คนแรกของประเทศ ! นายกฯสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย
“ฉัตรกมล มุ่งพยาบาล”คว้านายกฯสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย คนแรกของประเทศ กษ.พร้อมเตรียมเจาะตลาดใหม่ส่งออกทุเรียนจากตลาดจีนเป็นหลัก รองรับผลผลิตมากขึ้นหลังเพิ่มพื้นที่ปลูก 32 จว.กว่า 8.3 แสนไร่ นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพจัดการเลือกตั้งนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย คนแรกของประเทศไทย โดยมีกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และกลุ่มปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ทั่วประเทศเข้าร่วม เปิดเผยว่าผลจากการเลือกตั้ง
ปรากฏว่า นายฉัตรกมล มุ่งพยาบาล จังหวัดชุมพร ได้รับการแต่งตั้ง เป็นนายกสมาพันธ์คนแรก ที่มีสโลกแกน วิสัยทัศน์ สร้างความเข้มแข็ง มั่นคง และประสานประโยชน์ความร่วมมือเพื่อชาวสวนทุเรียนให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพส่วนอุปนายก มี 3 คน ประกอบด้วย นายธีรภัทร อุ่นใจ จ.จันทบุรี นายสัมฤทธิ์ ม่วงประเสริฐ จ.ศรีสะเกษ และนายประโยชน์ พรหมสุวรรณ จ.ประจวบคีรีขันธ์
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ทุเรียนเป็นราชาผลไม้ไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ มีความสำคัญต่อภาคเกษตรไทยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก กระแสความนิยมของการปลูกทุเรียนในปัจจุบันนับว่ามีทิศทางที่สูงขึ้น เห็นได้จากการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งประเทศขณะนี้มีมากถึง 32 จังหวัด (ข้อมูลเอกภาพสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2561)
ข้อมูลสถานการณ์การผลิตทุเรียนทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 – 2561 พบว่า เนื้อที่ยืนต้นเพิ่มขึ้นจาก 666,505 ไร่ เป็น 839,725 ไร่ หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 20.62 เนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นจาก 570,567 ไร่ เป็น 654,509 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.82 เมื่อเทียบกับปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจาก 631,774 ตัน เป็น 737,065 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.29ขณะที่มูลค่าและปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกในปี 2561 เป็นเงิน 35,333 ล้านบาท ปริมาณ 530,226 ตัน ซึ่งเพิ่มจากปี 2560 ที่มีมูลค่า 24,847 ล้านบาท ปริมาณ 513,883 ตัน และจากข้อมูล 4 ปีที่ผ่านมา (2558 – 2561) ประเทศไทยส่งออกทุเรียนเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยมีประเทศจีนเป็นตลาดหลักในการส่งออก
กรมฯในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ตระหนักถึงแนวโน้มการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งประเทศ ในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 - 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 655,505 ไร่ เป็น 839,725 ไร่ โดยมีเกษตรกรที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นเกษตรกรต้นแบบที่ดี (best practice) พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรที่ปลูกทุเรียน ซึ่งกระจัดกระจายหลายภาคทั่วประเทศ การจัดตั้งสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยครั้งนี้ จะทำให้เกิดการผลิตทุเรียนคุณภาพสร้างมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อให้ทุเรียนเป็นต้นแบบการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ด้วยความสามารถขององค์กรเกษตรกรเอง มีการขับเคลื่อนการผลิตและการตลาดรวมทั้งมองถึงการแสวงหาตลาดใหม่ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดผูกขาดอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน
ซึ่งจะเป็นแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการทุเรียนในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนจะได้ปรับเปลี่ยนการผลิต มีการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนในการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพมากขึ้น มีการวางแผนที่ดีลดความเสี่ยงการผลิตสินค้าซึ่งมากเกินความต้องการ ถือเป็นการพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศ ด้วยวิถีทาง แห่งนวัตกรรม การเพิ่มมูลค่าและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามนโยบายเกษตร 4.0
"ลาว"ขอบคุณไทยส่งอุปกรณ์ฆ่าเชื้ออหิวาต์
"อธิบดีกรมปศุสัตว์"สปป.ลาวขอบคุณไทยช่วยส่งอุปกรณ์การฆ่าเชื้อและอุปกรณ์สำหรับการตอบสนองการระบาดของ อหิวาห์แอฟริกาในสุกร ลดความเสี่ยงแพร่กระจายจาก สะหวันนะเขต ไปจังหวัดอื่นในลาวนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าดร.ศรีแสง ขุนศรี อธิบดีกรมปศุสัตว์และการประมง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสันติภาพเอกภาพความเจริญรุ่งเรืองกระทรวงเกษตรและป่าไม้ ได้ส่งหนังสือขอบคุณเรื่อง การขออุปกรณ์สนับสนุนสำหรับการระบาดของโรค ASF ในจังหวัด Salavane
