ลูกวัยรุ่นกับพัฒนาการที่พ่อแม่ควรเข้าใจ

พัฒนาการสมองของเด็กส่งผลต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ในขณะที่ปัจจุบันพ่อแม่ไม่มีเวลาให้กับลูก
เพราะต้องทำมาหากิน ปล่อยให้ลูกอยู่กับสื่อและฝากความหวังไว้ที่โรงเรียน

ศูนย์จัดการความรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง สถาบันรักลูก
และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
จัดเวทีเรียนรู้เรื่อง "พัฒนาการสมอง...ของวัยรุ่น" ให้กับคณะทำงานครอบครัวเข้มแข็ง 9 จังหวัด

น.พ.อุดม เพชรสังหาร กล่าวว่า เซลล์สมองพัฒนาโดยการเรียนรู้และกระตุ้นให้เกิดเส้นใย
โดยมีพัฒนาการเริ่มจากระบบการดำรงชีวิต เช่น การหายใจ ต่อมาเป็นอารมณ์ จิตใจ
และสุดท้ายคือสมองส่วนที่ใช้เหตุผล ซึ่งในวัยรุ่นสมองส่วนนี้ยังไม่เติบโตเต็มที่

สมองส่วนอารมณ์จะควบคุมอารมณ์ต่างๆ ซึ่งทำให้วัยรุ่นต้องการการยอมรับ
แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าผู้อื่นก็ต้องการให้เขายอมรับเช่นกัน เพราะสมองส่วนเหตุผลยังไม่แข็งแรง
ทำให้วัยรุ่นนั้นหุนหันพลันแล่นในการใช้เหตุผล ขาดวิจารณญาณในการตัดสินใจ
ดังนั้นการสอนวัยรุ่นด้วยความเข้าใจ จริยธรรม คุณธรรม การใช้เหตุผลจึงยังเป็นไปไม่ได้มากนัก

มีทฤษฎีว่าด้วยเรื่องคุณธรรมเรื่องทักษะ การสอนคุณธรรมต้องใช้วิธีการให้ฝึกทักษะ
เริ่มจากการเล่าเรื่องให้ฟัง จากนั้นทำให้เกิดความชำนาญ ก็จะเริ่มเข้าใจและเชี่ยวชาญในที่สุด
เช่น การขับรถ หรือในทางปฏิบัติเด็กได้สัมผัส ได้ซึมซับ จะเริ่มเข้าใจ และสามารถเข้าใจหัวใจคนอื่น
ซึ่งเป็นหัวใจที่จะทำให้เด็กไม่เกิดการทำร้ายคนอื่น ในที่สุดจะกลายเป็นคนที่มีคุณธรรม
ฉะนั้นคุณธรรมจึงเป็นเรื่องของการฝึกปฏิบัติที่อธิบายได้ด้วยทฤษฎี Classical Conditioning
โดยปฏิบัติบ่อยๆ ฝึกบ่อยๆ และเมื่อถูกกระตุ้นมากๆ จะทำให้เซลล์เครือข่ายแข็งแรง


ทำไมวัยรุ่นจึงเลียนแบบโดยไม่ยั้งคิด
เพราะวัยรุ่นคงใช้การทำงานของสมองส่วน Limbic เป็นส่วนมาก เซลล์กระจกเงาทำงานเต็มที่โดยการมองเห็น
และส่งผ่านข้อมูลมายังเซลล์กระจกตา และส่งข้อมูลผ่านไปยังสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว
ทำให้เกิดการเลียนแบบโดยไม่ไตร่ตรอง
หากจะปรับคุณธรรมของเด็กควรใส่ภาพที่เป็นบวก และอารมณ์ความรู้สึกลงไปจะทำให้เกิดการซึมซับ


ส่วนปัญหาเรื่องเพศของวัยรุ่นนั้น
มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนในร่างกาย เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์กระจกเงาโยงกับแบบอย่างในสังคมที่เห็นผ่านละคร
ทำให้เกิดการซึมซับ ทางออกที่ดีนั้นต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของวัยรุ่น
และเข้าใจว่าวันนี้วัยรุ่นไม่ใช่ตัวปัญหา แต่เขากำลังเผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
เมื่อก่อนเราได้ซึมซับบทบาทหน้าที่ต่างๆ จากครอบครัว มีพ่อแม่เป็นตัวอย่างและเลี้ยงดูลูกให้มีหน้าที่รับผิดชอบ
มีปู่ย่าตายายคอยดูแลยามพ่อแม่ไปทำงาน
แต่ปัจจุบันไม่มีบทบาทเช่นนี้ เพราะเราให้เด็กๆ เรียนรู้ผ่านตำรา ผ่านสื่อมากกว่า

ดังนั้นการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นเด็กดีต้องให้เด็กมีแบบฝึกหัด และให้เด็กทำซ้ำจนเป็นนิสัย
วิธีสอนโดยใช้เหตุผลอาจไม่เป็นผลกับวัยรุ่นมากนัก เพราะสิ่งแวดล้อมต่างๆ ใกล้เคียงกับตัววัยรุ่น
และมีอิทธิพลมาก ดังนั้นพ่อแม่ต้องใกล้ชิด เป็นตัวแบบและสร้างภูมิต้านทานให้กับเด็กตั้งแต่เล็กและฝึกฝนบ่อยๆ


ข้อมูลโดย : //matichon.co.th/khaosod/
ที่มา : //www.dmh.go.th
ภาพจาก : //www.fotosearch.com


สารบัญแม่และเด็ก

Create Date : 07 พฤษภาคม 2553		0 comments
Last Update : 12 พฤษภาคม 2553 22:28:02 น.
Counter : 1045 Pageviews.
Share Tweet