอาดถูกเบาๆ แต่สมัยนี้จะหาทรายขาว สะอาดๆ หายาก

2. ใช้ผักบุ้งทะเลขยี้กับน้ำส้มสายชูความเข้มข้น 5% แล้วประคบผิวหนังบริเวณที่โดนพิษ
ห่อด้วยผ้าขาวบางทิ้งไว้ ประมาณ 30-60นาที ขึ้นอยู่กับว่าอาการปวดแสบปวดร้อนจะค่อยๆ หายไปหรือไม่
ถ้าโดนพิษแมงกะพรุนที่ไม่รุนแรงมาก อาการปวดแสบปวดร้อนก็จะลดลง
เหลือแค่อาการคันๆ และร่องรอยของจุดที่โดนเซลล์ของแมงกะพรุนต่อย

3. ผู้ที่โดนพิษแมงกะพรุนอาจจะมีอาการแพ้พิษ ทำให้เป็นไข้หรืออาเจียน
หรือเกิดอาการอื่นๆ ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน เช่น ผู้ที่โดนพิษแมงกะพรุนที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เขาจะมีอาการที่เป็นผื่นรุนแรง และปวดแสบปวดร้อนมากกว่าคนไทย
ซึ่งปกติแล้วผู้ป่วยที่โดนพิษแมงกะพรุนชนิดที่ไม่รุนแรง ก็จะหายจากอาการปวดแสบปวดร้อนและผื่นแดง
หลังจากล้างพิษด้วยผักบุ้งทะเลขยี้กับน้ำส้มสายชูประมาณ 30-60 นาที
หลังจากนั้นจะมีอาการแพ้พิษอื่นๆ ให้รักษาตามอาการและจะหายภายใน 2-3 วัน
แต่ยังคงเหลือร่องรอยของการโดนพิษซึ่งจะปรากฎให้เห็นอยู่เป็นเดือน
ถ้าเจอกับแมงกระพรุนไฟ หรือแมงกระพรุนชนิดร้ายแรง ก็จะกลายไปเป็นแผลเป็นไปในที่สุด

4. สำหรับผู้ป่วยที่โดนพิษแมงกะพรุนไฟ (Portuguese man-of-war) ซึ่งจะมีความรุนแรงมาก
โดนพิษครั้งแรกจะปวดแสบปวดร้อน และผิวหนังที่โดนจะเป็นรอยไหม้
และเป็นแผลเรื้อรัง จนอาจจะเป็นแผลเป็นได้ ต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน



5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเลผู้ที่โดนพิษแมงกะพรุน เมื่อรู้สึกตัวว่าโดนพิษแมงกะพรุนควรจะขึ้นจากน้ำทะเลโดยเร็ว
จะเกิดรอยผื่น บวมแดงและเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ดังภาพ


5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเลนำใบผักบุ้งทะเลที่เกิดใกล้ริมหาดทรายมาขยี้กับน้ำส้มสายชู 5%


5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเลการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
โดยนำใบผักบุ้งทะเลขยี้กับน้ำส้มสายชูแล้ว มาประคบผิวหนังบริเวณโดนพิษไว้
และห่อด้วยผ้าขาวบาง ทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับอาการปวดแสบปวดร้อนจะบรรเทาลง
ทิ้งไว้รอให้อาการปวดแสบปวดร้อนคลายลงและดูอาการแพ้พิษอื่นๆ และรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น


5 เรื่องที่ลูกต้องรู้ก่อนเที่ยวทะเล
ป้ายเตือนภัยต่างๆ ริมหาดทราย ที่นักท่องเที่ยวชอบเล่นน้ำทะเล
ภาพ "ป้ายเตือนภัย" จาก ริมหาดทราย โรงแรมโนโวเทล ริมเพ จ.ระยอง

จากประสบการณ์ดังกล่าว อาจจะเป็นอุทาหรณ์ช่วยเตือนภัย สำหรับคนที่ชอบเที่ยวทะเลในฤดูฝน
หรือต้องการที่จะไปเที่ยวทะเลในช่วงฤดูนี้ ขอให้สังเกตุและระวังอันตรายจากการเล่นน้ำทะเลหลังฝนตกใหม่ๆ
โดยส่วนมากแล้ว ที่พักเขาจะมีป้ายเตือนระวังอันตรายจากภัยต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นภัยจากธรรมชาติ คลื่นทะเลแรง หรือสัตว์ทะเลที่มีพิษ
ฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงขยายพันธุ์ของแมงกะพรุน เขาจะลอยตัวมากับคลื่นทะเลกระทบฝั่งจะมีมากตามชายฝั่งทะเล
และโดยธรรมชาติแล้วชายฝั่งทะเลไหน มีแมงกะพรุนมาก
ธรรมชาติก็จะให้ผักบุ้งทะเลเกิดบริเวณใกล้ๆ ริมหาดทรายเหล่านั้นด้วย
ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของชาวบ้านคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเลนั้น ได้ถ่ายทอดความรู้นี้
และถ้าคุณบังเอิญโชคร้ายโดนพิษแมงกะพรุนขึ้นมา
ขอให้รู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะเกิดอาการที่ร้ายแรงยากที่จะเยียวยารักษา


ที่มาข้อมูล :
//www.motherandcare.in.th
//www.lib.ru.ac.th


สารบัญแม่และเด็ก




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
0 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 21:22:14 น.
Counter : 1084 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.