นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน สามารถจัดการผลผลิตทางการเกษตร และตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยหลักตลาดนำการผลิต และยกระดับไปสู่การเป็นผู้ประกอบการทางการเกษตรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการประกอบธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนให้มีความยั่งยืน
ล่าสุด กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับการประสานงานจากกรมสรรพากรว่า กรมสรรพากรได้ออกกฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 371 (พ.ศ.2563) ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
โดยขยายระยะเวลาในการยกเว้นภาษีเงินได้พึงประเมินของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล ซึ่งมีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาท
จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ขยายระยะเวลายกเว้นภาษีไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกิจของวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งทำให้เศรษฐกิจของชุมชนมีความเข้มแข็งและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ขอให้วิสาหกิจชุมชนทราบสิทธิที่ได้รับในการขยายเวลาการยกเว้นภาษีตามประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าว ทั้งนี้ หากวิสาหกิจชุมชนใดยังไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ให้ขอยื่นคำร้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของวิสาหกิจชุมชน ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ที่วิสาหกิจชุมชนมีภูมิลำเนาตั้งอยู่ เพื่อปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายต่อไป