กรมปศุสัตว์และการประมง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขอแสดงความขอบคุณ กรมปศุสัตว์ของประเทศไทยในการให้ยาฆ่าเชื้อและอุปกรณ์ในการป้องกัน ASF ณ ด่านชายแดนระหว่างประเทศเนื่องจากการระบาดอย่างต่อเนื่องของ ASF ในเขต Toumlan จังหวัด Salavane เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2562 เราจึงขอการสนับสนุนเพื่อการควบคุมการระบาดของ ASF จากกรมปศุสัตว์แห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการฆ่าเชื้อและอุปกรณ์สำหรับการตอบสนองการระบาดของ ASF เพื่อลดความเสี่ยง การระบาดของโรคนี้แพร่กระจายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ได้แก่ สะหวันนะเขต Champasak, Sekong และ Attapua ดังนี้
อุปกรณ์บังคับสุกรชนิดสั้น 50 ชิ้น อุปกรณ์บังคับสุกรชนิดยาว 50 ชิ้น เครื่องพ่นชนิดสะพายหลัง 30 เครื่อง เครื่องพ่นยาขนาดใหญ่ 10 เครื่อง น้ำยาฆ่าเชื้อ 200 ลิตรและเครื่องช๊อตทำสลบไฟฟ้า 200 ลิตร
"อหิวาต์ระบาด"ปศุสัตว์ห้ามนำเข้าหมูลาว
ด่วน ! อธิบดีกรมปศุสัตว์ ออกประกาศห้ามนำเข้าสุกร หมูป่า ซากสุกร ซากหมูป่า จากสปป.ลาว 90 วัน คุมโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาสุกร หลังลามหนักในลาวกว่า7จุดสุกรป่วยตายแล้วเกือบ 2 พันตัว นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าได้ออกประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่องชะลอการนำเข้า หรือนำผ่าน ราชอาณาจักร ซึ่งสุกร หมูป่า หรือซากสุกร ซากหมูป่า จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พ.ศ.2562 ด้วยองค์การสุขภาพสัตว์โลก(โอไออี.) ได้รายงานสภานการณ์โรคการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร ในหมู่บ้าน ณ แขวงสาละวัน สปป.ลาว ซึ่งโรคระบาดสัตว์ชนิดดังกล่าวสามารถแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางได้ โดยมีสาเหตุสำคัญจากการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วย หรือสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค
หรือซากของสัตว์ซึ่งป่วยหรือตายโดยโรคระบาดดังกล่าวไปยังพื้นที่ต่างๆเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โรคระบาดสัตว์ชนิดดังกล่าวมีโอกาส แพร่กระจายเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อกระทบต่ออุตสาหกรรมการการเลี้ยงดูสุกร และหมูป่าในประเทศ
ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา6 ประกอบมาตรา33แห่ง พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสปป.ลาว ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับใช้เป็นเวลา90วัน ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกบา ประกาศณ วันที่21มิ.ย.2562
นายสัตวแพท์สรวิศ กล่าวว่าประกาศโรคASFครั้งแรกในสปป.ลาว โดยข้อสั่งการ เนื่องจากความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ขอให้ทุกจังหวัดในเขต3 4 5 เฝ้าระวังอย่างสูงสุด เข้มข้นที่สุด โดยนำเอาคำแนะนำที่แจ้งในการปฏิบัติงาน อย่างเคร่งครัด และมีการรายงานตามระบบอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และขอให้นำเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการจังหวัดในวันประชุมประจำเดือนด้วย
“โอไออี ประกาศการเกิดโรค ASF ระบาดในประเทศลาว ซึ่งเป็นการระบาดในประเทศครั้งแรก โดยพบการระบาด 7 เคส ที่จังหวัดสาละวัน เป็นฟาร์มขนาดเล็ก ขนาดฟาร์มเลี้ยงสุกรน้อยสุด จำนวน 80 กว่าตัว และขนาดฟาร์มที่มีการเลี้ยงใหญ๋สุดตอนนี้ประมาณ 400 ตัว" ในขณะที่ประกาศนี้ พบการป่วยและการตาย จำนวนอย่างละเท่าๆ กันทุกฟาร์ม คือ จำนวนหมูในฟาร์มที่พบจะเป็นจำนวนหมูป่วยครึ่งหนึ่ง และตายครึ่งหนึ่ง จุดเกิดเหตุที่เกิดการระบาดในครั้งนี้ นับระยะทางห่างจากชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีเพียง 170 กิโลเมตร
ทำให้เกิดความน่าเป็นห่วงกับพื้นที่การเลี้ยงสุกรในภาคอีสาน วันนี้ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือร่วมใจกันผนึกกำลังเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด”อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
ทั้งนี้ล่าสุดสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร( ASF)ลาว ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2562 โดย OIE ประกาศการเกิด ASF ในประเทศลาว (ซึ่งเป็นการระบาดในประเทศครั้งแรก) จำนวน 7 เคส ใน
1)ตำบล Samakkhixay อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 394 ตัว ป่วย 194 ตัว ตาย 194 ตัว
2)ตำบล DineDak
อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 398 ตัว ป่วย 194 ตัว ตาย 194 ตัว
3)ตำบล Phonengam อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 95 ตัว ป่วย 36 ตัว ตาย 36 ตัว
4)ตำบล Kaenghang
อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 82 ตัว ป่วย 34 ตัว ตาย 34 ตัว
5)ตำบล Nalachang อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 111 ตัว ป่วย 81 ตัว ตาย 81 ตัว
6)ตำบล Houava
อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 323 ตัว ป่วย 59 ตัว ตาย 59 ตัว
7)ตำบล Nahong Gnai อำเภอ Toumlan จังหวัด สาละวัน ฟาร์มนี้เลี้ยงสุกร 788 ตัว ป่วย 375 ตัว ตาย 375 ตัว