เผย เคล็ดวิธีเลี้ยงลูก ให้สมองพัฒนา อย่างเต็มศักยภาพ
สมองของมนุษย์เรามีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่ช่วงเวลาที่สำคัญของพัฒนาการที่ดีมีคุณภาพนั้น จะเริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบปีแรก คุณพ่อคุณแม่จะต้องใช้ความเข้าใจในการเริ่มพัฒนาสมองของลูกรัก ในช่วงวัยที่สำคัญนั้น เพื่อให้สมองของลูกพัฒนาได้ อย่างเต็มศักยภาพ สถาบันครอบครัวรักลูกได้จัดเสวนาพิเศษ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกในช่วงวัย 0-6 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ ในหัวข้อ “พัฒนาสมองลูกรักด้วยสองมือพ่อแม่” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิเอมเมอร์รัลด์ พญ.สุวรรณี พุทธิศรี จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า การพัฒนาสมองของลูกมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก เนื่องจากการเรียนรู้ทุกอย่างของเด็กจะต้องผ่านสมองเป็นหลัก เมื่อมีการเรียนรู้เกิดขึ้น สมองก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ พฤติกรรมแต่ละอย่างที่เกิดขึ้น จะต้องผ่านกระบวนการของสมองที่เป็นตัวกำหนดพฤติกรรม
“การที่เด็กคนหนึ่งเรียนรู้ที่จะร้องไห้เพื่อให้แม่เข้ามาอุ้มนั้น แปลว่าเด็กคนนั้นจะต้องสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ และรู้ว่าแม่มาแล้ว ซึ่งตรงนี้สมองเป็นตัวรับ เด็กสามารถร้องไห้ได้ ส่วนนี้สมองก็ต้องทำหน้าที่รับและกำหนดพฤติกรรมการร้องไห้ของเด็ก และเมื่อเด็กร้องไห้แล้วคุณแม่เข้ามาอุ้ม เด็กก็จะเรียนรู้ว่าเมื่อร้องแล้วคุณแม่ก็จะเข้ามาอุ้ม ตรงนี้จะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่า ถ้าร้องไห้แล้วแม่จะต้องเข้ามาอุ้ม เป็นต้น ดังนั้นสมองคือตัวที่อยู่เบื้องหลังของการเรียนรู้ทั้งหมด” พญ.สุวรรณี กล่าว ด้านการพัฒนาของสมองและการทำให้สมองยังคงอยู่ได้นั้น การเรียนรู้จะเป็นตัวกระตุ้น และช่วยให้สิ่งที่เข้ามาพัฒนาสมองยังคงอยู่ ไม่ถูกทำลาย ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่มีการเรียนรู้ สมองก็ยังมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่สมองบางส่วนจะถูกทำลาย ดังนั้นการพัฒนาสมองของลูกจะต้องเป็นไปพร้อมๆ กันคือ จากการพัฒนาภายในของเด็กที่มีอยู่ตลอดเวลา ร่วมกับการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วย ซึ่งคนที่จะให้ข้อมูลเด็ก เข้าใจเด็กได้ดีที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ สำหรับการสร้างเซลล์สมองและการพัฒนาของสมองลูกนั้น พ.ญ.สุวรรณี กล่าวว่า การสร้างเซลล์สมองเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์ (ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์) จนกระทั่ง 6 ปี แต่ถ้าจะให้เจาะจงว่าช่วงไหนสำคัญนั้นอาจจะบอกไม่ได้ เพราะพัฒนาการของเด็กแต่ละส่วนมีความสำคัญที่แตกต่างกัน
โดยในช่วงขวบปีแรก การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ การสร้างความผูกผัน มีความสำคัญ ในช่วงปีที่ 2 ควรพัฒนาความคิดริเริ่มและความเป็นตัวของตัวเอง ทั้งนี้การพัฒนาสมองในแต่ละส่วนในแต่ละวัยจะแตกต่างกัน จึงทำให้ไม่มีช่วงไหนที่สำคัญที่สุด แต่เซลล์สมองจะพัฒนาเต็มที่ในช่วง 3 ขวบปีแรกของชีวิต และหลังจากนั้นก็จะมีการพัฒนาที่ช้าลง เพราะฉะนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทิ้งลูกในช่วง 3 ขวบปีแรก เป็นการทิ้งโอกาสทองที่สำคัญของลูก ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยเสริมให้พัฒนาการของสมองได้เต็มศักยภาพนั้น ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้คือ * พันธุกรรม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญของพัฒนาการของสมองของเด็ก หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 50% ของการพัฒนาสมองทั้งหมด * อาหาร การเชื่อมของเซลล์สมองในส่วนต่างๆ จะต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ สารอาหารที่สำคัญในการสร้างเซลล์สมองได้อย่างรวดเร็วคือ “ไขมัน” ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าโปรตีน * ประสบการณ์ หมายความว่าการเชื่อมโยงหรือการเพิ่มเซลล์สมองให้คงอยู่นั้น ประสบการณ์ที่เด็กได้สัมผัส จะทำให้สมองในแต่ละส่วนที่ทำหน้าที่แตกต่างกันนั้นคงอยู่ตลอดไป * บรรยากาศและโอกาสการเรียนรู้ เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการพัฒนาสมองของลูก ดังคำกล่าวที่ว่า “ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนรู้ แต่ชีวิตคือการเรียนรู้” คุณพ่อคุณแม่จะต้องให้โอกาสในการเรียนรู้กับลูก รวมทั้งสร้างบรรยากาศในการเรียนรุ้อย่างพอดี มีการกระตุ้นให้ลูกเกิดการเรียนรู้ ที่สำคัญที่อยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคือ อย่าตัดโอกาสการเรียนรู้ของลูกในช่วง 0-6 ปี # การกระทบกระเทือนต่อสมอง อาจเกิดได้จากอุบัติเหตุ เด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 1-5 ปี จะเป็นช่วงที่เด็กได้รับอุบัติเหตุมากที่สุด แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องระวังจนเกินไป อาจจะตัดโอกาสการเรียนรู้ของลูกและไม่ได้รับประสบการณ์ด้วยตัวเอง ถ้าจะให้ดี ควรให้เขาเล่นบ้าง แต่ก็ต้องคอยระวังอยู่ใกล้ ๆ
ทั้งนี้สมองส่วนต่างๆ ไม่ได้พัฒนาไปพร้อมกัน แต่จะมีช่วงในการพัฒนาที่แตกต่างกันและต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดช่วงทองของการเรียนรู้ ซึ่งพัฒนาการด้านต่างๆ จะอยู่ในช่วงวัยที่ต่างกัน ดังนี้
พัฒนาการด้านต่างๆ จะอยู่ในช่วงวัยที่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม พญ.สุวรรณี กล่าวทิ้งท้ายว่า การเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทและพัฒนาการของสมองในช่วงวัยต่าง ๆ มีลำดับ ดังนี้ เด็กในช่วงอายุ 2 เดือน สมองบริเวณที่ควบคุมการทำงานด้านต่างๆ 3 เดือนสมองส่วนการควบคุมการมอง 8-9 เดือนสมองส่วนความจำ 6-12 เดือน สมองส่วนความคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เริ่มสุขุม คิดล่วงหน้า และ 7-12 เดือน สมองบริเวณเชื่อมโยงความรู้สึกและการรับรู้ด้านภาษา ช่วงนี้เด็กจะยังรับภาษาที่มีชีวิต (มีอารมณ์) ไม่ได้
“เด็กในช่วงขวบปีแรกยังไม่รู้คำสั่งที่ลึกซึ้ง ยังไม่เข้าใจเหตุผลที่ยากๆ หากคุณพ่อคุณแม่ให้ข้อมูลในส่วนนั้นก็จะไม่เกิดความหมาย แต่หากให้ข้อมูลเหล่านี้เมื่อลูกอยู่ในช่วงอายุ 3-4 ขวบ จะเกิดความหมายกับเด็กมากกว่า และที่สำคัญที่จะพัฒนาให้เด็กฉลาดคือโอกาส ควรเปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้เอง ให้เด็กกระทำเอง เพราะการเรียนรู้ผ่านการฟัง จะผ่านเข้าไปถึงวงจรสมองเพียงเส้นเดียว แต่การเรียนรู้ผ่านการกระทำด้วยตัวเอง จะเป็นการตอกย้ำวงจรนั้นให้เข้มข้นขึ้น” พญ.สุวรรณี กล่าว
ที่มา : //www.manager.co.th
สารบัญแม่และเด็ก
Create Date : 04 พฤษภาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2553 22:18:05 น. |
Counter : 1000 Pageviews. |
|
|
|